อมก๋อยและรอยยิ้ม ภาระกิจ"ปันน้ำใจเพื่อเพื่อนไทยในชนบท" 7-10 ธันวาคม 2550 ที่หมู่บ้านสะเต อ.อมก๋อย เป็นอันเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่า ..ในความรู้สึกของผู้ร่วมเดินทางทุกคน ยังคงเปี่ยมไปด้วยความปีติและความสุขใจ
และต้องขอปรบมือให้ผู้ร่วมเดินทางทุก ๆ คน ที่ให้ความร่วมมือดีมาก ตั้งแต่เริ่มต้นที่จุดนัดหมาย ทุกคนก็รักษาเวลาตามนัดอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับเส้นทางหฤโหดที่ผู้ร่วมเดินทางบางคนบอกว่า.. ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยต้องเผชิญผจญอะไรเช่นนี้ หวาดเสียวมาก ๆ เส้นทางแคบ ๆ ที่ลัดเลาะเลียบหน้าผาไปตลอด
นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับเส้นทางตรงหน้า อีกใจหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะกังวล แต่ละวินาทีที่อยู่บนรถ ต้องถูกเขย่า ถูกเหวี่ยง ถูกกระแทกบนเส้นทางขรุขระตลอด
รถคันที่ข้าพเจ้าได้อาศัยเดินทาง ใช้เวลา 4 ชั่วโมงเศษ ซึ่งถือได้ว่าใช้เวลาน้อยที่สุดแล้ว (ทั้งที่แวะจอดอาเจียน 2 รอบ) ส่วนรถคันอื่น ๆ ก็ลดหลั่นเวลากันไปเรื่อย กระทั่งคันสุดท้ายก็ใช้เวลาร่วม ๆ 6 ชั่วโมง .. น่วมซะให้เข็ด
ถึงแม้ว่าจะมีบางคนนั่งเงียบกริบมาตลอด แรก ๆ ก็เข้าใจว่าดื่มด่ำกับธรรมชาติ กระทั่งมาสารภาพกับหัวหน้าโครงการ ในภายหลังว่า ..เกิดอาการช็อค .. เพราะความกลัว..
พวกเราผ่านโค้งของภูเขาหลายโค้งจนขี้เกียจจะนับ อยากหลับ ก็หลับไม่ลง
มีแวะกลางทางบ้าง เพื่อคลายความเกร็ง และความเมื่อยล้า
บรรดาเด็กดอยเข้ามามุงดูด้วยความสนใจ ละอ่อนเอ๊ย ... ดูสภาพพี่ ๆ แต่ละคนสิ บักโกรกเชียว
และแล้วความเหน็ดเหนื่อยและความกังวลใจหายไปทันที เพราะ..."ยิ้ม"
เมื่อไปถึงโรงเรียนบ้านแม่สะเต เสียงแจ้ว ๆ ของเด็กนักเรียนที่ทักทายมา "สวัสดีค่ะ" "สวัสดีครับ" ทำให้บรรดาพี่ ๆ ที่ไปเยือนน้องชื่นหัวใจเป็นที่สุด
แทงค์น้ำสองแทงค์ ที่มาจากน้ำใจของพวกเราร่วมกันบริจาค นอกจากนี้ ก็ยังมี ห้องน้ำที่สร้างเสร็จทันการอีก 2 ห้อง
คนที่มาถึงโรงเรียนก่อน ก็จัดการเรื่องที่พักของตัวเองทันที เพราะเมื่อมากันครบถ้วน ก็จะมีสันทนาการกับเด็ก ๆ
คนละไม้ คนละมือ ช่วยกันเตรียมของสำหรับแจกเด็ก ๆ
เพราะพวกพี่สะบักสะบอม บรรดาน้องนักเรียนก็เลยมาช่วย
เรียงตามลำดับชั้น แยกแถวชาย/หญิง
ถ้าไม่เห็นกล้องเสียก่อน อาจคิดว่าเป็นหัวหน้าเผ่า
เข้าแถวกันเป็นระเบียบ เด็กน้อยบางคนก็แต่งกายประจำเผ่า
ยืนเท่ห์ตรวจตรา
คนละไม้ คนละมือ
พี่สาวและน้องชาย ... น้องชายหลับคาตักของพี่สาว ขณะที่เล่นเกมกันอยู่
แว๊ก .. แกงค์ลักเด็กอาละวาด !!!!!
เริ่มต้นกับการแจกหมวกคนละใบ
คนมอบก็ยินดี คนรับก็ดีใจ
สอนเด็กให้แอ๊บแบ๊ว อีกต่างหาก
รอยยิ้มของแม่เฒ่า
ความคล้ายที่แยกไม่ค่อยจะออก
คณะเยือนถ่ายรูปร่วมกับหมอแปะ (เสื้อน้ำเงินกางเกงลายทหาร)
คู่ฮันนีมูนท่ามกลางหมู่เด็ก ๆ
เพิ่งมาถึงกันหมาด ๆ น้องสาวก็รีบยกน้ำมาให้พี่ ๆ ที่เหน็ดเหนื่อย
ผู้หญิงก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่เชิง เป็นมันทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ .. ความหมายคงแบบนี้
ใครเป็นใคร ต้องติดตามสืบเอาเอง คนแถว ๆ นี้ทั้งนั้น
กองขี้ควาย ... เอ๊ย ก้างขวางคอ
ก่อนที่รถจะเคลื่อน ก็เห็นยิ้มกันทุกรายนั่นแล
ที่อยู่ในกล่อง มีเสื้อผ้าใหม่ลาคลอส ที่คุณแทนคุณแทนไทรับฝากมาอีกที และก็มีถุงเท้าใหม่ ที่บ๊อสของน้องต้นปีฝากมาให้เด็ก ๆ ด้วย
ของบริจาคมากมาย มีทั้งที่ส่งมาล่วงหน้า และมีทั้งขนไปในวันเดินทาง
ข้าวห่อใบสัก น้ำพริกอ่องและประดาผัก+แคปหมู อาหารมื้อเย็นที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้สำหรับคณะเยือน
หมูย่างก็มี .. ขอบอก อร่อยมาก ๆ
ไม่แน่ใจว่า ใช่เจ้าตัวนี้ ที่มาป้วนเปี้ยนแถวเต็นท์เมื่อบ่ายหรือเปล่า ?
คุณครูหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ให้ชาวคณะติดมือเป็นเสบียง
จัดเตรียมผ้าห่มสำหรับแจกครอบครัวละ 2 ชุด
สภาพรองเท้าของเด็กที่นั่น
มิดชิดซะขนาดนี้ คงไม่ใช่เพราะกลัวลมหนาวกระมัง น่าจะกลัวฝุ่นจับมากกว่า
ให้ดูสภาพเส้นทางหฤโหดอีกที .. 5 - 7 ชั่วโมง ที่ระทึกใจ
เพื่อนจากอยุธยาก็ร่วมเดินทางมากับคณะบุญด้วย
สรุปว่าเขาก็บ้า (ผีบ้าแห่งอมก๋อย) สรุปว่าเธอก็บ้า (ผีบ้าแห่งเหมืองกรุง) ไม่รู้ใครบ้ากว่ากัน
กองไฟ ยาม ตีสอง .. คณะเยือนออกมาชมดาวเต็มฟ้ากัน
12 ธันวาคม 2550 08:30 น. - comment id 98577
บรรยากาศช่างน่ารื่นรมย์มาก เห็นรอยรอยยิ้มใสๆแล้วชื่นใจ น่าจะเอาภาพมาฝากเยอะๆนะครับ
12 ธันวาคม 2550 09:32 น. - comment id 98578
สวัสดีครับ...คุณอัลมิตรา ต้องบอกว่า...ที่สุดของที่สุดครับ...ดีใจและโล่งใจที่สุดที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี....ทุกชีวีปลอดภัย....กลับมาถึงด้วยความปีติเป็นที่สุด....คำว่ามิตรภาพไร้พรมแดน คำนี้ใช้ได้เสมอสำหรับทุกคนที่มีพันธสัญญาร่วมกัน....สร้างความฝันให้เป็นจริง...ที่สุดจึงมีแต่รอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยร่องรอยแห่งความสุข...ขอบคุณและขอบคุณทุกๆน้ำใจที่แบ่งปันไปให้เพื่อนไทยในชนบท....เราคงมีโอกาสที่จะทำอย่างนี้อีกต่อไป...อย่างน้อยปีละครั้ง.....มันเป็นอะไรที่สุดยอดครับ...กับการทำกิจกรรมในครั้งนี้อย่างน้อยพวกเราก็.....ทำดีเพื่อในหลวงหรือพ่อของชาวไทยทุกคนครับ ขอบคุณและขอบคุณอีกครั้งครับผม
12 ธันวาคม 2550 09:46 น. - comment id 98579
ยินดีด้วยครับที่โครงการลุล่วงด้วยดี และ เดินทางกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจและเป็นสุขใจเพราะอิ่มบุญกันทุกคนนะครับ
12 ธันวาคม 2550 09:47 น. - comment id 98580
เดี๋ยวเราจะส่งภาพไปร่วมด้วยน ะ คุณอิม
12 ธันวาคม 2550 10:28 น. - comment id 98581
....ขอบคุณกับน้ำใจที่แบ่งปันให้กับคนเมืองเหนือด้วยค่ะ..
12 ธันวาคม 2550 12:54 น. - comment id 98582
เห็นทุกคนมีรอยยิ้ม แล้วก็อิ่มใจ คิดถึงศิษย์พี่มาก ๆ ครับ
12 ธันวาคม 2550 20:42 น. - comment id 98586
ช่างเป็นมิตรภาพที่สวยงามและดีงามยิ่งนัก ติดตามข่าวคราว ตลอด เพราะไม่ได้ไปด้วย ขอให้ทุกคนที่ทำดี อันนี้ได้รับแต่ผลกรรมดี ๆ ตอบแทนนะ เป็นกำลังใจให้ทุกความดีความมุ่งทำที่ช่วยเหลือผู้อื่น ขอบคุณที่นำภาพดี ๆ มาแบ่งปัน มีโอกาสสักวันคงได้เจอกัน
12 ธันวาคม 2550 22:15 น. - comment id 98588
คุณอิม.... ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ขอแสดงความยินดีด้วยในสิ่งที่ทุกคนได้ทำเพื่อสังคมของเรา โครงการดีๆ เกิดจากคนดีๆช่วยกันคิดช่วยกันทำ เหนื่อยกันมานานแรมเดือน และผลที่ได้รับก็คุ้มค่าจริงๆนะคะ ถามหน่อยสิคุณอิม...... โก่งคออาเจียนแค่สองครั้งเองเหรอคะ แล้วขากลับล่ะ นับได้กี่ครั้ง ฮ่า ร่างกายไม่ไหวแต่ใจสู้....เยี่ยม
13 ธันวาคม 2550 09:44 น. - comment id 98590
พี่พุดมาชื่นใจที่เห็นภาพอมก๋อยรอยยิ้มค่ะ งานนี้... มัวยุ่งกับภารกิจจนลืมร่วมปันน้ำใจไปอมก๋อย รอโอกาสหน้าคงมีสิ่งงดงามที่พี่พุดจะได้ร่วมด้วยช่วยกันนะคะ ขอแสดงความชื่นชมอย่างที่สุดค่ะ ด้วยรัก พี่พุด
13 ธันวาคม 2550 10:04 น. - comment id 98591
คุณ อิมฯ ดีใจที่ทุกๆคนสนุกสนานกันอย่างไร้พรมแดน อิอิ...หากผมได้ดูภาพเส้นทางแล้วสงสัยจะไปเผาที่นั่น วิญญาณกลายเป็นชาวดอยเสียกระมัง เห็นภาพแล้ว สยองจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
13 ธันวาคม 2550 10:21 น. - comment id 98592
อิม ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของงาน และมีความอิ่มใจไปด้วย....ภาพทุกภาพบอกเรื่องราวได้เป็นอย่างดี....... ดีใจแทนคุณครูโรงเรียนบ้านแม่สะเต นักเรียนและผู้ปกครองทุกท่านด้วย... มีความสุข..จริงๆค่ะอิม
13 ธันวาคม 2550 11:10 น. - comment id 98593
คุ้นหน้าคุ้นตาคนใส่หมวกขาวกางเกงขาสั้นอ่ะค่ะ อิอิ และฝากบอกสาวใส่หมวกสีดำอุ้มเด็กน้อยด้วยอ่ะ ... น่ารักจัง... แล้วคนไหนอ่ะคุณอัลมิตรา
13 ธันวาคม 2550 12:51 น. - comment id 98595
จะมีที่หนักหนาสาหัสกว่านี้มั๊ย.. เกือบถอดใจแล้ว..แต่ในเมื่อขึ้นรถไปแล้ว ลงกลางทางมันก็ไม่เหมาะ..เกือบ ไปเหมือนกัน.. ดีใจที่ได้ไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ..คราวหน้าไปอีกนะ..
13 ธันวาคม 2550 14:56 น. - comment id 98598
เห็นภาพแล้วดีจังค่ะคุณอิม อัลมิตรา
13 ธันวาคม 2550 15:43 น. - comment id 98599
อิ่มตา อิ่มใจ ไปกับโครงการ... :) เป็นกำลังใจให้ลับ ๆ อิอิ.. อ่านั่นแน่....กลับมาแล้ว...งานประจำทำซะเลย....ให้ไว... ให้เวลาพักผ่อนสองอึดใจ...
