ขณะนั้นเองพี่หนูก็เดินเข้ามาพูดกับภู เหม่ออะไรจ๊ะภู แก้วเบียร์อยู่อีกตู้นะ แหมมายืมอยู่บ่อยๆยังจะแกล้งลืมอีก ภูสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพี่หนูพูดจบ อ้อ ภู เหม่อนิดหน่อยหนะพี่หนู แหะแหะ ภูพูดจบพร้อมกับเขยิบไปเปิดอีกตู้นึ่งตามที่พี่หนูบอก จังหวะนั้นเองขณะที่ภูก้มไปหยิบแก้วเบียร์ และ Trianee คนนั้นก็หันกลับมาพอดี อุ๊ย! ขอโทษค่ะ! เธอหันกลับมา แต่ทว่าตัวของเธอดันเดินไปชนกับบานประตูตู้เย็นที่ภูเปิดไว้เข้า ทำให้บานประตูตู้เย็นนั้นดันปิดมาโดนตัวภูในขณะที่ภูกำลังหยิบแก้วเบียร์อยู่ ภูตัวแทบล้ม แต่ก็ยังเอามือดันพื้นไว้ พร้อมกับหันหน้ามามองเธอ เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ภูพูดพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมองเธอ วินาทีนั้นเองที่ภูได้สบตากับเธอภูรู้สึกอบอุ้นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกกับว่าคุ้นเคยกับเธอคนนี้มานานมากๆ ฟ้าเดี๋ยวพี่มานะ เดี๋ยวพี่ไปเบิกของก่อน ภูอยู่เป็นเพื่อนน้องได้เปล่า รีบกลับ Outlet เปล่า ถ้าไม่รีบพี่วานหน่อยนะจ๊ะ ภูยังคงนิ่งมองหน้าฟ้าซักพัก แต่ไม่ทันไรก็ได้สติกลับคืนมาจากภวังค์ เอ่อ..... ได้ได้พี่หนู แล้วพี่หนูก็เดินออกไป แต่ก็เดินกลับมาอีกครั้ง อ้อ ! พี่ลืมเอกสาร....เอ....ทำไมหน้าตาเรา 2คนนี่ เหมือนกันจริงๆนะ ฮะฮะฮะ เดี๋ยวพี่รีบไปเบิกของก่อนนะ ....พี่ว่าเรา 2คนเป็นเนื้อคู่กันแน่เลย หน้าเหมือนกัน ฮิฮิ และพี่หนูก็เดินออกไปอีกครั้ง ภูกับเธอคนนั้นมองหน้ากันและทำหน้างงๆเล็กน้อย เอ่อ.... พี่หนูหมายความว่างัยเนี่ยะ? เหอะๆ ภูหัวเราะแก้เขิน ส่วนฟ้าก็ทำหน้างงๆ มองหน้าภูพร้อมกับยิ้มให้ภูเล็กน้อย เอ่อ.... ชื่อฟ้าเหรอ อืม...ใช่ รู้ได้งัยว่าชื่อฟ้า ก็เมื่อกี้พี่หนูเรียกว่าฟ้านี่นา ภูพูดอย่างเขินๆเล็กน้อย แล้ว...ชื่อภูเหรอ อืม ...อ้าว!? แล้วรู้ได้งัยอะว่าชื่อ ภู พี่หนูบอกเหรอ ก็เมื่อกี้พี่หนูก็เรียกว่าภูไม่ใช่เหรอ ชื่อ จริงภูกระดึง แน่แน่เลย ฮิฮิ เอ่อ... ภูอึ้งเล็กน้อย ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ใช่ซะหน่อย ชื่อจริงภู ชื่อภูวเนศ แล้วฟ้าหละ ชื่อ ลาฟา เหรอ ชื่ออย่างกะแขกเลย ฮิฮิ ไม่ใช่.. อ่านว่าระฟ้า ฟ้าชื่อจริงชื่อ ระฟ้า อ้อ แล้ว..มาฝึกกี่วันแล้ว อาทิตย์นึงได้แล้วหละ เหรอ ภูไม่ยักเห็นเลย.... เอ.... แต่จะว่าไป วันนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบ 1อาทิตย์ที่เราเดินมาที่ Longtown นี่นา ฮะฮะฮะ ภูหัวเราะแก้เขิน ภูทำที่นี่มานานยัง อืม.... ก็ประมาณ 6เดือนได้ ไม่นานหรอก เพราะยังไม่ถึงปีนึงเลย .อ้อ แล้ว ฟ้าฝึกกี่เดือนเหรอ 3 เดือน อ้อ แล้วบ้านฟ้าอยู่แถวนี้เหรอ? ก็แถวนี้แหละ แล้วบ้านภูหละ บ้านภูอยู่หนองแหลม อยู่เลยบางแตไปอีก โห! ไกลนะเนี่ยะ ฟ้าทำเสียงตกใจเล็กน้อย แล้วภูเข้างานกี่โมงเหรอ? ตอนนี้ภูเข้า 8โมงเช้า แล้วเลิก 5โมงใช่เปล่า ฟ้าพูดแทรกขึ้น ใช่ แต่ก็เลิกเลททุกวันแหละ เลิกเกือบ 6โมงทุกวัน... เออ แล้วฟ้าเข้ากี่โมงหละ เข้าเวลาเดียวกับภูแหละ อ้อ! งั้ก็เลิกพร้อมกันหนะสิ ภูพูดและทำท่าดีใจเล็กน้อย อืม ฟ้าตอบเพียงสั้นๆ พร้อมกับยิ้มตอบรับ แล้วกลับยังงัย แฟนมารับเหรอ? ฟ้ายิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า เปล่าหรอกพ่อฟ้ามารับ อ้อ ภูห็นึกว่าแฟนมารับ ไม่ได้เจอกันมาจะปีนึงได้แล้ว เหรอ อ้าว? แล้วไม่โทรคุยกันหละ ภูถามด้วยความสงสัยและอยากรู้ ก็แทบจะไม่ได้ โทรคุยกันเลย เดือนละครั้งเอง แล้วแฟนภูหละ แฟนภูทำงานอะไรอยู่เหรอ? ฟ้าถามด้วยความสงสัยเช่นกัน ภูยังไม่มีแฟน แต่ก่อนเคยมี แลวไปไปมามา ก็กลายเป็นกิ๊กเค้า ทำไมอะ ทำไมอยู่ดีดีกลายเป็นกิ๊กเค้าหละ ฟ้ายังคงถามด้วยความสงสัยและอยากรู้ ก็คบกันตอนไปต่างจังหวัด เข้าค่ายชมรมช่วงซัมเม่อร์ ช่วงระหว่างที่เริ่มคบกันก็พึ่งมารู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ก็เป็นแฟนกันได้เฉพาะตอนนั้น พอกลับมาจากต่างจังหวัด เค้าก็กลับไปหาแฟนเค้า ภูก็เลยต้องกลายเป็นกิ๊กเค้าโดยปริยาย แล้ว...แฟนฟ้าหละ ? ภูถาม ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอกันหรอก เค้าอยู่ต่างจังหวัด ไม่รู้ไปมีกิ๊กกี่คนและ ฟ้าก็รู้นะว่าเค้ามีกิ๊ก แต่ฟ้าก็เคยมีเหมือนกัน ฮิฮิ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วหละ ฮิฮิ ผู้ชายดีดีก็หายากเน้อะ ฟ้าพูดไปยิ้มไป แต่ก็แฝงด้วยแววตาเศร้าสร้อยเล็กน้อย ผู้หญิงดีดีก็หายากเหมือนกัน ภูก็พูดไปยิ้มไป แต่ก็แฝลด้วยแววตาเศร้าสร้อยเช่นกัน ภู.... ฟ้าเรียกชื่อภู แต่ก็ชะงักที่จะพูดต่อ พร้อมหันมามองหน้าภู ว่า....มีอะไรเหรอฟ้า ภู.... ฟ้าเชื่อในพรมลิขิตนะ แม้จะเป็นเนื้อคู่ แต่หากพรหมลิขิตได้เขียนไว้แล้วว่าเราจะกลับมาเจอกันอีกหรือไม่ ฟ้าก็เชื่อในพรหมลิขิต แม้จะห่างกันขนาดไหน ความผูกพันที่มีไม่เคยแยกจากแม้จะชาตินี้ชาติหน้าหรือชาติที่แล้ว เพราะพรหมลิขิตได้ขีดเขียนไว้แล้ว ภูได้ยินประโยคที่ฟ้าได้พูด กับทำให้ตัวเองรู้สึกผูกพันธ์กับฟ้ามากๆ แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า ณ ปัจจุบันที่ยืนอยู่นี้ ภูเหมือนได้เคยคุยและได้ยินประโยคนี้จากปากฟ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง คิดว่า.... พรหมลิขิตได้ขีดไว้แล้ว เพียงแต่เราเดินตามความรู้สึกของกันและกัน ..แต่ ถ้าหากพรหมลิขิตที่ได้กำหนดไว้ ไม่ได้เดินตามทางความรู้สึกของกันและกันแล้ว คน2คนคงจากกันนานแสนนาน ฝืนความรู้สึกยังฝืนได้ แต่ฝืนพรหมลิขิตมันฝืนไม่ได้ ทั้ง 2มองหน้ากันพลันทำให้ทั้งคู่รู้สึกย้อนกลับไปในอดีต อดีตชาติที่ทั้งคู่ได้เคยคบกัน ชั่วแวบนึงทั้งคู่ก็รู้สึก รู้สึกได้ว่ากลับมาอยู่ในโลกปัจจุบัน เมื่อกี้... เหมือนเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทำไมเราถึงรู้สึก รู้สึกดีมากๆเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าฟ้า ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักรกันเอง ภูคิดในใจ.... ภู.... เราเหมือนเคยเจอเค้า เหมือนเคยผ่านมาแล้วในเหตุการณ์เมื่อครู่ ฟ้าคิดในใจ ทั้คู่ยังคงมองหน้ากันตาไม่กระพริบ อ้าวๆๆ... มาแล้วจ้า ทำอะไรกันอยู่เอ่ย เสียงพี่หนูนั่นเอง ที่ปลุกให้ทั้งคู่ตื่นจากพวังแห่งอดีต ฮิฮิ มองหน้ากันอย่างกับว่า รู้จกรกันมานมนานแหนะ ไม่บอกไม่รู้คนอื่นเค้าก็นึกว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อนนะเนี่ยะพี่หนูแซวฟ้ากับภู เอ่อ...เอ่อ... ภูพูดไม่ออกด้วยความอาย ส่วนฟ้าก็บ่ายหน้าแอบอายเช่นกัน รู้ไม่เนี่ยะว่าเธอทั้งคู่ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะเลย พี่สังเกตเธอ 2คนเมื่อกี้ที่เธอ 2คนมองหน้ากันแล้วหละฮิฮิ โทษทีๆ ไม่แซวและ แต่ไอหน้าเหมือนเนี่ยะ พี่ว่าเหมือนจริงๆนะ เอ่อ....เดี๋ยวภูกลับไปทำงานต่อนะพี่หนู แหะๆ มานานและ ไปนะฟ้า ภูพูดกับพี่หนู แต่ก็หันมามองหน้าฟ้า จ้า...น้องภู พูดกับพี่แต่มองหน้าฟ้านะ พี่หนูก็ยังไม่วายแซวทิ้งท้าย ส่วนฟ้าก็แอบสบบตาภูพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย เหมือนกับว่าอยากจะคุยกับภูต่อ ทำไมเรารู้สึกเหมือนกับว่าต้องคบกับฟ้าให้ได้ แต่ ก็ยังรู้สึกว่า มันยังไม่ถึงเวลา รู้สึกแปลกๆ เฮ้อ... แต่คงคิดไปเองหละมั้ง ภูคิดในใจ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากฟ้าที่ครุ่นคิดเช่นกัน ทำไมเราถึงรู้สึกอบอุ่นจังเวลาที่คุยกับภู แปลกๆ...เฮ้อ แต่ก็ช่างเหอะ เราอาจจะคิดไปเอง ทั้งภูและฟ้าต่างก็ครุ่นคิดถึงความรู้สึกของกันและกัน ทั้งๆที่พึ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก เฮ้ย! โอ้โฮ.... ไอภู! มึงไปเอาแก้วเบียร์ถึงโรงงานเลยเหรอว้า โคตรนานเลย ภูสะดุ้งจากห้วงของความคิดทันที ที่ได้ยินเสียงนั่นเป็นเสียงของพี่ตรีพี่ตรี เป็นพี่ที่อยู่บาร์เดียวกันกับภู โฮ.... ทาทีพี่ พี่หนูเค้าใช้ให้เฝ้าบาร์เป็นเพื่อน Trianeeมาใหม่อะ ก็เลยมาช้า ไปเฝ้าหรือไปจีบว้าเนี่ยะ ฮะฮะ พี่ตรีแซวภู แบบพูดแทงใจดำเล็กน้อย โธ่ พี่ตรีผมก็แค่ทำความรู้จักรเอง ภูพูด แต่ในใจก็มีอมยิ้มเล็กน้อย และก็กลับไปทำงานต่อ ทางด้านฟ้า.... ภูมันมาจีบฟ้าเหรอ? พี่หนูแกล้งถามฟ้าด้วยความสงสัย อ๋อ เปล่าพี่หนู ภูก็....