บันทึกจากพ่อ

POOLUM

ถึง ลูกรัก
	ช่วงนี้มีข่าวในบ้านเมืองที่เป็นข่าวดังอยู่เรื่องหนึ่งคือ เด็กผู้หญิงชื่อ น้องน้ำ อายุประมาณ 20 กว่าปี ได้เสียชีวิตลงด้วยโลกมะเร็งในเม็ดเลือด การตายครั้งนี้นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจให้กับคนทั่วไปเป็นอย่างมากทั้งที่เป็นแฟนเพลงที่ตามเชียร์เธอตลอดทุกสัปดาห์ หรืออย่างพ่อเองที่ไม่เคยดูแต่เมื่อเป็นข่าวแทบทุกหน้าหนังสือพิมพ์ก็ทำให้พ่อรู้สึกว่าต้องเอามาเล่าให้ลูกฟังด้วย 
เนื่องจากเด็กคนนี้กำลังพยายามเป็นนักร้องประกวดเวทีเดอะสตาร์ ซึ่งเป็นการประกวดร้องเพลงอีกรูปแบบหนึ่งในสังคมทุกวันนี้ที่พ่อเองก็ไม่ได้เห็นด้วยเสียทั้งหมด เนื่องจากบางครั้งเป้าหมายที่คนเข้าประกวดส่วนหนึ่งซึ่งพ่อเชื่อว่าเป็นส่วนใหญ่ จะพยายามเข้าไปร้องเพลง เพราะหวังว่าตนเองจะได้เป็นคนมีเงินมีชื่อเสียงด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วเหมือนที่หลายคนมักให้สัมภาษณ์ว่า เผื่อจะได้เปลี่ยนชีวิตใหม่ โดยใช้ความพยายามเพียงไม่กี่วันกี่สัปดาห์ ขอเพียงเข้ารอบและได้ออกทีวี ก็จะทำให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นในความหมายของตัณหาแบบเปลือกๆนะ ซึ่งนั้นอาจเป็นจริงในรูปธรรม แต่ปัญหาของการทำอะไรด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย พ่อยังเชื่อว่าจะนำมาซึ่งชีวิตที่มักง่ายไปด้วย และนั้นคงไม่ใช้วิถีที่พ่อกับลูกเห็นว่าควรเดิน แต่แน่นอนพ่อไม่ได้ปฎิเสธเสียที่เดียวถ้าเรากำลังทำมันไปด้วยจิตใจที่มั่นคงและไม่เอาแต่มักง่าย อีกประการที่พ่อไม่ค่อยเห็นด้วยกับการประกวดในลักษณะนี้ก็เพราะพ่อเชื่อว่าการร้องเพลงมันเป็นเรื่องที่ทำให้มนุษย์มีความสนุกมากกว่าการนั่งคิดวิธีแก้ปัญหาในการทำงานแต่ละวันเป็นแน่ ปัญหาที่แก้อาจมีในอาชีพนักร้องนักแสดง แต่เราก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า การร้องเพลงและการละครก็เป็นเพียงการผ่อนคลายความอ่อนล้าในชีวิตประจำวันเช่นกัน และถ้ามันเป็นเหตุแห่งความรื่นรมย์ เมื่อมันเป็นอาชีพขึ้นในสังคม พ่อจึงถือว่าการร้องเพลงหรือเล่นละครเป็นเพียงอาชีพที่ให้ความสนุกสนานทั้งผู้แสดงและผู้ชมการแสดงมากกว่าการสร้างสรรค์สาระในชีวิตจริงๆให้เกิดขึ้นในหมู่ของมนุษย์ หรือถ้ามีก็คงเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับการทำงานสร้างสรรค์เพื่อหาเลี้ยงปากท้องของมนุษย์ด้วยตนเอง อธิบายก็คือการมีอาชีพที่หาเลี้ยงตนเอง โดยตนเอง และเพื่อตนเองได้ ย้อมมีสาระมากกว่าการดูหนัง ดูละครหรือฟังเพลงที่แสนจะไพเราะสักปานไหน เพราะการทำอาชีพเพื่อพึ่งตนเองได้ยอมให้สาระมากกว่าวัตถุสัมผัสใดๆทั้งสิ้น แต่แน่นอนพ่อยังยืนยันว่าไม่ปฎิเสธการแสดงใดๆ เพราะพ่อเองก็มักหาเวลาดูหนังดีๆ สักเรื่องอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ถ้ามันจะทำให้เราใช้ปัญญามองเรื่องราวต่าวๆบ้าง ยามเสร็จจากงานที่ทำประจำ
	แต่ประเด็นที่พ่อจะเล่าให้ฟังไม่ใช่เรื่องรากฐานแห่งอาชีพการแสดงของใคร แต่เป็นประเด็นเรื่องการต่อสู้ของคนสองคนที่ดำเนินชีวิตในอาชีพเดียวกัน คนแรกคือเด็กผู้หญิงที่เสียชีวิตในขณะที่ตัวเองพยายามต่อสู้เพื่อไปสู่สิ่งที่ตั้งใจและตนเองก็ปรารถนาที่จะทำมันด้วยหัวใจ เนื่องจากก่อนเสียชีวิต ตามข่าวที่พ่อดู เธอบอกกับทุกคนว่าเธอต้องการแข่งขันต่อ ไม่อยากออกไปรักษาตัว ถึงแม้ต้องตายในระหว่างที่ต้องสู้อยู่นั้น เธออย่าสู้.....
	อีกข่าวหนึ่งที่ออกมาในช่วงเดียวกันคือ นักร้องลูกทุ่งที่อยู่ในบ้านเมืองเรามานาน ชื่อคุณยอดรัก สลักใจ พ่อเคยเห็นเขาร้องเพลงมาตั้งแต่เป็นเด็กเท่าลูก เรื่องก็คือช่วงนี้คุณยอดรักเอง ก็มีข่าวว่าเป็นมะเร็งเช่นเดียวกัน แต่เป็นที่ไหนอย่างไร พ่อไม่ทราบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวสับสนเป็นระยะๆเรื่องการเป็นมะเร็งของแก แต่เอาเป็นว่ามาถึงวันนี้ แกเป็นมะเร็งจริง แต่ยังไม่ตายเหมือนเด็กผู้หญิงที่กำลังพยายามจะเป็นนักร้องหน้าใหม่ในบ้านเรา
	ประเด็นคือเรื่องราวของคุณยอดรัก ทำให้พ่อมาคิดทบทวนผู้คนที่บางครั้งความเป็นมนุษย์ ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เว้นแม้จะใกล้เวลาจากโลกนี้ไป
	นักร้องชื่อดังในอดีตของเราพยายามทุกวิถีทางที่จะขอความช่วยเหลือจากทุกทิศโดยเฉพาะกับเศรษฐีในประเทศเราคนหนึ่งชื่อทักษิณ ชินวัตร พ่อไม่ต้องการอธิบายบุคคลผู้นี้ให้ยืดยาวออกไปอีก เอาเป็นว่า คุณยอดรัก จะมีข่าวออกมาทุกวัน บางครั้งก็ว่า อยากให้เศรษฐีผู้นี้มาช่วยซื้อบ้านจากตน บ้างก็ว่า เขาจะมาช่วยเอาไปรักษาที่เมืองนอก แล้วจะออกเงินหลายล้านบาทช่วยเหลือ และอีกมากมายที่พ่อแทบไม่ได้เอามาใส่ใจ 
	แต่ประเด็นคือ ผู้คนที่เกิดมา จำเป็นขนาดไหนที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา ในขณะที่ตนเองยังมีชีวิต และโลกยังให้ลมหายใจเป็นโอกาสอันแสนวิเศษที่จะพิสูจน์คุณค่าของตน ตราบจนวาระสุดท้ายของการดำเนินตน 
มนุษย์เรากลัวการตายมากกว่าการอยู่โดยไร้ศักดิ์ศรีแห่งตัวตนอย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าในวันนี้มีน้ำตา จะข่มมันให้ไหลอยู่ข้างใน ความฝันนั้นจบไป แต่ยังเหลือตัวฉัน...........
	เสียงเพลงจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยากเป็นนักร้อง เธอเอาเพลงของใครสักคนมาร้องเมื่อครั้งขึ้นเวทีประกวด เธอเพียงต้องการสร้างคุณค่าให้ตนเอง และทำความสุขให้ผู้อื่น ต้องต่อสู้กับโรคร้ายด้วยสติที่ตั้งมั่น ไม่มีใครเคยเห็นแม้ความหวาดกลัวในดวงตา แม้ร่างกายกำลังจากหลับไปตลอดกาล ก่อนเธอจากไปไม่กี่วัน เธอยังเล่นกีต้าร้องเพลงอยู่ข้างเตียงคนไข้ เสียงยังคงใสกังวานแม้ถ่ายมาจากคลิปวิดีโอมือถือ ไม่แสดงแม้ความเจ็บปวด และทุกข์ทรมาน ตลอดลมหายใจเข้าออกของการขับขาน
						แด่ศักดิ์ศรีของความเป็นคนที่พ่อมอบให้...รักลูก				
comments powered by Disqus
  • หัวรุนแรง

    6 เมษายน 2551 07:16 น. - comment id 99839

    สวัสดีค่า
    
    เห็นด้วย   100%
    
    ในเมื่อไหนๆ  อารยธรรมตะวันตก
    
    ที่เรียกว่า  แสงสีเทคโนโลยี
    
    ก็ทั่งโถมเข้ามา  รวมกับความเห็นแก่ได้
    
    กิเลสตัณหาของคนเรา  ก็พร้อมรับอยู่แล้ว
    
    ทำไมต้องไปกระตุ้น  ให้มันเข้ามาเร็วขึ้นเล่า
    
    ระเบียบ  ปฏิบัติ  วิถีชีวิตไทยๆที่เคยดีงาม
    
    จะทำลาย  ลงจนไม่เหลือซากเลยหรือ
    
    เศร้าเจงๆๆ  ประเทศไทย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน