เรื่องของน้ำท่วมที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในช่วงนี้ จริงอยู่อาจดูเหมือนไกลตัวนักสำหรับชาวกรุง แต่เมื่อคิดไปแล้ว .. การที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องผจญกับความยากลำบาก แบกรับภาระอุ้มน้ำแทน เพื่อป้องกันและมิให้เมืองหลวงประสบภัยพิบัติน้ำท่วมนั้น ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เปรียบเทียบง่าย ๆ ชาวบ้านโดยส่วนใหญ่ ถัวเฉลี่ยมีรายได้/เดือน ไม่กี่พันบาท ไม่กี่ร้อยบาท เมื่อเทียบกับชาวเมือง.. ผู้ซึ่งมีรายได้โดยเฉลี่ยสูงกว่าพวกเขา มันคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง เอาง่าย ๆ แค่ระดับน้ำที่สูงกลางใจเมืองหลวงประมาณ 200 กว่ามิลลิเมตร ก็ทำเอาร้อนฉ่าไปถึงสภา เล่นเอาทั้งผู้ว่ากทม.และบรรดาข้าราชการชั้นสูงวิ่งวุ่น ถือว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องรีบจัดการและแก้ไขเลยทีเดียว ส่วนชาวบ้านที่ลุยน้ำกันจนถึงอก บ้างก็ปริ่ม ๆ ปลายจมูกด้วยซ้ำ บางที่นะ ที่เกินสองเมตรไปนานแล้ว ก็ยังคงต้องรอความช่วยเหลือต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน วัดวาอาราม กระทั่งโรงพยาบาล เกิดความโกลาหล เฮ้อ !! แล้วชาวกรุง... จะทำเป็นไม่รู้สึกรู้สากับความเดือดร้อนของชาวบ้านได้เชียวหรือ ? เอาน่า คนละเล็ก คนละน้อย ช่วย ๆ กันประคับประคองกันไป ให้มันรู้ไปสิว่า .. น้ำใจจะไม่สามารถบรรเทาความทุกข์ร้อนจากน้ำท่วมได้
รึไงกัน !!!.. ..๏ น้ำเอ๋ยน้ำใจ สวยใสล้ำค่าสมานฉันท์ จากจิตโอบเอื้อเกื้อกูลกัน ผูกพันธ์เปี่ยมพลังด้วยหวังดี ปานฝนทิพย์พรมให้ร่มรื่น ดินชุ่มฟ้าชื้นทั่วพื้นที่ ปัดทุกข์ป้องภัยในปฐพี เพื่อที่ประสบสุขทุกผู้คน ไม่มีผู้ใดใครบังคับ พร้อมสรรพศักดิ์สิทธิ์อิฐผล เย็นใสบริสุทธิ์ดุจพุทธมนต์ บันดาลดลเกษมและเปรมปรีดิ์ สายธารน้ำใจไทยทั้งชาติ มุ่งมาดมอบสุขทุกน้องพี่ จากจิตเมตตาปรารถนาดี ให้มีความสุขทุกคนเอย ๚ะ๛
18 ตุลาคม 2550 09:02 น. - comment id 98076
เป็นสิ่งที่ดีครับที่คุณอัลมิตราเปิดประเด็นและลำนำกลอนซึ้งใจ ช่วยกันคนละนิดก็ได้ช่วยชีวิตคนแล้วครับ ปีกลาย ผมจัดโครงการ ซับน้ำตาชาวเสนาอยุธยา ได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนๆที่ใจบุญมากมาย ปีนี้ว่าจะบริจาคเองนะครับ ใครมีโครงการบอกด้วยครับ
18 ตุลาคม 2550 09:17 น. - comment id 98077
บ้านเคยถูกน้ำท่วมนะคะ เข้าใจความรู้สึกของผู้ประสบภัยดีค่ะ ลำบากสุดคือเรื่องขับถ่ายอ่ะค่ะ