ตอนแม่ตั้งท้อง แม่กลายเป็นคนรักแมวทั้งที่ก่อนหน้านั้น แม่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ส่วนพ่อแม้ไม่เห็นด้วยกับความใจบุญชอบเก็บแมวริมถนนมาเลี้ยงไว้ให้เต็มบ้านของแม่ และกลัวว่าสัตว์หน้าขนเหล่านั้นอาจทำอันตรายกับเด็กในครรภ์ แต่พ่อก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจให้แม่เห็นบ่อยนัก ด้วยรู้ว่าคนท้องมักขี้น้อยใจคิดเรื่องจุกจิกโมโหง่าย พ่อจึงจำแสร้งสงบปากให้แม่ทำตามใจชอบ ทั้งที่อึดอัดสุดกำลังกับกลิ่นสาบแมวรอบบ้าน แต่เพื่อเมียและลูกที่เขาเห่อ เขาก็จำทนทั้งที่ในใจสาปแช่งแมวเหล่านั้นวันละนับร้อยหนเป็นอย่างน้อย แต่ความรักและความเข้าใจที่ดีงามของสามารถก็ดำรงอยู่ได้แค่เพียง 10 ปี เขาหย่าขาดกับมาลีแม่ค้าขายข้าวแกงในตลาดปักธงชัย ลืมความรักลูกเมียที่เคยบอกใครต่อใครว่าจะเป็นหนึ่งของเขาเสมอไป เมื่อได้พบวณีคนนั้น ที่จริงจะคิดว่าสามารถทนความอับอายจากชาวบ้านไม่ได้อีกต่อไปก็พอมีเหตุผล แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับโทษว่าเป็นสันดานผู้ชายเจ้าชู้มักรักง่ายหน่ายเร็ว และเมื่อเห็นเมียคู่ทุกข์คู่ยากที่หน้าตาเริ่มแก่คล้ายเป็นแม่คนที่2 เขาก็อยากออกไปกรีดกรายนอกบ้าน เพื่อเสาะหาสาวๆมาปลอบประโลมใจ สามารถกับวณีเมียใหม่ที่มีข่าวลือว่าเริ่มตั้งท้อง ก็เกิดขึ้นก่อนเดือนที่เขาขอหย่ากับมาลี มาลีสาวใหญ่วัย45รู้ทั้งรู้ว่าสามีหาข้ออ้างเรื่องลูก เพื่อเป็นโอกาสได้ไปเสพสุขครองรักอยู่กับสาวคนใหม่ที่งามไฉไลกว่าตน แต่เรื่องจะไม่ยอมหย่านั้น เธอก็ไม่กล้าทำด้วยความสงสารลูกมากกว่าสิ่งอื่น ส่วนความสัมพันธ์เก่าๆที่เคยหวานชื่นนั้น มาลีเองก็หมดสิ้นกำลังใจจะคิดต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้มันกลับคืนมาอีกครั้ง แม้ในใจจะซ่อนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับการกระทำของสามีก็ตาม ตลอด10ปีมานี้เธอเองไม่มีเค้าจะตั้งท้องเป็นครั้งที่สองได้ ทำให้เป็นอีกสาเหตุให้สามารถ ยกมากล่าวโทษเธอว่ามันเกิดจากการที่เธออยากเลี้ยงแมวนับสิบๆตัว ในตอนที่ตั้งท้องแมวอ้วน และการที่แมวอ้วนมีอาการเหมือนคนพิการทางสมอง สามารถจึงมีข้ออ้างที่ดีในการมีเมียใหม่ ผมอยากให้ลูกที่มีอาการสมบูรณ์เหมือนชาวบ้านคนอื่นๆ เมื่อคุณไม่สามารถตั้งท้องอีก ผมจึงต้องหาเมียอีกคน กับมาลีเธอเชื่อว่าที่ไม่ตั้งท้องอีกน่าจะเกิดจากการที่สามารถติดเหล้าและบุหรี่ เพิ่มมากกว่าเดิม วันที่มาลีเดินขึ้นอำเภอเพื่อเซ็นใบหย่าให้จ่าสามารถนั้น แมวอ้วนตามแม่ไปด้วย สายตาของพ่อยังคงแสดงความรังเกียจเขาอย่างเต็มที่ แมวอ้วนเสียใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากร้องขอ..