พรหมลิขิต [=Destiny of Heven=] ....(2 ผู้หญิงที่แสนดี)
ป๊ากเก้อร์
ภูรู้สึกว่าเม้าท์ที่จับไปนั้นมันช่างนิ่มนัก ภูฉงนใจเพราะ หารู้ไม่ว่าเม้าท์ที่ภูจับนั้นกลับกลายเป็นมือของผู้หญิง เธอคนนั้นชักมือกลับด้วยตกใจ ทำให้ภูหัวแทบทิ่มด้วยที่ว่าดันทิ้งน้ำหนักตัวลงไปในขณะที่เผลอไปจับมือเธอ พอภูเงือยหน้าขึ้นมาดู "แป๊ะ!" กลายเป็นเสียงประจำกลุ่มที่ก้องกังวาลในโส๖ประสาทของภู และตามมาด้วยเสียงของน่อง
"แฟนกูแฟนกู"
เพราะมือที่ภูจับไปนั้นไม่ใช่มือใครอื่นกลับกลายเป็นน้องส้มแฟนของน่องนั่นเอง "โอย...โทษๆ ดีใจเกินไปหน่อย กะว่าจะคลิ๊กเม้าท์ ไม่ทันได้มองอะโทษทีนะส้ม นึกว่าเม้าท์" ส้มแอบอมยิ้มเล็กน้อย "โททีน่อง ไม่ได้ตั้งใจจริงๆอะ" ส่วนเชและเพื่อนก็หัวเราะกันดังลั่น
"โหยเสียงนี่ดังสนั่นหวั่นไหวจริงๆหวะ" ฮ่าฮ่าฮ่า"
ระหว่างที่ทุกคนกำลังขำกันอย่างสนุกสนานกันอยู่นั้นภูก็ได้เหลือบไปเห็นเธอคนนั้นอีกแล้ว เธอคนนั้นที่ภูได้บังเอิญเจอเมื่อเกือบเดือนก่อน ภูรู้สึกหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง เต้นแรงตุบตุบๆ ภูมองเธอคนนั้นแล้วมองเธอคนนั้นอีกพร้อมกับคิดในใจและพยายามนึกว่า เหมือนเคยเห้นเธอที่ไหนมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2แล้วที่ภูเห็นเธอคนนี้
"ใช่แน่ๆ คนที่เราเคยฝันอยู่ตลอด แล้ว ทำไมเราถึงได้รู้สึกใจเต้นตุบตับๆอย่างนี้ ..แต่ช่างเหอะ เราคงไม่ได้รู้จักรกันหรอก"
ระหว่างที่ภูกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น พลันก็สะดุ้งตื่นจากวังวลเพราะเสียงของเพื่อนในกลุ่ม
"เฮ้ย! นั่นไอนุนี่หว่า ภูเพื่อนมึงอะ" เสียงของตูนดังขึ้น
"เออ รู้แล้ว แล้วมึงจะเฮ้ยทำไมว้า"
"อ้าว ก็คนในรถมันไม่ใช่แนทอะดิ"
....!?~ ภูทำหน้าสงสัย "อ้าว!? ถ้าไม่ใช่แล้วใครหละ " ภูพูด แต่ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ของภูก็ดังขึ้น
"งัยแนท.."
"ภู.. เห็นนุรึเปล่า"
"อ้อ อืม...ไม่เห็นนะ ไม่เห็นตั้งแต่มาถึงวิลัยแล้ว"
"ตอนนี้ภูอยู่ไหน"
"เออ..ภูอยู่ร้านเน็ทดูผลสอบอยู่"
"แนทไปหานะ"
"เอ่อ...อืม ก็มาดิ"
"ภูอยู่ร้านไหน"
"ตรงข้ามวิลัย เลยร้านถ่ายรูปฟูจิมาหน่อย ชื่อร้านแสงทอ"
"งั้นเดี๋ยวแนทไปหาเลยนะ"
"อืมๆ"....ตู๊ดๆ และแนทก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ยมึงเป็นกิ๊กกับแนทเหรอว้า"....
