ห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ

อัลมิตรา

 
ฉันเดินเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบ 
ซึ่งที่จริง ฉันไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น ก็ได้
เพราะอย่างไรก็ดูเหมือนว่าฉันอยู่ลำพังอยู่แล้ว
ฉันปล่อยให้ห้องนอนอยู่ท่ามกลางแสงสลัว สักครู่ .. ก่อนเปิดไฟ
หน้าต่างบานกว้างถูกเปิดออก หน้าต่างอีกบานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยังไม่ได้เปิด
ฉันนั่งก้ม ๆ เงย ๆ กับกองหนังสือ บนโต๊ะที่อยู่ริมหน้าต่าง
อ่านบ้าง .. เขียนบ้าง .. และก็ปล่อยใจให้ลื่นไหลไปกับตัวอักษร
หน้าต่างฝั่งตรงข้ามเปิด หลังจากที่มีแสงไฟ พร้อมกับเสียงทักทายของเขา
" สวัสดีครับ ทานข้าวหรือยังครับ คุณคงสบายดีนะครับ"
มักจะเป็นเวลาประจำ ช่วงสี่ทุ่ม ที่ฉันจะได้พบเขา เพื่อนบ้านที่ฉันไม่รู้จักชื่อ
" ทานแล้วค่ะ คุณล่ะ ทานข้าวหรือยัง "
คำทักทายที่กลายเป็นประโยคคุ้นเคยจนแทบจะท่องจำได้ในทุกถ้อยคำ
ฉันกับเขา คุยกันผ่านหน้าต่างมาหลายปีแล้ว 
เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าแปลกประหลาดแท้ ๆ 
เขาบอกว่า บ้านที่เขาอยู่ตรงนั้น คือ ชนบท
ส่วนฉันก็ยืนยันว่า ฉันอยู่กรุงเทพ 
เราแทบจะยื่นมือเอื้อมถึงกัน แต่ไหง๋ เขาถึงบอกว่าเขาอยู่ชนบทนะ 
มองจากหน้าต่าง ฉันเห็นบ้านของเขาเป็นเรือนไม้สองชั้น 
มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ผล และไม้ดอก บ้านของเขาน่าอยู่จัง
เขาเลี้ยงสุนัขด้วย ครั้งหนึ่งเขาบอกว่า เขาเพิ่งได้ลูกสุนัขมาใหม่
ฉันรีบขอเขาทันที และก็โมเมว่า มันเป็นของฉันแล้ว มันชื่อ ฮอร์ค
คงอยากรู้สินะ ว่า วัน ๆ ฉันกับเขาคุยอะไรกันบ้าง
- เขามักจะเล่าเรื่องราวในคราวที่เขาออกไปท่องเที่ยวให้ฟัง
- เขามักจะเล่าเรื่องดนตรี เล่าลึกไปจนถึงนักดนตรี และตำนานเพลง
- เขามักจะเล่าเรื่องกีฬา ฟุตบอลเป็นกีฬาโปรดของเขา
- เขามักจะเอารูปวาดมาอวด และบอกว่า นั่นเป็นฝีมือของเขา
- เขามักจะเล่าเรื่องการเมือง เรื่องที่เขาอยากให้ใครสักคนรับฟังสิ่งที่เขาอัดอั้น
ฉันเป็นคู่สนทนาของเขา ซึ่งบางเรื่องฉันก็พอจะกล้อมแกล้มโต้ตอบได้
แต่บางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสุดท้าย ฉันเหมือนลาโง่ ที่ไม่รู้จะคุยกับเขายังไง
ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาสักเท่าไหร่ หากทุก ๆ เรื่องที่ฉันเล่าให้เขาฟัง เขาตั้งใจฟัง
บางหน ฉันหาปมมาให้เขาแก้ หาปัญหามาให้เขาขบคิดและหาหนทางช่วยเหลือ
ฉันไม่เอาไหนเลย ทำไมนะ ฉันถึงได้เป็นคนห่วยแตกอย่างนี้
ฉันแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่า ฉันเป็นเช่นนั้น แต่ฉันก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า .. เป็น
...........................................................
วันนี้ ฉันอยู่ในห้องนอน นั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ
ฉันเปิดหน้าต่าง  แต่ฉันไม่ได้เปิดไฟ 
ฉันไม่กล้าเปิดไฟ  เพราะฉันรู้สึกว่า ฉันไม่มีประโยชน์ใด ๆ สำหรับเขา
ฉันไม่อาจช่วยผ่อนคลายในความทุกข์ร้อนกังวลใจของเขาได้
ที่มากว่านั้นคือ ฉันรู้สึกละอาย 
เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ..
ฉันแอบมองเขาผ่านหน้าต่างห้องที่ไม่เปิดไฟ ..
ฉันนั่งร้องไห้เงียบ ๆ  อยู่ในห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ  . .
				
