"ถ้าจะชวนไป วัดพระบาทน้ำพุ กลัวหรือเปล่า กลัวคนเป็นโรคเอดส์มั๊ย ?"

อัลมิตรา

"ถ้าจะชวนไป วัดพระบาทน้ำพุ กลัวหรือเปล่า กลัวคนเป็นโรคเอดส์มั๊ย ?"
สามวันที่ผ่านมา จู่ ๆ ฉันก็เอ่ยปากชวนเพื่อนคนหนึ่ง
เธอไม่ได้ตอบว่ากลัวหรือเปล่า แต่เธอตอบว่า 
"ไปเมื่อไหร่บอกมาแล้วกัน ถ้าไม่ติดอะไรจะไปด้วย.."
ต้องยอมรับว่า ฉันยังไม่ได้วางแผนถึงวันที่จะเดินทางไป 
ในช่วงที่งานชุกซะขนาดนี้ นึกไม่ออกว่าจะลงตัวในวันไหนดี
แต่ในใจคิดนะ .. คิดถึงวันเด็ก เด็กที่นั่นจะได้มีความสุขเหมือนเด็กที่อื่น ๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ถึงตอนนั้นแล้ว จะพอเคลียร์งานให้บางเบาลงได้หรือยัง
ฉันบอกเพื่อนว่า ถ้าไป คงเป็นการเดินทางไปแบบเงียบ ๆ ไม่เอิกเกริก
สำหรับตอนนี้ฉันก็หาข้อมูลในเน็ตไปเรื่อย เกี่ยวกับเส้นทางการเดินทางบ้าง
เกี่ยวกับความเป็นมาของวัดพระบาทน้ำพุด้วย อ่านเรื่องราว ดูรูปภาพ
บอกตรง ๆ สลดใจ 
มันค้างคาในใจยังไงก็ไม่รู้ กับความตั้งใจในครั้งนี้
อันที่จริงฉันควรจะถามตัวเองก่อนว่า
"ถ้าจะไป วัดพระบาทน้ำพุ กลัวหรือเปล่า กลัวคนเป็นโรคเอดส์มั๊ย ?"				
comments powered by Disqus
  • aihu

    20 ธันวาคม 2550 07:54 น. - comment id 98716

    กำลังใจให้เอดส์... 
    Posted by aihu , ผู้อ่าน : 18 , 19:39:42 น.   | หมวดหมู่ : ไดอารี่-บันทึกไว้ในความทรงจำ   
     พิมพ์หน้านี้ 
    
    
    
    "ถ้าจะชวนไป วัดพระบาทน้ำพุ กลัวหรือเปล่า"
    
    "กลัวคนเป็นโรคเอดส์มั้ย"
    
    ฉันถามเพื่อนกลับไปว่า
    
    "ไปเมื่อไหร่บอกมาแล้วกัน ถ้าไม่ติดอะไรจะไปด้วย"
    
    แต่ฉันตอบเพื่อนไม่ได้ว่า ฉันกลัวหรือเปล่า ถ้ากลัว ฉันจะกลัวอะไร กลัวติดเชื้อ หรือกลัวภาพที่จะเห็นตรงหน้า..
    
    เพื่อนทำให้ฉันนึกย้อนไปเมื่อช่วงที่ฉันยังเรียนหนังสือ มีวิชาที่ต้องนำเสนอต่อหน้าชุมชน คุณจะเลือกหัวข้ออะไรก็ได้ เพียงแต่ขอให้หัวข้อนั้นเป็นที่น่าสนใจ..
    
    ฉันคิดแทบหัวจะระเบิด จะเอาอะไรไปพูด แล้วจะพูดอย่างไรเพื่อดึงความสนใจให้คนฟังฉัน..
    
    แล้วฉันก็ได้หัวข้อ หัวข้อที่ฉันนำเสนอก็คือ "กำลังใจให้เอดส์"
    
    ฉันตอบไม่ได้ว่าทำไม ทำไมฉันเลือกหัวข้อนี้ ฉันรู้แต่เพียงว่าช่วงนั้นโรคเอดส์ เป็นโรคที่ทุกคนหวาดผวา หวาดกลัว กลัวว่าจะติดเชื้อ กลัวคนโรคจิตที่ชอบกลั่นแกล้งในห้วงเวลานั้น แม้แต่คนที่เป็นญาติก็ยังรังเกียจคนในครอบครัวของตัวเองที่ติดเชื้อ
    
    ขณะที่ฉันกำลังนำเสนอนั้น ทุกคนในชั้นให้ความสนใจฟังกันอย่างเงียบกริบ ต่างจากเมื่อสักครู่ก่อนที่ฉันจะนำเสนอที่มีเสียงพูดคุยกันตลอดเวลา..
    
    "กำลังใจให้เอดส์" หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องมีกำลังใจให้เอดส์ ให้กำลังใจเพื่อให้เอดส์ขยายวงกว้างหรือ เปล่าเลย ในความหมายของฉันก็คือ การให้กำลังใจแกผู้ป่วยที่ติดเชื้อ เอดส์เป็นโรคใหม่ที่ทุกคนหวาดกลัว การให้กำลังใจแกผู้ป่วย ก็เพื่อให้เขามีกำลังใจสู้ ดีกว่าจะมาตั้งท่ารังเกียจ แทนที่จะซ้ำเติมแต่มาเพิ่มพลังใจให้..
    
    ฉันจำรายละเอียดไม่ได้มาก เพราะเหตุการณ์วันนั้นมันผ่านมาเนิ่นนาน นานเกินจดจำรายละเอียดทั้งหมด ฉันจำได้เพียงว่า เอดส์ สร้างกำลังใจให้ฉันนำเสนอ และเอดส์ก็ทำให้หัวข้อที่ฉันนำเสนอ ดึงดูดคนฟังให้หยุดพูดและเปลี่ยนเป็นฟังแทน..
    
    วันนี้ฉันบอกเพื่อนไม่ได้ว่าฉันกลัวหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเปล่าก็คงเหมือนคนโกหก แต่ความกลัวของฉันมันคืออะไร อย่างที่ฉันกล่าวข้างต้น ฉันกลัวติดเชื้อ หรือฉันกลัวว่าภาพตรงหน้าจะนำความหดหู่มาสู่จิตใจ..
    
    ฉันตอบเธอไม่ได้ในคำถาม..
    
    แต่ฉันบอกได้เพียงว่า ถ้าฉันไม่ติดอะไรฉันจะร่วมเดินทางกับเธอด้วย..
  • ลุงแทน

    20 ธันวาคม 2550 08:25 น. - comment id 98717

    36.gif ดีมากที่ถามใจตนเองว่า ""ถ้าจะไป วัดพระบาทน้ำพุ กลัวหรือเปล่า กลัวคนเป็นโรคเอดส์มั๊ย ?"   
    
    36.gif  ลุงแทนตอบให้ว่าไม่ต้องกลัว เพราะที่วัดพระบาทน้ำพุ ทำให้เราเห็นสัจธรรม  ลุงแทนเองก็ไปเอาข้อมูลที่นั้นมา  เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับผู้เข้ารับการอบรม  อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้ตระหนักในเรื่องโรคเอดส์
    ได้มากขึ้นถึงแม้ว่าจะได้รับผลสนองไม่มากเท่าที่ควรก็ตาม
  • เพียงแพรว

    20 ธันวาคม 2550 08:40 น. - comment id 98718

    กลัวค่ะ กลัวโรคเอดส์ แต่แพรวเคยคลุกคลีกับคนเป็นโรคเอดส์
    เมื่อก่อนเคยคิดทั้งกลัวทั้งรังเกียจ
    แต่พอถึงตอนหนึ่ง คนที่เป็นโรคเอดส์คือคนที่เราคุ้นเคย
    และรู้จักดี แล้วยังเป็นเหมือนญาต ฺที่ดีกับเรา
    เคยดูแลเราตอนเด็กๆ 
    จนวันหนึ่งเขาเกิดติดเชื้อนี้ขึ้นมา จะด้วยทางใดก็ไม่รู้ เราเองทั้งสงสารและก็กลัว
    แต่จะให้รังเกกียจคนที่มีพระคุณกับเราก็ไม่กล้า
    ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจไปเยี่ยมและไปดูแลท่าน
    แม่บอกว่า ทำอะไรได้ก็ทำไปเถอะ 
    สงสารท่าน เราก็เลยไปช่วยดูแล ไปเยี่ยม
    จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นเป็นอะไร
    จนท่านจากไป ถึงตอนนี้ก็เลยคิดว่าคนที่เป็นโรคเอดส์นี่น่าสงสาร
    ลองคิดดูว่า ถ้าเรารู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
    แล้วยังมีคนมาแสดงท่าทางรังเกียจอีก
    เขาจะรู้สึกยังไง น่าสงสารนะคะ
    อย่างน้อย แพรวว่าถ้าไม่อยากไปคลุคลี
    ก็อย่าแสดงท่าทางรังเกียจก็พอ
    ทำให้ชีวิตของเขาที่เหลืออยู่ได้มีความสุขเถอะค่ะ
    เป็นบุญนะคะ
    
