กระจกส่องใจ
ลุงแทน
กระจกส่องใจ
กระจก…..ไม่เลือกที่จะสท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด
จิตใจ……จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก
กระจก…..รับรู้ แต่ไม่ยึดถือยึดติดและครอบครอง
ดังนั้น…...จึงไม่มีภาพใดใดหลงเหลือหรืออยู่ในกระจก
สายฝน…..ในกระจก หาเปียกกระจกไม่
เปลวไฟ…..ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน
ทั้งนี้……...เพราะกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝน และเปลวไฟ
ดังนั้น……จงทำใจของท่าน ให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก อย่ายึดติด เพราะถ้าหากจิตของท่าน หลงยึดถือยึดติด
หรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความกังวล ความไม่สบายใจ ย่อมตามมาเมื่อนั้น
นี่คือมรรควิธีแห่งการเพ่งพิจารณาและรับรู้สรรพสิ่งด้วยใจที่สงบบริสุทธิ์ ว่างเปล่าจากการปรุงแต่ง เพื่อปลด
ปล่อยจิตใจให้ว่างเปล่าหลุดพ้นไปจากภาพมายาธรรมต่าง ๆ ที่คอยฉุดรั้ง หลอกลวงจิตไม่ไห้เห็นถึงความจริง
ซึ่งจะต้องพยายามทำจิตให้หลุดพ้นจากการยึดติดในสิ่งทั้งปวงเปรียบเหมือนกระจก ฯ