แค่ถามว่าฟ้าชื่ออะไร ฟ้าก็ถามว่าที่นี่เป็นงัยบ้าง ก็.... ไม่มีอะไรหรอก ภูก็ถามเฉยๆ ฟ้าแสร้งเป็นพูดเหมือนกับว่าปิดบังพี่หนูอยู่ แต่พี่หนูก็ไม่ถาม และสงสัยอะไรต่อ เพราะในใจพี่หนูคิดว่า 2คนนี้ต้องเริ่มแอบชอบกันแน่เลย แต่พี่หนูก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ทว่า ฟ้ากลับอมยิ้มไม่หยุด ยิ้มอะไรจ๊ะฟ้า อ้อ เปล่า ฟ้าก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฟ้าพูดพร้อมกับทำหน้านิ่งๆเพื่อให้พี่หนูถามอีก และรีบกมหน้าก้มตาทำงานต่อ และแล้วเวลาก็ร่วงเลยมาจนได้เวลาเลิกงาน. กลับแล้วนะพี่ตรี ภูพูดด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากงาน เฮ้ยกลับแล้วเหรอว้า ไอภู! กูอยู่คนเดียวนะเนี่ยะ แขกเต็มสระเลย โอยกลับแล้วพี่ ผมกลัวบ้านหาย ภูบอกปัดด้วยความเหนื่อยอ่อนและปล่อยมุกใส่พี่ตรีไปหนึ่งดอก ก็ไอตูนก็อยู่ เจ๊หยี ก็อยู่ โอย อยู่เพียบ มือโปรทั้งน้าน ที่ภูพูดมานั้น ทั้งตูนและเจ๊หยีนี่พึ่งพาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เจ๊หยีใช่ว่าจะพึ่งพาไม่ได้ แต่เจ๊หยีนั้นจะขี้บ่น ไม่ได้ดั่งใจอะไรก็บ่นๆๆ ส่วนตูน ชอบหาเรื่องอู้ให้พี่ตรีเหนื่อยจทุกที แต่สรุปคือพี่ตรีก็แกล้งอำภูไปก็เท่านั้น เพราะทั้งตูนและเจ๊หยีก็ง่วงอยู่กับการทำงานจนหัวปั่น เพราะตอนนี้เป็นช่วงโปรโมชั่นของทางสระน้ำนั่นเอง เออ... งั้นผมไปแล้วนะพี่ตรี ไปนะเจ๊หยี กลับแล้วนะเว้ยไอตูน เออ.... ตูนตอบเพียงสั้นๆ เฮ้ย ไอเต้ย มึงอย่างทิ้งกู พี่ตรีเรียกภูที่กำลังเดินไป ภูหันมาเหลียวหลังแล้วก็ยิ้มให้พี่ตรี ไปแล้วพี่ และภูก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อที่ล็อคเก้อร์ ระหว่างที่กำลังเปลี่ยนชุดภูก็หวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่ได้เจอและพูดคุยกับฟ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จภูก็เดินออกไปสแกนนิ้วเลิกงาน ภู.... อ้าว!? ฟ้ากลับแล้วเหรอ.... เลิกพร้อมกันเหรอเนี่ยะ ภูพูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย แล้วทั้งคู่ก็สแกนนิ้วออกไปพร้อมกัน กลับบ้านยังงัยอะฟ้า? ภูถามฟ้าด้วยความอยากรู้ เพราะในใจก็นึกอยากไปส่ง แต่ก็คิดว่าคงเป้นไปไม่ได้เพราะ พึ่งรู้จักกันเอง เดี๋ยวพ่อมารับ อ้อ .... ภูนึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วฟ้าต้องไปรอพ่อตรงไหนอะ ภูถามต่อ แถวหน้าโรงแรมแหละ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว ฟ้าตอบ งั้นเดี๋ยวไปนั่งรอแถวหน้าโรงแรมมั้ย เดี๋ยวภูไปนั่งเป็นเพื่อน ฟ้าไม่ตอบอะไรแล้วก็เดินตามภูไปหาที่นั่งแถวหน้าโรงแรม โรงแรม เมรี่โรสนั้น ด้านหน้าจะเป็นพลาซ่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมและคนทั่วไปมาจับจ่ายซื้อของ shopping กันและยังมีนร้านอาหาร fastfood อยู่หลายร้าน Mc Donal ,KFC ,S&P ฯลฯ และอีกหลายๆร้าน แล้วภูก็พาฟ้ามานั่งรอที่เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน ว่าแต่ ภูมานั่งรอเป็นเพื่อนฟ้า ไม่รีบกลับบ้านเหรอ ไม่รีบหรอก ถึงรีบยังงัยก็ไม่ค่อยอยากกลับอะ ทำไมหละ ฟ้าถามด้วยความสงสัย อืม.... ภูรู้สึกแปลกๆ คุยกบัฟ้าแล้วรู้สึกแปลกๆ ทำไมอะ ฟ้าแกล้งถามภูด้วยความสงสัย ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเวลาคุยกับภู ภูรู้สึกว่า เวลาคุยกับฟ้าแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าเคยคุยและผ่านเหตุการณ์ณืบางอย่างมาแล้วอะ แต่ทั้งๆที่พึ่งได้รู้จักรกันเอง แต่ฟ้าคงไม่รู้สึกหรอกเน้อะ ฮะฮะ ภูคงคิดมากไปเอง อย่าถือเลย ในใจภูก็อยากให้ฟ้ารู้สึกเหมือนกันกับตัวเอง แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าตัวเองจะคิดไปเองจริงๆ ฟ้าก็รู้สึกเหมือนกับภูนะ ภูหันมามองหน้าฟ้าทันที พร้อมกับที่ฟ้าหันมาตอบและมองภูเช่นกัน ภูจ้องเข้าไปที่แววตาฟ้า... ฟ้าเป็นคนขี้เหงาเหรอ ? เหมือนคนที่ขาดอะไรไปบางอย่าง ฟ้าตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของภูแต่ก็พยายามเก้บความรู้สึกไว้ ภูรู้ได้งัยว่าฟ้าเป็นคนขี้เหงา แต่ฟ้าไม่รู้เหมือนกันว่าขาดอะไรไปบางอย่าง แต่พอเจอผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ก็พอจะรู้บ้างและ. ตื้ด...ๆ..ๆ..ๆ เสียงโทรศัพท์ของฟ้าดังขึ้น ค่ะ พ่อ..... ฟ้ารีบรับโทรศัพท์ที่พ่อโทรมาอย่างรวดเร็ว อะไรนะคะ! รถชน แล้วพ่อเป็นอะไรรึเปล่า ฟ้าตกใจเมื่อรู้ว่ารถที่พ่อขับมาเกิดอุบัติเหตุชนกัน พ่อไม่เห็นอะไรนะคะ แต่ดีที่ว่าพ่อของฟ้าไม่เป็นอะไรเลย ไม่เป็นไรคะเดี๋ยวหนูกลับเองได้คะพ่อ พ่อไม่ต้องห่วงหนูหรอก... พ่อของฟ้ารักและหวงฟ้ามาก คะพ่อ หนูกลับเองได้ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงน้า คะ...คะ...สวัสดีคะ... แล้วพ่อของฟ้าก็วางสายไป พ่อเป็นอะไรเหรอฟ้า ภูถามด้วยความเป็นห่วง พ่อฟ้าก็เป็นผู้ชายหนะสิ จะเป็นผู้หญิงได้ยังงัย ฮิฮิ อ้าว.... ภูทำหน้างง เปล่าหรอก มีรถมันมาตัดหน้ารถพ่อ ก็เลยชนกัน แต่พ่อฟ้าไม่เป็นอะไรเลย แต่ฝากระโปรงรถนี่บุบไปเลยวิ่งมาไม่ได้เพราะมันบุบไปโดนล้อ ถ้าวิ่งมาไอส่วนที่มันไปโดนล้อ มันจะสีกับล้อจนแยงแตก เลยวิ่งมาไม่ได้ ฟ้าก็เลยบอกพ่อว่า เดี๋ยวฟ้ากลับบ้านเอง ตอนนี้พ่อรอให้ประกันมาดู แล้วก็ส่งรถเข้าอู่ อืม.... งั้นภูขับรถไปส่งฟ้าที่บ้านมั้ย? ฟ้าจ้องหน้าภูและนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฟ้าอมยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า ถ้าส่ง ก็ต้องส่งให้ถึงบ้านด้วย ภูยิ้มจนหน้าบาน อืม....