"แป๊ะ"...ภูตบไปที่หัวหนึ่ง
"กิ๊กบ้าอะไร เวลาไอแนทมันมีปัญหาอะไรก็มาระบายกับกูตลอด....กูหละเบื่อ......"
"เอย....แต่แนทมันสะบึมน้าเว้ย...."
"กูก็ว่างั้น !!!! เฮ้ย!!!! มึงหนิไอหนึ่ง กามจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า สมฉายาพี่กามจริงๆเชียว"
"โธ่เอ้ย กูก็แค่ออกความเห็นน่า"
และแล้วผองเพื่อนก็สลายตัว ต่างคนต่างกลับบ้าน ก็เหลือแต่ภูที่ยืนรอแนทอยู่หน้าร้านเน็ต ไม่นานแนทก็เดินมา
"ภูรอนานเปล่า"
"อืม ..นานอยู่ แต่ ..มีอะไรเหรอแนท"
"แนท...." แนทเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
"อะไรเหรอ?" ภูถามด้วยความสงสัย แต่ในใจภูก็พอจะเดาออกว่าแนทอยากจะพูดอะไร แต่ทว่า ภูกลับคิดผิดและคาดไม่ถึง
"กลับบ้านด้วยกันนะ" นั่นทำให้ภูรู้สึกงงและอึ้งเล็กน้อย
"อืม.. ก็ได้ ภูรู้นะ แนทมีหลายเรื้องอยากระบาย"
"อืม...." แนทยอมรับ และก็ยิ้มแบบเศร้าหมอง แล้วทั้ง 2ก็ขึ้นรถไปด้วยกันซึ่งรถที่ทั้งคู่ได้นั่งนั้นเป็นรถของแนท และแนทก็เป็นคนขับเอง ระหว่างทางที่อยู่บนรถแนทขับรถไป แต่กลับเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา และน้ำตามันก็เริ่มไหลออกมาเรื่อยๆเรื่อยๆ
"แนท!? ร้องไห้ทำไม ..."
"ภู แนทรู้ทุกอย่างแล้ว นุบอกแนทหมดแล้ว นุบอกว่านุเลิกกับฝิ่นแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้นุอยู่กับเพื่อนชื่อฝ้าย" แนทพูดทั้งน้ำตา
"ฝ้ายไหนเหรอ !???" ภูถามด้วยความสงสัย
"แนทไม่รู้ แต่ทำไมมีอะไรไปไหนไม่บอกแนทเลยซักครั้ง มีรับลมคมในตลอด เพื่อนกันอะไร แนทเห็นอยู่ใน นุจูบกับผู้หญิงที่ชื่อฝ้ายนี่ชัดๆเลย" แนทร้องไห้โฮ เป็นยกใหญ่
"ตอนนี้แนทรู้สึกสับสน ไปหมดแล้วคิดไรไม่ออกเลย" แนทเริ่มฟูมฟายและพูดเหมือนคนขาดสติ จนภูต้องให้แนทจอดรถข้างทาง
"แนทจอดรถข้างทางก่อนนะ ใจเย็นๆ"
ไม่นานแนทเริ่มตั้งสติได้ แล้วก็รวบรวมสมาธิเพื่อที่จะขับรถไปส่งภูต่อ ระหว่างทางที่ขับแนทยังคงร้องไห้อยู่ตลอด แต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อซักครู่
"ถึงแล้วหละ ขอบใจนะแนท"