13 ธันวาคม 2550 19:42 น. - comment id 98602
ดีจ้า............คุณอัลมิตรา........... เห็นภาพแล้วก้ออิ่มใจตามไปด้วยเลยจ้า........ สวยทั้งรูปสวยทั้งน้ำใจจริงๆ....... ปล.จำได้หนึ่งคู่หละหุหุ......พี่สาวคนนั้น
13 ธันวาคม 2550 21:14 น. - comment id 98603
วันที่ 7 ธค.50 ช่วงบ่ายขณะที่บางคนที่จะต้องไปอมก๋อยต้องเร่งงานให้เสร็จ และบางคนที่อยู่ต่างจังหวัดไกลออกไป ก็ต้องเดินทางมายังจุดนัดที่กรุงเทพฯ หกโมงเย็นที่เซ็นทรัลพระราม 3 ทุกคนมารอกันอย่างพรักพร้อม ที่ร้านไอศกรีม ข้าพเจ้านัดแนะให้คนขับรถตู้มารับที่นี่ ก่อนที่จะย้ายไปรวมพลกันอีกจุดหนึ่ง ข้าวของบางอย่างที่เพิ่งมี ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่งจัดซื้อมาหรือเป็นการที่ได้รับบริจาค ช่างมากมายจนข้าพเจ้าหนักใจว่าจะไม่สามารถขนไปได้หมด ยังดีที่แบ่งออกไปบ้าง โดยคุณเอื้องอังกูรซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการแบ่งรับแบ่งสู้มาช่วยรับภาระไปอีกหน่อย ถ้าใครได้เห็นสภาพรถตู้ 3 คัน ที่ข้าพเจ้าจัดหาเพื่อให้บรรดาเพื่อน ๆ ให้เดินทางนั้น คงจะนึกขำในใจว่า ข้าวของทั้งหมดนั้น (รวมถึงสัมภาระส่วนตัว) จะใส่หมดได้อย่างไร เชื่อไหมว่า .. แทบจะไม่มีซอกมุมไหนในรถที่ว่างจากการวางข้าวของ แน่นขนัดจริง ๆ ทุ่มครึ่งตามกำหนดการ รถตู้ทั้งสามคันก็เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายเอเซีย ซึ่งก็เป็นเวลาที่ไล่เลี่ยกันกับรถตู้อีกสี่คัน ที่ทางคุณเอื้องอังกูรดูแลอยู่ เคลื่อนขบวนเหมือนกัน ส่วนข้าพเจ้าออกเดินทางตามไปในภายหลัง ล่าช้ากว่าใครอื่นประมาณสองชั่วโมง เนื่องจากต้องจัดการกับข้าวของส่วนตัวและของบางส่วนที่รถตู้เอาไปไม่หมด ตลอดการเดินทางในขาไป ก็ติดต่อประสานกันกับรถตู้ทั้งสองสายเป็นระยะ ๆ รถตู้สายที่ข้าพเจ้าดูแลไปถึงที่หมายก่อนทั้งสามคัน ตามมาด้วยรถยนต์ของข้าพเจ้า และจากนั้นอีกราว ๆ หนึ่งชั่วโมง รถตู้สี่คันที่คุณเอื้องอังกูรดูแล ก็มาถึงที่ อ.อมก๋อย ถนนบางช่วงในยามเช้านั้น แทบจะมองไม่เห็นพื้นถนน เพราะหมอกลงจัดมาก ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงจาก อ.ลี้ ------> อ.ฮอด ต้องเปิดไฟตัดหมอกตลอด
13 ธันวาคม 2550 21:24 น. - comment id 98604
ราวแปดโมงเศษ .. ก็แบ่งกลุ่มขึ้นรถโฟร์วิลล์ ว่ากันง่าย ๆ จัดกลุ่มตามรถตู้ ข้าพเจ้าไปคันที่บรรทุกของบริจาค คนขับรถท่าทางใจดี ยิ้มตลอด .. บางเส้นทาง ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะถาม "ทำไมถนนเป็นแบบนี้" "ทำไมไม่เทปูนให้หมด" "เว้นตรงกลางทำไม" "งบประมาณหมดครับ" .. คำตอบสั้น ๆ แต่ทำให้ข้าพเจ้านึกขำ "ไม่เห็นจะลำบากเลย ถนนก็มี เพียงแต่เป็นลูกรัง ดินแดงเขรอะนิดหน่อย" "ยังไม่ใช่ครับ ตรงนี้ถือว่ายังไม่มีอะไร ของจริงรออยู่ข้างหน้าครับ" และแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นกับตา สัมผัสด้วยตัวเอง ของจริง เป็นเช่นไร ใครที่เคยเล่นเครื่องสนุก ไวกิ้ง รถไฟเหาะตีลังกา .. คงพอนึกออก แต่ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า นั่นยังไม่ใช่ ต้องคูณสิบ และวัดดวงด้วยชีวิต ถนนแคบ ๆ ความกว้าง ก็พอที่จะให้รถโฟรวิลล์ผ่านไปได้อย่างต้องใช้ฝีมือ ด้านหนึ่งเป็นผาที่ดูเหมือนว่า สภาพพร้อมถล่มได้ทุกเมื่อ อีกด้านหนึ่งก็หน้าผา การที่ถูกกระแทก ถูกเหวี่ยง ถูกโยนเด๊ง ตลอดห้าชั่วโมงเศษ เป็นความวูบเสียว ที่ข้าพเจ้าไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต ตื่นเต้นชะมัด และก็ลืมกลัว ใช่แล้ว ข้าพเจ้าลืมกลัวสำหรับตัวเอง ทว่าเป็นห่วงเพื่อน ๆ มากกว่า พยายามคิดบวกว่า คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่า.. เรามาทำบุญ พระคุ้มครอง แต่ก็อดไม่ได้ว่า ถ้าเผื่อมีรถคันใดคันหนึ่งหลุดจากขอบถนนล่ะ จะทำอย่างไรดี ข้าพเจ้าไม่ได้วิตกเช่นนี้เพียงลำพัง มาทราบที่หลังว่าคุณเอื้องอังกูรก็คิดเช่นกัน
13 ธันวาคม 2550 21:32 น. - comment id 98605
อย่าว่าแต่ 80 คน ใครเป็นใครบ้าง ลำพัง 30 กว่าคนที่อยู่ในคณะของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังรู้จักไม่ทั่วถึงเลย แทบไม่มีเวลาทำความรู้จักกันด้วยซ้ำไป รีบ ๆ พาออกจากห้างมาขึ้นรถ รีบ ๆ ให้กินมื้อเช้า รีบ ๆ ให้ขึ้นโฟรวิลล์ กว่าจะมาสวัสดี ทำความรู้จักกันได้ ก็เมื่อมาถึงโรงเรียนบ้านแม่สะเตแล้ว และในส่วนของคณะที่คุณเอื้องอังกูรพามา อีก 40 กว่าคน ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มให้ รถโฟรวิลล์คันที่ข้าพเจ้านั่งไปถึงโรงเรียนก่อนใคร เด็ก ๆ ส่งเสียงสวัสดีค่ะ สวัสดีครับ ครูดอยคนหนึ่งเรียกข้าพเจ้าว่า "ครู" .. ข้าพเจ้าชักเขิน จึงบอกเขาไปว่า ไม่ได้เป็นครู แต่เขาก็ยังยิ้ม ๆ และยังคงเรียกข้าพเจ้าว่า "ครู" จนกระทั่งถึงตอนเดินทางกลับ ข้าพเจ้ามีงานต้องทำทันที หลังจากที่กางเต็นท์เสร็จ ข้าพเจ้าลองเลียบเคียงคุยกับเด็ก ๆ ปรากฏว่า คุยกันไม่รู้เรื่อง .. เด็ก ๆ พูดภาษาที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ และ ภาษาที่ข้าพเจ้าพูด ข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยจะแน่ใจว่า พวกเด็ก ๆ จะเข้าใจ เห็นพยักหน้ากันหงึก ๆ พร้อม ค่ะ , ครับ ข้าพเจ้าแจกขนมบางส่วนที่ติดมากับรถ ประวิงเวลาให้รถคันอื่น ๆ ทยอยมาให้ครบ และก็ชวนเด็ก ๆ เล่นเตะฟุตบอลกัน ข้าพเจ้าวิ่งไล่เตะฟุตบอลไม่ทันเด็ก ๆ ลืมบอกไปว่า เด็ก ๆ จะมีขี้มูกเปรอะแก้มกันเกินกว่าครึ่ง ข้าพเจ้าเองก็มอมแมมไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าแก้มจะเปรอะฝุ่นไม่ได้เปรอะขี้มูกก็ตาม
13 ธันวาคม 2550 21:43 น. - comment id 98607
อย่างที่บอก ข้าพเจ้ารู้จักบางคน และอีกหลายคนข้าพเจ้าไม่รู้จัก หลังจากสันทนาการกับเด็ก ๆ พร้อมกับแจกของไปบ้างแล้ว ก็มีพิธีการส่งมอบห้องน้ำ และ แทงค์น้ำ โดยคุณเอื้องอังกูรดำเนินการ คุณเอื้องอังกูรกวักมือเรียกให้ไปถ่ายรูปหมู่ด้วย ข้าพเจ้าส่ายหน้าปฏิเสธ ขณะนั้น ข้าพเจ้านั่งห้อยขาบนเนินดินมองพิธีการส่งมอบอย่างมีความสุข ค่ำวันนั้น ข้าพเจ้ากินข้าวบนดอย ข้าวดอย ผักดอย น้ำพริกดอย ข้าพเจ้าค่อย ๆ ละเลียดกินช้า ๆ ข้าวซ้อมมือที่อยู่ในใบสัก ข้าพเจ้าอยากเก็บไว้นาน ๆ ส่วนหมูย่าง ข้าพเจ้าได้ดมแต่กลิ่น ทว่าไม่ได้ชิม และในที่สุดก็ไม่ได้ลิ้มรสดาวลอย* ยังไม่ทุ่มดี ข้าพเจ้าเห็นเพื่อนกลุ่มหนึ่งเงียบหาย ก็เลยไปส่องไฟดู ปรากฏว่า .. แต่ละคนกลายเป็นดักแด้ไปเสียแล้ว คงเหนื่อย ฟ้ามืดแล้ว ข้าพเจ้ากัดฟันอาบน้ำ ว่าจะไม่อาบน้ำแล้วเชียว แต่ด้วยความมอมสุด ๆ ยังไงซะ ทนหนาวดีกว่าทนเหม็น เพื่อนอีกกลุ่มยังคงนั่งล้อมวงฮาเฮคุยกันที่หน้าเต็นท อีกกลุ่มก็คุยกันในเต็นท์ใหญ่ อีกกลุ่มก็คุยกับอีกกลุ่ม คงไม่มีอะไรที่ข้าพเจ้าจะต้องดูแลไปมากกว่านี้ ก็เลยไปนอน ตีหนึ่ง ข้าพเจ้าลุกมาเข้าห้องน้ำ ก็พบว่า กลุ่มดักแด้หัวค่ำ มาอยู่ประจำที่รอบกองไฟ "ตื่นมาทำไรกันเนี่ย" .. "มาดูดาว" .. ดาวสวยจริง ๆ เต็มท้องฟ้า ข้าพเจ้านึกถึงบางคนที่เคยคุยกันถึงดาวลอย* ข้าพเจ้านึกถึงงานกลอนที่เคยเขียน ข้าพเจ้านึกถึงดาวนาเมกที่เป็นที่อยู่ของเบจิต้าในการ์ตูนเรื่องดรากอนบอล
13 ธันวาคม 2550 21:54 น. - comment id 98608
เช้ารุ่งขึ้นกับข้าวต้มทรงเครื่อง ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้ อร่อยจัง กับการเร่งรีบเก็บเต็นท์และเตรียมพร้อมที่จะเดินทางกลับ เฮ้อ ระทึกอีกล่ะ มีการมอบผ้าห่มให้กับครอบครัวชาวเขา ครอบครัวละ 2 ผืน และถ่ายรูปหมู่ รถคันที่ข้าพเจ้านั่งถึงปลายทางก่อนใครตามเคย สงสัยคนขับจะสไตล์เฮฟวี่ ยังดีที่ขากลับข้าพเจ้าอดทนจนรอดมาได้ เพราะตอนขาไปจอดอาเจียนสองรอบ ยังพอมีเวลาให้ข้าพเจ้าเดินเตร็ดเตร่ที่ตลาดในอำเภอ แวะซื้ออาหารสดเป็นเสบียง ข้าพเจ้าไปออบหลวงก่อนใคร เพื่อไปจับจองทำเล สำหรับ 36 คน เต็นท์ 12 หลัง เมื่อได้ชัยภูมิเหมาะ ก็ปักหลักทันที พร้อมกับผ่อนอิริยาบทให้คลายความเมื่อยล้า ไม่นานนักเพื่อน ๆ ก็ตามมาสมทบ ส่วนคณะของคุณเอื้องอังกูร ก็ดิ่งไปยัง อ.สันกำแพง ขนาดที่ว่าเส้นทางโหด แต่เพื่อน ๆ ยังคงมีเรี่ยวแรงกันอยู่ พากันไปล่องแก่งอีกต่างหาก เชื่อเขาล่ะ .. สุดยอดจริง ๆ ..บางคนก็เดินขึ้นออบหลวง บางคนก็ใช่ย่อยเล่นน้ำซะเลย อ้อ ! ที่กางเต็นท์อยู่ริมแม่น้ำแจ่ม บรรยากาศดีมาก ๆ เสียงน้ำเซาะดังมาก ๆ บางคนก็เตรียมอาหารมื้อเย็น อย่างที่บอก ทุกคนต้องดูแลตัวเอง หากินเอง ข้าพเจ้ามีโอกาสอาบน้ำแบบที่ว่าขัดขี้ไคลได้สะดวก สระผมได้เต็มที่ น่าแปลก สระผมครั้งแรก ตอนขยี้แชมพูบนหัว ไม่ยักจะมีฟองแฮะ ท่าจะสังกะตังสุด ๆ ก่อนนอน ข้าพเจ้าเดินสำรวจตามเต็นท์ เห็นเพื่อน ๆ อยู่ดี (ตามสภาพ) กินดี (ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกินอะไรบ้าง หรือใครอดบ้าง) ข้าพเจ้าก็เข้านอนทันใด นอนท่าไหนก็เมื่อยตัวชะมัด จะหงาย จะตะแคง รู้สึกเหมือนจะระบมไปหมด ฮา ..
