เรื่องนี้ผมยืมชื่อเรื่องและตัวละครบางตัวจากสมุดวาดภาพลายเส้นของเด็กชายชาญวิชช์ นามโนรินทร์ ชั้น ป.5 โรงเรียนเชิงชุมราษฎร์นุกูล อ.เมือง จังหวัดสกลนครมาครับ ค่าลิขสิทธิ์ชื่อเรื่องและชื่อตัวละครบางตัว ผมขอจ่ายเป็นค่าขนมให้เขานะครับ 000 เอ็กซ์ บาร์เบอร์ เป็นชื่อเด็กหนุ่มแว่นหนา และเป็นชื่อกลางเรียกกลุ่มคนที่รับจ้างตัดผมทุกดาวจักรด้วย เขาสวมเสื้อผ้าคงเอกลักษณ์ ผมสีทองอันดกแน่นตั้งชูราวกับเคลือบเจลมาแรมปี ความจริงไม่ใช่ เขามีวิธีที่จะคงทรงของผมให้เป็นอย่างนั้น และเขาก็เป็นหนึ่งในช่างตัดผมธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะเขาออกแบบและสร้างยานบินข้ามตะวันไปตัดผมให้ใครต่อใครก็ได้ที่ปรารถนาฝีมืออันสุดเนี๊ยบได้ ยานบินของเอ็กซ์ บาร์เบอร์ใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิงด้วยหลักการที่นักวิทยาศาสตร์ยุคพิกโกเทคโนโลยีสั่นหัวปนส่ายหน้าต่อการอธิบายให้เข้าหลักของทฤษฎีการเปลี่ยนรูปพลังงานทุกเชิง คุณเคยเห็นยานบินของเอ็กซ์ บาร์เบอร์หรือยังครับ วันมะรืนถ้าเอ็กซ์บาร์เบอร์ ผ่านมาทางนี้ผมจะถ่ายรูปมาฝากนะครับ เสียงยานบินของเอ็กซ์ บาร์เบอร์เงียบฉี่เหมือนเสียงแมลงหวี่ตอมใบหู ความเร็วของยานไวปานหนังตากระพริบก่อนที่จะโดนแมลงกลิ่นพริกเข้าตา รูปแบบยานแบบทรงกระบอกออกจะแหกจากกฎแอโรไดนามิกอยู่บ้างแต่เมื่อทำความเร็วได้พอเหมาะยานบินก็ไม่ต่างจากยานเหาะที่จะเคลื่อนในทิศทางใดๆก็ได้ทั้งแบบใบไม้ร่อนร่วงหรือนกกระเต็นดิ่งธารจับปลาซิวชะตาขาด ยานบินของเขาแม้จะเทียบกับไทม์แมชีนไม่ได้ก็ใกล้เคียง ถ้าเพื่อนต่างดาวจักรเป็นมนุษย์นิยมผมยาวไว้หนวดไว้เครารุงรังงานของเอ็กบาร์เบอร์ก็คงไม่รุ่ง แต่นี่ทุกคนนิยมแบบหัวเกือบเกรียนช่างตัดผมอย่างเขาจึงยังคงต้องเดินทาง อาชีพนี้ถึงจะไม่สงวนไว้สำหรับมนุษย์บางชนชั้น ก็เข้าใจเอาได้เองว่า คนมีฝีมือแบบเขาและผองเพื่อนเท่านั้นที่มีคุณค่าที่คู่ควรกับหัวของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาของทุกดาวจักร บรรดาอาชีพทั้งหมดในยุคของเอ็กซ์ บาร์เบอร์ นั้น ช่างหากินกับหัว คืออาชีพที่สูงส่งและทำเงินสูงสุด ข้อแม้ที่แม้ไม่ใช่กฎเหล็กสำหรับอาชีพนี้ที่ห้ามไม่ให้มีเมียนั้นได้ทำให้ผู้หัวใจไม่ซื่อถึงกับมือตกเอาดีไม่ได้ในการตัดผมมานักต่อนัก จนพวกเขาต้องละอาชีพนี้ไปสู่อาชีพที่ต่ำต้อยทั้งมวล