สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหมอ

ไผ่พิชญา

หมอ  คือ   ผู้ให้บริการทางการแพทย์และอนามัยแก่ชุมชน เพื่อบำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพและป้องกันโรคทั่วๆไปได้โดยถูกต้องเหมาะสมด้วยการวินิจฉัยโรค สั่งยา และให้การรักษาทางอายุรกรรม และศัลยกรรมในความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจของมนุษย์  ดังนั้น หมอจึงเป็นอาชีพที่ต้องมีความเสียสละเป็นอย่างมาก  ในบางครั้งอาจจะตั้งเสียสละมากกว่าอาชีพอื่นเสียด้วยซ้ำ  เมื่อรู้เช่นนี้แล้วคุณยังอยากจะเป็นหมออยู่อีกไหม
	สำหรับฉัน  หมอในความคิดของฉันคือ  ผู้ที่มีความใจบุญศุลทาน  พร้อมให้บริการผู้ป่วยด้วยความเต็มใจโดยไม่มีความรังเกียจหรือแบ่งชนชั้นของผู้ป่วย  มีความเสียสละ  เสียสละแรงกายแรงใจ  ถึงแม้ข้างหน้าจะมีอุปสรรคอันตรายมากเพียงใด  ผู้ที่เป็นหมอที่ดีก็ย่อมจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคอันตรายนั้น ๆ ไปได้ด้วยพลังกายพลังใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจรรยาบรรณของความเป็นหมอ  แต่ในปัจจุบัน  มีหมออยู่ 2  ประเภท  คือ หมอที่เห็นแล้ว  น่าสงสารพยาบาลและเภสัชกร  กับหมอที่เห็นแล้วน่าสงสาร  สำหรับหมอประเภทแรกคือ  หมอที่มีจรรยาบรรณเสื่อมถอยลงไปจนในทุกวันนี้แทบจะหาหมอที่ดีมีจรรยาบรรณมิได้เลย  ถึงจะรักษาผู้ป่วยด้วยความเต็มใจ  แต่ข้างในลึก ๆ แล้ว  คนที่เป็นหมอก็ต้องผลตอบแทนจากการรักษาของตน  เปรียบเสมือนเป็นค่าวิชาความรู้ที่ตนเรียนมา  ไม่แปลกนักที่หมอทั่วไปจะคิดเช่นนั้น  เนื่องจากมนุษย์ทุกคนย่อมมีความโลภและเห็นแก่ตัวอยู่ใจในเสมอ  แต่ถ้ามนุษย์ที่เป็นหมอสามารถควบคุมจิตใจของตนเองให้ไม่ลุ่มหลงไปกับสิ่งเหล่านี้  ความโลภและเห็นแก่ตัวก็จะไม่สามารถทำลายหน้าที่และจรรยาบรรณของหมอได้  แต่น่าเสียดายที่หมอส่วนใหญ่กลับไม่สามารถควบคุมตนเองได้  ปล่อยให้ตนเองหลงไปตามสิ่งเร้าเหล่านี้  จนทำให้หลงลืมว่า  ตนเองเรียนวิชาการแพทย์เหล่านี้มาเพื่ออะไร   สำหรับชื่อที่ฉันตั้งให้หมอประเภทนี้  เนื่องจาก อย่าที่บอกข้างต้นแล้วว่า  หมอประเภทนี้มักจะไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองเท่าที่ควร  ดังนั้น  ภาระหน้าที่ทั้งหลายจึงตกอยู่กับพยาบาล  เภสัชกร และบุคลากรในโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่  ทำให้เมื่อเห็นหมอประเภทนี้และนึกสงสารพยาบาล  เภสัชกร และบุคลากรในโรงพยาบาลจริง ๆ    หมออีกประเภทหนึ่ง  หมอประเภทนี้เป็นพวกหมอที่น่าสงสาร  คือประเภทที่เรียนหมอโดยไม่ได้มีความรักความชอบในอาชีพนี้เลยแม้แต่น้อย  เพียงแต่ต้องเรียนเพราะโดนทางบ้านบังคับ  หมอประเภทนี้เป็นพวกที่มีอาชีพในดวงใจที่รักที่ชอบอยู่แล้ว  และถ้าได้เรียนและประกอบอาชีพตามสายงานที่ชอบนั้น  ก็จะเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพนั้นได้เป็นอย่างดี  แต่กลับถูกบังคับให้เรียนในสิ่งที่ตนไม่ชอบ  ไม่รัก  ทำให้การเรียนนั้น  เรียนไปแบบเรื่อยเปื่อย ไม่เอาจริงเอาจังนัก  และเมื่อไปประกอบอาชีพ  ถึงแม้จะทำหน้าที่นั้นด้วยความยินดีแต่หมอเหล่านี้ก็จะทำหน้าที่ไม่ได้เต็มที่เท่าที่ควร  เนื่องจากเมื่อไม่มีใจรักก็ย่อมไม่มีการฝักใฝ่ในการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวการดูแลรักษาให้ดียิ่งขึ้น  ซึ่งเราจะไปโทษหมอที่เป็นเช่นนี้ไม่ได้  เนื่องจากสิ่งที่ทำมันไม่ได้เป็นความรักความชอบของเขา    ฉันจึงได้บอกว่า หมอประเภทนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารอย่างยิ่ง
	นอกจากที่กล่าวมาแล้วหมอที่ดีมีจรรยาบรรณก็ยังมีอยู่  เพราะก็มีหลายคนที่เลือกเรียนหมอเพราะความรักความชอบและต้องการอยากช่วยเหลือผู้คนจริง ๆ   และหมอเหล่านี้เมื่อมาทำหน้าที่แล้ว  ก็จะมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษา  ทำให้เกิดการพัฒนาตนเองและประกอบอาชีพได้ดียิ่งขึ้น
	สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า  เรียงความเรื่องนี้ น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้ใครอีกหลาย ๆ คนที่กำลังคิดที่จะเลือกเรียนหมอ
				
comments powered by Disqus
  • อุ้ยเสี่วป้อ

    10 กุมภาพันธ์ 2551 21:51 น. - comment id 99002

    ผู้ให้บริการทางดนตรี "หมอลำ"
    ผู้ให้บริการทางโชคชะตา "หมอดู"
    ผู้ให้บริการด้านการเกษตร "หมอดิน"
    ผู้ให้บริการทางเพศ "หมอ... หมอผสมเทียม"
    
    คุณก็เป็นหมอได้ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
  • หมอคุยกะผี

    11 กุมภาพันธ์ 2551 20:25 น. - comment id 99005

    14.gif
    
    ...ผมเป็นหมอเหมือนกัน  พบปะคนไข้  ก็รักษาไปตามมีตามเกิด  จัดยาไปให้ต้มกิน
    รักษาไปรักษามาจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว  เพราะคนป่วย
    ต่างบอกว่าไม่มีเงิน  โกหกแท้ๆ  ทั้งๆที่มีเงินแท้ๆ
    แต่บอกว่าไม่มี  ที่จริงถ้าไม่อยากป่วยก็จงอย่าป่วย  ถ้าไม่มีเงินก็อย่ามารักษา  แต่เขาถูกลูกหลาน
    บังคับหามขึ้นรถมารักษา  น่าเบื่อคนโกหก  คุยกับผีดีกว่า
    "ผีโกหกไม่เป็น"  เขาเลยเรียกผมว่า "หมอผี"

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน