แทบทุกครั้งที่ฉันเดินกลับบ้าน ฉันต้องเจอเธอคนนั้นระหว่างทาง เธอจะนอนขดตัวบนลังไม้แคบ ๆ เนื้อตัวสกปรก ผมเผ้าเป็นกระเซิง บางทีก็มีเศษอาหารเกลื่อน มีกระเป๋าผ้าดำปี๋เหมือนผ้าขี้ริ้วหนุนหัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอไร้ที่พักพิง อาศัยเก็บของตามขยะกิน ไม่ไกลจากจุดนั้น ก็จะมีแผงทำกรอบพระ ฉันเคยถามช่างทำกรอบพระว่า รู้ไหมว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน มาอยู่นานหรือยัง คำตอบคือ อยู่นานแล้ว ไม่รู้ใคร ถ้าดูจากสภาพภายนอก อายุของเธอคงมากกว่าฉัน ดูกระเซิงเหลือเกิน แต่ถ้าขัดคลาบไคลออก ก็อาจไม่ใช่ก็ได้ เส้นทางที่ฉันต้องผ่านก่อนที่จะถึงจุดที่เธอพำนักนั้น ต้องผ่านตลาด และฉันก็อาศัยการเดินกลับบ้านซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปด้วย แวะซื้อเสบียง บางที ฉันก็วางส้ม วางแอ๊ปเปิ้ล ข้าง ๆ ตัวเธอ ก็แล้วแต่ว่า วันนั้นฉันซื้ออะไรมา ฉันไม่เคยเห็นเธออยู่ในสภาพตื่น ทั้งที่มันเป็นช่วงเวลาหัวค่ำเท่านั้น เป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว .. เมื่อวาน วันที่ฝนตกตอนเช้า ตอนเที่ยง ...และตอนเย็น ก่อนฝนลงเม็ดตอนเย็น ฉันก็เดินกลับบ้านเส้นทางเดิม วันนี้ฉันซื้อซาลาเปามา 2 ใบ ว่าจะวางซาลาเปาสักใบให้เธอ เธอไม่ได้หลับ เธอไม่ได้นอนขดตัวบนลังไม้แคบ ๆ ไม่ทันที่ฉันจะสงสัยว่าเธอไปไหน ฉันก็ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดมาจากเบื้องหน้า เธอนั่นเอง อยู่ในตู้โทรศัพท์และเอะอะอาละวาดในนั้น ฉันยืนมองอยู่นาน และสงสัยในพฤติกรรมของเธอ เธอยกหูโทรศัพท์และกรอกภาษาหยาบคายใส่ลงไปด้วยเสียงที่เรียกได้ว่า ตะเบ็ง จากนั้นเธอก็วางกระแทกหูโทรศัพท์ และอีกไม่นาน ก็ทำแบบนั้นอีก เธอ..ไม่ได้หยอดเหรียญ เธอดูน่ากลัวมากในขณะนั้น ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับจะฟาดฟันกับใครสักคน ฉันจับสำเนียงไม่ได้เลยว่า เธอพูดอะไร ได้ยินแต่เสียงด่าทอที่เรียงเป็นประโยคไม่ได้ และนอกจากนั้น เธอยังทุบกระจบ ทุบเครือง ทึ้งตัวเอง เอาหัวโขกกระจก ฉันอยากจะเข้าไปห้ามเธอ แต่ฉันก็กลัวว่าเธอจะเข้ามาทำร้าย หลายคนเดินผ่านไปและเหลียวกลับมาดู แต่ไม่มีใครหยุดอยู่กับที่เหมือนฉัน ฉันเดินไปที่ลังไม้ ที่ ๆ ฉันเคยเห็นเธอผู้น่าสงสารนอนขดตัว ฉันวางซาลาเปาไว้บนลังไม้ โดยที่ฉันก็ต้องระวังไม่ให้เธอเห็นว่าฉันทำอะไร เธออาจไม่ชอบก็ได้ หากเห็นฉันเข้าไปวุ่นวายในอาณาเขตส่วนตัวของเธอ ภาระกิจของฉันเสร็จสิ้น ฉันเดินจากมา พร้อมกับมองท้องฟ้าที่เห็นชัดว่า อีกไม่นานฝนจะตก เมื่อฉันถึงบ้านพัก ฉันหยิบซาลาเปาที่เหลืออีกใบมากิน ใจก็คิดว่า ป่านนี้ เธอจะหยุดอาละวาดหรือยัง จะได้กินซาลาเปาหรือยัง เพราะว่าบริเวณนั้น นอกจากเธอแล้ว ก็ยังมีเจ้าสี่ขาวนเวียนอยู่หลายตัว ดีไม่ดี ซาลาเปาอาจเสร็จไอ้ตูบไปแล้วก็ได้ ลมแรง .. จนฉันได้ยินเสียงใบไม้ลู่ลมเกรียว ฉันลุกไปที่ระเบียง เก็บเสื้อผ้าที่ตากไว้บนราวเข้าบ้าน เสื้อเหลืองของข้างบ้านปลิวลอย ผ้าเช็ดตัวของอีกบ้านก็ลอยลมเหมือนกัน ฝนตกแล้ว .. เธอยังอยู่ในตู้โทรศัพท์หรือเปล่า กินซาลาเปาหรือยัง เหนื่อยมั๊ย ที่ทำอย่างนั้น แล้วเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ฝนตก ลมแรง จนไฟดับ .. ฉันหลับตา แต่ความคิดของฉันยังคงวนเวียน ถึงเธอ ..
20 พฤศจิกายน 2550 22:36 น. - comment id 98335
จะร้อนหนาวพราวฝนบนเมืองใหญ่ มิสนใจอาทรในร้อนหนาว ไร้บ้านโตโอฬารสะพานดาว ทุกช่วงก้าวลำพังยากหยั่งรู้ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งสิ่งติดกาย มิมาดหมายไหมงามอร่ามหรู หัวจรดเท้าคราบไคลไม่น่าดู ก็ทนอยู่มิบ่นก่นความใด คุ้ยขยะหาอาหารสมานท้อง ที่ร่ำร้องโหยหิวจนกิ่วไส้ เพียงเศษน้อยคำหนึ่งพึงพอใจ มื้อนี้ได้ต่อชีวาอีกคราวัน นอนฟุตบาทแทนเตียงเคียงจันทร์เจ้า สุขฤๅเศร้ามิอาจหวังวาดฝัน รู้เพียงยามพรุ่งพลบสูรย์กลบจันทร์ ท้องไส้อันหิวกระหายจักคลายลง มิเคยขอเศษเงินเมินเสียเถิด อยู่ตามมีตามเกิดไม่ไหลหลง ใช่บรรลุธรรมใดได้ปลดปลง แต่จะคงวิถีข้า...คนบ้าบอ ..ถนนช้างคลาน..เวลา 12.15 น...กำลังเดินออกไปซื้อของ....
22 พฤศจิกายน 2550 23:21 น. - comment id 98345
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. อัลมิตราเคยโดนคนบ้าขยุ้มหัวนะ ขำมาก ๆ ตอนนั้น นั่งบนรถสองแถว ใกล้จะถึงบ้านแล้วล่ะ มีคนลงก่อนหน้า พออีกคนจ่ายตังค์อีกคนที่ลงทีหลัง ก็เอามือละเลงหัวผู้โดยสาร โดนกันเฉพาะที่นั่งท้าย ๆ หัวยุ่งไปหมดเลยล่ะ ตอนนั้นเซ็งมาก อยากยันโครมให้ร่วงไปนั่น ดีที่ ยังอยู่ในเครื่องแบบนักเรียน เลยต้องสำรวม ถ้าเป็นตอนนี้นะ .. เปรี้ยงเข้าให้แล้วล่ะ