ประสบการณ์จากการใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
รอยทาง
นับจากที่ล้อเครื่องบินสัมผัสกับสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นภาคภูมิใจไปด้วย ที่บ้านเมืองเรามีสนามบินดูจะยิ่งใหญ่และทันสมัยอลังการเสียจริง รู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้งเมื่อได้กลับมาบ้านเกิด จะได้พบญาติพี่น้องที่กำลังรอคอยต้อนรับอยู่
แต่แล้วหลังจากตรวจหนังสือเดินทางรับกระเป๋า สิ่งต่อไปก็คือภาระกิจการเข้าห้องน้ำ ช่องทางเดินค่อนข้างแคบ ห้องน้ำหญิงกับชายจะเดินไปทางเดียวกันห้องน้ำหญิงจะถึงก่อนแล้วจึงวกเข้าห้องน้ำอีกที ฉันรู้สึกถึงถึงความไม่ปลอดภัยเลย เพราะช่วงเวลาที่เครื่องลงนั้นยังเช้าตรู่มากมีผู้โดยสารขาเข้าไม่มากนัก หากจู่ๆ เดินออกมามีสิทธิ์ถูกล๊อคคอลากเข้าห้องน้ำเป็นสิ่งที่อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เข็นกระเป๋าออกมายังอาคารรับผู้โดยสาร จะเจอกับเจ้าหน้าที่สนามบินแต่งตัวในแบบฟอร์มอย่างดีเดินมาถาม "จะใช้บริการรถมั๊ยครับ" ฉันบอกไม่ใช้ ต่อมามีผู้ชายอีกคนแต่งตัวปกติธรรมดาเดินเข้ามาหาอีก "จะใช้บริการถแท๊กซี่มั๊ย" จึงถามต่อเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินหรือ ดูเขาอ้ำๆ อึ้งๆ ไป พยายามที่จะตามตื๊อ จึงรู้สึกเอะใจว่านี่สนามบินหรือสถานีขนส่งรถโดยสารกันแน่
จึงเดินขึ้นไปชั้นสามใช้บริการรถแท๊กซี่ด้านนอกอาคารแทน จึงมีโอกาสเล่าและถามคนขับแท๊กซี่ เขาบอกว่าก็มักจะเป็นเช่นนั้นหากเจอผู้โดยสารคนไหนที่หลงมาหรือชาวต่างชาติ ตกลงราคากันได้เขาก็จะวิ่งมาติดต่อแท็กซี่ข้างนอกอาคารที่มาส่งผู้โดยสารขาเข้า แล้วแต่จะตกลงราคาจ่ายกันกับแท๊กซี่อีกทีไม่มีการกดมิเตอร์ ในส่วนของเขาเองก็เคยเจอก็ต้องรับดีกว่าเสียเที่ยวมา หากไปเข้าคิวรอก็ต้องไปจ่ายค่าภาษีสนามบินเพิ่ม
ฉันเชื่อว่ามีผู้โดยสารไม่น้อยเลยที่เดียวที่อาจจะถูกพวกมิจฉาชีพเหล่านี้หลอกได้ทุกวัน รู้สึกจะเลือกเข้ามาถามเสียด้วยอย่างเช่นเห็นมาคนเดียว การกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเราเองแท้ๆ กลับมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเอาเสียจริง
สามอาทิตย์ให้หลังฉันก็ต้องเดินทางกลับต่างประเทศ แต่กลับมีความรู้สึกว่าสนามบินดูยิ่งใหญ่อลังการแต่ทำไมระบบความปลอดภัยอะไรแย่จัง เริ่มตั้งแต่การเปิดประตูเข้าไปก็มีเพียงแค่ยามเฝ้าประตูเท่านั้น ไม่มีการตรวจผู้คนผ่านเครื่องเอ็กซเรและกระเป๋าเดินทาง เมื่อถึงเวลาก็สามารถเดินลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอินได้เลย ใครจะวิ่งเข้าออกก็ได้สบายมากดูวุ่นวายไปหมด ขาดระบบระเบียบ ทำให้ฉันรู้สึกหวาดเสียวอยู่ในใจลึกๆ ถึงความไม่ปลอดภัยในอนาคตข้างหน้า
