ออกไปจากที่ดินกู...พวกแกมาทำอะไรกะ ที่ดินกูว่ะ ไป๊ เสียงตาอิน ตะโกนโหวกเหวก พร้อมมือที่กำพร้า กวัดแกว่งไปมา พยายามที่จะไล่พวกเจ้าหน้าที่รางวัด ที่ดินสองคน และ แทรกเตอร์เกลี่ยที่พร้อม คนขับที่พยายามขับรถดันเข้าไป ในที่ผืนสุดท้ายของลุงอิน ชายวัย 65 ปีเศษ แต่พวกเรา จะเข้ามาทำรางวัด ที่ดิน เจ้าของที่เค้าจ้าง พวกเรามานะลุง เจ้าของที่ก็ กู นี่แหละ โว้ย ไป พวกมึงออกไปเดี๋ยวนี้ กูไม่ยอมให้พวก มึงมาทำอะไร กะที่ดิน ผืนสุดท้ายของกู อีกแล้ว น้ำเสียงที่เคยดัง อย่างคนเข้ม แข็ง มาถึงตอนนี้รู้สึก จะค่อยลง เหมือนลุงอิน จะสำนึกเหตุการณ์ใดขึ้นมาได้ แต่ คุณวิวัฒน์ เจ้าของที่เป็นคนจ้างเรานะลุง ลุงจะบอกว่าเป็นเจ้าของได้ยังไง โว้ย ไอ้วัฒน์ มันจะมาเป็นเจ้าของได้ยังงัยว่ะ พวกแกไปถามชาวบ้านเค้าซิ ทั้งหมู่บ้านเค้ารู้กันหมดว่าที่ตรงนี้ เป็นที่ของกู กูอยู่ของกูมาจนอายุปูนนี้เข้าไปแล้ว พวกแกอย่ามาหน้าด้าน คงเห็นว่ากูแก่แล้วซิ เชอะ เดี๋ยวกูฟัน กะมีดพร้าไม่รับผิดชอบ นาโว้ย ตรงนี้มันที่ของกู ก่อนที่จะมีการประมือกันเกิดขึ้น เสียงรถยนต์คันหนี่งวิ่งมาจอดใกล้กับที่ลุงอิน ยืนอยู่ พร้อมคนขับรถก้าวลงมา เดินมาหาลุงอิน เหมือนกับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ ระหว่าง ลุงอินและคนของตน ในมือ ถือเอกสารบางอย่าง เมื่อถึงที่ลุงอินยืนอยู่ .วัฒน์ ก็ยื่นให้ลุงอินพร้อมเสียงกล่าว ที่ทำให้ลุงอินรู้สึก เข่าอ่อนทันที ลุงอิน ยุพิน เค้าเอาโฉนด ที่ผืนนี้มาตั้งจำนองไว้หลายเดือนแล้ว และมันก็หลุดแล้วด้วย ยุพิน เลยตัดสินใจที่จะขายให้กับผมแล้วครับ ผมจ่ายเงินก้อนสุดท้าย 300.000.- บาทให้ยุพินไปเดือนก่อนแล้วนี่ครับหลักฐาน แก ไม่ต้องมาโกหก ข้าไอ้วัฒน์ อย่าเห็นว่าข้าเห็นแกเป็นลูกเป็นหลานแล้วจะมาหลอกเอาที่ดินของข้าได้นะโว้ย ลุงอินเปลี่ยนคำแทนตัว จากกู เป็น ข้า เพราะเกรงใจวัฒน์ เด็กหนุ่มรุ่นลูก ที่เวลาเดือดร้อน เรื่องเงิน ชาวบ้านจะพึ่งพา วัฒน์ นี่แหละ เอาของวางบ้าง กู้เงินบ้าง ฯลฯ ก็ลุงอินดูเสียก่อน แล้วค่อยพูด ที่ผมรับซื้อเพราะเห็นว่าที่ตรง นี้มันติดกับผืนก่อน ที่ยุพิน เค้าขายผมมาแล้วมันจะได้เป็นที่ผืนเดียวกันอีกไง ลุง ลุงอิน ยื่นมืออันสั่นเทาไปรับเอกสารที่วัฒน์ ยื่นให้ดูทั้งหมดเป็นเอกสารที่ถ่ายเอกสารมาทั้งหมด แต่แสดงความเป็นเจ้าของที่เปลี่ยนเป็นชื่อของวัฒน์ไป เมื่อเดือนก่อนจริงๆ ลุงอินยืนเหม่อสักครู่ แล้วโยนกระดาษทั้งหมดนั้นทิ้งไปพร้อม เดินหันลังกลับบ้าน ตรงไปห้องนอน ในบ้านชั้นเดียว ที่อยู่ติดกับที่ผืนสุดท้ายของแก เปิดตู้ไม้เก่าๆ ที่ไม่มีทั้งกุญแจล๊อค และ มีเพียงชั้นวางด้านบนชั้นเดียวที่แกใช้เก็บ ของสำคัญต่างๆ ไว้ รื้ออยู่นานกไม่เห็นในสิ่งที่ตนหา แกตะโกนเรียก นางทอง ทันที ทอง ทอง ทองโว้ย มานี่หน่อย นางทองซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รู้ว่าเกิดอะไรขี้น เดินเข้ามาหาลุงอิน พร้อมบอก อีนุ้ย มันเอาไป วางเค้าจริงๆ นะแหละพ่อ ที่นี้มันจะหลุดจำนอง มันเลยขายเสีย ก็เงินที่ซื้อรถกะบะ ให้เจ้าวินผัวใหม่มันขับไง ไม่งั้นไอ้วิน มันบอกว่ามันจะเลิก กะอีนุ้ยเรา ถ้าไม่มีรถขับ เพราะอีนุ้ยเรา เป็นแม่หม้ายลูกติด มันเป็นลูกบ่าว เค้า เรื่องรัย จะมารับ เลี้ยงลูกคนอื่นตั้งสามคน แล้ว มันเลี้ยงที่ไหนกูนี่เป็นคนเลี้ยงหลานกูเอง แม่มัน ดูแลที่ไหน ได้ผัวใหม่ ก็ทิ้งลูกให้อยู่กะข้า ข้ารับส่งไปโรงเรียนก็ข้า ค่าขนม ก็เงินข้า มันสองคนผัวเมียเคยมาดูแล บ้างไหม? แล้ว ที่อีนุ้ย มันอุ้มท้องอยู่อีกหนึ่งนะลูกมันไม่ใช่หรอ แล้วทำไม ต้องมาผลาญสมบัติกู เสียงลุงอินแผ่วเบาลง และเดินไปทรุดตัวนอนบนแคร่ไม้หน้าบ้านหันหลังให้นางทอง พร้อมสมองของชายชรา คิดย้อนกลับไปเมื่อ ลูกสาวคนแรก และคนเดียว แต่งงานครั้งแรกแกปลื้มใจหนักหนา จัดงานแต่งให้ลูกสาว อย่างไม่อายชาวบ้านชาวช่องก็แกมีลูกสาว คนเดียว หนำซ้ำ ลูกสาวยังสวยสมใจพ่ออย่างแก แกยอมทุ่มเท ทำงาน กรีดยาง ส่งเสียให้ลูกสาวได้เรียนหนังสือ โดยหวังใจให้เรียนสูงๆ แกกำลังของแก จะหมด แต่แกก็พร้อมที่จะยอมขายที่สักที่ เพื่อส่งเสียลูกสาวคนนี้ให้ถึงที่สุด แต่ยุพิน เรียนพาณิชย์ได้แค่ปวช. ปีสาม วันหนึ่งเดินเข้ามากับเด็กผู้ชายวัยมากกว่ายุพิน และบอกลุงอินว่า ท้อง ให้พ่อช่วยจัดงานแต่งงานให้หน่อย แม้จะอยากให้ลูกสาวเรียนสูงกว่านี้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ลุงอินก็ยอมรับ ได้เพราะความรักลูกสาวคนเดียวที่แกรัก และคิดว่า