    เคยได้ยินชื่อวัดพระบาทน้ำพุมานานแล้ว
    ถ้ามีโอกาสก็อยากไปค่ะ
    
    6.gif6.gif
  • ครูพิม

    20 ธันวาคม 2550 10:23 น. - comment id 98719

    1.gif
    
    ไม่กลัวคนที่เป็นโรคเอดส์ค่ะ
    แต่กลัวภาพที่จะต้องไปพบเห็น
    เคยดูในสารคดีที่เขามาฉายที่โรงเรียน
    ยังสลดใจ....และร้องไห้เลย..
    
    ที่ตอบว่าไม่กลัว..ไม่ใช่เพราะอยู่ไกลไม่มีโอกาสไป
    เคยสัมผัส....เด็กที่ติดเชื้อเอดส์มาจากผู้ปกครอง..
    เป็นมรดกที่เขาไม่ต้องการ...
    
    มันสังเวช หดหู่ใจไม่ลืม...
    
    ภาพที่เห็นเด็กน้อย...แย่ลุงทุกวัน...
    ภาพที่เราเห็น...กลัว..ค่ะ...ไม่อยากให้มีภาพเหล่านี้
    นใบ้านเราเลย..
    
    16.gif16.gif16.gif
  • คนบนเกาะ

    20 ธันวาคม 2550 15:12 น. - comment id 98723

    36.gifเหมือนคุณน้องครูพิมพูด  คือความหดหู่ใจ  แต่ปัจจุบันได้ข่าวว่าการแพร่ระบาดไม่ลดลงเลย  คนส่วนมากก็ชาชินกับโรคนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะวัยรุ่น ก็ยังไม่โดนเข้ากับตัวเองนี่  โดนเมื่อไหร่ก็สายไปแล้วเมื่อนั้น
  • กุ้งหนามแดง

    20 ธันวาคม 2550 17:01 น. - comment id 98724

    เราขอบตอบตรงๆ ว่ากลัวจ๊ะ
  • ปราณรวี

    20 ธันวาคม 2550 17:19 น. - comment id 98725

    
    โรคเอดส์ไม่ติดกันง่ายแค่ไปเดินดูหรือเยี่ยมหรอกจ้า
    
    ป เคยไปดูตั้งแต่ยังเป็น นศ   สมัยนั้นคนไข้
    กับสภาพแวดล้อมแย่มากกกก  ...  รพ  ก็ยัง
    สร้างไม่เสร็จ  คนไข้อยู่กันแบบอนาถากว่า
    ปัจจุบันเยอะเลยค่ะ   
    
    เดี๋ยวนี้ข่าวคราว ความเป็นอยู่ของคนที่วัด
    ถูกเปิดเผยไปยังสาธารณชนมากขึ้น  ถ้า
    ใครไปเห็นแล้วกลับมาจะปลงกับชีวิตมาก
    ขึ้น  พวกเขาน่าสงสารมากค่ะ แล้วก็ต้องการ
    กำลังใจจากคนภายนอก เวลามีใครไปเยี่ยม
    ไปพูดคุยด้วย เขาจะมีความสุขกันมาก
    
    เชียร์ๆ ให้ไปดู ไปเยี่ยมนะคะ  จะเห็นว่า
    ชีวิตที่ทุกข์หนักของเราไม่ได้ครึ่งของพวกเขา
    เลยค่ะ
    
    ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อกลับมาหรอกค่ะ
    
    11.gif
  • กีกี้

    20 ธันวาคม 2550 18:27 น. - comment id 98726

    เป็นสิ่งที่ดีที่จะนึกถึงใครที่อีกหลายคนกลัว และไม่อยากจะนึกถึง
    
    แต่การเข้าไปเยี่ยมเยียนหรือทำกิจกรรมเพื่อคืนสู่สังคมในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีนี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ควรต้องระวังการใช้คำพูดให้มาก
    
    หาไม่ ความตั้งใจจะสร้างกำลังใจให้แก่พวกเขา 
    อาจกลายเป็นทำลายกำลังใจไปได้อย่างที่ผู้ที่คิดว่าจะเป็นผู้ให้คาดไม่ถึง
    
    หลายกลุ่ม หลายสังคม ละเอียดอ่อน และอ่อนไหวเกินกว่าใครอีกหลายคนนึกถึง
    เจตนาความหวังดี อาจกลายเป็นทำร้ายไปได้อย่างไม่รู้ตัว
    
    เราในฐานะเคยเป็นอาสาสมัครและทำกิจกรรมรณรงค์ด้านโรคเอดส์มานานปี
    คลุกคลีกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีมาพอสมควร อาจไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งถึงความรู้สึกของพวกเขามากนัก
    แต่เพียงแค่อ่านชื่อกระทู้ ก็รู้สึกไหวไปเหมือนกัน
    พลางคิดแทนผู้ป่วยเหล่านั้นว่า "หากพวกเขามาอ่านพบ จะรู้สึกเช่นไร" 
    
    และทำให้พาลกังวลไปอีกว่า 
    หากทริปนี้จัดสำเร็จ .. คำพูดที่จะมีต่อผู้ป่วยเหล่านั้นจะเป็นเช่นไรหนอ 
    
    ไม่ได้ต่อต้าน เพียงแค่สะกิดเล็กๆ ถึงถ้อยคำที่ใช้ .. 
    และนับถือในน้ำใจอันดีงามของทุกผู้ที่จะมีต่อหัวใจทุกดวงบนโลกใบนี้
    
    หากเพียงแต่ .. 
    ควรต้องรู้เท่าทันความละเอียดอ่อนบ้างเท่านั้น
  • อัลมิตรา

    21 ธันวาคม 2550 08:25 น. - comment id 98736

    สำหรับโรคเอดส์ โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไปมากมาย โรคร้ายที่ทิ้งรอยแผลไว้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่
    โรคร้ายที่กลายเป็นเพื่อนที่ผู้ป่วยจำต้องยอมรับว่าตนเองต้องอยู่กับมัน โรคร้ายที่ ... อื่น ๆ ... และ อื่น ๆ 
    สำหรับผู้ที่ไม่รู้ สำหรับผู้ที่รู้ไม่รอบ อาจจะมีความหวาดกลัวต่อโรคร้ายนี้จนเกินเหตุ กลัวติดโรค  ฯลฯ
    สำหรับผู้ที่ยังคนองอยู่ในวงกาม ยาเสพย์ติด ก็ยังคงวนเวียนคลุกคลีกับมหันตภัยนี้อย่างไม่สิ้นสุด
    
    จริงอยู่กับการที่เรารับรู้ว่า โรคเอดส์เป็นโรคร้าย 
    แต่เราควรรู้มากกว่านั้น ถึงการป้องกันตนเอง
    และที่สำคัญที่ควรรู้ที่สุด คือ การอยู่ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคเอดส์ได้โดยปลอดภัย
    โดยไม่ส่งผลกระทบจิตใจของผู้ที่ติดโรคเอดส์ ควรให้กำลังใจ และปฏิบัติต่อกันอย่างปกติ
    
    ทฤษฏีเป็นเช่นนั้น .. ทว่า ความรู้สึกภายในจิตใจของแต่ละบุคคล จะเป็นเช่นไร
    ถามตัวเองให้มาก ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจให้คำตอบต่อตัวเอง
    
    อัลมิตราถามประโยคที่เป็นชื่อต้นกระทู้ กับเพื่อนหลายคน คนละเวลา ถามเพื่อนให้แน่ใจว่า
    ถ้าผลลัพธ์ของเพื่อน เป็นอย่างนี้ อย่างนั้นแล้ว นั่นหมายถึง สิ่งที่อัลมิตราสามารถวางใจได้
    เพื่อที่การดำเนินงานต่อไป จะเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องทนเห็นเพื่อนทำหน้าแปลก ๆ ..
    ไม่ต้องทนเห็นเพื่อนวางตัวแปลก ๆ .. ซึ่งผลเสีย คงจะปรากฏต่อผู้ที่เราจะไปเยือนแน่นอน
    และประโยคดังกล่าว ก็เป็นประโยคที่ไม่ได้ปรุงแต่งแต่อย่างใด เป็นคำถามที่ถามกันจริง ๆ 
    
    สำหรับความกลัว .. ความกลัวคืออะไร 
    กลัวติดโรค กลัวขยะแขยง .. หรือกลัวความเศร้า หดหู่ มาสู่จิตใจตนเอง
    สามารถตีความ ความกลัวไปได้หลายรูปแบบ
    