เมื่อตรวจหนังสือเดินทางเรียบร้อย ต้องเดินไปช่องประตูขึ้นเครื่องขาออกต่างประเทศ รู้สึกเดินไกลจังเลยแม้จะมีสะพานเลื่อนให้เดินก็ตามแต่ ในส่วนที่เรียกว่า duty free ตลอดทางร้านค้ามากมาย จนทำให้มีความรู้สึกว่าเหมือนมาห้างสรรพสินค้ามากกว่าอยู่ในสนามบิน บ้างก็รู้สึกเยอะเสียจนมองหาช่องป้ายบอกทางงงสับสนไปหมด บางจุดก็เหมือนตลาดขายผลไม้สด ราคาสินค้าก็ค่อนข้างสูงมาก รู้สึกว่าทำไมพวกเราขูดเลือดขูดเนื้อกับเพื่อนมนุษย์โลกเหลือเกิน ยิ่งคนไทยด้วยกันแล้วดูเหมือนไม่อยากให้บริการด้วยซ้ำ ฝรั่งเองก็ใช่ว่าจะร่ำรวยกันทุกคน
ประชาชนไทย 60 กว่าล้านคน มีไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ต้องเดินทางออกต่างประเทศ เพื่อธุรกิจ การท่องเที่ยว หรือส่วนตัว น้อยนักที่จะมีโอกาสเข้ามาดูมาเห็นในส่วนที่เรียกว่า duty free หรือ king power จึงขอเป็นประตูหน้าต่างเล่าสู่พี่น้องเราชาวไทยฟัง
วกมาเรื่องไม่ตรวจกระเป๋าเดินทางเอ็กซเรก่อนเช็คอินกันบ้าน แต่กลับไปตรวจเอาตอนจะขึ้นเครื่องกับเป๋าสะพายส่วนตัว ซึ่งมีข้าวของไม่กี่ชิ้น วันนั้นฉันเองถึงกับถูกยึดกรรไกรตัดด้ายเล็กๆ บางๆ ปลายทู่ๆ ยาวไม่ถึงสามเซ็นติเมตรในกระเป๋าเครื่องสำอาง เอาติดตัวไปไม่รู้แต่กี่สนามบินแต่กี่ประเทศ เพิ่งจะมาเจอความเข้มงวดอย่างไร้ระบบที่สุวรรณภูมิ ไม่อยากจะเชื่อด้วยสายตาตัวเองจริงๆ เลยว่า ทำไมถึงมีข่าวเรื่องสิ่งของในกระเป๋าผู้โดยสารถูกขโมยบ่อยๆ ที่สุวรรณภูมิ บางคนก็ถูกรื้อเสียจนกระเป๋าพังยับเยิน แย่มากๆ
หลังจากกลับมาจากเมืองไทยไม่กี่สัปดาห์ ข่าวก็พลาดหัวขึ้นมาทันทีเมื่อมีโจรบุกเข้าไปปล้นธนาคารกรุงเทพฯ ถึงในสนามบินสุวรรณภูมิ ช่างเก่งอาจอาจหาญเสียจริงเพราะความหละหลวม นั่นเป็นช่องทางและโอกาสของมิจฉาชีพ โจรผู้ร้าย ไม่อยากจะคิดถึงอนาคตข้างหน้าต่อไป ฉนั้นคนที่ตกเป็นเหยื่อก็คือประชาชนที่ใช้บริการ กี่ยุคกี่สมัยแล้วไม่ว่าจะระบบอะไรก็ตามแต่ขอทีเถอะประเทศไทย พวกที่มีอำนาจอยู่ในมือทั้งหลายอย่าทำอะไรแบบผักชีโรยหน้าแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ เมื่อ วัวหายแล้วจึงล้อมคอก โปรดเห็นใจถึงความปลอดภัยของประชาชนและชื่อเสียงประเทศชาติของท่านด้วย
แม้แต่ประเทศที่อาศัยอยู่ หรือเดินทางไปยังที่อื่นที่เขาพัฒนาแล้ว เขาคุมเข้มการเข้าออกตรวจตราเข้มงวดมาก แม้แต่ก่อนออกจากภายในอาคารผู้โดยสารก็ยังต้องตรวจเอกซเรสัมภาระอีกครั้ง ห้องน้ำชายหญิงจะจัดไว้คนละมุมซ้ายขวามีป้ายสะท้อนแสงบอกเห็นชัดเจน หากเป็นแทกซี่ก็จะเข้าคิวรอรับหรือไม่ก็มีรถบัสจอดรอรับมีป้ายบอกไปยังที่ต่างๆ แล้วแต่ความสะดวกจัดระเบียบง่ายต่อการให้บริการ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยถามผู้โดยสารวุ่นวายให้เปลืองเนื้อที่เดิน ฉันคิดว่าดูเป็นการรบกวนมากกว่าที่จะให้บริการเสียอีก อยากเห็นความมีระเบียบสมกับความยิ่งใหญ่แห่งสุวรรณภูมินะ
อีกอย่างไม่แต่มาเฟียแท็กซี่เท่านั้น เด็กๆ สาวๆ รุ่นๆ ผัดหน้าทาแป้ง ตามเสา ใต้ถนน หน้าอาคารผู้โดยสารขาออกต่างประ เทศ ใครเคยผ่านไปก็ลองสังเกตุดูแล้วกัน ปล่อยให้เป็นเช่นนี้มาได้อย่างไร อนาจใจไทยแลนด์
ท่านใดที่มีประสบการณ์ในการเดินทางในการใช้สนามบินที่ต่างๆ ช่วยเล่าและแบ่งปันประสบการณ์หรือออกความเห็นด้วย เพื่อเป็นความรู้ต่อผู้อื่นกันบ้างนะคะ