13 ธันวาคม 2550 22:03 น. - comment id 98609
รุ่งเช้ากับกินกาแฟที่ลอยมากระทบจมูก ข้าพเจ้ากำหนดเวลาไว้แล้ว เพื่อนที่ขึ้นรถตู้ต้องจัดการพาตัวเองให้ไปอยู่บนรถก่อนแปดโมงตรง เพื่อที่จะได้มีเวลาแวะเขื่อนภูมิพล ส่วนข้าพเจ้าเพิ่งจะได้เอ้อระเหยไปออบหลวง เดินไม่ถึง มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์หรอก เมื่อยน่ะ .. เอาแค่นี้ก็พอแล้ว เป็นกระษัย และก็ขับรถไปทันเพื่อน ๆ ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่ เถิน เพื่อนแวะซื้อของฝากกัน จากนั้นก็แวะเขื่อนภูมิพล อากาศเริ่มร้อนแล้ว .. เสื้อกันหนาวเลยกลายเป็นผ้าโพก กะว่าจะถ่ายรูปหมู่รวมเหล่าสักหน แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย เหมือนจับลิงใส่เข่ง แว๊ปไป แว๊ปมา .. จนกระทั่งถึงเวลาเดินทางกลับ กทม. ต่างก็แยกย้ายกัน โดยที่ข้าพเจ้าก็โทรถามเป็นระยะ ๆ ว่าถึงไหนกันแล้ว ตรงนี้ปล่อยฟรีสไตล์ ข้าพเจ้าแวะไร่ส้ม ซื้อไวน์ และของฝากหลายอย่าง เล่าละเอียดเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เอาเป็นว่าคงไม่ขยันมากกว่านี้แล้วล่ะ ช่วงนี้งานตรึม .. คงจะต้องหัวบานจนกระทั่งเดือนหน้าทีเดียว ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันปันน้ำใจให้เพื่อนไทยในชนบท ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนในเวป หรือเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจ ขอบคุณคุณเอื้องอังกูร ขอบคุณอีกหลาย ๆ ท่านที่ช่วยประสานงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่ หรืออยู่เชียงใหม่ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
13 ธันวาคม 2550 22:20 น. - comment id 98610
คุณคนบนเกาะ .. รูปมีเยอะมาก ขนาดที่ว่ายังรวบรวมไม่หมด ก็ร่วม ๆ สองพันรูปแล้ว อัลมิตรามีเวลาไม่มากที่จะคัดรูป เรียงลำดับเวลา เนื่องจากงานรอให้สะสางมากพอควร เอาเป็นว่า คราวหน้าต้องไปสัมผัสเอง .. ดีมั๊ย คุณเอื้องอังกูร .. เราต่างขอบคุณซึ่งกันและกัน เราต่างปีติสุขกับบุญที่ได้กระทำ ค่ะ คุณกุ้งก้ามกราม .. :) โครงการจะลุล่วงไปด้วย ก็เพราะต่างร่วมมือร่วมใจกันค่ะ ที่แล้วมา บางทีก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์เอาไว้ปรับปรุงแก้ไขได้เยอะเลย ขอบคุณสำหรับกำลังใจเสมอมานะคะ :) คุณยอป่า .. จะไปนอนแหล่ววววว ส่งมาสิ ไว้จะทยอยลงให้ คุณไหมไทย .. ปีหน้า คุณหมอแปะกับคุณเอื้องอังกูรก็นัดอัลมิตรามาแล้วค่ะ ศิษย์น้อง .. :) มีโอกาสเมื่อใด เราคงได้ร่วมบุญกันนะคะ คุณเมใจ .. เป็นความสุขที่แบ่งปันกันอย่างทั่วถึงค่ะ งานนี้เหนื่อยมาก แต่ก็สุข ค่ะ คุณมัสลิน .. ขาไปน่ะ ย่ำแย่ตั้งแต่ เถิน------>ลี้ แล้วล่ะ โค้งแล้วโค้งอีก มึนจัง พอไปถึงที่ว่าการอำเภออมก๋อย ก็จัดการไปแล้วรอบหนึ่ง พอขึ้นโฟร์วิลล์ก็อีกสองรอบ ขากลับโฟร์วิลล์รอดนะ แต่แล้วก็มาแป๊บ ลี้-------->เถิน จนได้ ค่ะ คุณพุดพัดชา .. หนนี้อัลมิตราก็ไม่ได้ประกาศรับบริจาคที่หน้าเวปด้วยค่ะ ส่วนใหญ่ที่เพื่อนบางคนโอนเงินมาให้ ก็เพราะพวกเขามีหมายเลขบัญชีจากโครงการเดิม หลายคนค่ะ ที่ร่วมใจกัน บางคนแจ้งว่าไม่ต้องประกาศนาม ค่ะ อัลมิตราก็เลยไม่ได้แจงชื่อ สำหรับยอดเงินสรุปรายรับ รายจ่าย อัลมิตราก็ไม่ได้ทำค่ะ เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของโครงการ เงินส่วนหนึ่งก็ส่งมอบไป อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับมาภายหลังก็นำมาจัดซื้อข้าวของตามที่รายงานค่ะ คุณแก้วประเสริฐ .. หนทางลำบากมากค่ะ เทียบกับที่ไปคราวศรีสะเกษ คนละเรื่องเลย แต่ก็ไม่มีปัญหาจุกจิกนะคะ เมื่อเทียบกับคราวนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจิปาถะที่วุ่นวาย แบบนี้ค่ะ ที่เรียกว่า วัดใจกันจริง ๆ และอัลมิตราก็เชื่อว่า นี่แหล่ะ หัวใจของชาวค่าย หลายคนบอกว่า คราวหน้าจะไปด้วยอีกค่ะ คุณครูพิม .. อัลมิตราบรรยายไม่ไหว แค่ลงรูป ยังทำได้เป็นระยะ ๆ เลย งานชุมแล้วค่ะ คุณเฌอมาลย์ .. ใส่หมวกขาวกางเกงขาสั้น หน้าตาและผม คล้ายกับอีกคนค่ะ แต่คงไม่ใช่คนที่คุณเฌอมาลย์เดาไว้ในใจหรอกค่ะ เธอคนนั้นไม่ใช่คนแถวนี้ ส่วนอีกคนที่อุ้มเด็ก บ้านอยู่นนท์ อาชีพคือ ลักเด็ก ค่ะ ... ฮา คุณคนมันว่าง .. ฮา .. เอาน่า ก็เห็นยังไปล่องแก่งเลยนี่นา แสดงว่ากำลังกายยังเยี่ยมอยู่ คราวหน้าต้องเอาถุงลมไปรองนั่งกันกระแทก .. เนี่ย ยังเจ็บระบมอยู่เลย คุณดอกบัว .. คราวหน้าไปด้วยกันนะคะ :) คุณกุ้งหนามแดง .. นั่นดิ หัวบานเลยเรา งานตรึม วันนี้ก็กลับบ้านเกือบสองทุ่ม คุณเจน..จัดให้ .. คู่ไหนหว่า คู่ที่ขาด ๆ น่ะเหรอ (รองเท้าเด็กดอย) .....
21 ธันวาคม 2550 13:46 น. - comment id 98741
น่ายินดีมากที่มีน้ำใจกันทุกคน เห็นทางรถ ยนต์แล้ว ลำบากมาก แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นภาพ ของเด็ก พวกเขาแสดงความดีใจที่ได้เห็นพวกพี่ ๆนำของไปแจก ปลี้มใจแทนน้อง ๆ ในชนบทอมก๋อย ขอให้พวกพี่ๆ ที่ใจบุญทุกคนจงประสพแต่โชคดีในปี 2551 นี้ด้วย ตัวแทนจากเด็ก อมก๋อย
22 ธันวาคม 2550 23:14 น. - comment id 98753
คุณนักศึกษา มหาวิทยาลัย วัดเนรัญ .. คงไม่ใช่โครงการสุดท้ายแน่นอนค่ะ พวกเราจะพยายามดำรงโครงการนี้ไว้ในนานและดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับปากเป็นมั่นเหมาะกับหมอแปะแล้ว ว่า .. จะปันน้ำใจ อีก ซึ่งก็คงแล้วแต่ว่า ในคณะจะตกลงสถานที่ และวิธีดำเนินการอย่างไร ขอบคุณค่ะ ที่มาเยือน