    "สำหรับตอนนี้ฉันก็หาข้อมูลในเน็ตไปเรื่อย เกี่ยวกับเส้นทางการเดินทางบ้าง
    เกี่ยวกับความเป็นมาของวัดพระบาทน้ำพุด้วย อ่านเรื่องราว ดูรูปภาพ
    บอกตรง ๆ สลดใจ "
    
    คงไม่ต้องอธิบายให้มากความไปกว่านี้ ..ว่า ความกลัวของอัลมิตราคืออะไร 
    เพราะคำตอบของอัลมิตราก็เปิดเผยมาอย่างโจ่งแจ้งซะขนาดนี้ 
    
    ผู้ที่มีจิตใจหวั่นไหวง่าย เห็นอะไรก็เศร้าสลด ยากทำตัวเองให้เป็นอุเบกขา
    การที่จะเดินทางไป คงต้องคิดให้มาก ๆ ไม่ใช่ว่ากลับมาแล้วห่อเหี่ยวภายหลัง
    หรือที่แย่ไปกว่านั้น คือ เมื่อไปพบไปเห็น ก็แสดงอาการออกมาให้เห็นกันทั่วหน้า
    แบบนี้แล้ว .. ควรกำจัดความกลัวไปเสียให้สิ้นเสียก่อน คงดีกว่ากระมัง
    
    ............................................................................................
  • เฌอมาลย์

    21 ธันวาคม 2550 09:01 น. - comment id 98737

    11-20070618135712.jpg11.jpg
    
    กลัวหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าไปมาหลายครั้งแล้วค่ะ
    
    อยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าใด และบ่อยครั้งที่เพื่อนมาทำบุญ เฌอก็จะเป็นเจ้าถิ่นที่ดี พาไปเสมออ่ะค่ะ11.gif
    
    ...แต่พี่ น้อง ของเฌอ กลับไม่ยอมเข้าไปในวัด ได้แต่ฝากเงินไปทำบุญทุกครั้งที่เฌอไป..
    
    พิพิธภัณฑ์ชีวิตแห่งนี้ มีมากกว่าสาระค่ะ11.gif
  • ยอป่า

    21 ธันวาคม 2550 09:45 น. - comment id 98738

    เราจดบัญชี ธนาคารไว้แล้ว แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห้น สำหรับคนซุ่มซ่าม  แม่ลูก 2   คนนี้หดหู่ไหม ค่ะหดหู่  รังเกียจไหม ไม่ค่ะ เพราะเรายังทานบัวลอยของคนที่ว่าเป็นเอดส์ได้โดยการไม่ขยะแขยงสักนิด  เทอคนนั้นช่างน่าสงสารมีคุณวุฒเพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่เทอติดเอดส์จากสามีเทอที่ร่วงลับไปแล้วเราให้ลูกทั้ง 2 ดูเทอและบอกลูกสอนลูกว่าเห็นไหมเขาก้เหมือนคนปกติคนหนึ่ง แต่เราสอนด้วยว่าเอดส์ติดทางไหนลมหายใจ ฤ ก็ไม่ใช่เพียงแต่กะแสโลหิตเท่านั้นและการเสพยาแต่ถ้าเราเป้นแผลที่ตามตัวเช่นมือขาตัวก็ควรระวังหาใช่รังเกียจแต่คือเรื่องความจริง เราคุยได้เพียงแต่ให้พึงระวังแผลของเราและเขาเหล่านั้นเราเชื่อว่าเค้าต้องเข้าใจและอาจจะไม่น้อยใจด้วย      :)
  • ดอกบัว

    21 ธันวาคม 2550 15:24 น. - comment id 98744

    สวัสดีค่ะ คุณอิม อัลมิตรา
    
    โรคนี้หรือค่ะ คนที่บัวรักและสงสารจับจิต
    เค้าจากบัวไปด้วยโรคนี้ค่ะ
    และทิ้งสายใยโซ่ตรวนไว้ให้พวกเราเลี้ยง
    ซึ่งมิใช่เป็นความผิดของเค้า 
    เป็นความมักมากของสามีเค้ามากกว่า
    ในขณะที่ตัวเค้าเป็นแผลเต็มตัว
    บัวยังกอดเค้าเลยค่ะ 
    ถามว่ากลัวติดไหม  ในขณะนั้น
    ความสงสารมันมากกว่าความกลัว
    อยากให้เค้ารู้สึกว่าความอบอุ่นยังอยู่กับเค้า
    เราเกิดมาต้องตายเหมือนกันหมด
    จะช้าหรือเร็วก็แค่นั้น 
    ทุกวันนี้บัวมีโอกาส บัวจะส่งไปช่วยเสมอค่ะ
    ในบ้างครั้งบัวเจอหลวงพ่อที่วัดมาขอบริจาค
    ที่ตลาดที่บัวอยู่บัวจะรีบทำทันทีค่ะ
    สิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ
    โชคดีนะค่ะ
    