งั้น ฟ้าหิวมั้ย เราไปหาอะไรกินกันก่อนเปล่า แล้วกินเสร็จภูก็ ไปส่งฟ้า งั้นกินพิซซ่านะ ฟ้าอยากกิน ฟ้าพูดอย่างไม่ลังเลและพูดพร้อมหันกลับมายิ้ม แต่ในใจภูก็คิดไว้แล้ว่าจะแกล้งฟ้าจึงทำท่าว่าอยากจะกินอย่างอื่นแทน เมื่อฟ้าจ้องหน้าภูและรู้สึกว่าภูอยากจะกินอย่างอื่นแทน กินกินกิน....กินพิซซ่า! ฟ้าพร้อมกับมองหน้าภูด้วยความหมั่นเขี้ยว และอยากจะกินพิซซ่าให้ได้และก็บังคับด้วยการจูงมือภูไปที่ร้านพิซซ่า จนภูต้องยอมแพ้ อ้าๆ... กินพิซซ่าก็พิซซ่างอแง อย่างกับเด็กเลยนะ อืม... ดีมาก พิซซ่าต้องพิซซ่า ฮะฮะ แล้วทั้ง 2ก็นั่งกินพิซซ่าไปคุยไปเหมือนกับว่าเป็นแฟนกันและคบกันมานาน ยิ่งคุย ทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าอบอุ่นและรู้สึกดีด้วยกันทั้งคู่ อุ๊ย ! 2ทุ่มแล้วภู! ฟ้าตกใจเมื่อมองไปยังนาฬิกาข้อมือ พ่อว่าแน่เลย บอกพ่อว่าจะรีบกลับ งั้นเดี๋ยวภูไปส่ง จ้า...อุ๊ย! ฟ้าอุทานด้วยความที่ว่า พึ่งรู้สึกตัวเหมือนกับว่าได้เป็นแฟนกับภูซะแล้ว เพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นคุ้นเคย และอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ภู เป็นอะไรเหรอฟ้า? ตกใจอะไร? เปล่า ขี้โม้! ไม่ได้โม้ซักหน่อย เดินไปลยไอคิงคอง! ฟ้าแซวถ้าเดินของด้วยความเป็นกันเองอย่างมาก เหมือนกับว่ารู้จักรกันมานานแล้วจริงๆ หนอย เจ้าจิ้งจก อะไร ฟ้าไม่ใช่จิ้งจกซักหน่อย ฟ้าอะ เป็นนางฟ้าตะหาก ฮิฮิ....แบร่ ฟ้าแลบลิ้นหรอกภู แล้วทั้ง 2เมื่อจ่ายตังค์เสร็จก็พากันเดินไปขึ้นรถ ระหว่างทางที่เดิน ทั้ง 2คนก็เล่นหยอกล้อกันตลอดทางจนขึ้นไปบนรถ เหมือนได้ไปเที่ยวกันมาทั้งวันเลยเน้อะ ภูพูด อืม.... สนุกดี ภูคุยสนุกดี แกล้งภูก็สนุกด้วย แล้วภูก็ขี้แกล้งด้วย ฟ้าเลยต้องแกล้งเจ้าคิงคองบ้าง ฮิฮิ หนอยเจ้าจิ้งจก ก็ขี้แกล้งเหมือนกัน นี่นางฟ้านะ ไม่ใช่จิ้งจก แล้วภูก็ขับรถออกไป แต่ระหว่างทางทั้งคู่ก็คุยกันและแหย่กันไม่หยุดจนมาถึงหน้าบ้านฟ้า ถึงแล้ว ตรงนี้แหละ นี่งัยบ้านฟ้า บ้านของนางฟ้า ฮะฮะ เหอะๆ ภูขำแบบหมั่นไส้ อืม.... บ้านหน้าอยู่นะเนี่ยะ ฟ้าอยู่กับพ่อกับแม่เหรอ อืม ช่าย.... แล้วนี่ฟ้าลูกคนเดียวเหรอ? ก็ช่ายอีก มิน่าคุณพ่อถึงหวง ฟ้ายิ้ม แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ภู..... ขอบคุณมากๆ เลยนะที่มาส่ง ไม่เป็นไร แต่ ....