เศรษฐีผู้มีอันจะกินอยู่บ้างในดาวจักรของเอ็กซ์บาร์เบอร์มักนิยมเดินทางระหว่างดวงดาวเพื่อใช้เงินรักษาสมดุลของเวลาของเซลล์คุมชีวิตและเซลล์อันเกี่ยวเนื่องกับการนึกคิดของตน อันจะกินซึ่งเอ็กซ์ บาร์เบอร์หมายความถึงคือของกิน ที่เศรษฐีเลือก ไม่ใช่พืชผักที่ปลูกด้วยกรรมวิธีเชิงเคมี แต่เป็นผักธรรมชาติที่เป็นคู่เอื้อของกลุ่มจุลินทรีย์กลุ่มไม่พิสมัยออกซิเจน ซึ่งผักพวกนั้นคนจนทุกคนทุกดาวจักรไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกและเกือบไม่มีสิทธิ์ที่จะกิน เนื่องจากราคาที่แพงแสนแพง ผู้ผูกขาดความรู้และอุตสาหกรรมเกษตรสืบเนื่องกับอาหารจึงเป็นกลุ่มคนที่ทรงอิทธิพลยิ่งในดาวจักรที่สรรพชีพต้องบริโภคอาหาร อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยกคนอย่างเอ็กซ์ บาร์เบอร์ไว้สูงกว่าเพราะสัมผัสสัมพันธ์กับหัวซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของความทรงภูมินั้น ถ้าจะนึกเทียบให้ง่าย เอ็กซ์ บาร์เบอร์ก็ไม่ต่างจากนักบวชที่แม้มาจากวรรณะที่ใครก็ไม่อยากแตะต้องเพราะต่ำต้อย เมื่อบวชแล้ว ผู้คนกลับยกย่องยอมก้มกราบไม่เขินอายแม้ตนมาจากวรรณะสูงส่งกว่า เอ็กซ์ บาร์เบอร์ อืม...คุณไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขาหรือครับ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราก็จะได้รู้จักเอ็กซ์ บาร์เบอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ คุณเคยคิดอยากเป็นช่างตัดผมหรือเปล่าครับ ผมเคยคิดอยากเป็นนะ ตอนที่ต้องไปรอคิวตัดผมนานเป็นชั่วโมง ๆ แต่ตอนหลังเมื่อเห็นกับตาว่าช่างตัดผมทั้งหลายล้วนตัดผมให้ตัวเองไม่ได้ ผมก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นช่างตัดผม หรือว่าแท้ที่จริงแล้วที่เอ็กซ์ บาร์เบอร์ไว้ผมทรงนั้นเป็นเพราะเขายากลำบากที่จะตัดผมตัวเอง อืม..น่าคิดนะ ครั้งหนึ่งพรรคพวกของเอ็ก บาร์เบอร์พูดติดตลกกันว่ามหาเศรษฐีหัวเกือบเกรียนร้อยทั้งร้อยผ่านมือของเอ็กซ์ บาร์เบอร์มาแล้วทั้งนั้น และว่าข้อที่จะพิสูจน์คำอ้างนี้คือถ้าคุณสามารถวัดความยาวของเส้นผมทุกเส้นบนหัวของใครก็ตามที่คุณสงสัยว่าเป็นฝีมือคอนโทรลปัตตาเลี่ยนของเอ็กซ์ บาร์เบอร์หรือไม่ ถ้าผมทุกเส้นบนหัวยาวเท่ากันหมด ผิดพลาดบวกลบไม่เกิน 0.09 ไมครอน อันนั้นเชื่อได้เลยว่าผมบนหัวนั้นผ่านการวาดปัตตาเลี่ยนฝีมือของเอ็กซ์ บาร์เบอร์แน่นอน ณ นาทีนี้ถ้ามีคนวิจารณ์ ว่า เอ็กซ์ บาร์เบอร์คือนักตัดผมแห่งดาวจักรทางน้ำนมผู้สูงส่งเกินกว่าที่จะเรียกช่างผู้หากินบนหัวคนธรรมดา