หนังสือทำมือ เดิม หมายความถึงหนังสือเล่มหนึ่งๆ ที่ผู้เขียน เขียนเอง ทำภาพประกอบ จัดรูปเล่ม จัดหน้า ออกแบบปก ออกแบบการเข้าเล่ม เรียกว่าทำทุกขั้นตอนด้วยตนเองทั้งหมดโดยไม่ผ่านโรงพิมพ์ใหญ่ๆ ในสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้หลายขั้นตอนสามารถพึ่งพาเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ หากนับการเขียนเป็นขั้นตอนแรก เราสามารถพึ่งพาเทคโนฯ ได้ตั้งแต่ขั้นตอนที่สองจวบจนกระทั่งเป็นเล่มออกมา เมื่อมีร้านถ่ายเอกสาร นักศึกษา หรือกระทั่งบริษัทบางแห่งรับทำหนังสือทำมือเปล่านี้มากขึ้น ผู้เขียนก็สามารถเขียน กลั่นกรองแล้วไปจ้างให้โรงพิมพ์จัดหน้า ทำรูปเล่ม เข้าเล่มให้ได้ทันที โดยมีศูนย์กลางอยู่กรุงเทพมหานครเป็นส่วนใหญ่ สีน้ำฟ้ารู้จักหนังสือทำมือมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ราวๆ ปี พ.ศ. 2530 2531 เป็นประเภทจุลสารทำมือ โดยรู้จักในฐานะนักอ่าน ต่อมาได้มีโอกาสเข้าร่วมกับกลุ่มนักฝัน น่าจะใช่นะ..ชื่อกลุ่มนักฝัน ถ้าจำไม่ผิดโดยมีพี่นิจ อักษรา บรรณาธิการและนักเขียนประจำในนิตยสารวัยน่ารัก ที่เข้าร่วมกลุ่มด้วยเพราะส่งงานเขียนของตัวเองไปลงในหน้านิตยสารบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นกลอน พอเริ่มมัธยมปลายก็เริ่มหัดเขียนเรื่องสั้น แรกๆ ก็เอาไปให้เพื่อนที่โรงเรียนอ่าน ก็เขียนเรื่องตัวเองปนกับเพื่อน นางเอกคนแรกเป็นชื่อของเพื่อนจำได้แม่นเลยก็คือ..พรนิภา การที่จากบ้านเกิดที่เชียงราย มาเรียนเชียงใหม่ โลกกว้างขึ้น เริ่มส่งเรื่องสั้นไปตามนิตยสาร รวมทั้งกลอนด้วย ถ้าเรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ก็จะได้ค่าขนมเป็นธนาณัติเรื่องละหนึ่งร้อยห้าสิบบาท ส่วนกลอนที่ตีพิมพ์ไปได้แต่ข่าวว่าเขามีค่าขนม โดยส่วนตัวไม่เคยได้รับเลยแค่มีงานก็ดีใจแล้ว กลอนได้ตีพิมพ์ กลอนแรกในนิตยสารวัยหวาน ฉบับ 115 พี่รณภพ ทรงเสรีย์ หรือพี่เอ๋ ชามาดา เป็นบรรณาธิการ ก็ส่งทุกค่ายนะ ตามงานบ้าง ไม่ตามงานบ้าง แล้วแต่จังหวะและโอกาส จำได้แต่ว่ามีงานตีพิมพ์ทั้งนิตยสารวัยหวาน นิตยสารทราย และนิตยสารเดอะบอย เมื่อมีโอกาสได้รู้จักกับพี่จาริก แรมรอน ก็รู้สึกสมัครสมาชิกไปกับกลุ่มใบตอง ที่พี่จาริก และได้เป็นเพียงผู้อ่าน ความที่สนใจและอยากรู้อยากเห็น.. เริ่มลงมือทำจุลสารเอง กะจะออกรายสิบห้าวัน โดยรวบๆ รวมๆ เพื่อนในห้องเรียนนั่นแหละ ก็สะเปะสะปะไปพอได้ทำ คนอ่านพอมี อ่านฟรีซะเป็นส่วนใหญ่ ล่มไม่เป็นท่าอยู่แค่นั้นแหละ ^__^ จบมัธยมปลายเข้ากรุงเทพฯ ร่วมกับเพื่อนทำจุลสารอีก ในนามจุลสาร กขค. โดยมีบัติต์ เป็น บก. ตอนนี้แหละถึงได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมต้นฉบับ การจัดหน้า การตรวจทานต้นฉบับ.. แต่ก็ไม่รุ่งอีกรู้สึกได้ช่วยงานเขาเพียงฉบับ หรือสองฉบับ ก็แป๊กอีก จนช่วงเวลาวัยรุ่นผ่านพ้นไป สีของความฝันก็จางลงๆ ไฟเกือบมอด งานเขียนเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิต..นั่นก็คือ การเขียนออนไลน์ที่เว็บบ้านกลอนไทย หรือ www.thaipoem.com สองปีแห่งความสุขโดยแท้จริง เมื่อผู้เขียน ผู้อ่าน สามารถตอบถ้อยคำกันอย่างรวดเร็วทันใจ กว่าจะมีแรงใจเติมไฟฝันก็เขียนออนไลน์อยู่หลายปี การทำหนังสือทำมือของสีน้ำฟ้า เริ่มต้นอีกเมื่อ ทานตะวัน นักเขียนออนไลน์จากเว็บ www.bookcyber.com กระดานบอร์ดบันทึกสาธารณะย้ายมาอยู่ข้างบ้านและให้ช่วยทำหนังสือทำมือให้ หนังสือสำเร็จลงจนได้ แต่ความที่เวลาจำกัดก็เลยขาดความปราณีตไปมาก จนกระทั่งได้แก้ตัวในเล่มต่อมา เธอหายไปไหนเจ้าเด็กน้อย เล่มนี้ไม่มีภาพ ทำเฉพาะกิจ ให้น้องเขาไปหมดเลย พอทำให้น้อง ก็อยากจะทำหนังสือทำมือของตนเอง.. ความในใจ ไฟฝัน ฉันและเธอ รวมกลอนเล่มแรก (เล่มนี้ทั้งแจก ทั้งขาย หมดเกลี้ยง เพราะเพื่อนๆ ช่วยซื้อเพื่อช่วยวิกฤตที่ร้านตอนประมาณ ปี 49) จากนั้นแตกหน่อมาเป็น นักฝัน วันวาร การเดินทาง | มิตรภาพออนไลน์ และปัจจุบันเล่มที่กำลังปล้ำๆ อยู่นี้ หินสักลาย ทำให้น้องอีกเช่นเคย น้องชื่อ "ดาเรน" ชื่อคล้ายๆ "ตาเรน" บล็อกเกอร์โอเคฯ ท่านหนึ่ง ดังนั้นเพื่อป้องกันการสับสน สีน้ำฟ้าก็เลยเรียกน้องเขาว่า "น้องดีน" รู้จักกันผ่านโลกออนไลน์นี่แหละค่ะ เขาเห็นรูปร่าง หน้าตา หนังสือทำมือ ที่สีน้ำฟ้าทำ เลยอนุญาต และไว้วางใจ มาร่วมมือกันทำ เล่มนี้เลยค่ะ เล่มที่ฝีมือสีน้ำฟ้าพัฒนามากขึ้น และภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง ภาพปกมาจากบล็อกแก๊ง "เขาพนม" ออกแบบปกโดยน้านพ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ร้านของสีน้ำฟ้านี่แหละค่ะ สวยไหมๆ อิอิ.. ออกนอกหน้านิ๊ดหนึ่ง เพราะภูมิใจในเล่มนี้ ที่ตรวจทาน แก้ไข และจัดรูปเล่มเองทั้งหมด งานนี้ต้องขอบคุณน้องดีนค่ะ ที่ทำให้สีน้ำฟ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคน และมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากปัญหาอะไรต่อมิอะไรรุมเร้าเหลือเกิน ในการทำหนังสือทำมือนั้น แต่ละขั้นตอนจะว่าง่ายก็ไม่เชิง และยิ่งสมัยปัจจุบันเห็นด้วยอย่างยิ่งที่คุณสายลมอิสระ นักเขียนฝีมือดี และกองบรรณาธิการนิตยสารไอน้ำ ออกมาให้ความเห็นผ่านเว็บประพันธ์สาส์นว่า หนังสือทำมือก็ควรมี บรรณาธิการ เรื่องนี้ติดตามอ่านต่อได้จาก ลิ้งค์นี้ http://www.praphansarn.com/new/c_talk/detail.asp?ID=210 เมื่อหนังสือทำมือ ปราณีตขึ้น มีการกลั่นกรอง มีคุณภาพมากขึ้น หนังสือทำมือที่เคยซบเซาลงไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง คงจะฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง
6 เมษายน 2551 15:26 น. - comment id 99842
เริ่มแรกก็ขอเริ่มออกตัวนะคะ ว่าไม่ใช่มืออาชีพ การทำนี้ สีน้ำฟ้าทำง่าย สไตล์สีน้ำฟ้า ด้วยความรู้น้อยนิดที่พอมี ขั้นตอนการทำหนังสือ แน่นอน เรามีเรื่องแล้ว ว่าแต่คุณอ่านเรื่องของคุณแล้วกี่รอบ.. เขียนแล้ว เขียนเลย ลงบล็อก คัดจากบล็อกมาทำเล่มเลยไหม ด้วยความเคารพค่ะ.. กรุณาอ่านอีกสัก 3-5 รอบ (น้อยแล้วนะนั่น) ในกรณีทำเองทุกขั้นตอน เพราะตามลักษณะนิสัยของเรา ย่อมเข้าข้างตัวเองเป็นธรรมดา หรือบางทีก็ล้าเกินกว่าจะอ่านแล้ว เพราะอ่านๆ ๆ ๆ เสียจนเนือยนายเต็มที ถ้าอย่างนั้นเราพริ้นท์ หรือส่งไฟล์ให้เพื่อนอ่านดีไหม ขอคนสนิทๆ สักคน บังคับ ขู่เข็ญให้เขาอ่านให้จบก่อนไฟเรามอดด้วยนะ อิอิ จากนั้นก็เอาเรื่องทั้งหมดมาจัดหน้า.. เลือกตัวหนังสือ ขั้นตอนนี้ก็สำคัญนะ สำคัญว่าคุณจะทำหนังสืออะไร กลอน เรื่องสั้น สารคดี การ์ตูนชนิดมีภาพประกอบ งานนี้ต้องคุ้ยหนังสือในตู้บ้านคุณมาเป็นตัวอย่างแล้วค่ะ
6 เมษายน 2551 15:27 น. - comment id 99843
ขนาดตัวหนังสือ น่าจะเลือกให้เหมาะสมกับผู้อ่าน ถ้าทำตัวเล็กๆ ขนาดตัวหนังสือ 14 เหมือนในภาพ จะทำให้ต้นทุนคุณต่ำลงจริง แต่นั่นหมายถึงคุณมุ่งหวังสำหรับคนกลุ่มเดียว คือวัยรุ่น และคนที่ไม่มีปัญหาทางสายตา ใจร้ายเกินไปไหมล่ะคะ สีน้ำฟ้าก็เลยเลือกสายกลาง คือขนาด 16 เพื่อผู้อ่านทุกเพศ ทุกวัย มองได้ชัดเจน เห็นกันถี่ถ้วน มาคิดเลขกันหน่อยนะ คิดเล่นๆ เพราะจำนวนหน้าน้อยไงคะ ทำให้ต้นทุนต่ำลง ยกตัวอย่างจากหินสักลายนะ (หินสักลายมี 2 เล่มชุด ยกตัวอย่างจากเล่ม 1) ถ้าใช้ขนาด 14 จะได้หนังสือประมาณ 126 หน้า จากปัจจุบันใช้ฟ้อนท์ 16 มีทั้งหมด 164 หน้า จำนวน หน้า 164-126 = 38 หน้า เอา 38 หน้ามาหาร 4 หมายถึงเทียบปรับเป็น 1 หน้าเอสี่ ใช้พื้นที่ทั้งหน้าทั้งหลังนะคะ จะได้ 9 หน้าครึ่ง ตีว่าสิบใบเอสี่ ค่าถ่ายเอกสารลดไป สิบบาทต่อเล่มเชียวนะ ชนิดของตัวอักษร แบบไหนล่ะถึงจะสวย อันนี้มุมมองแต่ละบุคคลต่งกันเสียด้วยสิ แบบไหนก็ได้ค่ะ ขอให้อ่านแล้วชัดเจนก็พอ สีน้ำฟ้าเลือกแบบนี้ค่ะ
6 เมษายน 2551 15:52 น. - comment id 99844
มีงานเข้า.. เดี๋ยวคืนนี้จะมาโพสต์ต่อให้จบค่ะ
6 เมษายน 2551 16:18 น. - comment id 99845
แด่ คุณสีน้ำฟ้า คาดคะเนเอาจากอายุที่บอกว่า ปี 30,31 อยู่ชั้นมัธยมต้น เราเดาว่าน้องประมาณ 35,36 เก่งค่ะ มีความอุตสาหะพากเพียรดี จะติดตามอ่านค่ะว่าหนังสือทำมือทำกันอย่างไร
6 เมษายน 2551 18:55 น. - comment id 99848
อ่านแล้วมองเห็นอุดมการณ์ของผู้เขียนได้เป็น อย่างดีเลยค่ะคุณแจม
6 เมษายน 2551 19:11 น. - comment id 99849
ขอบคุณหนูปราณ กับคุณไหมแก้วฟ้าสีครามค่ะ ตอนแรกคิดว่า คุณลุงประเสริฐ บรรยายถึงสาวในฝันซะอีก ที่แท้มีตัวตนนี่เอง ขออนุญาตโพสต์เรื่องต่อตรงนี้เลยนะคะ คนอ่าน จะได้ไม่ต้องคลิกหลายกระทู้..
