. ...เอ๊ะ อะไรกันเนี่ย... .

เพียงพลิ้ว

เฮ้อ ว่างเสียที เดือนนี้น่าจะเป็นเดือนที่ยุ่งที่สุดของปีนี้ ต้องมานั่งทำงานตลอด 23 วันโดยไม่ได้พักผ่อนเลย จะบ่นให้ใครฟังก็ไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะสมน้ำหน้า และแล้ววันที่ 24 ก็มาถึง อุตส่าห์ลางานล่วงหน้าตั้งนาน จะได้ไปเที่ยวเสียที ทีแรกตั้งใจไปเที่ยวเมืองลิงแล้วค้างหนึ่งคืน แต่มีบางคนมาไม่ได้จึงจำเป็นต้องยกเลิก(แขกยกเลิกฝ่ายเดียว เจ้าภาพไม่รู้เรื่อง) ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง บอกแล้วเดือนนี้เบลอไปหมดเลย ก็หาเงินไปเที่ยวก็งี้แหละ อิอิ จากเดินทางไปเที่ยวเมืองลิงห้าคน เปลี่ยนแผนไปเป็นสามสาวเที่ยววัดพระแก้ว เที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆในกรุงเทพกัน ต่อด้วยซื้อของโบ๊เบ๊ 
วันที่ 24 พฤศจิกายน นัดกับพี่สาวที่น่ารักกับคุณเพื่อนสาวหวานแห่งบ้านกลอน 09.00 น. ที่ร้านดอกหญ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นั่งรถ 06.50 น. เมื่อรถมาถึงบางนาเสียงพี่สาวก็โทรมาบอกว่า จะมาช้าไปครึ่งชั่วโมง เมื่อคำนวณแล้ว คงถึงไล่เลี่ยกันทั้งสามคน ขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ โทรศัพท์จากน้องสาวเมืองลิงก็โทรมาถามว่าเมื่อไรจะมาถึง อ้าว นึกว่าเราคุยกันแล้วนี่นาว่า เราไม่ไป เราจะมาเที่ยวบางกอกกัน คราวนี้ต้องยอมรับว่าทำหน้าที่ประสานงาได้ดีมาก ก้มหน้ารับชะตากรรมไปพลางๆก่อน โดนต่อว่าชุดใหญ่เลย อิอิ
เมื่อสามสามพบหน้ากัน ถูกต่อว่าจากคุณเพื่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่เป็นไร แค่นี้ทนได้ เมื่อได้ฤกษ์ดี เราก็เดินทางไปวัดพระแก้วกัน ขณะที่เราอยู่บนแท็กซี่เราก็ตกลงกันว่าเราจะไปลพบุรีหลังจากที่เราเที่ยววัดพระแก้วกันแล้ว ไม่ไปวัดพระแก้วก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะมีคนงอแง เพราะอยากไปเที่ยววัดพระแก้วมาก ผ่านไปหลายทีแต่ไม่เคยเข้าไป วันนี้ต้องพาไปก่อนค่อยพาไปต่อเมืองลิง เฮ้อ โดนมัดมือชกอีกแล้ว
มื้อแรกของเรา คือร้านอาหารตามสั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าพระจันทร์ มองเห็นโรงพยาบาลศิริราชอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง ขอเวลาหม่ำกันนะคะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ				

อิ่มแล้ว เราก็เดินไปวัดพระแก้วกันโดยมีคุณเพื่อนเป็นผู้นำ วันนี้มีคนเข้าไปเยี่ยมชมมากพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น ดูพี่สาวของเพียงพลิ้วจะมีความสุขมากที่ได้มาที่นี่ เราทั้งสาวผลัดกันเป็นนางแบบ เป็นตากล้อง สนุกสนานกันใหญ่เลย อีกทั้งชื่นชมในความงามของสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมในวัดพระแก้ว

สำหรับเพียงพลิ้วนั้นสนุกมากแม้จะเกือบโดนร่มของคนกลัวแดดทิ่มตาเอาก็ตาม

				

เห็นภาพนี้แล้ว นึกถึงเจ้าภาพที่เมืองลิง ตอนนี้คงทำท่าเหมือนภาพนี้เลย อิอิ ส่วนใหญ่เลยเราจะใช้เวลาในการดูชมและถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์กัน 

				

ล้างรูปแล้วพี่สาวบอกว่า น่าจะถ่ายได้ดีกว่านี้ ก็ทำไงได้คะก็หนูตัวเตี้ย แล้วยังมีฝรั่งตัวยักษ์ยืนบังเต็มไปหมดเลย มีข้ออ้างอีกแหละ ^_^


				

เราใช้เวลาที่นั่นหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ต้องกลับเพราะมีที่ที่จะต้องไปอีก ระหว่างเดินกลับก็ถ่ายรูปกันอีกตามเคย วิญญาณนางแบบเข้าสิงชั่วคราว




				

บ่ายโมงได้ฤกษ์หามยามดีออกเดินทางไปลพบุรี ทีแรกตั้งใจไปเซอร์ไพรซ์กัน แต่กลัวเจ้าบ้านงอนหนีไปเที่ยวที่อื่นก่อน เลยต้องโทรไปบอกก่อน โชคดีแฮะ หายเคืองแล้ว อิอิ เราไปถึงลพบุรีกันตอนบ่ายสองครึ่ง เจ้าภาพยังน่ารักเหมือนทุกๆครั้งที่ไปเยี่ยม ต้อนรับด้วยของโปรดของตัวเองเสมอ อิอิ ไม่รอช้าเราต้องรีบทำเวลากันเพราะสองสาวไม่ได้แจ้งผู้ปกครองว่าจะต้องค้าง ต้องรีบกลับกันในคืนนี้ โดยมีเสียงรบเร้าให้พักจากเจ้าภาพคนสวยให้ค้างอยู่เป็นระยะ สำหรับเพียงพลิ้วยังไงก็ได้อยู่แล้วเพราะเป็นเอกราช ปกครองตัวเอง งานนี้ได้สารถีผู้ทรงเกียรติมาขับรถพาเราไปเที่ยวกัน ขอบพระคุณมากเลยนะคะสำหรับความใจดีที่ให้กับพวกเรา 

เป้าหมายแรก นี่เลย ทุ่งทานตะวันสวยๆๆๆ ทุ่งแรกที่ไปยังไม่ค่อยเยอะเท่าไร แต่เราก็ลงไปถ่ายรูปกันเยอะเลย




				

นี่เลยทุ่งทานตะวันทุ่งนี้ สวยน่าประทับใจมาก เราถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร แล้วก็เดินทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กัน กระซิบบอกเจ้าภาพอีกทีว่า สวยมากเลย เราอยากไปเที่ยวอีก อิอิ




				

บรรยากาศที่เขื่อนตอนเย็นๆดีมากเลย น่าไปพักผ่อน "น่าไปทอดอารมณ์ กินบรรยากาศ" ขอยืมคำพูดของพี่สาวของเจ้าภาพมาใช้ค่ะ วันนี้เป็นเย็นวันเสาร์มีแขกที่จะเข้ามาพักเดินทางมาพักเป็นระยะๆ มีเต๊นท์กลางให้เช่า มีว่าวให้เล่น หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ เราก็ไปนั่งทานอาหารที่สโมสร เจ้าภาพว่าให้ทานเล่นๆค่อยไปต่อที่อื่น แต่อาหารอร่อยมาก เลยสั่งมาทานกันเพลินจนมืดเลย 

คืนนี้เป็นวันลอยกระทงมีกระทงสวยๆมาขายที่เขื่อนด้วย





				

ดูสิเด็กคนนี้ สงสัยไม่เคยเห็นว่าว อิอิ




				

มืดแล้วถึงเวลาต้องกลับบ้าน รถตู้หมดพอดี เราคงต้องกลับรถโดยสารกันแล้ว เราจอดรถรอที่หน้าโรงพักตำบลนิคมสร้างตนเอง พี่สาวของเจ้าภาพสงสัยทำไมที่เสาธงไม่ผูกธงไว้ จึงเดินไปถามตำรวจที่เข้าเวรอยู่ เจ้าภาพยังแซวพี่สาวว่า ระวังโดนจับตรวจแอลกอฮอล์นะ เรารอรถอยู่นานทีเดียวเพราะว่าวันนี้เป็นวันลอยกระทงรถติด กลับก่อนนะคะเมืองลิง เดี๋ยวไปเที่ยวใหม่ 
				

ห้าทุ่มพอดี ไม่มีรถกลับบ้านนอกแหละ ไปนอนบ้านคุณเพื่อนดีกว่า เราไปส่งพี่สาวที่สมุทรสาครก่อนแล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อไปยังสมุทรปราการกัน ค่ารถ 800 พอดี มากกว่าค่ารถเราสามคนไปกลับจากลพบุรีเสียอีก คืนนี้ตอนบ้านคุณเพื่อนถึงบ้านประมาณตีหนึ่งครึ่ง ถ้าอยู่บ้านตัวเอง จ้างก็ไม่อาบน้ำ หุหุ ไปถึงก็อาบน้ำ ช่วงคุณเพื่อนไปอาบน้ำก็แอบถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อน สงสัยว่าคุณเพื่อนเธอขายต่างหูแน่เลย มีต่างหูเยอะมากเลย นี่ไงเอาหลักฐานมาฝาก แอบถ่ายมา อย่าบอกเจ้าตัวนะคะ 

เจ้าบ้านมาก็คุยโทรศัพท์ ไม่ยอมสนใจแขกเลย บ่อยแขกดูบอลดาร์บี้-เชลซี เฮ้อ สองศูนย์แหละ ไม่ดูดีกว่า ว่าแล้วก็หลับดีกว่า

กระซิบบอกคุณเพื่อนนิดนึงนะคะ จัดบ้านได้สะอาด น่าอยู่มากเลย เป็นหญิงมากเลย วันหลังต้องไปฝึกงานบ้านงานเรือนด้วยแหละ กลับไปบ้านกานต์ทำความสะอาดห้องใหญ่เลย อายคุณเพื่อน อิอิ

				

เช้าวันอาทิตย์ตื่นสายตามเคย ลืมไปว่าอยู่บ้านเพื่อน อิอิ คุณเพื่อนพาออกจากบ้านราวๆสิบโมงครึ่ง นัดกับพี่สาวที่น่ารักอีกตามเคย วันนี้นัดกันมาเอารูปที่อยู่ในกล้องเพียงพลิ้ว เพื่อไปเป็นหลักฐานกับผู้ปกครอง นัดเจอกันที่อนุสาวรีย์เช่นเคย วันนี้ได้เป็นทหารม้าด้วยแหละ โชคดีจัง 

				

มื้อเที่ยงของเราคือก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ร้านป๋ายักษ์ ใครก็ไม่รู้ก้มหน้าก้มตากิน พอตอนนับชามทำอาย อิอิ สามคนยี่สิบชามได้กินเป๊บซี่ฟรีด้วย

หลังจากนั้นเราก็ไปล้างรูปกัน แบ่งสมบัติกันเรียบร้อย เราก็เดินทางไปประตูน้ำกับช็อปปิ้งได้เสื้อคนละตัวสองตัว กินไอศกรีมเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยพอดู
				

การไปเที่ยวครั้งนี้ ดูผิดแผนไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าและรู้สึกดีที่ได้ไป ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหายไปหมดเลย

ขอบคุณพี่สาวที่น่ารักที่น่ารักเสมอ
ขอบคุณคุณเพื่อนสำหรับของขวัญวันเกิดและขอโทษที่กานต์รักษาไม่ดีนะคะ
ขอบคุณน้องสาวที่เมืองลิงที่คอยดูแลอย่างดีเสมอ วันหลังจะไปใหม่เลยไปกินสเต๊กกันด้วยเนาะ
ขอบคุณพี่สาวสารถีใจดีที่คอยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณเจ้าหลานน้อยตัวแสบที่ชอบกินยำสามแก่ อิอิ

คิดถึงทุกคนเลยค่ะ