เติบโต (Bloom)
Dot...space
สิ่งที่หลงลืม...
บางสิ่งจางหายตามกาละเวลา
ทิ้งเพียงเศษผงของความรู้สึก
ความรู้สึกก็เริ่มจางหายตามกาลเวลา
แต่ไม่ใช่สำหรับชายผู้นี้...
......................................................................
ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามผ่านเศษซากต้นไม้นับล้านๆต้น
ชายช่างตัดไม้ ผู้ไม่เคยแม้จะเหลียวกลับไปมองตอไม้เหล่านั้น
ที่อยู่เบื้องหลังความทรงจำของตนเอง
ทุกวันยังคงเดิม ...
ชายหนุ่มยังคงดำเนินชีวิตผ่านพ้นวันและคืน
พร้อมกับหยาดเหงื่อและความเหนื่อยล้า
แต่.....
งานที่ต้องลงแรงกาย มันช่างหนักเสียเหลือเกิน
สำหรับชายผู้ซึ่งวัยกำลังร่วงโรยไปตามวันเวลา
เมื่อแรงกายค่อยๆอ่อนลง
ความเงียบเหงาภายในใจก็เริ่มเกาะกินส่วนลึกๆในความรู้สึก...
มันลุกลาม
จนเกินกว่าที่หัวใจของคนหนึ่งคนจะรับไหว
ในที่สุด...
ชายหนุ่มหมดแรงและล้มลง
ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงสู่พื้นดินอันเป็นที่ซึ่งเค้าได้เหยียบย่ำตลอดมา
มือวางเบาๆพร้อมกับปล่อยขวานด้ามใหญ่ลง
หลังค่อยๆเอนอิงกับตอไม้ใหญ่
ชายหนุ่มหวนคิด ถึงวันเวลาที่ผ่านมา
ข้างในส่วนลึกของความทรงจำและการกระทำ
อดีตคือสิ่งที่ต้องรำลึกและทบทวน
ภาพวันเก่าเล่าและบอกความเป็นจริงกับชายผู้นี้
"ต้นไม้ใหญ่หนอ เราตัดเจ้ามา เราคิดแต่ทำลาย แต่วันนี้ซากเล็กๆของเจ้า
กลับเป็นที่ให้ร่างกายที่อ่อนล้าเราได้เอนกายลงพักพิง"
"จากนี้เราจะดูแลเจ้าเอง"
ชายหนุ่มตั้งใจและมุ่งมั่นต่อความรู้สึกของตนเอง
จากนี้เส้นทางอนาคตได้ถูกขีดขึ้นทีละน้อยตามระยะทางของความคิดและจิตใจ
ทันทีที่ความนึกคิดสิ้นลง ภาพแรกตรงหน้าชายผู้นี้
คือ ต้นอ่อนที่ดูเหี่ยวเฉาท่ามกลางตอไม้ใหญ่นับพันนับหมื่นต้น
นี่อาจเป็นทางที่ได้ถูกสร้างมาเพื่อชายหนุ่ม
มือจากที่เคยถือขวาน
ตอนนี้กลับกลายเป็นถังน้ำใบใหญ่
ทันทีที่ชายหนุ่มเดินตรงไปยังต้นไม้นั้นด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าอิ่มเอมกับความสุขสมหวัง
ก็ปรากฏเงาของชายเดินมาอีกฝากหนึ่งพร้อมถังใบใหญ่เช่นกัน
เค้าตรงไปที่ต้นอ่อนนั้น....