6 เมษายน 2551 19:13 น. - comment id 99850
.....อ่านแล้วน่าสนใจคะ อยากรวมเล่มเป็นของตนเองบ้างจัง อิอิ ....ขอบคุณที่ให้ความรู้นะคะ แล้วจะย่องๆมาแอบอ่านคะ แน่ะๆๆ คุณปราณรวี อยู่ที่นี่เอง กลับบ้านเราคะ แม่เรียกกินข้าวแระ พี่สาวใหญ่ยังไม่กลับมาเลย หุหุ
6 เมษายน 2551 19:14 น. - comment id 99851
ตั้งค่าหน้ากระดาษให้เป็นแนวนอน หรือ Landscape จัดให้เป็นแบบ 2 หน้าต่อ 1 เอสี่ สังเกตจากภาพข้างบนนะคะ เลือกตามนั้นได้เลยค่ะ สำหรับกั้นหน้า กั้นหลัง
6 เมษายน 2551 19:16 น. - comment id 99852
จากภาพ...ค่านี้ได้จากการทำหนังสือเล่มล่าสุด เว้นด้านข้าง บนสุด ล่างสุด พอประมาณค่ะ เผื่อสำหรับเอาไปตัด เวลาเข้าเล่มด้วย เช็คสอบแล้ว ใช้ได้ค่ะ
6 เมษายน 2551 19:16 น. - comment id 99853
เจ๊ยย..ตกใจๆๆ ใครปาดหน้าฉางน้อย อ่ะๆ ให้อภัย เจ้าของบ้าน อิอิ ดีนะคะที่ฉางน้อยเบรคทัน เอี๊ยดดดดดดดดด
6 เมษายน 2551 19:17 น. - comment id 99854
ตรงนี้เป็นพื้นฐานสำหรับการจะทำหนังสือนะคะ ส่วนของตัวอักษรที่เราใช้สำหรับทำรูปเล่มทั้งหมดก่อนนะ ยังมีตัวหนังสือพิเศษ สำหรับทำเลียนแบบบาร์โค้ด
6 เมษายน 2551 19:19 น. - comment id 99855
ขออภัยฉางน้อย พี่เบรคไม่อยู่ อิอิ... ไม่เป็นไร โพสต์ไปพลาง คุยกันไปพลางก็ได้ (แต่เครื่องสีน้ำฟ้าจะแฮงก์แล้ว เปิดหลายหน้าต่างเกิน ฮา)
6 เมษายน 2551 19:21 น. - comment id 99856
มาเจาะลึกกันต่อดีกว่า ที่เขาว่าจัดรูปเล่ม ๆ เป็นอย่างไร หลังจากที่เรากำหนดขนาดหน้าไว้แล้ว ให้มี 2 หน้า ใน 1 เอสี่ ผ่านมุมมองของเครื่องโดยไม่ต้องพริ้นท์ออกมา จะได้ดังภาพนี้
6 เมษายน 2551 19:22 น. - comment id 99857
จะได้หนังสือขนาดกว้างประมาณ 13 เซน สูง 20 เซนติเมตร หรือเรียกว่าครึ่งหน้าเอสี่ เป็นขนาดที่น่าจะเหมาะมือ พกไปไหนมาไหน หน้าฝั่งซ้าย ที่เว้นว่าง แล้วก็มาขึ้นบทที่หนึ่งนั้น เป็นหน้าคี่ เปิดปุ๊ป เจอหน้าคี่ก่อน ฉะนั้น เผื่อเย็บไว้ทางซ้าย และในกระดาษแผ่นเดียวกันตอนพริ้นออกมา หน้าสองนั้น เผื่อเย็บทางขวา (เดี๋ยวค่อยไปว่ากันเรื่องพริ้นท์นะ ตอนนี้สังเกตแค่ หน้าคี่-หน้าคู่ เว้นที่สำหรับเย็บสันก่อน) มาดูภาพชัดๆ นะ
6 เมษายน 2551 19:23 น. - comment id 99858
จากหัวกระดาษ สีน้ำฟ้าเอ็นเทอร์เลื่อนลงมา 5 บรรทัด เพื่อเปิดช่องพักสายตาจากภาพ ก็คือพิมพ์คำว่า บทที่ ๑ แอบใส่สัญลักษณ์ไปตกแต่ง นิดหน่อย จากนี้เราไปดูภาพหน้า ที่สองเพื่อเปรียบเทียบกันค่ะ
6 เมษายน 2551 19:24 น. - comment id 99859
เห็นความแตกต่างหรือยังคะ หน้าสอง มุมเย็บอยู่ด้านขวา ลองไปพลิกหนังสือที่คุณมีสักเล่มสิ.. หน้าหนึ่งอยู่บน หน้าสองอยู่ล่าง ใช้วิธีเว้นที่ว่างไว้เย็บสัน ประมาณนี้ค่ะ ไม่ยากนะ.. ทีนี้การใส่เลขหน้า ก็คลิกที่ปุ่ม insert หรือแทรก คลิกเลือกตำแหน่ง มือใหม่ ขอแนะนำจัดกลางหน้าก่อนค่ะ เดี๋ยวสับสน
6 เมษายน 2551 19:26 น. - comment id 99860
ลืมภาพประกอบ
6 เมษายน 2551 19:28 น. - comment id 99861
ใช้วิธีง่ายๆ พอค่ะ ส่วนที่ทำ ฝั่งซ้ายใส่เป็นชื่อผู้เขียน ขวาเป็นชื่อเรื่อง อันนั้นสีน้ำฟ้าทำกับกรอบข้อความ ทำทุกหน้าค่ะ ข้อมูลจะหนักหน่อย แต่ง่ายในการพริ้นท์ ถ้าเครื่องคอมพ์ใครแรมน้อยๆ แนะนำเอาไว้ตรงกลางแหละค่ะ น่าจะใช้ได้แล้ว หน้าที่เป็นเลขบท ถ้าไม่ต้องการใส่เลข ก็ปิดซะ ปิดง่ายๆ กับกรอบข้อความนี่แหละ เอาเส้นออก และใช้พื้นกรอบสีขาว สิ้นเรื่อง นะ จัดหน้าแล้ว ใส่เลขหน้าแล้ว ก็พริ้นท์ต้นฉบับ กรณีใครมีภาพประกอบ ก็ใส่ไปเลยค่ะ หากเป็นหน้าสี ก็เว้นช่วงไว้ แยกต่างหาก แล้วค่อยพริ้นท์ หรือถ่ายเอกสารเฉพาะหน้านั้นๆ ครั้งเดียวไปเลย ทีนี้.. เราจัดหน้าเสร็จ กี่หน้าล่ะ.. พยายามเอาให้ หาร 4 ลงตัวนะ ไม่งั้น งง ได้ เวลาพริ้นท์ 1 เอสี่ เราจะพริ้นท์ 4 หน้าที่เราจัดไว้น่ะค่ะ พริ้นท์อย่างไรล่ะ.. หลายคนอาจจะใช้วิธีนี้.. เอากระดาษ (รีไซเคิลก็ดีนะ) มาตัดขนาดเล็กๆ แล้วพับครึ่ง แล้วเขียนเลขหน้าลงไป เรียกว่าเหมือนทำเล่มจำลองค่ะ พอเรามาแผ่ 1 แผ่นที่เราตัด อย่างในภาพ ก็คือพริ้นท์หน้า 20 คู่กับ 153 ด้านหลังจะพริ้นท์ 154 คู่กับ 21 ประมาณนั้น สีน้ำฟ้ามีวิธีใช้โปรแกรมเอ็กเซลมาคำนวณ มาเสนอค่ะ สนใจมั้ย.. ติดตามอีกทีนะ.. โพสต์ไป แทรกภาพไป เครื่องสีน้ำฟ้าเริ่มแฮงก์แล้วค่ะ ขอรีสตาร์ทเครื่องแป๊ปนึง
6 เมษายน 2551 19:41 น. - comment id 99862
ไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ ขออนุญาตต่อกระทู้ใหม่ และเป็นพรุ่งนี้นะคะ ทำงานจนสว่าง นอนนิ๊ดเดียว แล้วตื่นมาทำงานต่อ จนป่านนี้แหละค่ะ ขอโทษ ต่อพรุ่งนี้นะ..นะ ช่วยติดตามกันด้วยจ้า...
