รักษ์โลก แล้วโลกจะรักษ์เรา
กฤตศิลป์ ชินบุตร
กว่าเป็นโลกย่อมผ่านกาลเวลา
สรรพสิ่งเกิดมาด้วยรังสรรค์
แล้ววันนี้โลกเราป่วยลงพลัน
จะมีใครเหลียวหันมาแลดู
ยามคนป่วยมีหมอเฝ้ารักษา
แล้วโลกป่วยใครหนาจะรับรู้
ไม่รักษ์โลกภัยร้ายจึงพรั่งพรู
กวาดศัตรูของโลกให้สิ้นไป
ในสภาวการณ์โลกในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม สภาพภูมิอากาศที่ผันผวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ฝนฟ้าก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล ภัยธรรมชาติต่างๆก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อภัยเหล่านั้นอุบัติมาย่อมคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก และยังทำลายทรัพย์สินบ้านเรือนให้ย่อยยับอย่างไม่ปราณี ทุกคนอาจเข้าใจว่าภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม โคลนถล่ม แผ่นดินไหว ภัยแล้ง ซึนามิและพายุ ล้วนเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างปกติ โดยหารู้ไม่ว่าสองมือของคุณต่างหากที่สร้างมันขึ้นมา
ปัญหาหลักที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือภาวการณ์ที่ปรากฏการณ์เรือนกระจกธรรมชาติถูกรบกวน กล่าวคือในชั้นบรรยากาศโลกเรานี้มีสารเรือนกระจกตามธรรมชาติ ซึ่งทำหน้ารักษาอุณหภูมิภายในโลกมิให้แปรเปลี่ยนอย่างฉับพลัน เมื่อแสงอาทิตย์ผ่านเข้ามาในโลกก็จะสะท้อนกลับสู่บรรยากาศ และมีบางส่วนที่ถูกเก็บไว้ภายในโลกเพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกในเวลากลางคืน แต่ขณะนี้ก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปริมาณความร้อนที่สะท้อนกลับออกไปจากโลกน้อยลง อุณหภูมิของโลกจึงสูงขึ้น และเกิดเป็นภาวะโลกร้อนอย่างปัจจุบันนี้
เมื่อโลกร้อนขึ้นอย่างฉับพลันย่อมกระทบต่อสมดุลของระบบต่างๆ เช่นน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ปริมาณน้ำทะเลที่สูงขึ้น อัตราการเกิดภัยธรรมชาติถี่ขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งมนุษย์ทุกมุม โลกต่างเป็นผู้รับโทษภัยเหล่านั้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พายุ แผ่นดินไหว ซึนามิ น้ำท่วม ภัยแล้ง เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก
การเสียสมดุลของโลกในขณะนี้เทียบได้ว่าโลกกำลังป่วย ระบบต่างๆกำลังรวนจนไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ด้วยสาเหตุเดียวกันกับการป่วยของคนยามร่างกายอ่อนแอ เชื้อโรคสามารถเข้าไปทำลายระบบต่างๆร่างกายได้ เช่นเดียวกันโลกก็ป่วยด้วยมลภาวะต่างๆที่มนุษย์ผลิตออกมา ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม 40 เปอร์เซ็นต์ ตึกรามบ้านช่อง 31 เปอร์เซ็นต์ ยวดยานพาหนะ 22 เปอร์เซ็นต์ และการเกษตร 4 เปอร์เซ็นต์ มลพิษเหล่านั้นเป็นเหมือนเชื้อโรคที่แทรกซึมในร่างกาย โลกเราจึงวิกฤตดังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ และกำลังรอการรักษาเยียวยาเพื่อคืนสมดุลในระบบต่างๆ
จึงเป็นหน้าที่ที่มนุษย์จะต้องร่วมกันรักษาโลกใบนี้ให้หายป่วย ด้วยสองมือน้อยๆของทุกคนที่จะร่วมลดการสร้างมลภาวะต่างๆ ลดการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย และเยียวยาโลกด้วยการปลูกต้นไม้ คงไม่นานโลกโสภณใบเดิมจักกลับมา และสถิตอยู่ตราบเท่าที่เราทุกคนยังรักษ์โลก โลกและเราก็จักเกื้อกูลกัน ภัยร้ายต่างๆที่เผชิญในปัจจุบันย่อมลดน้อยลง หากวันนี้เรารักษ์โลก พรุ่งนี้โลกจักรักษ์เรา ถ้าวันนี้เรารักโลก แสดงว่าวันนี้เรารักตัวเองและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ร้อยดวงใจน้อยใหญ่ทุกดวงมาน
รวมผสานพันธกิจพิชิตหมาย
รู้รักษ์ประจักษ์มั่นจวบวางวาย
เร่งป้องภัยทำร้ายโลกโสภณ
รักษ์โลกเถอะแล้วโลกจะมอบรักษ์
ป้องโลกเถอะโลกจักชโลมฝน
รักโลกแล้วแพร้วเพริศในกมล
โลกรักษ์คนคนรักษ์โลกอกาลิโกฯ
16 กรกฏาคม 2551 เวลา 1.09 น.