หมอ คือ ผู้ให้บริการทางการแพทย์และอนามัยแก่ชุมชน เพื่อบำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพและป้องกันโรคทั่วๆไปได้โดยถูกต้องเหมาะสมด้วยการวินิจฉัยโรค สั่งยา และให้การรักษาทางอายุรกรรม และศัลยกรรมในความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจของมนุษย์ ดังนั้น หมอจึงเป็นอาชีพที่ต้องมีความเสียสละเป็นอย่างมาก ในบางครั้งอาจจะตั้งเสียสละมากกว่าอาชีพอื่นเสียด้วยซ้ำ เมื่อรู้เช่นนี้แล้วคุณยังอยากจะเป็นหมออยู่อีกไหม สำหรับฉัน หมอในความคิดของฉันคือ ผู้ที่มีความใจบุญศุลทาน พร้อมให้บริการผู้ป่วยด้วยความเต็มใจโดยไม่มีความรังเกียจหรือแบ่งชนชั้นของผู้ป่วย มีความเสียสละ เสียสละแรงกายแรงใจ ถึงแม้ข้างหน้าจะมีอุปสรรคอันตรายมากเพียงใด ผู้ที่เป็นหมอที่ดีก็ย่อมจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคอันตรายนั้น ๆ ไปได้ด้วยพลังกายพลังใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจรรยาบรรณของความเป็นหมอ แต่ในปัจจุบัน มีหมออยู่ 2 ประเภท คือ หมอที่เห็นแล้ว น่าสงสารพยาบาลและเภสัชกร กับหมอที่เห็นแล้วน่าสงสาร สำหรับหมอประเภทแรกคือ หมอที่มีจรรยาบรรณเสื่อมถอยลงไปจนในทุกวันนี้แทบจะหาหมอที่ดีมีจรรยาบรรณมิได้เลย ถึงจะรักษาผู้ป่วยด้วยความเต็มใจ แต่ข้างในลึก ๆ แล้ว คนที่เป็นหมอก็ต้องผลตอบแทนจากการรักษาของตน เปรียบเสมือนเป็นค่าวิชาความรู้ที่ตนเรียนมา ไม่แปลกนักที่หมอทั่วไปจะคิดเช่นนั้น เนื่องจากมนุษย์ทุกคนย่อมมีความโลภและเห็นแก่ตัวอยู่ใจในเสมอ แต่ถ้ามนุษย์ที่เป็นหมอสามารถควบคุมจิตใจของตนเองให้ไม่ลุ่มหลงไปกับสิ่งเหล่านี้ ความโลภและเห็นแก่ตัวก็จะไม่สามารถทำลายหน้าที่และจรรยาบรรณของหมอได้ แต่น่าเสียดายที่หมอส่วนใหญ่กลับไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ปล่อยให้ตนเองหลงไปตามสิ่งเร้าเหล่านี้ จนทำให้หลงลืมว่า ตนเองเรียนวิชาการแพทย์เหล่านี้มาเพื่ออะไร สำหรับชื่อที่ฉันตั้งให้หมอประเภทนี้ เนื่องจาก อย่าที่บอกข้างต้นแล้วว่า หมอประเภทนี้มักจะไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองเท่าที่ควร ดังนั้น ภาระหน้าที่ทั้งหลายจึงตกอยู่กับพยาบาล เภสัชกร และบุคลากรในโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เมื่อเห็นหมอประเภทนี้และนึกสงสารพยาบาล เภสัชกร และบุคลากรในโรงพยาบาลจริง ๆ หมออีกประเภทหนึ่ง หมอประเภทนี้เป็นพวกหมอที่น่าสงสาร คือประเภทที่เรียนหมอโดยไม่ได้มีความรักความชอบในอาชีพนี้เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ต้องเรียนเพราะโดนทางบ้านบังคับ หมอประเภทนี้เป็นพวกที่มีอาชีพในดวงใจที่รักที่ชอบอยู่แล้ว และถ้าได้เรียนและประกอบอาชีพตามสายงานที่ชอบนั้น ก็จะเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพนั้นได้เป็นอย่างดี แต่กลับถูกบังคับให้เรียนในสิ่งที่ตนไม่ชอบ ไม่รัก ทำให้การเรียนนั้น เรียนไปแบบเรื่อยเปื่อย ไม่เอาจริงเอาจังนัก และเมื่อไปประกอบอาชีพ ถึงแม้จะทำหน้าที่นั้นด้วยความยินดีแต่หมอเหล่านี้ก็จะทำหน้าที่ไม่ได้เต็มที่เท่าที่ควร เนื่องจากเมื่อไม่มีใจรักก็ย่อมไม่มีการฝักใฝ่ในการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวการดูแลรักษาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราจะไปโทษหมอที่เป็นเช่นนี้ไม่ได้ เนื่องจากสิ่งที่ทำมันไม่ได้เป็นความรักความชอบของเขา ฉันจึงได้บอกว่า หมอประเภทนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารอย่างยิ่ง นอกจากที่กล่าวมาแล้วหมอที่ดีมีจรรยาบรรณก็ยังมีอยู่ เพราะก็มีหลายคนที่เลือกเรียนหมอเพราะความรักความชอบและต้องการอยากช่วยเหลือผู้คนจริง ๆ และหมอเหล่านี้เมื่อมาทำหน้าที่แล้ว ก็จะมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษา ทำให้เกิดการพัฒนาตนเองและประกอบอาชีพได้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรียงความเรื่องนี้ น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้ใครอีกหลาย ๆ คนที่กำลังคิดที่จะเลือกเรียนหมอ
10 กุมภาพันธ์ 2551 21:51 น. - comment id 99002
ผู้ให้บริการทางดนตรี "หมอลำ" ผู้ให้บริการทางโชคชะตา "หมอดู" ผู้ให้บริการด้านการเกษตร "หมอดิน" ผู้ให้บริการทางเพศ "หมอ... หมอผสมเทียม" คุณก็เป็นหมอได้ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
11 กุมภาพันธ์ 2551 20:25 น. - comment id 99005
...ผมเป็นหมอเหมือนกัน พบปะคนไข้ ก็รักษาไปตามมีตามเกิด จัดยาไปให้ต้มกิน รักษาไปรักษามาจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว เพราะคนป่วย ต่างบอกว่าไม่มีเงิน โกหกแท้ๆ ทั้งๆที่มีเงินแท้ๆ แต่บอกว่าไม่มี ที่จริงถ้าไม่อยากป่วยก็จงอย่าป่วย ถ้าไม่มีเงินก็อย่ามารักษา แต่เขาถูกลูกหลาน บังคับหามขึ้นรถมารักษา น่าเบื่อคนโกหก คุยกับผีดีกว่า "ผีโกหกไม่เป็น" เขาเลยเรียกผมว่า "หมอผี"