คุณนึกอยากจะเห็นด้วยไหมครับ ถ้ายังตอบไม่ได้ฟังเรื่องของเอ็กซ์ บาร์เบอร์ต่อครับ ผมได้ยินเพื่อนห่าง ๆ ของเอ็กซ์ บาร์เบอร์พูดคุยกันในทำนองที่ว่ารูปทรงของหัวและทรงผมของเหล่าชน บางทีก็เป็นเครื่องหมายบ่งบอกสถานะในดาวจักร ถ้าคุณสังเกตจะพบว่ากลุ่มชนยากจนข้นแค้นทุกขอบเขตของดาวจักรมีรูปทรงหัวที่บิดเบี้ยวทั้งนั้น ยิ่งกว่านั้นเส้นผมที่ประกอบอยู่บนหัวก็แข็งกระด้างเหยิงยุ่งราวไม่เคยสัมผัสกับน้ำยาปรับสภาพผมยี่ห้อใด ๆ เลย คงด้วยเหตุนั้นมั้งมหาเศรษฐีทั้งหลายจึงระมัดระวังเรื่องรูปทรงของหัวของลูกหลาน ไม่ให้ผิดพลาดบิดเบี้ยวเสียรูปเสียทรงอย่างเด็ดขาด เอ็กซ์ บาร์เบอร์ ในบางมุมนั้นละม้ายผู้ทรงศีลผู้นุ่งห่มถือครองผ้าย้อมฝาด ยิ่งนัก แต่ในมุมอื่น ๆแล้ว เขาก็เหมือนคนหนุ่มทั้งปวงที่มีพลังของวัยที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และคิดไปข้างหน้า เขายังปรับปรุงยานบินของเขาให้สามารถขับเคลื่อนได้นุ่มนวลขึ้นแม้ทิศการบินจะหักมุมฉีกกระชากอย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งที่ทำให้เอ็กซ์ บาร์เบอร์ คิดสิ่งใหม่ได้ไม่รู้จบ อาจเป็นเพราะเขามีวิธีทางจิตที่เฉียบคมอยู่ในตัว ซึ่งสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีขึ้นหรือหามาได้ง่ายดายแบบใครๆก็มีได้ หรือทำได้ บรรดาความคิดและกระแสจิตอันเฉียบคมส่วนสำคัญล้วนมาจากการฝึกฝนทวนซ้ำอย่างฉกาจดุจการลับมีดสุดประณีตด้วยเป้าหมายที่จะผ่าครึ่งอณูของละอองฝนสาธิต เอ็กซ์ บาร์เบอร์ จึงมีฝีมือที่แตกต่างจากช่างตัดผมคนอื่นๆ และนั่นจึงคล้ายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้มหาเศรษฐีทุกดาวจักรนึกถึงเขาแม้ผมบนหัวจะยังไม่ยาวถึงเกณฑ์ที่จะถากไถด้วยปัตตาเลี่ยนให้เกือบเกรียนแบบสกินเฮ้ด อา... โน่นไงครับ คุณได้ยินเสียงแมลงหวี่ไหม ยานของเขาคงจะตรงมาทางนี้แล้ว ถ้าโชคดีและเขามีเวลาพอเราอาจได้ทักทายพูดคุยกับคนหนุ่มที่มีชั่วโมงบินในเขตไร้อากาศมากกว่าใครที่สุด เสียงแมลงหวี่เงียบไปแล้ว ยานบินของเอ็กซ์ บาร์เบอร์คงลงจอดเงียบเชียบใต้ร่มไม้ต้นใดต้นหนึ่ง ใบไม้แห้งสองสามใบขยับเปลี่ยนตำแหน่งราวลมหนาวปลายเดือนกุมภาพันธ์กระซิบจะลาเหมันตฤดูสู่คิมหันต์ แผ่วเบาเพียงเท่านั้นเราก็รู้แล้ว ว่าวัตถุทรงกระบอก ยานบินของช่างตัดผมผมทองได้เข้ามาอยู่ในระยะสัมผัสของจักษุประสาทแล้ว ไม่ผิดจากที่นึกเลยครับ ก่อนที่จะมองเห็นยานบินทรงกระบอกของเขา เราได้มองเห็นเจ้าของยานก่อนเสียอีก เขาปรากฏตัวขึ้นราวลอดออกมาจากหน้าต่างมิติ เสียงเดินที่เบาปานเท้าเลี่ยดิน นั้นดูขัดกันยิ่งกับจังหวะและท่าเดินแบบคชสารสืบเท้า สิ่งที่ชัดแจ่มที่สุดตรงหน้าเวลานี้คือใบหน้าของผู้มาเยือน ความผ่องใสนั้นปานเดือนคืนเพ็ญ มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ "สบายดีนะครับพี่" เอ็กซ์ บาร์เบอร์ทักทายคนอื่นก่อนเสมอ "คุณพ่อของพี่ยังอยู่ข้างในใช่ไหมครับ" ผมตอบแล้วเป็นฝ่ายเดินนำเขาเข้าไปข้างใน พ่อยังหลับตานั่งสมาธิอยู่ในบ้าน "ผมนึกอยากมาไหว้ท่านนานแล้ว เพิ่งสบโอกาสวันนี้เอง ผมเพิ่งกลับมาจากแวะไปดูแลทรงผมให้ ฯพณฯท่านที่ทำเนียบเลยผ่านมาคารวะพ่อของพี่ด้วย ดีใจครับที่ได้เจอพี่อีก" บทสนทนาของผมกับเอ็กซ์ บาร์เบอร์ ไม่สั้นไม่ยาวไปกว่าที่เขียน คนที่เอ็กซ์ บาร์เบอร์อยากสนทนาด้วยคือฤาษีที่อยู่ในบ้านของผมต่างหากครับ ไม่ใช่นักเล่าเรื่องที่เอ็กซ์ บาร์เบอร์เรียกพี่คนนี้เลย "เข้ามาซี หนุ่ม เออตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ" พ่อว่าและลืมตาขึ้นช้า ๆ ขณะที่ละจากสมาธิ "เพิ่งบ่ายโมงตรงครับ" เอ็กซ์ บาร์เบอร์ตอบโดยไม่ดูนาฬิกาแขวนผนัง เข็มนาฬิกาบอกเวลาตามนั้นเป๊ะ ผมเลื่อนเก้าอี้หวายให้คนต่างวัยได้นั่งสนทนากันสะดวกสบายก่อนที่จะขยับไปทำหน้าที่ชงชาสำหรับทุกคน ถ้าไม่สนใจสิ่งอันไม่เป็นสาระของรูปแบบของการแต่งตัว ถ้อยคำปุจฉาวิสัชนาในวาระนี้ของฤาษีกับเอ็กซ์ บาร์เบอร์นั้นไม่ต่างอันใดกับอรรถธรรมที่นักบวชผู้ชาญวิมุติโต้ตอบกัน คำถามและความสงสัยในใจของผม ได้รับการคลี่ให้คลายกลายเป็นความเข้าใจกระจ่างแจ้งอย่างกับทั้งคู่รู้วาระแห่งจิตของผู้ฟังการสนทนา หน้าปัทม์นาฬิกายืนยันได้ว่าเวลาผ่านไปแล้วเกือบสามชั่วโมง แต่คนอยู่ในเหตุการณ์นี้รู้สึกเหมือนมันผ่านไปเพียงสามนาที "ดาวจักรอื่นตื่นตูมเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเหมือนพวกเราไหม" คนไว้หนวดเครายาวสลวยถามก่อนจิบน้ำชา "ไม่ดอกครับ คงเป็นเพราะพวกเขาฉลาดเกือบเท่ากัน ต่างคนต่างก็คิดอะไรได้เกือบเท่ากัน แต่ของเรา คนคิดอะไรใหม่ได้เรื่อย ๆ อาจจะมีวงจำกัดอยู่แค่พวกอารยันกลางกับพวกคอเคซอยไกล เลยทำให้พวกนั้นช่วงชิงกันเพื่ออวดว่าตนคิดได้ก่อน แต่ว่า คนที่ได้ประโยชน์จริง ๆ จากการจดสิทธิบัตรความคิด กลับไม่ใช่พวกนั้นนะครับ เป็นพวกผิวสามสีตามเกาะเล็ก ๆ แถบทะเลที่แมกม่ายังคึกอยู่ตามรอยแยกของแผ่นเปลือกโลก พวกนี้เป็นนักค้า" "อืม..เห็นภาพชัดมาก แล้วตอนนี้งานของเอ็กซ์ เป็นไงบ้าง" ฤาษีลูบเคราเบา ๆ และมองคู่สนทนาอย่างชื่นชมและเมตตากรุณา "เรื่อย ๆ ครับ แค่จัดคิวให้แต่ละคนได้มีโอกาสตัดผม ที่จริงก็คือการชื่นชมรูปทรงของหัวของตนและให้คนอื่นชื่นชมตามได้ ผมก็ยังสามารถทำงานที่คนยกย่องกันนักหนานี้ได้อีกหลายหมื่นพันวัน ถ้าผมไม่สนใจอะไรอย่างอื่นไปเสียก่อนน่ะนะ" "ฮ่า ๆ อย่าพูดเล่นไป ถ้าดาวจักรของเราขาดคนมือถึงแบบเอ็กซ์ บาร์เบอร์แล้วใครล่ะจะมาเป็นนักตัดผมที่ค่าตัวแพงที่สุด คนยกย่องนับถือที่สุด" ฤาษีว่าไปยิ้มไป คนฟังก็ยังยิ้ม "คงมีอีกแยะครับ เหมือนบัวบางหมู่ที่รอเวลาเบ่งบานแทนบัวหมู่ที่กำลังจะโรยลงสู่ปลักโคลนอีกคราว" "ฮ่า ๆ นั่นคงไม่ใช่ความหมายที่ว่าเอ็กซ์ บาร์เบอร์จะเปลี่ยนใจไปครองชีวิตแบบคนมีพันธะ" "ไม่ดอกครับ ณ นาทีนี้ผมไม่ได้ต่างจากมหาเศรษฐีผู้กำลังจะละลมปราณไปสู่ที่อันตนสงสัย เขาเสียดายเวลามากกว่าเสียดายเงินที่หามาทั้งชีวิต แม้นแลกกันได้มหาเศรษฐีเหล่านั้น ๆ คงเลือกเอาเวลามากกว่าเลือกเอาเงิน ส่วนผมเลือกอิสระครับ ผมเป็นอัครมหาเศรษฐีด้านความเป็นอิสระ ผมไม่เลือกพันธะ" ถ้าใครเดินผ่านมาทางหน้าบ้านผมตอนนี้ก็คงแปลกใจว่าฟ้าส่งเสียงคำรามครืนมาจากทางไหนในยามที่จะผลัดหนาวเข้าสู่ฤดูรุ่มร้อน เสียงหัวเราะดังสุดเสียงของผู้ถึงธรรมทั้งคู่ต่างหากหรอกครับ ที่กังวานก้องอยู่แถวนี้ นาทีนี้ ถ้าผมไม่ได้ฟังถ้อยสนทนาในวันนี้ ผมอาจจะไม่มีทางรู้เลยก็ได้ว่าฤาษีเคราขาวที่ผมทำหน้าที่ปฏิบัติวัฏฐากแทนแม่นั้นคือคนแบบเอ็กซ์ บาร์เบอร์ที่เปลี่ยนใจในบั้นปลายกลับคืนสู่โคลนตมฝีมือตก ไม่มีมหาเศรษฐีของดาวจักรใดสนใจใยดีที่จะเอ่ยถึงให้รู้สึกเป็นเสนียดต่อจิตว่าเขาเคยก้มหัวให้ชายผู้นี้ถากหัวให้เกือบเกรียน นาทีที่ผมรู้นั้นเอ็กซ์ บาร์เบอร์รุ่นพ่อกับเอ็กซ์ บาร์เบอร์รุ่นหลังหัวเราะดังปานฟ้าคำราม พร้อมกัน เอ็กซ์ บาร์เบอร์ ไม่อยู่กินมื้อเย็นกับเรา เพราะมีนัดที่จะไปดาวจักรหมาใหญ่ ตอนนั้นผมเองก็รู้สึกใจหายเหมือนเพื่อนบางคนกำลังจะเดินทางไปนานและไกล 5 โมง58 นาที วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ฤาษีกับผมเดินไปส่งเอ็กซ์ บาร์เบอร์ที่ยานทรงกระบอก ที่จอดอยู่ใต้ร่มขนุนใหญ่หลังบ้าน เอ็กซ์ บาร์เบอร์โบกมือให้เราก่อนเคลื่อนยานออกไปอย่างเงียบเชียบ ผมยังจำถ้อยคำและน้ำเสียงสุดท้ายของเขาได้แจ่มชัด "พี่คงรู้แล้ว เอ็กซ์ บาร์เบอร์รุ่นใหญ่ยืนอยู่กับพี่ตรงนี้แล้ว แม้นพี่สงสัยอันใดต่อวิถีของเอ็กซ์ บาร์เบอร์ พี่ถามเขาเอาเองก็แล้วกัน" พ่อหันมาทางผม เอื้อมมือมาตบไหล่ แล้วยิ้ม "เดี๋ยวค่อยคุยกันลูก" ฤาษีเคราขาวที่อยู่ตรงหน้าคงรู้แล้วถึงปรัศนีย์ในหัวใจของผม เมื่อยานทรงกระบอกของช่างตัดผมแห่งดาวจักรลับตา พ่อลูกผมยาวก็เดินกลับเรือนอย่างเงียบงัน
5 มีนาคม 2551 23:48 น. - comment id 99323
สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์ แวะมาทักทายก่อน ไปนอนค่ะ พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาอ่านใหม่ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
5 มีนาคม 2551 23:50 น. - comment id 99324
ราตรีสวัสดิ์ครับคุณช่ออักษราลี
6 มีนาคม 2551 00:50 น. - comment id 99325
สวัสดีคะ คุณก่อพงษ์ แวะเข้ามาอ่าน ท่าทางจะสนุก รอติดตามคะ
6 มีนาคม 2551 01:14 น. - comment id 99329
อ้าว.. งั้นรออ่านตอนต่อค่ะ.. เขียนสดสิเนี่ย...โอ้ๆๆๆๆ ทึ่งจริงๆ คุณก่อพงษ์ชักจะทำให้สีน้ำฟ้าขยันขึ้นแล้วสิเนี่ย.. เพราะว่าเห็นแค่ภาพวาด ก็มาต่อได้เป็นเรื่องเป็นราว ของแจมนะ มีวัตถุดิบเพียบ แต่ใช้ไม่เป็น พรุ่งนี้ๆๆ เดี๋ยวจะไปแวะไปหาข้อมูลเขียนเรื่องท่องเที่ยวซะหน่อย อย่างนี้ต้องคลิกบ้านกลอนไทยบ่อยๆ ซะแล้วล่ะค่ะ จะได้ไฟแรงเหมือนเดิม.. สีน้ำฟ้าถือว่าเกิดจากบ้านกลอนไทยค่ะ.. ขยันๆ นะ จะมาขออาศัยกำลังใจ กำลังแรงงานแถวๆ นี้
6 มีนาคม 2551 07:21 น. - comment id 99332
อรุณสวัสดิ์ครับคุณรอยทาง อากาศเช้านี้หนาวเย็นพอดู ตอนสายๆลมพัดแรง ครั้นใกล้เที่ยงแดดกลับร้อนเปรี้ยง ดีที่ไม่มีฝนตก ไม่งั้นคนล้มป่วยกันเยอะแน่ ดินฟ้าอากาศปีนี้แปลกเปลี่ยนไมเยอะเลยครับ สวัสดี่ครับคุณสีน้ำฟ้า ผมทดลองเขียนสดครับ มีตัวละครและแก่นเรื่องไว้แล้วก็ค่อยๆ ให้เขาขยับตัวครับ แม้จะดูเหมือนหุ่นยนต์ไปซักนิดแต่ผมก็คิดว่าเขาล้ำยุคไปกว่าผม ผมจะพยายามเป็นนักเขียนนะครับ ขอความมั่นคงแห่งความมั่นใจจงเสถียรอยู่นานเถิด ha ขอบคุณครับ
6 มีนาคม 2551 09:25 น. - comment id 99333
สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์ ผสมผสานกฎของฟิสิกส์กับเนื่อเรื่องได้อย่าง ลงตัวมากค่ะ วันมะรืน มีนจะรอดูรูป เอ็กซ์ บาร์เบอร์ค่ะ
6 มีนาคม 2551 13:08 น. - comment id 99336
แวะมาทักทายคะ
6 มีนาคม 2551 15:17 น. - comment id 99338
เป็นงานเขียนที่น่าสนใจครับ.. อ่านแล้ว..ต้องอ่านให้จบ ไม่ได้กลัวคาราคาซัง แต่กลัวมันคาใจครับ
