ความห่วงใยและคิดถึง
โอเลี้ยง
การห่วงใครสักคนไม่ใช่ของแปลก แค่รับรู้ความทุกข์อย่างละเอียด ความเมตตาก็จะพุ่งเข้า
ใจเราได้ทันที แต่เมื่อเวลาเนิ่นนานไป อารมณ์เหล่านั้นก็จะจืดจางเลือน หายไปเอง
แต่ถ้าวันใดที่เราเริ่มเอาใจเข้าไปผูกพันกับเขาคนนั้น เริ่มจากเล็กน้อยเลื่อนไปจนถึงขั้นทนไม่ได้เลยเมื่อแค่คิดว่า.. เขาอาจกำลังได้รับภัยจากอันตรายรอบด้าน.
แค่คิด ความห่วงใยของเราก็พุ่งออกมามากมาย นั่นคือความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว
เริ่มมีอาการ เป็นห่วงที่ต้องการผูกพัน..เป็นความผูกพันที่อยากเฝ้ารับรู้.. เป็นการรับรู้ที่ทำให้เราเป็นสุข..ความสุขนั้นทำให้เราอยากคิดถึง.. .และเมื่อเราเริ่มคิดถึงเขา ความรู้สึกเหล่านั้นก็พุ่งออกมาเองโดยเราเริ่มไม่อาจยับยั้ง
ความรู้สึกที่ใจเราให้เขาด้วยความเต็มใจ.. เคยคิดให้โดยไม่ต้องการเรียกร้องค่าตอบแทน แค่ได้คิดถึงบ้าง ส่งความห่วงใยนิด บอกฝันดีๆให้ชื่นใจ
นั่นคือบันไดก้าวแรกที่เราเริ่ม "ผูก"
ผูกเขาเป็นคนพิเศษสำหรับเรา.
เมื่อผูกแล้ว ก็อยาก "พัน"เขาเข้าใกล้เราทุกที
เราจะเริ่มเห็นแก่ตัว
อยากให้เขา "ผูก" เราบ้าง และต้องแน่นหนากว่าเพื่อนทั่วๆไป
ความกังวลจึงเริ่มแตกหน่อผลิใบ
ความไม่มั่นใจเข้ามาเป็นปุ๋ย
ความหวาดกลัวและระแวงจากเพื่อนคนอื่นรอบตัวเขา
เป็นน้ำเสริมชีวิตความทรมานใจของเรา
เพาะผลออกมาเป็น...
ความห่วงใยที่ปนความเห็นแก่ตัวแทรกซ้อนในอารมณ์
จนเริ่มพาลเขา โดยเราลืมนึกไปถึงความหลังครั้งก่อนเสียแล้ว
กว่าเราจะมาผูกพันใจไว้กับเขาได้
เราเคยยอมรับทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวเขาไม่ใช่หรือ?
เราเคยพิศมัยความ "ต่าง" ของเขาจนยอม "พันตัวเองเข้าหา"
แล้วในเมื่อเรามั่นใจกับความชอบแบบตัวเขาตอนครั้งแรกที่คิด "ผูก"
จะมาคิดเปลี่ยนเขาให้เหมือนที่เราวาดใหม่อีกทำไม?
เกิดถ้าเราทำได้ขึ้นมา เขาต้องจมอยู่ในฝันแบบที่เราวาดจนผิดเพี้ยนจากชีวิตเดิม
เราจะพอใจตลอดไปแน่หรือ?
ใจเราจะตัดขาดจากความทุกข์ทรมานแน่นะ
ใช่ เราอาจหลอกทุกคนได้ แต่
เรากล้ายอมรับกับตัวเองตรงๆไหม?..ทุกวันที่เราส่องกระจกดวงตาคู่นั้น..บอกความจริงให้เรารับรู้เสมอ..มิใช่หรือ?
เคยคิดไหม บางครั้ง ที่เรายืนยันลบความรู้สึกที่ "เฝ้าห่วงใยและคิดถึง"
แต่ความเจ็บปวดของอารมณ์ยังเยาะเย้ยเราที่หน้ากระจก บอกว่าเรา พ่ายแพ้
แล้วแบบนี้เราจะเฝ้าหลอกตัวเองอีกทำไมว่า "เราลบแล้ว"
ลองมามองอีกทางดีไหมนั่นคือ..ให้.. ให้ที่มาจากความเมตตาในใจเรา เรามาเป็น..ทาส...ความห่วงใยและคิดถึงอย่างเป็นสุข ให้ความทุรนทุรายปวดร้าวในทะเลแห่งความเดียวดาย กลายเป็นยาหอมหาใช่ยาพิษ ในวันที่เราไม่อาจตัดขาดความห่วงและคิดถึงกันดีกว่า
ความเมตตาที่มาจากใจที่ไม่ต้องการเรียกร้อง..ไม่โทษว่าแม้อีกฝ่ายอาจมอบตอบมา เพียงน้อยนิดแถมไม่เคยตรงต่อเวลาเลยสักครั้ง....เราก็จะเป็น...ทาส...ความห่วงใยและความคิดถึงได้อย่างเป็นสุขและเต็มใจ..
.และเมื่อนั้นหนทางข้างหน้าที่เราคิด "ผูกพัน"เขาต่อจนสุดปลายทาง แม้อาจพบมรสุมของหนามชีวิต จนกายบอบช้ำเพียงไร ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าก็ยัง แทรกความหอมหวานอุ่นนิดๆให้ใจยอมเป็นทาสไม่มีอารมณ์แปรป่วน เหมือน ยามเราต้องการเอาชนะ..เกมในคอมพิวเตอร์ ที่ซับซ้อนและยุ่งยาก แต่เราก็ยังตื่นเต้นยอมสละเวลาทนความเมื่อยล้านั่งนานนับวันคืนด้วยความเป็นสุข