เด็กสองคนคงจะช่วยกันทำมาหากิน บนผืนแผ่นดิน มรดกที่แกก็ได้รับ มาจากบรรพบุรุษ อีกทีซึ่งมันคงมีมากพอ ที่จะให้ลูกและหลาน ที่กำลังจะเกิด ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อดำรงชีพต่อไป ในยามที่ไม่มีแกและยายทองแล้ว นอนย้อนคิดพลางน้ำตา ทองอินไหลพราก เอื้อม ดึงผ้าขม้า ที่เอวขึ้นมาเช็ดน้ำตา จนยุพิน มีลูกกับสามีคนแรก สองคน ที่ดินที่ลุงอินหวังว่าจะเป็นที่ทำมาหากินของลูกหลาน โดนยุพิน แบ่งขายไปทีละแปลงๆ เพื่อมาเปลี่ยนเป็นรถกะบะให้สามี การงานสองสามีไม่ยอมทำเป็นหลักแหล่ง เมื่อเนิ่นนานมาหลายปีลุงอินเห็นท่าไม่ดี เลย แบ่งเงินที่ยุพิน ขายที่ครั้งนั้น มาปลูกเป็นห้องแถวเพื่อให้ คนอื่นได้มาแบ่งเช่า เพราะตัวแกเองก็ ชรามากแก้วแถม ยังเป็นคนขี้เหล้าในสายตา ของคนในหมู่บ้านอีก น้ำตาพ่อไหล ในใจคิดว่าลูกหนอ ทำกับพ่อได้ ขนาดนี้ ใช่สามีคนแรก ที่เลิกกัน ยุพินได้สามีคนที่สอง ก็แบ่งที่ขายซื้อรถกะบะ ให้สามีคนที่สองอีกครั้งหัวใจพ่อ ที่มองดูการกระทำของลูกรัก ชักเจ็บไร้เรี่ยวแรง แต่ด้วยความรักลูก สงสารลูก ที่ตกเป็นหม้ายสามีคนแรกทิ้ง เลยยอมตามใจลูกสาวอีกครั้ง แต่ยุพิน ก็ไม่สามารถ ที่จะ พาชีวิตคู่ครั้งที่สอง ให้ผ่านพ้นด้วยดีตามความตั้งใจของผู้เป็นพ่อ อีกแล้ว ลุงอินไม่โทษ ลูกสาวอีกตามเคย ได้แต่คิดสงสารในความอาภัพ เรื่องความรักของลูกสาวคนเดียว เฝ้าคอยเลี้ยงหลาน จนโต รับส่งไปโรงเรียน โดยไม่ให้เป็นภาระของลูกสาว จนมาถึงวันนี้ที่ดินแปลงที่ติดกับที่บ้าน ที่อยู่มาโดน ลูกรัก ทำเหมือนก่อน แต่ครั้งนี้ ยุพินไม่ได้ปรึกษาแก ยุพิน กลับขโมย โฉลดปลอมลายมือ พ่อ ลูกรัก แกช่างทำกับพ่อ แม่ได้ถึงเพียงนี้ ตาอินนอนคิดด้วยความระทมใจ หลังจากวันนั้น ลุงอิน กลายเป็นคนที่ดื่มเหล้ามากขึ้น และพูดจาพล่ามมากขึ้น กูอยากตาย...ถ้ากูยังอยู่ไปนานกว่านี้...กูจะซุกหัวนอนที่ไหน วันหนึ่งอาการลุงอิน หนักขึ้นเรื่อยๆ นางทองเฝ้าโทษที่ตาอิน กินแต่เหล้า ที่สุดก็ต้องถึงมือหมอคุณหมอวินิจฉัย ออกมาว่า ตาอิน เป็นมะเร็ง ตับระยะสุดท้าย ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ตาอิน บอกกับหมอว่า ผมยังเหลือ บ้านทื่ซุกหัวนอน คุณหมอ ยังไงผมขอกลับไปนอนที่บ้าน ไม่ขอนอนที่โรงพยาบาลหรอก