ทอรุ้งรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกับการที่ต้องมานั่งรถโดยสารในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ สัมภาระแค่กระเป๋าใบใหญ่ใบเดียวเท่านั้นเอง เด็กท้ายรถช่วยกันยกจนตัวเอียงเก็บไว้ใต้ท้องรถ ทอรุ้งหิ้วเพียงกระเป๋าโน้ตบุ๊คขึ้นไปบนรถรอเวลารถออก ช่วงบ่ายอย่างนี้ผู้โดยสารไม่ค่อยแน่น นั่งสบายๆ ทอรุ้งจึงสามารถนั่งเบาะอย่างสบายๆ คนเดียว การเตรียมตัวเดินทางวันนี้ทำเอาเธอเพลียมาก ทั้งยังจะมาเจออากาศอบอ้าวแบบนี้ เธอคิดว่าเดี๋ยวคงจะนั่งหลับแน่เลย เมื่อคืนก็ยังหลับดึกอีกด้วย แต่คราวนี้เธอต้องไปรับงานไกลบ้านจึงต้องจัดการสิ่งต่างๆทางบ้านให้เรียบร้อย รุ้งสนใจงานดูแลเด็กมั๊ยล่ะ พี่หมอที่คุ้นเคยกันมานานเอ่ยถามขึ้นมาในวันหนึ่ง ดูแลเด็กแบบที่ศูนย์นี่เหรอคะ เธอย้อนถาม ก้อคล้ายๆกัน แต่คนนี้ผู้ปกครองเขาอยากได้พี่เลี้ยงแบบอยู่ประจำเลย วันนั้นเธอลังเลไม่ได้ตอบรับปากไปทันที งานดูแลเด็กที่เธอไปทำเป็นงานตามความพึงพอใจ ที่เธอเลือกทำหลังจากการลาออกจากงานประจำ ประกอบกับรู้จักกับคุณหมอธีรินทร์เป็นการส่วนตัวมานาน เธอจึงอาสามาช่วยงานดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กแห่งนี้เท่าที่เธอจะสามารถมาได้ อย่างรุ้งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ พี่ว่า เพราะเจ้าลูกชายทั้งสองก้อโตๆ กันแล้ว คุณหมอพยายามหว่านล้อม พ่อของเด็กเขาอยากได้คนดูแลที่มีอายุแล้วก้อความรู้ในการดูแลเด็กออทิสติกด้วย รุ้งน่ะเหมาะ บทสรุปง่ายๆ กับข้อเสนอค่าตอบแทนที่สูงพอสมควร ทำให้ทอรุ้งนำมาคิดและถามความเห็นของลูกชาย ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ลูกชายคนโตแม้จะเพิ่งเรียนจบก็มีงานทำที่พอจะสามารถดูแลน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษา แม่จะไปอยู่ได้เหรอ ในสวนจะแบบไหนก้อไม่รู้ เจ้าคนเล็กตัวสูงไม่วายกังวลเล็กๆ อยู่ได้สิ ไม่น่าจะมีอะไรนะ ทอรุ้งยืนยัน ความจริงเธอก็ตัดสินใจเองได้แต่ด้วยความคุ้นเคยที่อยู่ด้วยกันสามแม่ลูก ที่มักจะพูดคุยกันเสมอในทุกเรื่อง ในที่สุดเธอก็ตอบตกลงกับหมอธีวินทร์ที่จะเดินทางไปทำงานดูแลเด็กในที่ที่เธอยังไม่เคยได้ไปมาก่อน ข้อมูลรายละเอียด ข้อตกลงต่างๆ ล้วนสำเร็จลงไปด้วยคุณหมอเป็นผู้จัดการให้ และวันนี้เธอกำลังเดินทางไปทำงานกับนายจ้างที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มองไปไกลๆ ในทิศทางที่กำลังเดินทาง อดหวั่นวิตกไม่ได้กับเมฆฝนที่ดำทะมึนข้างหน้า เพราะพี่หมอบอกว่าต้องใช้เวลาเดินทางมากพอสมควร แล้วยังต้องเดินทางเข้าไปที่สวนผลไม้อีกต่อหนึ่ง โชคดีที่ทางนายจ้างจะมารอรับที่ท่ารถ ทอรุ้งเอาโทรศัพท์มาเช็คหมายเลขติดต่อที่พี่หมอเอื้อเฟื้อให้อีก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ทอรุ้งนั่งมองออกไปนอกรถพร้อมกลับคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเพลินๆ จนเคลิ้มหลับไป สักพักเธอต้องตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกมีอะไรมากระทบแขนแรงๆ จนต้องลืมตาขึ้นมา อ๊ะ! อ๊า! เสียงร้องใสๆ ที่ไม่เบานักดังขึ้น ทอรุ้งลืมตาขึ้นมาก็พบดวงตาดำขลับใสแจ๋วของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนถุกอุ้มมาจ่อมวางที่เบาะนั่งเดียวกับเธอโดยไม่ทันระวัง เท้าคู่น้อยในรองเท้าผ้าใบจึงเหยียบลงบนท่อนแขนของเธอเต็มๆ โอ๊ะ! ขอโทษครับ นึกว่าว่าง เสียงห้าวๆ ดังมาจากด้านหลังก่อนที่จะชะโงกหน้ามา ไม่เป็นไรค่ะ นั่งได้ เธอตอบพลางขยับให้เด็กหญิงตัวน้อย ขาว บาง เหมือนตุ๊กตาแก้ว ร่างสูงใหญ่จึงนั่งลงอีกด้านหนึ่งก่อนที่จะโอบร่างน้อยๆบางๆนั้นไปกอดอย่างทะนุถนอม อ๊ะ! เด็กน้อยส่งเสียงดังแจ้ว ทอรุ้งต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง แก้มใสบาง ขาวซีดๆ ปากบางสีแดงสดระบายยิ้มพร้อมกับส่งเสียงที่ฟังไม่เข้าใจ ผู้เป็นพ่อเหลือบมองดูทอรุ้งอย่างเก้อๆ ขอโทษนะครับ เขาพูดเบาๆ ดึงมือลูกสาวที่กำลังเอื้อมไปแตะกำไลหยกที่ข้อมือทอรุ้งอย่างใคร่รู้ แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่สนใจ ยังคงส่งเสียงคล้ายพยายามพูดแต่เสียงที่เปล่งออกมาไม่มีใครเข้าใจได้เลยนอกจากผู้เป็นพ่อ ลูกสาวพูดไม่ได้ครับ เพิ่งไปผ่าตัดใต้ลิ้นมาเกือบสองเดือนเองครับ เขาอธิบายท่าทีผ่อนคลายกว่าทีแรก เมื่อเห็นทอรุ้งไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจลูกสาว ทอรุ้งมองด้วยความทึ่ง เด็กน้อยยังสนใจกำไลหยกโดยพยายามจะเอื้อมมือจับข้อมือของเธอ ทอรุ้งส่งข้อมือให้อย่างไม่ได้นึกรังเกียจแต่อย่างใด นอกจากความรู้สึกเอ็นดู อดสังเกตลักษณะของเด็กน้อยไม่ได้ อายุไม่น่าเกิน 3 ขวบเพราะตัวเล็กเหลือเกิน สายตาที่มองดูเลื่อนลอย เธอมักจะมองเลยไปไกลกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ชี้ดูสิ่งนั้นสิ่งนี้ ส่งเสียงอ้อแอ้วุ่นวาย ผู้โดยสารหลายคนที่นั่งที่นั่งใกล้ๆ เริ่มหันมาด้วยสายตาที่บอกความรู้สึกที่แตกต่างกัน ตำหนิติเตียน รำคาญ เวทนา อยากรู้อยากเห็น ใบหน้าที่รกด้วยหนวดเคราหันมามองทอรุ้งด้วยความรู้สึกอึดอัด หวาดระแวง แต่เมื่อเห็นหญิงสาวมีกิริยาที่เป็นมิตรต่อลูกสาว แววตาที่มองมาจึงคลายความอัดอึดลงไปบ้างหากยังคงหวาดระวัง ...อืม เด็กคนที่จะต้องไปดูแลจะเป็นยังงี้รึป่าวนะ.... ทอรุ้งนึกสงสัย พี่หมอไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักบอกแค่เพียงว่าเป็นเด็กออทิสติก อื่นๆ ก็คงต้องไปพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กเอง เด! เด! เด็กน้อยส่งเสียงพร้อมกับเอามือเล็กมือนั้นตีไปที่ท่อนแขนผู้เป็นพ่ออย่างแรง อ๊า! เธอชี้มาที่ทอรุ้ง พยามยามส่งเสียงที่เข้าใจกันเฉพาะสองพ่อลูก ผู้เป็นพ่อยิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนที่จะก้มลงพูดกับลูกเบาๆ แต่ดูท่าทางอีกฝ่ายจะไม่รับรู้กลับส่งเสียงดังมากขึ้นและพยายามดึงมืออกจากการเกาะกุมของพ่อ มาจับแขนของทอรุ้งและพยายามจะพูดด้วย อย่ายุ่งน้าลูก คะ! เอ่อ....