Darkness and Silence

Dot...space

ฝนกำลังตกปรอยๆ
หยดน้ำพากันเคลื่อนที่
 
จากสูง สู่ ต่ำ
จากฟ้า สู่ ดิน
 
 
 
หยดน้ำเล็กๆที่หยดลงได้เริ่มสัมผัสกับผิวเนื้อ
 
คอนกรีตเริ่มลื่น เมื่อเม็ดฝนค่อยๆกระจายตัวลงบนพื้น
สองเท้าบอกให้ผมระวัง สิ่งที่อาจเกิดขึ้น อันตรายซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ในวันที่ทุกอย่างดูชุ่มชื่น ธรรมชาติช่างเบ่งบาน สิ่งมีชีวิตต่างพากันร้องรำ
แต่มนุษย์นั้นกลับกำลังเดือดร้อน และร้อนรน
ผมค่อยๆเดินไปอย่างมีสติ
 
 
 
ในทุกก้าวที่เดิน
ผมไม่อาจปลดปล่อยความคิด
 
ในทุกก้าวที่เดิน
หัวใจผมเต้นอยู่ที่สองเท้า
 
ในทุกก้าวที่เดิน
ฝนยังคงตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
 
 
 
 
อวยพรให้วันนี้ผ่านไปด้วยดี
ผมเฝ้าภาวนาในความมืดมิด
 
 
 
 
"ขอโทษครับ"
ผมจำต้องกล่าวคำขอโทษเล็กๆน้อยๆ
เนื่องจากไอ้ไม้ด้ามยาวที่ผมถืออยู่นี้
มันพลาดไปโดนใครเข้าซักคน
และตัวผมเองนั้นก็ล้มตึงลงไปบนพื้นที่เฉอะแฉะ
 
 
ไม่มีเสียงตอบกลับมา
 
 
ผมคิดว่าเค้าคงโกรธ
ไม่ก็คงเดินเลยผมไปอย่างไม่สนใจ
 
ผมค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แม้มันจะไม่ใช่เรื่องยากเย็น
แต่ก็มีมือสองมือค่อยๆช่วยดึงผม และ ผยุงตัวผมขึ้นมา
 
"ขอบคุณนะครับ"
 
ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
มันเลยกลายเป็นเพียงแค่คำพูดลอยๆของผมไปคนเดียว
ผมค่อยๆกวาดไม้ไปข้างหน้าเพื่อเดินต่อไป
 
 
เสียงรถเริ่มชัดเจนขึ้น ผมรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ไม้แตะโดนพื้นถนน นั่นหมายความว่า
ที่นี่คือ "ทางแยก"
 
ในทุกวัน ผมต้องเดินไปกลับระหว่าง
ที่พัก และ ห้องสมุด ผมช่วยทางห้องสมุด
แปลตำราและหนังสือต่างๆ เป็น ภาษาเบลล์
นั่นทำให้ผมต้องเดินทางบนเส้นทางนี้ถึง สองครั้งต่อวัน 
มันเป็นแค่ทางตรงสั้นๆ ระยะทางไม่ถึง ห้าร้อยเมตร
แต่สำหรับผมแล้วมันช่างยาวนานเหลือเกิน
สำหรับการเดินทางบนโลกใบนี้
 
ผมไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอทางแยกได้
ผมต้องข้ามมันทุกวัน แม้จะดูเสี่ยงเพียงใด
 
 
"ยังข้ามไม่ได้นะคะ"
"ยังข้ามไม่ได้ครับ"
 
เสียงเด็กๆมากมายตะโกนบอกผมจากด้านหลัง
 
ผมหยุดตัวเองได้ทันก่อนจะก้าวลงไปสู่โลกแห่งความตาย
 
"ขอบใจมากนะ"
 
เสียงเด็กเริ่มผ่านตัวผมไปข้างหน้า และค่อยๆเบาลง
นั่นหมายความว่า ตอนนี้ผมคงข้ามได้แล้ว
 
ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรต่อ ก็มีมือคู่หนึ่งคว้ามือผม
เดินผ่านมายังอีกฝากของถนน
 
แม้มันจะรวดเร็ว และเพียงชั่วครู่ แต่ผมจำสัมผัสของมือคู่นี้ได้
มือเล็กๆที่ดูบอบบาง กลิ่นน้ำหอมจางๆที่ปนไปด้วยกลิ่นไอฝน
 
 
"ขอบคุณอีกครั้งนะครับ"
 
เธอต้องเป็นคนเดียวกับคนที่พยุงผมขึ้นมาอย่างแน่นอน
 
"........"
 