comments powered by Disqus
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    7 พฤศจิกายน 2550 23:10 น. - comment id 98267

    ฉันเก็บตัวอยู่ในห้องแคบๆ...ไม่มีเสียงเพลง...ไม่มีเสียงใดใดเล็ดรอดเข้ามา...
    ...เสียงที่ดังที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นเสียงเต้นของหัวใจ...ที่บ่งบอกว่า....
    ..ฉันยังมีชีวิตอยู่......หมอกจาง..น้ำค้างไส...น้ำค้าง...จินตนาการของกวีที่บางครั้ง
    อาจเสียดแทงความรู้สึกของใครต่อใครได้...แต่ฉัน..ปัจจุบันจมดิ่งกับความรู้สึกที่...
    สับสน...ลมหายใจที่แผ่วเบาประสานกับจังหวะการเต้นของหัวใจ...ฉัน..ทำอะไรอยู่???
    ...นอกหน้าต่าง...มีเพียงเสี้ยวจันทร์ที่กำลังจะลับหายไปกับคืนแรม....หากเป็นกวี..เขาคง
    รจนาเป็นอักษราได้ไม่รู้กี่หมื่นแสนถ้อยคำ...แต่ฉัน..!!!...เพียงภาวนาให้คืนนี้ผ่านพ้นไป
    โดยที่มีเสียงเต้นของหัวใจยังคงอยู่...เพื่อจะได้รู้ว่า...พรุ่งนี้ฉันต้องเก็บตัวเช่นนี้อีกครา...
    
    .....จึงโดดเดี่ยวเดียวดายความหมายนี้...................(บางส่วนในเรื่องสั้น...รังไร้รัก)
    31.gif38.gif
  • พุด

    7 พฤศจิกายน 2550 23:53 น. - comment id 98269

    36.gif16.gif3-1053-IngridBergmancolor.jpg
    
    สังคมมายา  หน้ากากหลอกตา ที่ท่าหลอกใจ
    บ่วงรักมากเล่ห์ สนเท่ห์หลงใหล หลงผิดทางไป พาใจกังวล...
    
    เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ใจกายเศร้าหม่น ท่ามกลางผู้คน
    มิเคยสุขจริง  เต็มน้ำตาตรม ทดท้อระทม เชิดหน้าหยัดหยิ่ง..
    
    เจ็บช้ำแปลบปลาบ ใครแอบอุ่นอิง ไร้ใครพึ่งพิง 
    ภักดีพลีใจ มีเธอเป็นเพื่อน ราวรักคืนเรือน เสมือนโลกใหม่...
    
    จิตเจิดแจ่มจ้า  ท้าทายฝันไกล  มากหวังพลังใจ
    ต่อใจซึ้งกัน มิยอมพ่ายแพ้ เธอคอยคลายแก้ เติมใจไฟฝัน...
    
    มีความอาทร เทใจให้กัน ราวมีสวรรค์ 
    ลอยเลื่อนสู่ใจ ในปรารถนา เธอรู้ไหมว่า รักเราไม่ไกล..
    
    ขอเพียงมั่นคง ขอเพียงมั่นใจ ประสานดวงใจ
    อย่าไปหวั่นไหว ในเมื่อหัวใจ มีความจริงใจ ตราบชั่วนิรันดร์!
    
    36.gif36.gif
    
    บูมเมอแรงรัก! 
    พุด 
    
    ที่รัก..เธอไปๆมาๆ ลาๆจากๆ กระชากใจฉัน 
    ให้โหยหา นับครั้งไม่ถ้วนกับการกลับมาเที่ยวนี้
    เธอ เปรีบบดัง..บูมเมอแรงรักนี้..
    ที่ฉัน ขว้างไปไม่พ้นตัว และหมุนวนกลับมา...
    