ให้พ่ออย่าได้จากไป หน้าตาที่ดูราวเด็กปัญญาอ่อนและการพูดที่เหมือนคนติดอ่างของแมวอ้วน ทำให้สามารถถูกชาวบ้านนินทาลับหลังอยู่บ่อยๆ นั่นคือหนทางที่นำมาซึ่งการหย่าร้างของคนทั้งคู่ บางครั้งแม่ที่แสนดีก็ยังพยายามกู้หน้าให้พ่อ โดยเถียงกับชาวบ้าน ถ้าบังเอิญได้ยินเข้ากับหูตัวเอง หน้าตามันเด๋อๆเหมือนพ่อชั้นเท่านั้น แต่ฉลาดนะจะบอกให้ เพราะความอับอายพ่อจึงไม่ยอมส่งเขาไปโรงเรียน แค่อนุญาตให้แม่จ้างครูสุพจน์ ซึ่งเป็นเพื่อนข้างบ้านมาสอนที่บ้านได้ แต่ทว่าทุกเย็นที่เพื่อนๆของพ่อมานั่งล้อมวงกินเหล้ากัน แมวอ้วนจะต้องไปอยู่ในห้องน้ำชั้นบน โดยพ่อไม่ยอมรับรู้ว่าเขาจะหิวข้าวหรือไม่ แม้แต่ยามที่เขาป่วยเป็นไข้ พ่อก็ยังจะขังเขาให้นั่งอุดอู้อยู่ในห้องน้ำนาน6-7ชั่วโมง อายคนโว๊ยมีลูกปัญญาอ่อน คำๆนี้แมวอ้วนได้ยินมาโดยตลอด นับแต่จำความได้ และเป็นเรื่องที่ทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ บางครั้งพ่อก็ลงไม้ลงมือทุบตีเขาด้วยความเมา ถ้าแม่มาห้ามแม่ก็เจ็บตัวตามไปด้วย เขาสงสารแม่จึงยอมให้พ่อขังเขาตามชอบ และทุบตีเขาตามอำเภอใจ บางวันครูสุพจน์เห็นจ่าสามารถอารมณ์ดี จะแวะเข้ามาทักทายหลังเลิกงาน และคุยเชิงอวดแทนแมวอ้วน แต่นายตำรวจอย่างเขาก็ไม่เคยแสดงความภูมิใจให้เห็น นอกจากด่าซ้ำ ลูกลื้อฉลาดมาก ถ้าส่งเข้าสอบเทียบเลื่อนชั้นมอปลายเมื่อไร อั้วรับรองว่าผ่านสบายบรื๋อ เพราะแค่อ่านผ่านตาเที่ยว2เที่ยวก็จำได้หมดเลย หน้ามันบอกโท้งๆว่าเด็กปัญญาอ่อน ดีที่ไม่เป็นโรคโปลิโอ แขนขาลีบ ที่จริงมันน่าจะตายไปดีกว่าอยู่รอดจนบัดนี้ อั้วรับไม่ได้ว่ะเพื่อน อายคนเขา พ่อมักกระแทกเสียงตอบเพื่อระบายอารมณ์ ทุกครั้งที่ครูสุพจน์มาคุยอวด จนเขาต้องรีบขอลากลับบ้าน พ่อที่เผด็จการ ไม่เคยถามเขาว่าอยากหรือไม่อยากทำอะไรบ้าง และมีความสามารถทางเรียนดีและเด่นแค่ไหน ทุกวันค่ำลงเขาจะต้องขึ้นไปอยู่ที่ห้องน้ำชั้นบน จนมืดดึกดื่นเลยเวลาอาหารเย็นไปนานโข จึงจะได้กลับลงมาที่ห้องนอน รีบกินข้าวปลาที่เย็นชืด บางครั้งก็กินแกงที่เริ่มบูด อีกหลายครั้งเขามักได้กับข้าวดีๆที่เหลือจากวงเหล้าของพ่อ แต่ก็เป็นกับข้าวที่มักผสมเต็มไปด้วยน้ำลายบ้าง รอยอาเจียนของคนเมาบ้าง แม้บางวันฝนจะตกฟ้าจะผ่าอย่างไรก็ตาม พ่อกับเพื่อนก็จะมาตั้งวงกินเหล้าจนดึกดื่น อีกทั้งพ่อไม่อนุญาตให้เขาขึ้นไปนอนที่หน้าห้องของพ่อในตอนฝนตก ทำให้แมวอ้วนมักป่วยบ่อยครั้ง แต่ถ้าวันไหนที่พ่อเข้าเวรที่โรงพัก แม่ก็จะมาลากเขาขึ้นไปนอนที่ห้องแทนพ่อทุกครั้งไป ถือเป็นกรรมนะลูกนะ พ่ออะไรใจดำกับลูกขนาดนี้ มีบ้านกว้างขวางแต่กลับขังลูกให้นอนที่โรงรถเก่าๆหลังคารั่ว พ่อหย่าแล้วแยกบ้านไปอยู่น้าวณีแม่หม้ายคนสวยที่ปล่อยเงินกู ้ในตลาด ทุกวันพ่อจะควงเมียใหม่มากินข้าวที่ร้านตรงข้ามกับร้านข้าวแกงของแม่ โดยพ่อไม่เคยสนใจว่าจะสร้างความเจ็บปวดบาดตาบาดใจให้แม่สักแค่ไ หน และถ้าวันไหนพ่อเหลือบมาพบเขาอยู่ที่ร้านข้าวแกงของแม่ พ่อจะเร่เข้ามาลากเขาไปที่หลังร้านแล้วลงมือเตะต่อยทุบตีเขาราว นักโทษเพื่อระบายอารมณ์ จะหยุดมือต่อเมื่อแม่ออกจากครัวหาคนมาช่วยแยกเท่านั้น ทุกครั้งคำแสลงใจจากพ่อที่ด่ากรอกหูเขาคือ เอ็งรีบไปฆ่าตัวตายเร็วๆเข้า ถ้าเอ็งยังมีความฉลาดเหลืออยู่บ้าง อย่าอยู่เพื่อสร้างความอับอายให้ข้าอีกต่อไปเลยว่ะไอ้ทึ่มหน้าโง่กว่าควาย เขารู้ว่าพ่อเกลียดเขาและเขาเองก็เกลียดพ่อ เขารอเวลาจะพาแม่หนีไปจากที่นั่น ไปจากภาพบาดตาบาดใจที่พ่อคอยประคองน้าวณี ซึ่งเริ่มตั้งท้องอ่อนๆได้3เดือน และแล้ววันที่เขารอคอยก็เดินทางมาถึง ครูสุพจน์มาส่งข่าวในตอนที่แมวอ้วนย่างเข้า14 สอบเทียบผ่านมอปลายได้ไม่นาน ภาพวาดของแมวได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งที่ฝรั่งเศส ทางนั้นส่งตั๋วเครื่องบินมารับตัวให้ไปศึกษาต่อ แถมให้แม่ของแมวไปอยู่เป็นเพื่อนได้ด้วย ครูจะรีบไปจัดการเรื่องวีซ่าก่อนนะ จากวันนั้นเขาก็จากเมืองไทยไปศึกษาต่อพร้อมแม่ โดยมีครูผู้มีพระคุณลาออกจากงานสอนหนังสือ แล้วเดินทางไปรับหน้าที่เป็นผู้จัดการให้เขา เพราะรูปภาพของเขาเริ่มติดตลาด และขายดีมีราคามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีตลาดโลกมาขอซื้อภาพของเขาบ่อยที่มากขึ้น ภาพแล้วภาพเล่าที่ได้รับการประมูลราคาอย่างแพงลิบลิว เงินในธนาคารเริ่มมากหลักขึ้นทุกวัน เมื่อเขาจบรับปริญญาโท เขามีเงินฝากในธนาคารถึง 300ล้านบาท เด็กหนุ่มวัย 24ร่างสูงใหญ่ที่มักเดินทึมๆก้มหน้าส่ายหัวไปมา ราวคนปัญญาอ่อนของไทยคนนั้น เริ่มมีชื่อเสียงให้ประเทศจนได้รับกล่าวขานไปทั่วโลก ทั้งที่ในอดีตเขาเป็นได้แค่ เด็กปัญญาอ่อนหน้าเซ่อของพ่อและชาวบ้านในตลาดปักธงชัยเท่านั้น วันที่เขาเดินทางไปโชว์ตัวที่อเมริกา เขาได้รับการสัมภาษณ์ในทีวีของสหรัฐ พร้อมกับการโชว์ภาพหลายสิบภาพที่ทำเงินให้เขาจนเริ่มร่ำรวยอย่างมหาศาลนั้น มีประโยคหนึ่งที่พิธีกรถามแมวอ้วน และแมวอ้วนตอบอย่างเปิดเผยไม่ปิดบังความเกลียดชังแม้แต่นิดเดียว ทำให้สามารถผู้เป็นพ่อซึ่งนอนป่วยหนักอยู่บนเตียงในโรงพยายาล ต้องหลับตากรีดน้ำตาอย่างอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี พิธีกร : ได้ข่าวว่าคุณพ่อคุณป่วยเป็นโรคไตขั้นร้ายแรง ถ้าหมอตรวจพบว่าไตของคุณช่วยคุณพ่อได้ คุณจะสละให้ไหมคะ แมวอ้วน: ได้แน่นอนครับถ้าเป็นคุณพ่อผมจริง แต่สำหรับผมผู้ที่ให้กำเนิดผม ผมไม่อาจเรียกว่าพ่อ พ่อของผมคือครูที่สอนและเป็นผู้จัดการคอยช่วยเหลือในเรื่องต่างๆให ้ผมมาแต่เด็กต่างหากละครับ
21 กรกฎาคม 2551 09:35 น. - comment id 100643
แจ๋วมากครับ...มีคำตอบในคำถาม ดีใจที่ได้อ่านครับ
22 กรกฎาคม 2551 15:36 น. - comment id 100678
ขอบคุณ คุณเนื้อไม้ที่ชอบนิยายทำนองนี้นะคะ
23 สิงหาคม 2551 14:29 น. - comment id 101085
แจ๋วมากครับ
27 มีนาคม 2554 19:42 น. - comment id 123111
เขียนดีมากครับ