เธอมองดูดวงดาวอันเลื่อนลอยของฉันอย่างสงสัย พลางถามฉันว่า ฉันกำลังฝันถึงอะไร ฉันบอกเธอว่า ฉันเพียงแต่นึกถึงเรื่องราวบางสิ่งบางอย่างที่ผ่านไปในชีวิต ฉันหาได้ฝันไม่ เธอส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวว่า สิ่งที่ฉันบอกว่าไม่นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันฝัน ฉันหัวเราะและบอกเธอว่า ถ้าเช่นนั้นฉันก็คงจะได้ฝันมาแล้วตลอดเวลา ฉันฝันถึงสิ่งทีอาจเป็นไปได้และอาจเป็นไปไม่ได้ ฉันฝันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วและยังไม่เคยเกิดขึ้น ความฝันนั้นเป็นภาพนิมิตอันบรรเจิดแจ่มและน่าสะพรึงกลัว เราฝันเมื่อหลับและฝันเมื่อตื่น ฝันกลางคืนและฝันกลางวัน และแล้วความฝันนั้นก็สูญสลายไปในฝุ่นของสีและธุลีของแสง ฉันฝันถึงสิ่งที่ธรรมดาที่สุด ฝันถึงทุ่งนากว้างที่อร่ามไปด้วยสีทองของรวงข้าว ฝันถึงตรอกซอกที่คร่ำคร่าไปด้วยสีดำของความโสโครก ฝันถึงเรือกสวนที่ชอุ่มไปด้วยสีของใบไม้ และฝันถึงตึกใหญ่ที่ดื่มด่ำอยู่ด้วยสีแดงแห่งกิเลศ ฉันฝันถึงสิ่งแปลกประหลาดที่สุด ฝันถึงสรวงสวรรค์ที่งดงามไปด้วยรูลักษณ์ของเทพบุตรและเทพธิดา ฝันถึงซากศพที่กลับผุดขึ้นสร้างความอัปลักษณ์ให้มนุษย์ ฝันถึงเรือโล้ทองที่แล่นไปในท้องทะเลลึกและลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ท่ามกลางเสียงขับกล่อมอันเริงใจ และฝันถึงมวลผีนรกที่จับระบำทำเพลงอยู่รอบกระทะน้ำมันอันเดือดพล่าน ฉันฝันถึงความหวังของมนุษย์ ฝันถึงมนุษย์คู่แรกผู้ท้านรกและสวรรค์เพื่อสร้างโลกขึ้นมาให้อยู่ในหว่างกลาง ฝันถึงสิ่งมีชีวิตคู่แรกที่สามารถแพร่พันธุ์ขันแข่งกับมนุษย์ จนมนุษย์ไม่อาจเทียบทันได้ในเรื่องเผ่าพันธุ์ ฝันถึงภาษาพูดครั้งแรกที่มนุษย์รู้จักใช้ปากให้เป็นประโยชน์ต่างหากไปจากการกิน ฝันถึงภาษาเขียนครั้งแรกที่มนุษย์รู้จักใช้มือให้เป็นประโยชน์ต่างหากไปจากการทำลาย ฉันฝันถึงความก้าวหน้าของมนุษย์ ฝันถึงมนุษย์คู่แรกที่สามารถเหาะเหินไปตามดวงดาวต่างๆเพื่อขยายพันธุ์ของตัวเอง ฝันถึงการสู้รบระหว่างโลกต่อโลกซึ่งมีอยู่ดาระดาษไปทั่วจักรวาล ฝันถึงสัตว์คู่แรกที่สามารถพูดภาษามนุษย์และเริ่มเป็นสัตว์ตรูที่น่ากลัวที่สุด แทนที่จะเป็นมนุษย์ต่อมนุษย์ และฝันถึงพระผู้เป็นใหญ่ในสากลจักวาลที่ลอยเด่นอยู่กลางเวหาสในวาระสุดท้ายของชีวิตทั้งมวล เราอาจฝันไปได้ต่างๆนานา ความฝันอาจจะสดชื่น ความฝันอาจจะขื่นขม แต่เราก็เคยได้ฝันแล้ว และยังจะต้องฝันต่อไป เธอพยักหน้าอย่างแย้มยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า ความฝันนั้นคือชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตัวเราไม่ได้อยู่คงที่ มันผ่านไป และผ่านไปโดยที่เราไม่สามารถจะเก็บมันไว้กับตัวเองได้ เมื่อวันใหม่มาถึง วันเก่าก็ผ่านไป เช่นเดียวกับที่เราฝัน เมื่อเราลืมตาขึ้น ความฝันก็หายไป ฉันไม่เห็นด้วย เธอจึงถามว่า ถ้าเช่นนั้น ชีวิตคืออะไร เมื่อเราก่อกองไฟขึ้น และปล่อยให้มันลุกโรจน์จนกระทั่งมอดดับ สิ่งที่เหลืออยู่คือถ่านเถ้า เมื่อเราโค่นต้นไม้ลง และเลื่อยมันออกเป็นแผ่นๆ สิ่งที่ตกค้างอยู่คือขี้เลื่อย เมื่อเราทำลายภูเขาลง สิ่งที่ปรากฏขึ้นก็คือที่ราบ เมื่อเราปล่อยเวลาให้ผ่านไป สิ่งที่เรายังคงจดจำได้เสมอก็คือความหลัง ความฝันคือสิ่งที่เกิดขึ้นและดับลงโดยไม่มีอะไรที่หลงเหลืออยู่ แต่ชีวิต-เมื่อเกิดขึ้นและดับลงแล้ว ย่อมจะต้องมีสิ่งที่คงเหลืออยู่ ไม่ว่าใครนั้นจะเลวหรือดี ไม่ว่าใครนั้นจะมีหรือจน เขาย่อมจะต้องมีสิ่งที่คงเหลืออยู่ทุกคน จะทนนานเพียงไหนนั่นย่อมแต่กรรมที่เขาประกอบไว้ เธออ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งจึงถามว่า สิ่งทีคงเหลืออยู่ของมนุษย์คืออะไร ฉันยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อพาเธอไปหยุดยืนต่อหน้าพระบรมรูปทรงม้า ฉันชี้ให้เธอดูพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และบอกเธอว่า นั่นแหละคือสิ่งที่คงเหลืออยู่ เมื่อเราฝันนั้น พอเราตื่นขึ้น ความฝันก็หายไป แต่ในชีวิตจริง แม้ยามที่เราหลับไปแล้วชั่วนิรันดร์ สิ่งที่เราได้ทำเอาไว้ก็ยังจะคงอยู่ และจะอยู่ตลอดไป นั่นคือความจริง
5 กรกฎาคม 2551 10:51 น. - comment id 83158
11 พฤศจิกายน 2550 12:35 น. - comment id 98284
ขอให้งดงามทุกย่างก้าวทั้งในฝันและความจริง
11 พฤศจิกายน 2550 13:19 น. - comment id 98285
ความฝันต่างจากความจริงคือ...เราสามารถตื่นได้ในระยะเวลาสั้นๆค่ะ....
12 พฤศจิกายน 2550 08:16 น. - comment id 98295
มิตรภาพที่รัก.. วาสนาฟ้า.. นิรันดร..
12 พฤศจิกายน 2550 18:55 น. - comment id 98300
ความต้องการของมนุษย์เราแตกต่างกันไปสุดแต่ใจจะคว้าฝันนั้น ฝันให้ไกลไปให้ถึง ถึงจะไปไม่ถึงก็ไม่เป็นไร สู้ใหม่นะทุกคน สำหรับคนที่มีฝันนะจ๊ะ ปล่อยว่างกับชีวิต เปลี่ยนมุมมองของชีวิตเสียใหม่ อาจจะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตก็ได้ นะจ๊ะ นะจ๊ะ
13 พฤศจิกายน 2550 10:57 น. - comment id 98305
รัก จะรักภักดีมั่น ฝัน จะฝันไม่หวั่นไหว คอย จะคอยไม่น้อยใจ ให้ จะให้ด้วยใจจริง ขอบคุณสำหรับเรื่องราว&ความคิดที่ดีงาม พร้อมกำลังใจที่มีให้เสมอมา และเป็นกำลังใจให้สำหรับทุกความฝันความตั้งใจที่ดีงามค่ะ ขอให้ฝันนั้นเป็นจริง