ปริศนาแห่งหยินหยาง
คีตากะ
ปราศรัยโดยท่านอนุตตราจารย์ชิงไห่ที่ศูนย์ซีหู หมู่เกาะ ฟอร์โมซา
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1994
ทำไมคนส่วนมากจึงชอบมีเพื่อนชายหรือเพื่อนหญิงกัน? มันก็เป็นเพราะว่าเขาหรือเธอขาดหยิน(ลักษณะของเพศหญิง)
หรือหยาง(ลักษณะของเพศชาย)เราเกิดมาด้วยความปรารถนาที่จะค้นหาพระเจ้าก่อนที่เราจะทำได้สำเร็จ เราก็รับเอาอะไรก็ได้ที่สะดวกง่ายดายที่สุด ดังนั้นเราจึงแสวงหาเพื่อนชายหรือเพื่อนหญิงหรือแต่งงานกัน เป็นต้น เมื่ออยู่ในช่วงความรัก แต่ละคนก็จะให้หยินหรือหยางแก่อีกคนหนึ่งพวกเขาทั้งสองจึงมีความสุขมาก สบายใจและพึงพอใจมาก ดังนั้นเมื่อเธอกำลังอยู่ในความรักจริงๆละก็ ว้าว! เธอจะมีความสุขมาก เพราะว่าเธอได้ให้อย่างเป็นไปตามธรรมชาติและเธอก็จะมีหยินและหยางตามธรรมชาติ พระเจ้าได้จัดการให้มันเลื่อนไหลถ่ายเทไปมาในระหว่างตัวเธอทั้งสอง อย่างไรก็ตามคนมักจะมีแนวโน้มที่จะลืมในเวลาต่อมา และก็กลายเป็นไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อรักกันไปนานๆขึ้นพวกเขาก็คาดหวังจากกันและกัน! พวกเขามีความสุขรักกันเรื่อยมา เพราะว่าพลังของหยินและหยางได้เสริมเติมซึ่งกันและกันให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกสมบูรณ์เต็มตามธรรมชาติ แล้วพอวันหนึ่ง พวกเขาก็จะเคยชินกับความรู้สึกอย่างนี้ขึ้นมา คิดว่ามันเป็นเพราะอีกคนที่ทำให้พวกเขามีความสุขมาก ไม่ได้ตระหนักว่าพระเจ้าต่างหากที่กำลังบรรจุมอบมันให้แก่พวกเขาตามธรรมชาติอยู่ เมื่อเธอไม่ได้คิดอะไร พระเจ้าก็ได้ปล่อยให้พลังงานนี้ไหลผ่านไปสู่พวกเธอทั้งสองพร้อมๆกัน และช่วยเติมให้เธอทั้งสองคนสมบูรณ์อย่างเป็นไปตามธรรมชาติ นี่เป็นการให้ตามธรรมชาติในเวลาที่เธอไม่ได้กำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเธอทั้งสองคนจึงมีความสุข
พอเธอเริ่มคิด เราก็เริ่มจะพูดว่า" คิดถึง" คิดถึงอีกฝ่ายหนึ่ง เราคิดว่าเรามีความสุขเพราะคนนั้น แล้วเราก็เริ่มมีการยึดติด และต้องการที่จะผูกมัดเขาให้ติดอยู่ข้างเราตลอด อยากจะเก็บรักษาความสุขนี้ตลอดไปให้เหมือนตอนที่เธอกำลังรักกันใหม่ๆ พอเราเริ่มคิดอย่างนี้พลังงานนั้นก็จะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานที่จำกัด เราคิดว่ามันมาจากอีกฝ่ายหนึ่งแทนที่จะคิดว่ามันมาจากพระเจ้า ดังนั้นพลังงานที่มาจากพระเจ้านี้จึงถูกตัดขาดไปทันที เข้าใจไหม? พลังของความคิดของเรามีกำลังแรงมาก จนไม่ว่าสิ่งใด ๆ ก็จะกลายเป็นจริงขึ้นมาตามนั้น ดังนั้นขณะที่ความคิดของเธอผุดขึ้น ระบบนี้ก็จะถูกตัดขาดจากกันแล้วทั้งสองคนก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน เพราะว่าพวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังขาดอะไรไปบางอย่าง ! พวกเขาก็จะเฝ้าแสวงหา เมื่อไม่ได้รับความพอใจ พวกเขาก็จะยึดจับ ผูกมัดและเกาะติดซึ่งกันและกันและก็จมลึกลงไปในความทุกข์ทรมานมากขึ้นด้วยกัน
แรกเริ่มพวกเขาเป็นคน 2 คน แต่ตอนนี้พวกเขาเกาะติดกันราวกับกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ยังคงมีอัตตา 2 ตัว ! (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) พวกเธอเข้าใจไหม? พลังงานมาติดกัน แต่อัตตาไม่ติดกัน (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) แล้วปัญหาก็เริ่มขึ้นตรงนี้เอง ดั้งเดิมพวกเราแต่ละคนก็มีพลังงานและอัตตาเป็นของตัวเอง ควบคุมชีวิตของเราเองและเป็นอาจารย์ของพวกเราเอง ก่อนที่จะรู้จักอีกคน เราเป็นอาจารย์ของตัวเราเองเสมอ ! วันนี้ฉันจะดูทีวี ทานอาหารมังสวิรัติอย่างหนึ่ง และตัวฉันเองที่อยากจะทานมัน โดยไม่สนใจใคร พอคนสองคนเข้ามาอยู่ด้วยกัน และต่อมากลายเป็นหนึ่งเดียวพวกเขาก็มาช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้แก่กันและกันและก็มีความสุขด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อัตตาของพวกเขาไม่ต้องการข้าอีกต่อไปแล้ว ! ก็ลาก่อน ! นี่เป็นระบบที่อัตโนมัติ และเป็นธรรมชาติ เข้าใจไหม? เธอจะได้รับในสิ่งที่เธอขอ ดังนั้นคัมภีร์ไบเบิ้ลจึงกล่าวว่า ถ้าเธออธิษฐานต่อพระเจ้า และแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าภายในแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะถูกมอบมาให้เธอ ถ้าทั้งหมดที่เธอขอนั้นคือแค่หยดเล็กๆ เธอก็จะได้รับเพียงแค่นั้น อันนี้เป็นไปตามระบบอัตโนมัติ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนในโลกจึงหาพระเจ้าไม่พบ พวกเขาสวดคัมภีร์มากมายหลายอย่างในแต่ละวัน แต่ก็ไม่ได้เห็นใครเลย ไม่ว่าพวกเขาจะอธิษฐานขออะไรก็จะไม่ได้รับคำตอบ เข้าใจไหม? พวกเขามัวพึ่งพาคนด้วยกันเองหรือไม่ก็พึ่งพาถ้อยคำที่พิมพ์หรือจารึกเอาไว้และพระเจ้าจะทำอะไรได้?
เมื่อเรากำลังอยู่ในความรักกับใครสักคน ความมีชีวิตชีวาของเราก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับฝ่ายนั้น แยกจากกันไม่ได้ แยกจากกันไม่ได้แต่ว่ามีสองหัว เมื่อสองหัวนั้นมุ่งหน้าไปคนละทิศคนละทาง มันก็จะมีปัญหายุ่งยากลำบากมาก ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทโต้เถียงกัน เข้าใจไหม? ตอนนี้พวกเธอเข้าใจแล้วนะว่าทำไมถึงมีการทะเลาะวิวาทกัน? คิดดูให้ดีแล้วพวกเธอก็จะเข้าใจได้ ทั้งคู่อยากจะเป็นเจ้านาย บางครั้งไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา เป็นเพียงนิสัยอย่างหนึ่ง เราเคยชินกับการอยู่คนเดียวเป็นโสดตั้งแต่เกิดจนกระทั้งบัดนี้ 20 หรือ 30 ปี เราเดินคนเดียว ตัดสินใจเองเสมอว่าเมื่อไรเราจะกินและเมื่อไรเราจะเข้าห้องน้ำ (หัวเราะ) อ้อ! นั่นยังพอเจรจาต่อรองกันได้ ! (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) แต่ส่วนมากการเจรจาต่อรองจะไม่ค่อยได้ผล แต่ละคนยังคงความเห็นว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูกต้องอย่างแข็งขัน บางทีอาจจะไม่ได้เจตนา เป็นเพียงนิสัยเท่านั้น ไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขาควรจะคำนึงถึงอีกฝ่ายหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น การแต่งงานและความรักเป็นส่วนมากมักจะพังทลายลงเมื่อถึงระยะหนึ่ง เราไม่สามารถจะไปตำหนิพวกคนข้างนอกนั้นได้จริงๆ หรอก ที่วันนี้รักกันแต่พอวันพรุ่งนี้ก็ไม่รักแล้ว แต่งงานกันวันนี้และหย่ากันปีหน้า..พวกเขาเพียงแต่ไม่เข้าใจถึงสภาพทางจิตใจและระบบอย่างนี้
เมื่อคนสองคนกำลังอยู่ในความรักกัน พวกเขาก็เสริมเติมความสมบูรณ์ให้แก่กันและกันฝ่ายหนึ่งให้พลังหยินและอีกฝ่ายหนึ่งให้พลังหยาง(ถอนหายใจ ! ) มันช่วยรักษาเราได้ดีเหลือเกิน(อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) น่ารื่นรมย์มาก แล้วพวกเธอก็จะติดมัน เข้าใจไหม ? เพราะว่ามนุษย์ก็เป็นตัวแทนของพระเจ้าเช่นกัน พวกเขาถูกประกอบติดมาด้วยเครื่องกำเนิดพลังงานอย่างหนึ่ง ที่คล้ายคลึงกับเครื่องกำเนิดพลังงานของพระเจ้า! ดังนั้นเมื่อคนคนนั้นรักกัน มันก็คล้ายกับพระเจ้ากำลังรักเธอ เธอจึงมีความสุขมาก ถ้าเธอสองคนรักกันล่ะก็ เธอทั้งคู่ก็จะถูกชาร์จพลังงานอย่างเต็มเปี่ยม ใช่ไหม? เธออาจสังเกตเห็นว่าคนที่กำลังอยู่ในความรักดูเหมือนคนโง่ ๆ ที่ไม่สนใจอะไรเลย(อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) เวลาที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ เมื่อพวกเขาถูกละทิ้งไป หรือเมื่อความรักนั้นถูกตัดขาดสะบั้นราวกับว่าความมีชีวิตชีวาได้สูญหายไป กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดจากกันอย่างฉับพลัน ดังนั้นมันจึงเจ็บปวดมาก นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนจึงชอบที่จะอยู่ในความรัก ก็เนื่องจากความสุขนั่นเอง ที่จริงแล้วความสุขไม่ได้เนื่องมาจากคนคนนั้น แต่เนื่องมาจากความจริงที่ว่า พลังงานที่ทำให้มีชีวิตนั้นถูกเติมให้สมบูรณ์เต็มที่
เราจะไม่ผิดหวังเลย ถ้าหากว่าเราแสวงหาเครื่องกำเนิดพลังที่มีอานุภาพสูงสุดตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งคงทนถาวรให้เราใช้ได้ตลอดไป มันไม่เป็นไรหรอกที่จะมีคู่ ฉันเพียงแต่เกรงว่า เราอาจจะไม่ต้องการมีใครเลยในเวลานั้น มันไม่เป็นไรหรอกที่จะมีใครสักคนหรือไม่มีใครเลย เพียงแต่มันจะยุ่งยากมากขึ้น ถ้าหากว่าเธอมีอัตตาเพิ่มขึ้นอีกตัว(อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) มิฉะนั้นเธอก็มีอัตตาเพียงตัวเดียว ป้องกันความยุ่งยากของอัตตา 2 ตัว เวลานอนตอนกลางคืนคนหนึ่งอยากจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ อีกคนอยากจะปิด คนหนึ่งชอบให้เปิดไฟไว้ อีกคนต้องการให้ปิด แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทได้ ใช่ไหม? แล้วมันก็จะยิ่งแย่ลงไปอีกหลังจากที่พวกเธอมีลูกออกมาคนหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งก็อยากให้ลูกทำตัวอย่างนี้ อีกฝ่ายก็ต้องการอีกวิธี ฝ่ายหนึ่งสอนลูกอย่างนี้ อีกฝ่ายก็สอนอีกอย่าง ไม่มีใครยอมแพ้ และทั้งคู่ก็คิดว่าตัวเองถูก เพราะว่าพวกเขาก็เป็นพระเจ้าทั้งคู่ ขอโทษที ! (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ)
ที่จริงแล้ว วิญญาณอีกครึ่งหนึ่งของพวกเราจะไม่พบในโลกนี้ ต่อเมื่อเราได้ค้นพบตัวตนอันแท้จริงของเราแล้ว เราก็จะได้พบอีกครึ่งหนึ่งของวิญญาณของเรา เพราะฉะนั้น ถึงแม้เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตแต่งงาน ความมั่งคั่ง ความสมบูรณ์ในสิ่งใดๆ ในโลกนี้ เราก็จะยังมีความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังขาดอะไรไปบางอย่าง ! เป็นเพราะว่าคนเพียงคนเดียวไม่มีพลังเพียงพอที่จะให้อีกคนมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ได้ เว้นเสียแต่เราจะเข้าใจว่าความมีชีวิตชีวาของทั้งสองฝ่ายจริงๆ แล้วมาจากไหน แล้วเราก็ไม่ต้องกังวลว่าพลังของเราจะถูกตัดขาด มันอาจจะพูดง่ายแต่เข้าใจยาก อย่างน้อยที่สุดพวกเธอควรจะมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็จงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็งในแต่ละวัน กำลังใจของเราก็จะเข้มแข็งขึ้นและสิ่งใดที่เราปรารถนาก็จะกลายเป็นความจริงได้ นั่นคือเวลาที่เราได้ครอบครองมหาพลานุภาพ พลังอำนาจปาฏิหารย์ซึ่งไม่สามารถจะมองเห็นได้ จากนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องท่องมนตร์คาถาใดๆ เพียงแต่คิดถึงมันแล้วพวกเธอก็จะมีทุกสิ่งทุกอย่าง..
.GOOD LUCK.