ภูว่าช่วงนี้อาจจะมาส่งฟ้าทุกวันก็ได้ ฟ้าทำหน้างงเล็กน้อย ภูมองหน้าฟ้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยเช่นกันแล้วตอบกลับไปว่า ก็รถป๊ะป๋าฟ้าต้องเข้าอู่หนิ ฟ้ายิ้ม และตอบกลับไปว่า ฮิฮิ จริงด้วย งั้นเจ้าคิงคองก็ต้องมาส่งนางฟ้าทุกๆวันเลย ภูยิ้มและตอบกลับไปว่า แล้ว แฟนฟ้า.... ฟ้าทำหน้าเฉยๆทันที เค้าไม่รู้หรอก เพราะตอนนี้เราก็ห่างๆกันอยู่ เค้าก็ไม่ได้โทรมาหาฟ้าบ่อยนักหรอก ภูได้ยินที่ฟ้าพูดกลับทำให้รู้สึกเข้าใจถึงความรู้สึกฟ้ายิ่งขึ้น แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรที่เข้าข้างตัวเอง และโดยที่ไม่ร็ตัว มือมือภูก็ค่อยๆเขยื้อนไปจับมือฟ้าอย่างอ่อนโยน เหมือนกับว่าอยากจะปลอบใจฟ้า ถ้านางฟ้าตัวน้อยขี้เหงา เจ้าคิงคองก็จะเป็นเพื่อนคุย เผื่อว่า เจ้าจิ้งจกน้อยจะหายเหงา .....โฮะโฮะโฮะ ฟ้ายิ้มแก้มปริ แต่ก็หมั่นไส้ที่ภูมาพูดกวนๆใส่ ไอบ้า หนิ นี่นางฟ้านะ ไม่ใช่จิ้งจก ฟ้าพูดพร้อมกับเอามือเข้าไปจี๋ภู โอ๊ย อย่าจี๋ ภูบ้าจี้ ยอมแล้วๆๆๆ เข้าบ้านได้แล้ว เดี๋ยวป๊ะป๋าเป็นห่วงนะ ฟ้ารีบลุกออกจากรถพร้อมหันกลับมาตอบภู จ้า.... เจ้าคิงคอง ....ฮิฮิ..... พร้อมกับยิ้มอย่างกวนๆใส่ภู ขับรถกลับบ้านดีดีนะ และฟ้าก็เปิดประตูรถ แต่ก็หันกลับมาเปิดประตูใหม่และพูดกับภูว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ เจ้า..คิง..คอง ฮิฮิ ฟ้าพูดกับภูพร้อมกับทำหน้าทะเล้นแบบสุดๆ และภูก็ตอบกลับไป จ้า ....แม่จิ้งจก.... แล้วภูก็ออกรถไป แตก็ยังแอบมองกระจกข้าง ก็เห็นฟ้ายืนมองด้วยเช่นกัน จนภูเลี้ยวรถออกไป ถึงตอนนี้ ในใจภูรู้สึกเบิกบานอย่างที่สุด และรู้สึกดี รู้สึกว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่กับฟ้านั้น มันเหนือคำบรรยาย ส่วนฟ้านั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากภูเลย ฟ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยรู้สึกดีอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ.......................................................................................................................................
14 มีนาคม 2551 03:05 น. - comment id 99506
นี่ก็เป็นตอนที่ 4แล้วนะครับ สำหรับเรื่องพรหมลิขิต สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน -ตอนแรก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9021.html นี่เลยครับยกมาให้แล้ว อันนี้คือตอนแรก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9046.html นี่คือตอนที่ 2 http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9085.html นี่คือตอนที่ 3 ใครสนใจ ที่จะอ่าตั้งแต่แรกผมยกมาให้แล้วนะครับ คลิ๊กเข้าไปอ่านได้เลยไม่ต้องหา ยังงัยชอบไม่ชอบยังงัยช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