"ตอนนี้แนทเหงามากเลยภู" ภูนิ่งเงียบไปซักพัก แต่ไม่ทันที่ภูจะตั้งตัวแนทได้เข้ามาสวมกอดภูไว้แน่น แต่..."แนท ถ้าแนทกอดภูเพื่อให้ลืมนุ แนทอย่าทำอย่างนี้เลยดีกว่านะ ภูไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ หรือต้องมาลองรับอารมณ์ใครแบบนี้ " ภูพูดด้วยอาการไม่ค่อยพอใจนัก ทันทีที่พูดจบ แนทก็เลิกกอดภูทันที แต่ก็งคงร้องไห้อยู่และร้องไห้หนักกว่าเดิม
"แนท เมื่อกี้ ขอโทษนะ" ภูเริ่มตั้งสติได้
"ขอโทษนะภู แนท....ถ้านุดีเท่าครึ่งนึงของภู แนทคงไม่เสียใจอย่างนี้"
ภูไม่พูดอะไร แต่ก็จับมือแนทไว้ แนทซบลงที่บ่าภู คราวนี้ภูไม่ว่าอะไรก็โอบกอดแนทไว้พร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากแนท แค่นี้ก็ทำให้แนทเลิกร้องไห้ แม้จะไม่เลิกร้องไห้ทันที แต่น้ำตาก็ไหลน้อยลงๆ จนแนทหยุดร้อง แล้วภูก็ปล่อยมือที่โอบกอดแนท
"แนทกลับบ้านเถอะ เย็นมากแล้ว คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ "ภูพูดกับแนทด้วยความเห็นใจ
"อืม คราวหลังแนทไม่ทำอย่างนี้แล้ว ขอโทษนะภู" ที่แนทขอโทษเพราะรู้ตัวเองดีว่ากำลังทำให้ภูสับสน และตัวแนทเองก็สับสน และเหงาปนกัน แต่ที่ภูได้สวมกอดนั้นแนทกลับรู้สึกอบอุ่นมาก แต่ก็เป็นการเห็นแก่ตัวที่ว่าในใจนั้นทำเพื่อให้หายเหงาแล้วภูก็ลงจากรถ
"ขอบใจนะแนทที่มาส่ง"ภูพูดพร้อมกับยิ้ม ส่วนแนทก็ยิ้มกลับ
"แนทตะหากที่ต้องขอโทษ และขอบใจภู"
"ขับรถกลับบ้านดีดีนะ"
"อืม"แนทตอบเพียงสั้นๆ และก็ออกรถไป ส่วนภูก็หันหน้าเดินเข้าบ้าน แต่ภูไม่รู้หรอกว่าแนทแอบมองภูทางกระจกมองหลังอยู่ เมื่อภูเข้าบ้านมาก็รู้สึกเหนื่อยเพลียจึงรีบทำธุระส่วนตัวต่างๆ และรีบเข้านอนระหว่างที่ภูนอน ก็คิดอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อย แม้วันนี้จะมีเรื่องของแนทเข้ามาให้รู้สึกสับสน แต่ความสับสนของภูก็เกิดขึ้นเพียงไม่นานแล้วก็หายไป เพราะในหัวของภู และก้นบึ้งของความคิด ดันมีภาพเธอคนนั้นเธอคนที่ภูเห็นที่ร้านเกมส์ตั้ง 2ครั้ง ภาพของเธอลอยเข้ามาในหัวสมอง ไม่นานภูก็หลับไป
หลังจากเหตุการณ์ที่แนทเข้ามาทำให้ภูรู้สึกสับสนได้ผ่านไป 2เดือนเศษ ก็ถึงวันรับปริญญา
"เฮ้ยดีใจด้วยเว้ยทุกคน"เสียงของตูนดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาทักทายเพื่อนๆ "เฮ้ย! จบด้วยเหรอว้าภู" ทั้งที่รู้ว่าภูก็เรียนจอบตูนพูดด้วยวาจากวนโอ๊ย "แป๊ะ" เสียงประจำกลุ่มดังขึ้นภูตบหัวทุยๆของตูนด้วยความหมั่นไส้ พวกเพื่อนๆก็หัวเราะกันยกใหญ่
"เออ! ตูนมึงไปสมัครงานโรงแรมเป็นงัยบ้างว้า ได้รึเปล่า" ภูถามด้วยความอยากรู้
"ได้ดิ ไม่ได้ได้งัย"ตูนตอบ
"แล้วได้เป็นพนักงานประจำเปล่า"ภูถามด้วยความอยากรู้อีกครั้ง
"ยังก่อนหวะ เค้าให้เป็นพนักงานชั่วคราว ก่อนอะ พี่เค้าบอกว่าถ้าทำไปซักพักจะดันให้เป็นพนักงานประจำ"
"อ้อเหรอ เออดีดี"
"แล้วมึงไม่สนใจเหรอว้าภู มาทำด้วยกันเปล่า"
ตูนถามภู เพราะก็อยากให้ภูมาร่วมทำงานที่เดียวกันด้วย
"โหกูไม่ได้ทำงานโรงแรมมา 2-3ปีแล้วนะ"
"เออน่ามาทำด้วยกันดีกว่านา" ตูนเซ้าซี้ภูจนในที่สุด
"เออก็ได้ว้า"ภูจำใจรับ
"งั้นมะรืนนี้เจอกัน ไปเจอที่ฝ่ายบุคลเลยนะ โรงแรมเมรี่โรส"
"มะรืนเลยเหรอ...เออ เอาก็เอา"
"เออ ก็แค่นั้นแหละ นัดก็ต้องเป็นนัดแหละว้า"
ทันใดนั้น เชเพือ่นในกลุ่มก็อุทานขึ้น "เฮ้ย! ไอนุนี่หว่า มันเดินควงใครมาว้า มึงรู้ป่าว้าภู" เชถามด้วยความสงสัย "แต่ภูก็ทำหน้าสงสัยเช่นเดียวกัน"อืม.... นี่แฟนใหม่ไอนุมันเหรอว้า!?"
"แฟนใหม่มันเหรอว้า ขาวโคตรเลย"หนึ่งมองด้วยความเจ้าเล่ห์ แฝงด้วยความใคร่ในแววตา แป๊ะ! เสียงประจำกลุ่มดังขึ้นอีกครา
"โอ๊ย ไอหมึกตบกะบาลกูไมเนี่ยะ" หนึ่งถามด้วยมึนงงปนความสงสัย
"ก็ดูมึงมองดิ แม่กงะจะกินเค้าอย่างนั้นอะ" หมึกตอบด้วยความสะใจที่ตบหัวหนึ่งได้ พร้อมกับทำสีหน้ายิ้มๆแบบกวนๆ
และแล้วประกาศรายงานตัวเรียกบัณฑิตก็ดังขึ้น บัณฑิตทุกคนต่างก็มาเข้าแถวตามรายดับรายชื่อตัวอักษรตัวหน้าของชื่อตัวเอง พอเข้ามาในหอประชุม ภูก็มองหาไปรอบๆเพื่อหาพวกพ้องเพื่อนฝูงของตัวเองพร้อมกับคิดในใจว่า "เอ...ไอพวกเพื่อนเวง มันไปนั่งตรงไหนกันบ้างว้าเนี่ยะ เออ..แต่วันนี้ก็ไม่เห็นไอแนทเลย ถ้ามันไม่อยู่กับไอนุแล้วมันจะไปอยู่กับใครน้า....เฮ้อ แต่ช่างเหอะ เรื่องของมันและ ไม่อยากจะยุ่งอะไรด้วยและ น่าเบื่อที่ต้องมาลองรับอารมณ์มัน ...."
และภูก็ยังคงมองไปรอบๆ จนมาสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่ง ภูจ้องมองดูผู้หญิงคนนั้นซักพัก ....
"เฮ้ย!!!!???? ไมผู้หญิงคนนั้นที่เราเคยเจอในร้านเกมส์ ตอนนั้นมานั่งอยู่ข้างเราตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ เอ๋ !? แล้ววันที่ซั้อมๆ เราไม่ได้นั่งติดกันนี่นา" ภูคิดในใจ พร้อมกับแสดงหน้าตางุนงง พร้อมกับจ้องหน้าเธอคนนั้นด้วยหัวใจที่เต้นรัว
"มีอะไรรึเปล่าคะ" ภูสะดุ้งเฮือกและตื่นจากอาการเหม่อลอยทันที เมื่อเธอคนนั้นหันกลับมามองภูที่กำลังจ้องหน้าเธอด้วยสายตาเหม่อลอย
"เอ่อ....เอ่อ.... เปล่าครับ คือเรา......เรา มองเพื่อนๆอยู่หนะ " ภูตอบพร้อมกับตั้งสติไปพร้อมกัน "เออ....ว่าแต่ เธอนั่งตรงนี้เหรอ เพนราะวันซ้อมเรายังไม่เห็นเธอเลย
อ๋อเปล่าหรอก เรานั่งจากเธอไปตั้ง 3คนแหนะ แล้วอยู่ดีๆ 3คนนั้นไม่มาซะงั้น ฮิฮิ บังเอิญจังเลยเน้อะ ภูงงกับคำพูดของเธอพร้อมกับคิดในใจ "บังเอิญ !? บังเอิญอะไรอะ เราตังหากที่บังเอิญ" แล้วภูก็ตอบกลับไปว่า
"บังเอญอะไรเหรอ"
"อ๋อ ฮิฮิฮิ เราหมายถึงว่าบังเอิญที่ 3คนหน้าเรานี้ไม่มารับปริญญาเฉยเลย"
"เอ่อ ! อืม....ช่าย บังเอิญจังเลยเน้อะ เหอะๆ" ภูตอบไปด้วยความเสียดาย เสียดายที่ว่าเธอไม่พูดคำว่าบังเอิญเจอตัวภูเอง
"เอ่อ....เธอชื่ออะไรเหรอ" ภูถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะด้วยความตื่นเต้นนั่นเอง แต่ทว่าเธอกลับ
"เราชื่อซี กลับผิดคาด เพราะภูที่ภูคิดไว้ว่า เธอคงจะไม่ตอบภูง่ายๆ แต่นี่เธอกลับตอบภูโดยไม่ลังเล "เอ้อ"ทำให้ภูดูอึ้งนิดๆ เมื่อตั้งสติได้จึงตอบกลับไปด้วยการแนะนำชื่อของตัวเอง "เราชื่อ ภู"
"อ้อ จ้า"
"ซี เรียนคณะไหนเหรอ"
"การตลาด"
"อืมๆ...แล้วได้งานทำยัง"
"ได้แล้วหละ"
"ที่ไหนเหรอ" ภูถามด้วยความสนใจและอยากรู้
"งานบริษัทหนะ แต่พ่อซีฝากให้ก็เลยได้เร็ว"
"แล้วภูหละได้งานยัง"
"ก็พรุ่งนี้จะไปสมัครโรงแรม"
"โรงแรมไรเหรอ"ซีก็ถามภูด้วยความอยากรู้บ้าง
"โรงแรมโรสแมรี่ รีสอร์ทแอนด์สปา"
"5ดาวใช่เปล่า"
"ช่าย"
ทั้ง 2คุยกันไปกันมาเหมือนกับว่ารู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เสลาผ่านไป จนพิธีการรับปริญญาเสร็จสมบูรณ์ บัณฯฑิตทุกคนก็พากันออกจากหอประชุม
"ซี มีเบอร์โทรศัพท์เปล่า ภูจะขอไปได้มั้ยอะ เผื่อภูมีอะไรก็อยากโทรไปคุยกับซีเล่นๆ "
"เออ......ขอโทษนะภูมือถือเราพึ่งหายไปไม่กี่วันนี้เอง อืม....งั้นเอาอีเมลไปก่อนได้มั้ยอะ" ภูทำหน้าเศร้าเล็กน้อยปนความเสียดาย
"อืมได้ งั้นถ้าซื้อมือถือใหม่แล้วเอาเบอร์เมลมาบอกภูด้วยนะ "
แม้ไม่ได้เบอร์มือถือของซี แค่นี้ภูก็ดีใจแล้วที่อย่างน้อยก็ขออีเมลซีมาได้ ซีเดินไปขอยืมกระดาษจากอาจารย์ มาเขียนใส่กระดาษทิชชู่ที่ซีพกไว้ เมื่อเขียนเสร็จก็ส่งให้ภู "เดี๋ยวซีขอตัวก่อนนะ ซีต้องไปหาพ่อกับแม่ พ่อกับแม่รออยู่"
"อืม...."ภูตอบเพียงสั้นๆพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
"ซีไปนะ แล้วเจอกัน"ซีกับภูก็บ๊ายบายกัน แล้วซีก็เดินหายวับไป
ภูยิ้มย่างชื่นบาน และในใจภูก็ไม่ได้คิดถึงอะไรอื่นเลยนอกจากซ เพราะภูเองก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้มารู้จักรกับซี ภูเดินออกไปตามทางออกพร้อมกับเบียดเสียดกับบัณฑิตคนอื่นๆเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
ไม่นานพอออกมาได้ภูก็เดินตามหาเพื่อนๆ แป๊ะ!!! ในที่สุดก็เจอจนได้ ภูคิดในใจ เพราะการตบกบาลนี่เองที่เป็นเสียประจำกลุ่ม ทำให้ภูรู้ว่าไอคนที่ตบหัวเนี่ยะต้องเป็นเพื่อนในกลุ่มคนใดคนหนึ่งแน่ ภูหันกลับไปดู
"อ้าว ไอน่องมึงไปนั่งตรงไหนว้า"
"กูนั่งอยู่แถวหน้า หาพวกมึงไม่เจอซักตัว"
แป๊ะ!!!!! และก็เป็นอีกครั้งที่เสียงประจำกลุ่มดังขึ้น
"มึงหาใครว้า"เชนั่นเองที่เป็นมือตบในคราวนี้ และคนที่โดนกลับกลายเป็นน่องแทน
"อ้าว!? ไอห่ากูหาตั้งนาน มากันครบยังว้า ....เฮ้ย งั้นมาถ่ายรูปกันถ้ามากันครบแล้วอะ ยังไม่ได้ถ่ายตอนถือปริญญาบัตรเลย เฮ้ยๆ....ถ่ายรูปๆ"
น่องเรียกทุกคนมาถ่ายรูปร่วมกัน ต่างคนต่างมีความสุขยิ้มแย้มน่าชื่นตาบานกันทั่วหน้า เพราะกว่าจะเรียนจบได้ก็ลำบากแทบแย่ ระหว่างที่กำลังถ่ายรูปอยู่นั้นภูได้เหลือบไปเห็นแนทกำลังเดินจูงมือถ่ายรูปอยู่กับนุ และตูนก็แอบเหลือบไปเห็นด้วยเช่นกัน
"เฮ้ยไอภู ไอ2คนนั้นมันเลิกกันจริงเหรอว้า" ตูนถามด้วยความงงปนความสงสัย
"ไม่รู้หวะ แต่กูคงไม่ยุ่งด้วยแล้ว กูเบื่อ!!!!" ภูตอบด้วยสีหน้าตามอารมณ์ที่พูด เพราะในใจภูตอนนี้ไม่อยากจะสนใจใครหรือเรื่องของใครนอกจากซี "ไม่นึกเลยว่าซีจะคุยดีกับเราอย่างนี้ และก็ไม่คิดว่าจะได้มารู้จักรกัน และคุยกันอย่างถูกคอจริงๆ" ภูวเราะในใจและยิ้มด้วยสีหน้าที่มีแต่ความสุข....