6 เมษายน 2551 20:15 น. - comment id 99864
ด้วยรักจากคาเรน..ตะหากร่า.... พี่แจมต้องพิมผิดแน่ๆเล้ยยย.... .. .. พี่ของเรนเก่งจัง..
6 เมษายน 2551 20:18 น. - comment id 99865
กี้เรนแอบก๊อป..ด้วยดิคะ.. เรื่องเล่าของพ่อ.. จะเป็นเล่มแรกของคาเรน.. .. เรนขอบคุณพี่แจมนะคะ..
6 เมษายน 2551 20:21 น. - comment id 99867
เรนกลับมา.. บอกดังๆอีกครั้ง.. เล่มแรกของเรน... เรื่องเล่าของพ่อ..ที่เป็นของเรน.... ซาแว้ป..
6 เมษายน 2551 22:30 น. - comment id 99870
ชื่นชมและยกย่องในความเพียรพยายาม ของน้องนะคะ พี่พุดรอเวลาจะพิมพ์ผลงาน มานานหลายปีแล้วก็ยังไม่สำเร็จเลยค่ะ คงไม่นานช้าแล้ว.. พี่พุด..อยากอ่านผลงานน้องมากค่ะ ด้วยรัก
6 เมษายน 2551 23:12 น. - comment id 99871
7 เมษายน 2551 07:05 น. - comment id 99873
น่ารักจังเลยครับ ผมเคยได้รับน้ำใจจากพี่สีน้ำฟ้ามาแล้วครั้งนึง นี่ยังไม่ได้ตอบแทนอะไรเลย นี่ก็เดินไปหยิบมา ตอนนี้ก็อยู่ในมืออีกครั้ง อยากทำบ้างแต่ก็จะหาตลาดที่ไหนดีหละ
7 เมษายน 2551 09:50 น. - comment id 99874
เรนจัง.. เอาสิ นอกจากเป็นกำลังใจ พี่ให้คำปรึกษาได้นะ.. มีพี่ ก็เอาไว้ในให้เป็นประโยชน์จ้ะ พี่พุด..ขอบคุณค่า ถ้าพี่พุดสนใจรวมเล่มจริงๆ แจมทำให้ได้นะคะ..ผลงานเป็นของพี่ 100% แจมเป็นสะพานให้ค่ะ ขอบคุณ คุณลักษมณ์.. ปกติถ้าไม่ลงชื่อก็ตามรอยถูกนะ... อิอิ ประมาณว่าคุณมีสัญลักษณ์เป็นของตัวเองจริงๆ กวีปกรณ์.. ไม่เป็นไรค่ะ ให้ดูรูปเล่ม เนื้อหาข้างในอาจจะไม่ดีนัก ขออนุญาตขึ้นกระทู้ใหม่ค่ะ ยาวมากแล้ว ภาพมาก เครื่องสีน้ำฟ้าเปิดไม่ค่อยจะขึ้นแล้ว
7 เมษายน 2551 19:58 น. - comment id 99888
แด่ คุณสีน้ำฟ้า พี่เคยเห็นวางขายที่แถวบ้านพี่ เรื่องหินสักลาย คงจะต้องไปอุดหนุนกันบ้างค่ะ
7 เมษายน 2551 20:41 น. - comment id 99889
เอิ่ม.. หินสักลายเพิ่งทำเสร็จ แจมเป็นผู้จัดทำ น้องดาเรน เจ้าของหนังสือ ยังไม่ได้รับหนังสือเลยพี่ ถ้ารักกันจริง.. ช่วยส่งที่อยู่มาค่ะ แจมจะส่งทาง ปณ. ไปให้ พรุ่งนี้ค่ะ ส่งที่อยู่ไปที่ rimtarn_s@hotmail.com ก็ได้จ้า พี่ไหมแก้ว ขออนุญาตเรียกชื่อนี้ค่ะ "แจม" ค่ะ..
11 เมษายน 2551 16:36 น. - comment id 99915
มาติดตามอ่านด้วยคนครับ เผื่อจะเอาไว้ทำเล่นมั่ง... ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาแนะนำเพื่อนๆนะครับ