    46.gif36.gif
  • อัลมิตรา

    21 ธันวาคม 2550 22:19 น. - comment id 98748

    คุณแม่มดใจร้าย .. :) เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจค่ะ ที่ยังจัดสรรเวลาไม่ลงตัวนัก
    อีกทั้งมีหลายอย่างที่ต้องทบทวน ต้องเตรียมการณ์โดยละเอียด ค่ะ 
    เท่าที่อ่านบทความของคุณ ก็พอจะทราบว่า เรามีความกลัวคล้าย ๆ กัน
    แต่เหนืออื่นใดนั้น เราต้องมีเมตตาให้มาก ๆ เพื่อที่จะสลายความกลัวนั้นค่ะ
    
    คุณลุงแทน .. ปีที่แล้ว หลวงพ่อเจ้าอาวาดวัดพระบาทน้ำพุมาเทศน์ที่ทำงาน
    ตอนนั้นอัลมิตรานั่งทำงานไปและก็ฟังธรรมทางเครื่องขยายเสียงไปด้วย
    อัลมิตราร่วมบริจาคสมทบไปกับเพื่อนร่วมงาน และก็มีความตั้งใจว่า 
    จะไปเยือนที่วัดพระบาทน้ำพุสักครั้ง เพื่อหาทางช่วงเหลือหลวงพ่อ ค่ะ
    ทีนี้ เมื่อคราวที่อยู่ในความคิด ลำพังคิดคนเดียว ก็คงพอจะมีคำตอบสำหรับตนเอง
    แต่ในส่วนที่ชวนเพื่อนไป อัลมิตราก็ควรถามความคิดของเพื่อนเสียก่อน 
    เพื่อให้ความสมัครใจนั้น เป็นไปอย่างที่เพื่อนสามารถยอมรับได้ ค่ะ
    
    คุณเพียงแพรว .. อัลมิตรายังไม่เคยรู้จักหรือคลุกคลีผู้ที่เป็นโรคเอดส์เลย
    หรืออาจมี แต่ทว่าอัลมิตราไม่รู้ว่าเขาหรือเธอผู้นั้นเป็นผู้ป่วยค่ะ 
    อัลมิตราเคยเขียนกลอนเกี่ยวกับโรคเอดส์ กลอนนั้นบ่งบอกเรื่องราวของชายคนหนึ่ง
    โอกาสที่เขาจะกลับมามีชีวิตอย่างปกตินั้นไม่มี แต่เขาก็ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเข้มแข็ง
    อัลมิตราศึกษาข้อมูลจากเน็ตบ้าง จากหนังสือบ้าง ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียงข้อมูลทฤษฏี
    ด้วยความที่โรคเอดส์นี้เป็นโรคร้ายที่ยังไม่มียาใดรักษาให้หายได้ มันจึงเหมือนยมทูต
    เคยดูภาพยนตร์ที่ ทอม แฮงค์ รับบทเป็นผู้ติดเอดส์ไหมคะ ภาพยนตร์เรื่องนั้นถ่ายทอด
    ความรู้สึกของชายคนหนึ่งที่ติดโรคเอดส์ และความรู้สึกของผู้คนที่อยู่รอบข้าง
    มีทั้งเห็นอกเห็นใจ มีทั้งขยะแขยงรังเกียจ อัลมิตราค้นพบความหมายอย่างหนึ่งในภาพยนตร์ว่า
    "ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ความรัก ความเอื้อเฟื้อต่อกัน จะเป็นสิ่งที่วิเศษสุดยิ่งกว่าใด ๆ
    ค่ะ"
    
    คุณครูพิม .. บ่อยครั้งที่อัลมิตราเห็นคนพิการ คนป่วย ขอทาน ข้างถนน
    แล้วเก็บภาพเหล่านั้นมาเศร้าต่อที่บ้าน บางทีกว่าจะลืมก็ตั้งนาน แล้วแต่สภาพที่เห็น
    เคยไปเลี้ยงอาหารบ้านพักคนชราที่บ้านบางแค กับกลุ่มเพื่อนที่พันทิป เมื่อหลายปีก่อน
    คุยกับคุณตาคุณยายบ้าง ฟังความตัดพ้อที่ท่านเล่า บางท่านนอนอยู่บนเตียงลุกไม่ได้
    ต้องมีคนช่วยคอยป้อนน้ำป้อนข้าว บางท่านรับได้แต่อาหารเหลวเท่านั้น 
    ภาพทั้งหมดที่เห็น ทำให้รู้สึกหดหู่เหลือเกินค่ะ
    