ไม่ว่าหมอ หรือ ยายทอง จะทัดทานอย่างไร ตาอิน ยืนยันขอกลับไปบ้านแต่รับปากหมอ ว่าจะมารักษา ตามที่หมอนัด หมอจึงจ่ายยา และ คุยให้ยายทอง พยายามโน้มน้าว ให้ตาอิน มารักษาตัวที่โรงพยาบาลให้ได้ ยายทองได้แต่รับปาก หมอ ไปให้ผ่านๆ เพราะรู้นิสัยของสามีตนดี กลับมาบ้าน ตาอิน ไม่ยอมออกจากห้องนอนของแก ไม่ยอมไปรักษา ตัว นอนอยู่บนแคร่ ไม่ไผ่ หน้าบ้านบางครั้ง คืนหนึ่ง ตาอิน นอนย้อน นึก ไปคราวที่แกแต่งงานกะยายทอง เมื่ออายุ มากแล้ว แต่งกันมาหลายปีไม่มีลูกสักที แกเห็นเพื่อน มีลูก ให้ชมเชย อยากมีลูกมาก แกจึง ยกมือ ขึ้นฟ้า อธิฐาน ข้าแต่ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ข้าอยากมีลูกหลานสืบสกุล สักคนสองคน ช่วยประทานลูกได้ข้าได้ชื่นใจ หน่อยเถอะ แล้วข้าจะหาหนัง ตะลุงนครินทร์ (ชาทอง) มาเล่นถวาย ซึ่งในสมัยนั้นเป็นที่นิยม ของคนใต้ และ เป็นคณะหนังที่มีค่าตัวแพง มาก ไม่นานยายทอง ก็ตั้งทอง และได้ ลูกสาวคือ ยุพิน มาเป็นขวัญและกำลังใจให้ตาอินและยายทอง เลี้ยงดูอย่างดี จนมาคืนนี้ ตาอิน คิดได้เพียง ลูกเอ๋ย หากพ่อรู้ว่าจะมีวันนี้ พ่อยอม ที่จะไม่มีเจ้า แต่ไปขอเด็กกำพร้าสักคน มาเลี้ยงพ่อ อาจไม่ต้องเสียใจมากถึงขนาดนี้ เพราะหากเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่ลูกพ่อ คงไม่เสียใจ เท่ากับลูกแท้ๆ ทำกับพ่อ แต่อย่างไร พ่อก็ยังรัก หลานลูกของเจ้า ยังห่วงพวกเขา ไม่หวังอะไรจากเจ้าอีกแล้ว ลูกสาวพ่อ ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตาอิน ล่องลอยออกจากร่าง ไปกับความห่วงใยในหลาน มรดกรุ่นถัดมา ที่ลูกสาวแกสร้างไว้ให้นั่นเอง .....ไปดีเถิดตาอิน สุดท้ายตา ก็ไม่ต้อง อยู่อย่างคนไม่มีที่ซุกหัวนอนอย่างที่ตากลัวนักหนา ตายังได้อยู่ในบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตาตลอดไป..
13 มีนาคม 2551 10:39 น. - comment id 99487
สงสารคุณตาจังเลยค่ะ ก่อนที่แม่จะโอนที่แบ่งให้ลูกๆแม่บอกเสมอค่ะ ว่ารักษาไว้ให้ดีเหมือนแม่รักษาลูกๆมา
13 มีนาคม 2551 12:35 น. - comment id 99490
ไม่น่าเลยนะอีนางยุพิน เมื่อแรกวาเห็นนั่งกะบะไปกะผัวมันแถวๆท่าหลา ถ้ารู้เรื่องนี้แตแรกจะเข้าไปว่ามันให้รู้สึก เฮ้อชาดดายของน้องเหมียเหอ...
13 มีนาคม 2551 13:04 น. - comment id 99494
คนเราพอใกล้ตาย ที่สุดท้ายที่จะนึกถึงก็คงจะเป็นบ้านนะคะ
15 มีนาคม 2551 10:22 น. - comment id 99539
น่าสงสารตาแก่จริงๆน่ะค่ะ ลูกสาวก็เลวได้ใจจัง ดีนะไม่ขายพ่อกับแม่กินด้วย
16 มีนาคม 2551 11:38 น. - comment id 99564
สวัสดีค่ะ พี่รัน ดอกบัวมาอ่านงานของพี่ค่ะ ขอให้พี่รันเขียนมาให้อ่านอีกนะค่ะ บัวขอให้พี่รันมีความสุขค่ะ
16 มีนาคม 2551 14:31 น. - comment id 99567
เฮ้อ...คนเราจิตใจทำด้วยอะไรกันนะ ขอเอาตัวเองรอดคนอื่นแม้พ่อแม่ก้อไม่เห็นความสำคัญจริงๆ..เนาะ
16 มีนาคม 2551 15:02 น. - comment id 99568
เป็นเรื่องจริงรึป่าวคะน้องรัน เรื่องแบบนี้ ในชีวิตจริงเห็นมาก็มากนะคะ น่าสงสาร ลุงอินจริงๆเลยค่ะที่มีลูกแบบนี้
16 มีนาคม 2551 15:11 น. - comment id 99569
สวัสดีค่ะ น้องเพียงเพี้ยว ค่ะ คนเราหากคิดดีเหมือนกันเรื่องเศร้าอย่างนี้คงไม่เกิด เรามันคนใจอ่อนซะด้วย ขนาดตอนเขียน น้ำตาซึมๆ ว่าจะเขียนเรื่องตลก มั่ง แต่ช่วงนี้ออกมาเศร้าทุกทีค่ะ ขอบคุณน้องเพียงพลิ้วค่ะมาคนแรกอีกเหมือนเดิม หวัดดีพี่หลวง แหม น่าจะเล่าให้เร็วกว่านี้เนาะ รันล่ะ ไม่ยากมองหน้า สาวนี้เลย อ่ะ น่าอย่าซีเรียดเนาะ ไหนๆ ตาก็ตายไปแล้ว ตอนนี้ มาอยู่บนเกาะลันตาแล้วอดเข้าเน็ตไม่ได้ อิอิ คิดถึง นี่ถ้าอยู่แค่เกาะพงัน นะจะ ขอเรือเร็วมารับ ไปกินเหนียว มั่งนิ แต่ซองไม่มีอ่ะ 555สวัสดีค่ะ โคลอน คงอย่างนั้นเนาะ พี่รันเห็นหลายคนแล้ว อย่าว่าคนอื่นเลย พี่รันว่าพอคราวเราก็คง จะไม่ต่างกันเนาะ แหะ พี่รันก็จะบอกว่าไม่ได้เรียบร้อย เหมือนโคลอนน่านแระ จ้าสวัสดีค่ะ คุณแสงไร้เงา แหะคิดว่าถ้าขายได้หล่อนคงขายด้วยมังค่ะ คนอย่างงี้ เนาะ พอดีก่า ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ น้องดอกบัว ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจที่ให้ตลอด ที่จริงเรื่องสั้นพี่รันมีหลายเรื่องนะ หากน้องดอกบัว ย้อนไปอ่าน เล่นๆ ล่ะพอได แต่เรื่องบันทึกของแม่ ที่พี่รันเขียนเป็นเรื่อง จริงของพี่รัน อาจเป็นประสบการณ์ให้ สำหรับ บางคนก็ได้นะค่ะ ที่มีปัญหาเดียวกะพี่รัน ก็ปรึกษา กันได้ค่ะ ถือว่าเป็นวิทยาทานกันนะค่ะ ไม่ปิดบังไม่รู้คำว่า มีความรู้แต่เอาตัวไม่รอดได้เปล่าเนาะพี่ไหมไทย แต่นี่เป็นเรื่องจริง ค่ะ พอดี ตอนที่ตาแกไปทานเหล้าเจอกันหลังสุดแกพูดให้ฟัง เรื่องที่แกบนบานศาลกล่าวให้ได้ลูกสาวคนนี้มา สมอธฐานและไม่สมใจนะค่ะ ขอบคุณค่ะ พี่ไหมไทย ที่แวะอ่าน มีความสุขกะวันหยุดนะค่ะ แหะ ตอนนี้รันอยู่ที่เกาะลันตา สวยมากๆ อยากให้คนชอบเทียว มาจังค่ะ ทะเลสวยจริงๆ
16 มีนาคม 2551 15:14 น. - comment id 99570
สวัสดีค่ะ พี่เจี๊ยบ แหม เกือบประสานงากันเนาะ เรา อิอิ เป็นเรื่องจริง ค่ะ พี่เจี๊ยบ รันสะเทือนใจมากๆ แต่ตาแกก็เสียไปเมื่อไม่นานนี่เอง รันเลยถือ ว่าจดบันทึกไว้อีกเรื่อง ไว้เตือนตัวเอง และให้ลุกหลานได้อ่านต่อไปนะค่ะ ขอบคุณค่ะพี่เจี๊ยบ ขอให้มีความสุขนะค่ะ