ไม่มีเสียงใดๆ
เธอหายไปอีกแล้ว
 
 
 
ตั้งแต่นั้นมา ผมพยายามที่จะใช้เวลาเดินทางให้นานขึ้น
เพียงเพื่อที่จะเอ่ยคำ "ขอบคุณ"
 
เพียงเพื่อที่จะพักกายที่ไม่สมบูรณ์นี้
ยังที่ที่มีความเห็นใจ
 
 
หลายครั้งที่ผมพบเธอ 
ใช่เธอ หรือ ไม่ ผมก็ไม่อาจบอกได้
เพียงแต่ความรู้สึกของผมบอกว่า ต้องเป็นเธออย่างแน่นอน
 
แม้ว่าเธอจะเข้ามาช่วยผม เวลาผมมีปัญหา 
และหายตัวไปในเวลาอันรวดเร็ว
แต่ผมก็มีความสุข 
แค่ทางเดินที่ ยาวไม่ถึง 500 เมตร เพียงแค่นั้น 
ผมกลับได้พบและเรียนรู้สิ่งต่างๆ
รวมทั้งยังได้รับความรู้สึกดีๆอีกมากมายจากผู้คน
 
 
บนทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ โดย อับราฮัม มาสโลว์
ซึ่งผมเคยเจอในหนังสือที่ผมแปลนั่นเอง
เค้าบอกไว้ว่า มนุษย์มีความต้องการขั้นพื้นฐานต่างๆมีการ
เรียงลำดับความสำคัญ จากน้อยไปมาก
จากเดิม ผมอาจเป็นคนที่ไร้ซึ่งสิ่งต่างๆ ซึ่งมนุษย์นั้นพึงได้รับ
แต่ ณ ตอนนี้ ผมได้ถูกหยิบยื่นสิ่งต่างๆให้
 
มันแทบจะครบแล้ว
 
 
 
และเพียงพอ
สำหรับ หนึ่ง ...ชีวิต...
 
 
 
 
วันนี้ผมเดินกลับทางเดิมอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกอิ่มเอม
 
 
แล้วก็ด้วยความบังเอิญ หรือโชคชะตา ...
ไม้ผมคงพลาดไปโดนเธออีกครั้ง
 
"ขอโทษครับ" ผมรีบกล่าวคำขอโทษ
 
ไม่มีเสียงใดๆ มีเพียงมือมือหนึ่ง จับมือของผมไว้
เธอเดินนำพร้อมจับจูงผมไป
 
ผมคิดว่าเธอคงจำทางเดินกลับของผมได้แล้ว
เพราะผมก็ผ่านทางนี้ทุกวัน
 
 
"ขอบคุณทุกๆครั้งเลยนะครับ"
 
"คุณพักอยู่แถวนี้หรือครับ"
 
"วันนี้อากาศดีนะครับ"
 
....................
 
ผมยังคง ถาม ถาม และก็ ถาม ในสิ่งที่ผมอยากรู้
แม้เธอจะไม่เคยตอบผมเลย
 
 
 
 
"พรุ่งนี้เจอกันอีกนะครับ"
 
เราต่างหยุดเดิน เพราะผมถึงที่พักของผมแล้ว
 
 
 
 
 
 
"พรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณครับ"
 
ไม่ทันที่เธอจะปล่อยมือ
 
 
ก็มีเสียงเด็กแทรกเข้ามา 
ผมคิดว่าเด็กคนนั้นคงเดินผ่านมาเห็นภาพของผมและเธอ
ซึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่นั่นเอง
 
 
 
 
 
 
 
"พี่คะ พี่คะ ...."
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"พี่ผู้หญิง เค้าไม่ตอบพี่หรอกค่ะ"
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"พี่เค้าเป็นใบ้ค่ะ"
 
 
 
 
 
เสียงเด็กน้อยเงียบลง
 
 
 
 
ภาพตรงหน้าของผมดูมืด
ซึ่งคงไม่ต่างจากโลกของเธอ
ที่พูดคุยได้เพียงตัวเองลำพัง
 
 
ผมไม่ได้ปล่อยมือเธอ ผมดึงเธอเข้ามา
เราสองคนยืนกอดกัน
หรือบางที เราก็แค่ เอนกายพักพิงซึ่งกันและกัน
 
 
 
 
 
ในความมืด ภาพของเธอเริ่มก่อตัวขึ้น
เช่นเดียวกับเธอซึ่งคงกำลังเอ่ยคำพูดบางอย่างถึงผม
 
 
แม้ผมจะไม่เห็น และ เธอจะพูดมันออกมาไม่ได้
 
 
 
วันนี้ฝนตกปรอยๆ อีกครั้ง
 
ณ พื้นที่เล็กๆนี้.....
 
เราสองคนได้รับทุกสิ่ง ทุกความต้องการ
แม้ร่างกายของเราทั้งคู่จะขาดไปบ้าง
แต่นั่นไม่สามารถตัดสินอะไรได้เลย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
คุณหล่ะ ....
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
มีครบเหมือนพวกเรา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
....แล้วรึยัง?				
comments powered by Disqus
  • ..

    28 เมษายน 2551 22:11 น. - comment id 100075

    silent & listen
    
    live & evil
    
    16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน