ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ ที่นิยมซื้ออาหารถุง รับประทาน ย่อมหมดโอกาสที่จะเห็นข้าวก้นครก ข้าวก้นครกเกิดจาก การตำน้ำพริกกินเอง เช่น น้ำพริกปลาทูย่าง หรือจะเป็นปลาช่อน ปลาดุกย่าง น้ำพริกกะปิ น้ำพริกตาแดง ฯลฯ แต่ถ้าเป็นคนรุ่นเก่าๆ สักนิด ซึ่งยังตำน้ำพริกเอง เมื่อปรุงน้ำพริกเสร็จแล้ว ปกติจะปรุงทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อบในครก พอตักน้ำพริกออกใส่ถ้วย จะเหลือน้ำพริกติดก้นครกอยู่ เสียดายของ อย่ากระนั้นเลย ตักข้าวสวยร้อนๆใส่ลงไป ต้องการรสชาดเข้มข้น ก็ใส่ข้าวหนึ่งทัพพี แต่ถ้าจะให้เด็กๆกินได้ ใส่ข้าวมากหน่อย จะได้ไม่เผ็ด ค่อยๆคลุกข้าวเบามือ ข้าวร้อนๆจะทำความสะอาดครกไปในตัว อย่าตำข้าวจนแหลก เอาแค่ข้าวเข้ากันได้ดีกับน้ำพริก แล้วตักใส่จาน ถ้าจะให้สวยงาม ตักข้าวใส่ถ้วยน้ำซุป แล้วคว่ำลงในจาน ยกถ้วยออก จะได้ข้าวก้นครกในรูปทรงสวยงาม จัดแตงกวา ถั่วฝักยาว แถมไข่ต้มผ่าซีก สักฟอง ครึ่งฟอง รับรองจะอร่อยมาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กัยฝีมือแม่ครัว ที่ปรุงน้ำพริกด้วยนะ ข้าวก้นครกจานนี้มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้ทั้งประโยชน์ และ ประหยัด ไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว แต่มีข้อควรระวัง คือกะปิที่นำมาปรุงน้ำพริก ควรเลือกกะปิอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยง กรวด ทราย ที่จะติดมาด้วย เพราะสุดท้ายของการตำน้ำพริก พวกกรวด ทรายจะติดอยู่ที่ก้นครก เวลาที่กินข้าวก้นครก เคี้ยวไปโดนกรวดเข้า....จะเสียความรู้สึก แล้ว...ก็...เสียวฟัน จะหมดอร่อย.
8 มกราคม 2551 08:04 น. - comment id 98857
นอกจากข้าวก้นครกแล้ว ผมยังเคยกินข้าว ก้นหม้อ ก้นกะทะด้วยครับ โดยเฉพาะผัดเผ็ดปลาไหล รับรองต้องมีข้าวก้นกะทะปิดท้ายรายการ
8 มกราคม 2551 10:03 น. - comment id 98859
สวัสดี คนบนเกาะ พูดถึงข้าวก้นกะทะ ตอนเด็กๆโน้น ที่บ้านเคยเลี้ยงหมู ต้องใช้กะทะใบบัวหุงปลายข้าว พอตักข้าวออก ที่เหลือติดกะทะ จะค่อยๆแห้งกรอบ หอมอร่อย เพราะไฟถ่านยังคุกรุ่น วิ่งเล่นเหนื่อยๆ ก็ไปหยิบกินเล่นแทนขนม เฮ้อ......ตอนเป็นเด็ก สนุกจัง ขอบคุณที่แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
8 มกราคม 2551 10:10 น. - comment id 98860
แสดงว่าคุณกระถินริมรั้วก็เคยอยู่ชนบท ที่นี่เวลามีงานบวช งานแต่ง เค้าจะหุงข้าวกับกะทะเหมือนกัน พอตักข้าวออกหมดจะเหลือตังข้าวก้นกะทะ เด็ก ๆ ชอบมากครับ ใครเอาหนมถุงมาแลกก็ไม่ยอม ( ก็สมัยนั้นเด็ก ๆ เคยเห็นหนมถุงที่ไหน หุหุ )