    แต่..คนดี..ไม่เป็นไรนะ....
    เพราะยังดีกว่า  การที่พบกันหนเดียว แล้วลาจากเลยลับ...
    เธอ..กลับมาสอนฉันให้เรียนรู้ และยอมรับความจริงของชีวิต 
    และยิ้มสู้และอยู่อย่างเข้าใจโลกดีขึ้น..
    
    ทุกอย่าง..มันต้องมีวันสิ้นสุด... 
    มีวันนี้ ต้องมีวันหน้า มีวันจากลาก็ต้องมีวัน..พบกันใหม่
    ถ้าเพียงใจเรานั้นยังคงต้องการ..กันและกัน...
    
    ถ้าเราคิดดี คิดในทางบวก..
    ว่ายังคงมีตะวันรุ่งพรุ่งนี้จะหมุนวนมาไม่เคยจากลาไปไหนไกล...
    พระเจ้า..เพียงแกล้งยืดเวลา ลองใจ ใ
    ให้เรานี้พิสูจน์คุณค่า ความรักแท้ ความหนักแน่น
    ความมั่นคง  และให้เราได้สร้างสรรสิ่งดีๆให้กับชีวิต
    เพื่อเป็นรากฐานให้กับรักของสองเราได้เบิกบาน 
    และงดงาม ดังดอกไม้บานในยามเช้า ที่รอรับแสงตะวัน.........
    
    อดีตผ่านไปแล้ว  5 ปี ดูซิ ว่าเร็วแค่ไหน 
    ดังติดปีกบิน นับประสาอะไรกับการรอไปข้างหน้า
    ที่เรายังมีความหวัง มีกำลังใจ 
    เหมือนได้เห็นฐานรากของ..บ้าน..ที่จะเป็นดั่ง..วิมานของเรา....
    และกำลังก่อตัวให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง 
    เป็นรังรัก พักพิงตราบจนเรานี้จะสิ้นชีวา...
    
    และเราก็รู้ว่า เรามี..ทุน..ที่จะทุ่มเท 
    เหมือนดังดวงใจรักนี้ที่เกินร้อย ที่เททุ่มทอดใจให้อย่าง
    มากมาย จนหมดสิ้นหัวใจ
    
    มันคงไม่มีโอกาสที่จะแพ้พ่ายและพังล้มคลืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า..
    ถ้าเราค่อยๆสร้างอย่างประณีต
    และด้วยใจทั้งดวงที่รู้ว่า..
    บ้าน...คือทุกสิ่งของชีวิตนี้ ที่เราจะฝังฝากกายใจ ให้อบอุ่นเป็นสุข
    จนตราบถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต........
    
    ที่รัก!.. คนดี คนเข้มแข็ง รู้เก็บ รู้กลืนกล้ำ รู้อดทน
    เธอรู้ว่า เธอต้องการพลังนั้น เพื่อฟันฝ่า 
    และให้ได้มา ซึ่ง..ผู้หญิงคนพิเศษ..คนเดียวในดวงใจ
    ที่ทุกคนได้ถูกฟ้าดินกำหนดเอาไว้ให้แล้ว....โดยมิอาจจะหนีพ้น...
    
    ฟ้าดิน..กำลังลองใจเธอ ผู้หาญกล้า 
    ให้รู้ค่า รู้รัก รู้รอคอย ก่อนมอบของขวัญล้ำค่ามาสู่มือเธอ..
    เหมือนสอนใจว่า.........
    โลกนี้ จะตื่นเต้นท้าทาย และแสนซาบซึ้งใจ 
    เมื่อของขวัญทุกสิ่งที่จะได้มานั้น ต้องใช้ความเพียรพยายาม...
    เพื่อจะได้รู้จักคำว่ารัก ทะนุถนอม...ให้ยาวยืน.....
    
    บูมเมอแรงรัก จักวนกลับมา 
    และจะหยุดอยู่กับที่ 
    เมื่อถึงเวลาที่พร้อม ที่ควร 
    และจะหยุดอยู่ตรงนี้กับดวงใจของคนดีที่มีค่าคู่ควร  
    คนที่ยอมรับรัก และเข้าใจ  และพร้อมจะเคียงข้างกันไป  
    เป็นดวงใจของกันและกันนิรันดร....
     
     
    
    36.gif36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    8 พฤศจิกายน 2550 04:59 น. - comment id 98270

    อ่านแล้วผมนึกถึงหนังสั้น
    เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานศิลปะอีกแนวหนึ่ง
    
    
    ตัวละครของผม
    ยืมมาจากเรื่องห้องมืด
    นางเอกมีคนรักแล้วแต่เหงาเงียบ
    พระเอกยังไม่มีคนรัก
    เงียบแต่ไม่เหงา
    ทั้งคู่อยู่ห้องข้างกัน
    สามารถเอื้อมมือถึงกันได้
    
    แต่ไม่..
  • ใยไหม

    8 พฤศจิกายน 2550 19:44 น. - comment id 98273

    ทางออกควรจะเป็นการทำความเข้าใจกันน่ะ
    ไม่ใช่  ปิดไฟ...
  • อัลมิตรา

    8 พฤศจิกายน 2550 23:36 น. - comment id 98274

    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. เขียนตอบไม่ถูกเลย อะไรกันเนี่ย
    
    คุณพุดพัดชา .. ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วหัวใจแช่มชื้นขึ้นเลยค่ะ
    
    คุณก่อพงษ์ .. ได้ชื่อนางเอกยังอ่ะ .. ฮา
    
    ยัยไหม .. เฮ้อ ! .. +  เฮ้อ ! ..
  • ครูพิม

    9 พฤศจิกายน 2550 08:27 น. - comment id 98275

    1.gif
    
    ชั่วชีวิตหนึ่ง
    ขอเก็บใครบางคนไว้ในใจ
    เพราะรู้แน่แล้ว่า
    ใกล้กันแค่เอื้อม...แต่ใจไม่อาจเอื้อม..
    เขาเผยใจ...แต่ใจไม่กล้ารับ
    ในใจมืดๆๆๆๆที่มีไฟรักคุกรุ่น.
    และความอิ่มใจ...ยังเต็มปิ่ม
    ไม่เสื่อมปตามกาล...
    เท่านั้นเพียงพอ..
    
    16.gif
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    11 พฤศจิกายน 2550 11:52 น. - comment id 98283

    แต่งต่อให้ดีกว่า อิอิ
    
    ฉันนั่งจมอยู่ในความมืดเงียบงัน ไม่มีจุดหมาย เขาคงไม่รู้ว่าฉันกลับมาแล้ว
    แต่ฉันกลับมองเห็นเขาเพราะมีแสงไฟดวงเล็ก ๆที่หัวเตียงเขาคงลืมเปิดทิ้งไว้
    พระเจ้าช่วย ไม่ใช่เขาคนเดียวที่อยู่บนเตียงนั้น ...ฉันบรรยายต่อไม่ถูกแล้วได้แต่ยืนตัวแข็ง..  อิอิ จบตอน  อิอิ
  • อัลมิตรา

    11 พฤศจิกายน 2550 14:57 น. - comment id 98288

    คุณครูพิม .. ในหนึ่งชีวิตคน จะมีสักกี่คนที่เราคัดเลือกแล้วว่า ใช่
    แต่ในความที่ว่า ใช่ นั้น .. ก็อาจดูเหมือนไกลเกินความจริง และเป็นไปไม่ได้
    เหมือนกับการเฝ้ามอง แอบดู .. ทว่า ไม่อาจร่วมรู้สึกได้จริง
    
    คุณฤกษ์ .. เขาไม่ได้อยู่คนเดียวบนเตียง ยังมีสุนัขตัวหนึ่งที่ชื่อฮอร์คอยู่กับเขา
    สุนัขที่เมื่อปีก่อนเขาเอามาอวด เป็นลูกสุนัขที่น่ารักมาก .. ไม่น่าเชื่อ
    ทั้งเขาและสุนัขตัวนั้น .. เชียร์ลิเวอร์พูล ตอนที่ได้ประตูที่สอง ฉันเห็นเขากระโดดกอดกับมัน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน