นึกถึงบรรพบุรุษ
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมนั่งบนรถเมล์ที่ควบมุ่งหน้าไปทางยูเนียนมอลตรงข้ามห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ทว่าพอถึงแยกรถเมล์คันนั้นก็เลี้ยวซ้ายออกไปทางวิภาวดี ผมนั่งหัวเราะในใจเอาอีกแล้วสะพั่งเอาอีกแล้วนั่งรถหลงอีกแล้ว นี่ขนาดป้ายเดียวนะนี่ ออกนอกวงโคจรอีกแล้ว ผม สะพั่ง ยักไหล่ด้วยความเคยชิน หากจะว่าไปชีวิตของผมมันก็พยายามจะมีสาระให้มาก แต่ทว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาที่ดูเหมือนว่าจะมีสาระแต่จริงๆแล้วล้วนมีแต่สัพเพกับเหระ มักไม่ค่อยมีสาระ ดังนั้นหากวันนี้จะไม่มีสาระอีกวันหนึ่งในหลายๆหมื่นวันของชีวิต มันก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดแต่ประการใด
เมื่อมาถึงตอนนี้เป้าหมายต่อไป แม้ว่าจะไปยูเนียนมอลเพื่อไปดูหาซื้อดีวีดีภาพยนตร์ แต่เมื่อต้องไปทางนี้แล้วก็ไปไอทีสแคว์ก็แล้วกัน มีทุกๆอย่างเหมือนกัน นี่ก็เป็นสถานที่ในจำนวนหลายๆที่ๆผมจะพยายามไม่ไป คือจะพยายามจะไปที่อื่นบ้าง แต่ก็ไปไม่รอดต้องมาโดยไม่ตั้งใจเสมอ
ในใจของผมตอนนี้นึกไปถึงตอนที่เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ถามผมว่ายังคงทำงานที่เดิมอยู่หรือเปล่า ผมในตอนนี้ไม่ได้นึกอย่างอื่นแต่ตอบไปด้วยความรื่นเริงอย่างแท้จริง
คือในตอนนี้ผมมีธุรกิจเด็กๆในชีวิตประจำวัน และสร้างความก้าวหน้าด้วยปัญญาความคิดในแต่ละวัน ถึงจะประสบความสำเร็จๆของผมไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ได้เงินมาสักสามร้อยบาทต่อวัน ซึ่งในตอนนี้ผมได้นั่งรถผ่านทั้งคนซื้อและคนขาย และที่น่าตกใจก็คือ นัยน์ตาของคนขายมีแววหรือฉายแววมีความสุขมากกว่าคนซื้อ
ผมหันกลับมานั่งคิดถึงตัวตนของผม ผมเองเพียงแต่เห็นพ่อผมเป็นข้าราชการแล้วตนเองก็อยากจะเป็นเหมือนพ่อ ๆที่ทำงานเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพียงเพื่อคำว่าหน้าที่และวินัย และก็ไม่เคยเลยจะมีเงินพอที่จะมีชีวิตที่สะดวกสะบาย ตรงกับข้ามกับเต็มไปด้วยหนี้สินที่เกิดขึ้นเฉพาะกับการแก้ปัญหาของครอบครัวเท่านั้นยังไม่นับหนี้สินที่เกิดจากการสังคม กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเที่ยวผู้หญิง หรือเล่นการพนัน
เมื่อผมมาเป็นข้าราชการแบบพ่อผม ผมก็ตั้งใจจะทำงานด้วยความตั้งใจ แต่ทว่าแม้จะทำดีอย่างไร แม้จะคิดทำเพื่อประโยชน์อย่างใดแต่การทำความดีก็คงได้แต่ความดีอย่างเป็นสัจธรรม
ผมไม่เคยเลยที่จะตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ของธนาคารได้อย่างมีความสุขเหมือนดังในปัจจุบัน ในเรื่องของสมุดบัญชี ที่มีตัวเลขเงินเข้าจากการทำการค้าขายของผมแบบส่วนตัวทุกวัน
ผมนึกได้มาเลยว่า อันที่จริงตระกูลของผมก็เป็นพ่อค้ามาก่อน จะมีพ่อและลุงอีกคนเท่านั้นที่ดันทะลึ่งมาเป็นข้าราชการ ที่ถูกประชาชนตราหน้าว่ากินเงินภาษีของเขา ผมก็เข้าใจอีกว่าทำไมพวกข้าราชการถึงต้องเช้าชามเย็นชาม
ผมสงสารประชาชนที่แต่ละคนหน้าตาซีดเซียว สายตาส่อแววประกายตาแบบไร้ความหวัง และรอยเส้นต่างๆบนใบหน้าที่ปรากฏ ผมพยายามช่วยเหลือเล็กน้อยช่วยซื้อ ช่วยให้กำลังใจเท่าที่ทำได้เพื่อให้เขามีกำลังใจ แต่ผมเองก็กำลังจะแย่กว่าเขาเหมือนกัน
สิ่งที่พบเห็นน่าตกใจยิ่งกว่า สภาพในปัจจุบันนี้ได้บีบคั้นให้คนระดับรากหญ้าอย่าเรียกว่ารากแก้วเลยมันทุเรศ นั้นต่างก็ชิงความได้เปรียบหรือเอารัดเอาเปรียบในทุกเรื่อง เพื่อเพียงแค่อย่างน้อยได้สิ่งที่ตนเองต้องการได้ ที่ได้มาอย่างง่าย เพราะอย่างอื่นที่อยากได้เช่น การถูกหวย การมีเงิน หรืออะไรต่างๆที่ชอบมันมักจะได้มาได้ยาก แต่สิ่งที่ไม่อยากได้มันมักจะได้มาได้อย่างง่ายๆแบบไม่ต้องร้องขอ หรือไม่กล้าเพียงแต่จะนึก
ผมช่วยแล้ว อย่างน้อยจิตใจก็ผมก็พยายามจะช่วยเหลือทุกคนเท่าที่จะทำได้ และสิ่งที่อยากจะได้ ผมได้สรุปออกมาแล้วว่า จะได้มาอย่างไร คือถ้าเรามั่นใจในสติปัญญาของเราว่าสามารถจริง เราก็ต้องใช้สติปัญญาของเราให้สามารถได้จริงๆ เช่น การหาเงินเป็นต้น หรือการรับราชการให้ก้าวหน้าเป็นต้น แต่ต้องเข้าใจว่าการรับราชการนั้นแม้ว่าจะมีสติปัญญาเพียงใดก็ใช่ว่าจะเป็นตัวชี้ว่าจะทำให้รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า แต่ว่าต้องขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีด้วย
นึกย้อนไปในเรื่องพงศาวดารจีนทุกๆเรื่องที่ได้อ่านผ่านมา มาถึงวันนี้เพิ่งได้คิดว่าจริงตามนั้นทุกประการ
เป็นพ่อค้าน่าจะแฮปปี้ที่สุดในขณะนี้ บรรพบุรุษของผมที่ตอนนี้อยู่สรวงสวรรค์เป็นส่วนมากในตอนนี้คงปรบมือชอบใจเป็นการใหญ่ ผมนึกเอาเอง และคาดว่าผมคงคาดเดาไม่ผิด