6 มีนาคม 2551 15:56 น. - comment id 99340
สวัสดีค่ะ เจอกันอีกครั้งนะคะคุณก่อพงษ์ คราวนี้เป็นเรื่องแนวคอมเมดี้ อ่านสนุกๆคลายเครียด น่ารักดีเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยสาระน่าคิดอีกตามเคย เด็กๆอ่านแล้วต้องชอบแน่ๆค่ะ จะเป็นกำลังใจให้ทุกครั้งค่ะ
6 มีนาคม 2551 16:21 น. - comment id 99344
แปะโป้งค่ะแปะโป้งพรุ่งนี้มาอ่านนะคะ
6 มีนาคม 2551 16:40 น. - comment id 99346
สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆ นะคะ แวะมาเยี่ยมเยียน เอารอยยิ้มมาฝากค่ะ แต่คงไมมีโอกาสใช้บริการนายเอ็กซ์ฯ เพราะเขาคงทำกิจการบาร์เบอร์อย่างเดียว ไม่ทำซาลอน อีกอย่างยานฯ ก็ไม่รู้จะไปหาจากไหนอีกล่ะค่ะ ข้ามดาวไปเยี่ยมไม่ได้แน่ๆ คิดฮอดเพลงอ้ายพีนะคะ นอกจากช่างตัดผมบ่ยอมก้มหัวให้ใครจริงๆ มาเขียนต่อนะคะ ไว้แวะมาอ่านอีกที
6 มีนาคม 2551 19:28 น. - comment id 99355
สวัสดีครับคุณมายอามีน วันมะรืน ถ้ากล้องที่ผมมีความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกินไปหรือถ่ายไม่ติด ผมจะขอยืมรูปที่ชาญวิชช์เขียนลายเส้นไว้มาให้ดูแทนนะครับ ======== สวัสดีครับคุณหลังม่าน =========== สวัสดีครับคุณ..สายลมทะเล.. ขอบคุณครับ ที่ให้ความเห็นไว้ ======= ทักทายคุณการัณยภาส ผมก็คาดหวังอย่างนั้นครับ คืออยากให้ลูกมีจินตนาการไกลออกไปอีก ขอบคุณสำหรับแรงใจแรงเชียร์ครับผม ===== สวัสดีครับคุณโคลอน ผมส่งยิ้มไว้ก่อนนะครับ ==== ทักทายคุณยังเยาว์ นอกจากช่างตัดผมบ่ยอมก้มหัวให้ใครจริงๆ อืม..มีเพลงแบบนี้ด้วยหรือครับ
6 มีนาคม 2551 23:01 น. - comment id 99358
สวัสดีครับคุณรอยทาง ตอนผมเป็นเด็ก ยามไปตัดผม ช่างตัดผมมักชวนพูดคุย เขาคุยไปตัดไป ทำให้ลูกค้าเพลินลืมความเจ็บจากฟันปัตตาเลี่ยนถลกหนังหัวได้พอสมควร ประสบการณ์คราวโน้นเอามาเขียนเรื่องสั้นนี้ได้ครับ ผมเคยถามลุงคนตัดผมว่า ทรงผมของลุงลุงออกแบบเองหรือ เขาก็ว่า ไม่ดอกบัก หัวเจ้าของออกแบบเองบ่ได้ ต้องให้คนอื่นตั๊ด ha
6 มีนาคม 2551 22:50 น. - comment id 99359
สวัสดีคะ คุณก่อพงษ์ คุณก่อพงษ์ เขียนเรื่องสั้นได้เก่งนะคะ อ่านไปก็อดคิดไม่ได้ เกิดเป็นช่างตัดผมแต่ตัดให้กับตัวเองไม่ได้ เหมือนกับเราคอยแก้ปัญหาให้กับคนอื่น พอถึงตาตัวเองกับแก้ไม่ได้ นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของดิฉัน เกี่ยวกับร้านตัดผม หาช่างที่ตัดถูกใจยากและต้องพลอยอารมณ์เสียไปด้วย ก็เลยใช้กรรไกรมาตัดเป็นทรงของตัวเองเลยคะ ถูกใจไม่ถูกใจเราตัดเอง สมัยทำงานอยู่เมืองไทยก็ตัดเอง ยิ่งอยู่ต่างประเทศค่าตัดผมอยู่บ้านเรากินได้เป็นเดือนคะ ไม่ไหว ขอบคุณคะ
7 มีนาคม 2551 08:09 น. - comment id 99365
เค้าโครงเรื่องน่าสนใจนะคะ "เอ็กซ์บาร์เบอร์" แต่ก็จริงค่ะที่คนเราจะเคารพหรือยอมรับกันที่สถานะในปัจจุบันหาใช่อดีตไม่
7 มีนาคม 2551 20:07 น. - comment id 99393
สวัสดีครับคุณโคลอน คุณว่าเข้าทีดีมาก เอาไปเขียนเป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องได้เลย อากาศหนาวจังนะครับวันนี้ ผมแรงด้วย ผมจะเขียนเอกซ์ บาร์เบอร์ต่อแล้วครับ
7 มีนาคม 2551 23:04 น. - comment id 99398
ย่องๆเข้ามาแอบอ่านเรื่องสั้นค่ะพี่ก่อพงษ์ รออ่านตอนต่อไปนะคะ
7 มีนาคม 2551 23:06 น. - comment id 99399
สวัสดียามดึกครับคุณฉางน้อย หลายวันต่อไปนี้ผมคงมีความสุขกับการนอนดึกๆล่ะครับ เพื่อเขียน ยามดึกมันสงบเงียบดีครับ
7 มีนาคม 2551 23:45 น. - comment id 99400
http://music.mcine.net/Luktung/Gmm/Pee/Gmm-P001.htm แวะมาอ่านต่อ แล้วก็เอาเพลงมาฝากค่ะ
7 มีนาคม 2551 23:54 น. - comment id 99401
ขอบคุณครับคุณยังเยาว์
8 มีนาคม 2551 05:25 น. - comment id 99410
สวัสดีคะ คุณก่อพงษ์ ตอนนี้ 6 ทุ่มครึ่ง บ้านเราก็คงกำลังเช้า เคยขับรถเดินสายงานไปแถวๆ ภูพาน ชอบบรรยากาศมากเลยคะ แล้วเรื่องนี่จบหรือยังคะ อ่านไปก็เพลินไปคะ ขอบคุณคะ
8 มีนาคม 2551 07:43 น. - comment id 99411
สวัสดีครับคุณรอยทาง ผมชอบบรรยากาศของเทือกเขาภูพานครับ ถิ่นเกิดของผมอยู่ทุ่งแล้งแถวอีสานกลาง ตอนเป็นหนุ่มเคยอยู่ในกกลุ่มเพื่อนที่ชอบการออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านแถบบนี้ เมื่อมีอายุมากขึ้นผมโชคดีได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หลัง ๆ ก็ไม่คิดจะไปที่ไหนอีก ที่ที่อาจจะเคยคิดไปทำไร่สตรอเบอรี่ก็พับโครงการไปแล้ว เพราะข่าวอากาศที่นั่นเปลี่ยนรุนแรงขึ้น ผมอยู่ที่นี่สบายดี ตอนเช้าตะวันขึ้นสวย ตอนเที่ยงเงาเมฆที่ทอดไปตามภูเขาสุดงาม ยามเย็นก่อนเห็นเดือนเพ็ญตะวันก็กลมโตดึงดูดตา รวมๆแล้ว ที่นี่สวยงามต่อหัวใจทุกนาที ผมคงไม่หนีไปไหนแน่แล้ว ชีวิตของเอ็กซ์ บาร์เบอร์ยังคงดำเนินไปครับ แต่ผมขอหยุดเขียนไว้ก่อน ทำนองหยุดภาพให้นิ่งไว้เพิ้อจะได้ดูต่ออีกเมื่อถึงเวลาสมควร ขอบคุณครับ