พร้อมกับรดน้ำลงชโลมดินด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นภาพในความนึกคิดของชายช่างตัดไม้
ผู้กำลังพยายามค้นหาความสุขบนความรู้สึกของคนซึ่งเป็นผู้ให้
ชายแปลกหน้านั้นนอกจากค่อยๆพรมน้ำลงอย่างตั้งใจแล้ว
สองมือยังค่อยๆหยิบเศษหิน และขุดพรวนก้อนดินพร้อมกับรอยยิ้ม
มันช่างให้ความรู้สึกที่อิ่มเอม บนใบหน้าของชายช่างตัดไม้ ยังเปื้อนไปด้วยคราบของรอยยิ้ม
หากเพียงแต่ข้างในใจลึกๆยังรู้สึกผิดหวัง
ที่ตนเองกลับไม่ได้ทำอะไรเพื่อต้นไม้นั้นเลย
ในไม่ช้า ก็ปรากฏผู้คนมากมาย คนเหล่านั้นต่างตรงเข้ามายังต้นไม้เล็กนั้น
ทุกคนต่างมาด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม
ต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นตามเวลา
ผู้คน บ้างก็ยังอยู่
บ้างก็เดินจากไป
ผลัดไป เวียนมา
มีเพียงชายหนุ่มที่ยังคงยืนมองจากจุดเดิม
"เราแค่อยากดูแลเจ้า ก็แค่นั้น แต่จริงๆแล้วยังมีผู้คนอีกมากมาย
ที่อยากจะดูแลเจ้า และพร้อมที่จะดูแลเจ้า"
"เราทำอะไร .. ไม่ได้เลย ไม่ได้ทำอะไรเลย จนเจ้าเติบโต
แล้วความสุขมันหาได้จากที่ไหนกันหล่ะ"
ต้นไม้ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ต้นไม้ดูสูงใหญ่จนแทบจะลืมเลือนไปว่า
มันเคยเป็นเพียงต้นไม้เหี่ยวแห้งกลางทุ่งร้างแห่งนี้
กลับกันกับชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังหมดแรงลงกว่าแต่ก่อน
ร่างกายแห้งเหี่ยวไปตามสังขารของวัย
จนวันนี้ก็ยังคงมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาดูแลต้นไม้ใหญ่อย่างไม่ขาดสาย
ต่างคนต่างหวังที่จะครอบครองต้นไม้ใหญ่นี้
ให้เป็นที่พักพิงเอนอิงร่างกายที่อ่อนล้า หัวใจที่อ่อนแรง
ไม่ต่างกับความคิดชายชราในวันก่อนนั้น
วันนี้คำถามยังคงถูกกล่าวขึ้นในอากาศ บางครั้งก็มากับสายลมเย็นๆที่พัดผ่าน
บางทีก็มาจากแสงแดดอ่อนๆที่สาดผ่านพุ่มไม้ใหญ่ลงมา
"ความสุข หาได้จากที่ไหน ในเมื่อจนถึงวันนี้ เรายังไม่ได้ทำอะไรเพื่อเจ้าเลย"
ชายชราแหงนหน้าขึ้นมองที่ต้นไม้ใหญ่
พร้อมกับค่อยๆเอนร่างกายลงอิงกับตอไม้เดิม
มือวางเบาๆ พร้อมกับวางถังน้ำลง
เสียงลมหายใจที่บางเบา แววตายังคงเหม่อมองหาคำตอบ
ต้นไม้ใหญ่
ไม่เอ่ยคำใดๆ
ไม่เคยเอ่ยคำใดๆ
มีเพียงลมเบาๆพัดผ่านพาเอาดอกไม้ดอกหนึ่งร่วงลงจากพุ่มไม้ใหญ่
ค่อยๆปลิว และตกลงมาเบาๆข้างชายชรา
ราวกับภาพถูกย้อนหวนกลับสู่อดีต
ชายผู้ชราค่อยๆกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง
เค้าก้มลงมองดอกไม้ดอกนั้น
พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
สายลมค่อยๆพัดพาคำถามในจิตใจของชายผู้นี้ให้หลุดออกไปจากหัวใจ
"ความสุข...."
.......
.......................................
"ไม่ยากเลย หาไม่ยากเลยจริงๆ"
รอยยิ้มเริ่มมากขึ้น หัวใจซึ่งถูกปิดตายมาแสนนานได้เบิกกว้างขึ้น
ก่อนชายผู้นั้นจะหลับลง.....
ชั่วนิรันดร์