น้องฝันคงสนใจที่คุนกำลังฟังอยู่มั้งครับ เขาอธิบายเบาๆ กับทอรุ้ง ด้วยความอึดอัดอีกครั้งกับสายตาของผู้โดยสารสาวสวยเบาะหน้าที่หันมามอง อ่อ....ไม่เป็นไรค่ะ ทอรุ้งตอบ และถอสายดหูฟังข้างหนึ่งส่งให้เด็กน้อย ฟังด้วยกันค่ะ เธอเหน็บหูฟังให้ เมื่อน้องฝันได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องเล่นตัวจิ๋ว ทุกอย่างจึงดูสงบลง ผู้เป็นพ่อกล่าวขอบคุณทอรุ้งอย่างเกรงอกเกรงใจ ทอรุ้งทิ้งตัวลงบนเตียงที่สะอาดเอี่ยม ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในห้องพักช่วยผ่อนคลายอาการวิงเวียนและความเหนียวหนับเนื้อตัว ในที่สุดเธอก็เดินทางมาถึงเมืองฝางหลังจากที่นั่งรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ร่วม 3 ร่วมชั่วโมง เส้นทางที่คดเคี้ยวในขุนเขาทำให้เธอมีอาการวิเวียนเมารถพอสมควร ทั้งยังต้องหงุดหงิดอีกกับการผิดนัดของนายจ้าง ป้อเลี้ยงไปเวียง ยังบ่ ปิ๊กมาเตื่อ คำตอบจากแม่บ้านที่รับโทรศัพท์ รถตี้สวนก่อซ้ำมาหลุ เลยบ่ มีรถไปฮับครู ครูเข้าพักตี้โรงแรมก่อนเน้อเจ้า คุณแม่บ้านก็ได้จัดแจงให้เธออย่างคล่องแคล่วพร้อมแนะนำที่พักให้เสร็จสรรพ ซึ่งดูเหมือนจะคุ้นเคยกับการจัดหาที่พักพอสมควร เพราะเธอสามารถเข้าที่พักตามคำแนะนำอย่างสะดวกสบาย และยังได้รับคำตอบว่าจะส่งรถมารับในพรุ่งนี้เช้า เธอจึงรู้สึกคลายกังวลไปพอสมควร ทีแรกทอรุ้งคิดว่าจะออกไปเดินเที่ยวดูร้านรวง หลังการอาบน้ำเพื่อทำความรู้จักกับถิ่นใหม่ที่เธอจะมาอยู่ร่วมปีตามสัญญาว่าจ้าง แต่ครั้นทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยจริงทอรุ้งก็เปลี่ยนสั่งอาหารขึ้นมาที่ห้องและพักผ่อนเท่านั้น .....โปรดติดตามต่อไปวันเสาร์.....
8 กันยายน 2550 09:09 น. - comment id 97491
สงสัยพระเอกนางเอกจาเจอกันแล้ว อิอิ มีเรือพ่วงซะด้วย 555 ฉากแรกเจอกันบนรถเดี๋ยวหาภาพประกอบหน่อย อิอิ
8 กันยายน 2550 13:20 น. - comment id 97492
พระเอกกับนางเอกต้องลงเอยด้วยดีนะคะ ห้ามเศร้านะ จะติดตามตอนต่อไปค่ะ
8 กันยายน 2550 20:34 น. - comment id 97496
ค่ะ ขอบคุนที่ให้โอกาส อิๆๆๆๆๆ สองคนนี่มาเป็น face horse ให้พี่รินตลอด แหมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจอ่ะ จะพยายามให้แฮปปี้เอนดิ้งนะคะ ต้องดูอารมณ์คนแต่งก่อนว่าจาแปลงร่าง เปลี่ยนอารมณ์ไปกี่รอบ อิๆๆๆๆๆๆๆๆ
10 กันยายน 2550 11:49 น. - comment id 97524
คงจบลงด้วย