    คุณคนบนเกาะ .. ค่ะ เหมือนว่าบางคนยังคงล้อเล่นกับโรคร้ายนี้
    และทั้งที่รู้ว่า โอกาสที่จะติดโรคนั้น หนทางหายนะรออยู่เบื้องหน้าแท้ ๆ 
    
    คุณกุ้งหนามแดง .. :) ไม่แปลกหรอกที่กลัว ตอบตรง ๆอย่างนี้ดีแล้วจ้า
    
    คุณปราณรวี ..จะพยายามไปให้ได้ค่ะ เพราะเป็นความตั้งใจอยู่แล้ว
    
    คุณกีกี้ .. เรามีคำตอบอยู่แล้วว่าควรจะทำเช่นไร
    และการเดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุ ก็คงเป็นไปอย่างเงียบเชียบ
    จะไปพร้อมกับเพื่อนบางคนที่มีจุดประสงค์และมุ่งมั่นในทางเดียวกัน
    อาจจะมีแค่สองคน หรือสามคน ก็ไม่เป็นอุปสรรคอันใด
    คงไม่เอิกเกริกจัดเป็นทริป เพราะว่า นานาทัศนะคติที่หลายคนมีต่อผู้ป่วย
    อาจแตกต่างกัน และเกินการจัดการให้เป็นที่เรียบร้อยได้
    
    คุณเฌอมาลย์ .. พี่สาวคนหนึ่งบอกกับอัลมิตราว่า ถ้าจะไป จะพาไป
    แล้วก็จะรออยู่แค่ปากซอย ไม่ขอเข้าไป พี่สาวอยู่ลพบุรี พี่สาวก็มีเหตุผลส่วนตัว
    ตรงนี้อัลมิตราก็ทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ
    
    คุณยอป่า ..จดบัญชีธนาคาร ? ของที่วัดเหรอ งานนี้ อัลมิตราไม่ขอเป็นทัพหน้านะ
    เอาเป็นว่า บุญทำที่ไหน ก็ได้บุญเหมือนกัน จะหยอดกล่อง จะโอนเข้าวัด หรือจะไปเอง
    อย่างไรเสีย ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ค่ะ
    
    คุณดอกบัว .. อัลมิตรายังไม่เคยเผชิญกับคนเป็นโรคนี้อย่างจัง ๆ เสียที
    แต่เท่าที่ติดตามอ่านเรื่องราวที่พบเห็นตามสื่อต่าง ๆ นั้น ก็สงสารนะ
    พวกเขาก็เหมือนพวกเราทุก ๆ คน เพียงแต่ พวกเขาป่วย และต้องรับการบำบัด
    ในสถานภาพของสังคม พวกเขามีสิทธิ์และสถานะเท่ากับพวกเราทุกคนค่ะ
  • เอื้องอังกูร

    22 ธันวาคม 2550 09:27 น. - comment id 98751

    สวัสดีครับคุณอัลมิตรา
    ต่อคำถามที่ว่า ไปวัดพระบาทน้ำพุกลัวคนเป็นเอดส์ไหม...ต้องตอบแบบตรงๆว่า ไม่เคยคิดกลัวครับ....ผมเคยไปวัดพระบาทน้ำพุมาเมือหลายปีก่อน...ได้ทำกิจกรรมและระดมทุนบริจาคหลายครา...มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะบรรยายครับ...เด็กๆที่นั่นเป็นเด็กที่น่าสงสารเขาเกิดมา..เขาไม่ได้ทำผิดอะไรแต่เขาต้องมาผจญกับชตาชีวิต...หลายๆคิดที่เป็นสุภาพสตรีที่ขยันยันแข็งทำงาน...ไม่เคยขาดตกบกพร่องแต่โชคร้ายท่านชายไปซุกซนที่อื่นนำมาติด...ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ที่ติด....ฯลฯ....สรุปว่าน่าเห็นใจและพวกเขาเหล่านั้นคือสมาชิกของโลกใบนี้.....เราต้องให้กำลังใจครับ...โรคเอดส์ไม่ใช่ที่จะติดต่อกันง่ายๆครับ....เห็นด้วยหากทุกคนจะไปเป็นกำลังใจให้พวกเขา...สำหรับผม หากไม่ติดอะไรขอแจมด้วย แต่ถ้าติดอะไรก็จะขอร่วมสมทบปัจจัยสิ่งของฝากเป็นกำลังใจให้พวกเขา ครับผม  ไปเมื่อไหร่กรุณาแจ้งด้วยครับ
  • อัลมิตรา

    22 ธันวาคม 2550 20:48 น. - comment id 98752

    สวัสดีค่ะ คุณเอื้องอังกูร .. อย่างที่เกริ่นไว้ค่ะ ยังกำหนดวันลงตัวไม่ได้เลย
    ในช่วงวันเด็ก วันที่ตั้งใจจะไป แต่ก็ถูกเบียดเรื่องการงานและภาระสังคมรอบตัว
    แต่ถึงอย่างไร อัลมิตราก็คุยกับเพื่อนไว้บ้างแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นการคุยนอกรอบ
    เพื่อหาข้อคิดคิดเห็น และวิธีการดำเนิน
    
    อัลมิตรายังไม่เคยไปที่วัดพระบาทน้ำพุ และด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับการเดินทาง
    คงต้องอาศัยถามไปเรื่อยว่า จะเดินทางอย่างไร ในกรณีนี้หมายถึง การเดินทางเอง
    (รถประจำทาง) ซึ่งอาจจะมีแค่อัลมิตรากับเพื่อนอีกสองสามคนเท่านั้น 
    
    วันนี้อัลมิตราแวะซื้ออาหารเช้าที่ร้านค้าแถวบ้าน มีกล่องรับบริจาคของทางวัดนี้อยู่
    เจ้าของร้านก็เป็นคนมีน้ำใจงาม เธอเคยรวบรวมข้าวของและเงินบริจาคไปที่วัดนี้
    เธอบอกว่า ถ้าเป็นเสื้อผ้า จำพวกเสื้อกันหนาวก็ได้ ตอนนี้ เด็กมีเพิ่มมากขึ้น เสื้อไม่พอ
    อัลมิตราบอกเธอไปว่า เสื้อกันหนาว บริจาคไปทางอมก๋อยหมดแล้ว เธอบอกว่าไม่เป็นไร
    ทำบุญที่ไหน ก็ทำได้ ได้บุญเหมือนกัน เราคุยกันหลาย ๆ เรื่องค่ะ แต่อัลมิตรายังไม่มีโอกาส
    ที่จะถามเธอเกี่ยวกับการเดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุ พอดีเธอมีลูกค้าเข้าร้าน
    
    อันที่จริง ตอนเช้าที่เห็นกล่องรับบริจาคนั้น อัลมิตราก็เกิดมีความคิดที่ว่า .. จำเป็นด้วยหรือที่ไป
    หากอยากจะทำบุญ อยากช่วยเหลือ ก็สามารถบริจาคได้ในหลาย ๆ ทาง มีทั้งโอนเข้าบัญชีวัด
    ถ้าได้ดูจากตามอินเตอร์เน็ตแล้ว จะเห็นว่าสะดวกสบายมาก และรวดเร็วทันใจและเชื่อถือได้
    ซึ่งในแนวทางปฏิบัตินั้นสามารถทำได้ตามนั้น ซึ่งอัลมิตราเองก็บริจาคเสมอ ที่กล่องรับบริจาคในร้าน
    และเมื่อคราวที่หลวงพ่อมาเทศน์ที่บริษัทเมื่อครั้งกระนั้น
    
    ตอบไม่ถูกว่าทำไมถึงยังอยากไปวัดพระบาทน้ำพุ ทั้งที่มีหลายวิธีที่จะช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น
    ความคิดนี้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิด ทว่าเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้วค่ะ ช่วงที่นั่งทำงานในห้องและฟังเสียง
    ของหลวงพ่อที่เทศน์ผ่านสายลำโพงมา ...  อัลมิตราจะพยายามหาโอกาสให้ได้ค่ะ
  • เด็กแนว

    29 พฤศจิกายน 2552 15:59 น. - comment id 110444

    11.gif โรคเอดส์ไม่น่ากล้ว กลัวติดเอดส์มากกว่า19.gif
  • น้ำผึ้ง

    24 กุมภาพันธ์ 2553 15:53 น. - comment id 115248

    ไม่ค่อยกลัวเพราะเราเป็นคนเหมือนกัน      แต่ที่กลัวเพราะเคยดูเรื่องนี้แล้ว และน่าสงสาร8.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน