มิตรภาพจากโมบาย (ตอน 4)

..สีน้ำฟ้า..

คืนวันที่ 30 ธันวาคม เป็นวันที่ต้องทำงานอีกวัน และกำหนดเดินทางคือ 20.00 น. ที่สถานีขนส่งหมอชิต เรนละล้าละลังกับงานเอกสารที่จะต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนจะปิดปีบัญชี กระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางวางอยู่ใต้โต๊ะ.. พี่น้ำโทรมาบอกแล้วตอนนี้สแตนบายอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิตแล้ว รวมทั้งสองสาวอ้อมกับฟาง เหลือแต่เธอคนเดียวที่ต้องเร่ง เรนมองงานตรงหน้าที่หัวหน้าเซ็นเอกสารมาให้เมื่อครู่ใหญ่ เธอต้องนำไปจัดเก็บตามแฟ้มให้เสร็จสรรพเพื่อแผนกต่อไปจะได้ทำงานต่อได้อย่างท้อ ๆ 
	"เป็นอะไร พี่เรน.."  	น้องอิ๊ด  เพื่อนร่วมงานอีกคนที่ยังไม่กลับส่งเสียงมาแต่ไกล
	"เปล่าจ้ะ"	เธอยิ้มตอบ แต่สีหน้ามันคงจะบ่งบอกความกังวลเอาการ
	"พี่จะไปเชียงรายไม่ใช่เหรอ.. รถออกกี่โมงนะพี่"
	"สองทุ่มจ้ะ"	  
	"อุ๊ย..ทุ่มหนึ่งแล้วนะพี่.. วันนี้รถออกจะติด"  
	"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปรถไฟฟ้า"  เธอกล่าวพลาง ทำงานพลาง
	"ไหน ๆ ทำอะไร เดี๋ยวอิ๊ดช่วยค่ะ"	
	"เอ่อออ.."
	"ไม่ต้องเกรงใจ ปีนี้อิ๊ดไม่ได้ไปไหน มาช่วย.. เก็บเอกสารเข้าไปคนละแฟ้ม สองแฟ้ม แป๊ปเดียวก็เสร็จพี่"
	"ขอบใจ.. งั้นขากลับจะซื้อหนมมาฝาก"
	"ฮิ ๆๆๆ "  สาวน้อยหัวเราะคิก ชอบใจ.. ชวนให้เรนหัวเราะตาม สองสาวเร่งมือกับงานตรงหน้า ทุ่มครึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อย
	"ขอบใจนะอิ๊ด ไม่ได้อิ๊ดพี่แย่แน่เลย"
	"แผนกของอิ๊ดก็แย่ค่ะ.. ถ้าไม่มีพี่เรน"
	"ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ นี่จ้ะ"
	"แต่พี่เรนกลับมาทำหลังจากเปิดงานก็ได้นี่พี่.. ไม่จำเป็นต้องทำวันนี้ก็ได้"
	"แหม... ไม่อยากให้งานค้างข้ามปีนี่จ้ะ.. "
	"พี่เรนเป็นคนดีจังค่ะพี่"
	"ขอบใจ..ที่ชม อุ๊ย..ทุ่มสามสิบห้าพี่ต้องรีบแล้วล่ะ"  
	"โชคดีค่ะพี่.. แล้วซื้อหนมมาฝากด้วยน๊า"
	"จ้า..."   เรนหิ้วกระเป๋าเดินทาง รีบเดินออกจากบริษัทตัวปลิว ยกนาฬิกาข้อมือเป็นระยะ สลับกับมองรถที่ติดเป็นแพบนถนนจึงตัดสินใจเดินไปปากซอยข้างออฟฟิศ ตกลงราคากับมอเตอร์ไซด์รับจ้างได้..ก็จัดแจงขึ้นไปนั่ง
	"ขอแบบด่วนจี๋ แต่ปลอดภัยนะพี่.."
	"ครับ ๆ "   สองชีวิตที่ฝ่าดงควัน และรถนานาชนิดท่ามกลางชั่วโมงการเดินทางที่ผู้คนมุ่งหน้าออกนอกเมืองต่างลุ้นระทึก**********************************************************************************************************************************
	"สองทุ่มแล้ว เรนยังไม่มาเลย"  เสียงแหลมปรี๊ดของฟางเอ่ยอย่างไม่พอใจ
	"นั่นสิ.. ถ้ารถออกเราคงต้องทิ้งนะคะพี่น้ำ"  อ้อมเป็นแรงสนับสนุน
	"ฝากตั๋วไว้กับคนขายตั๋ว แล้วก็ให้เค้าตามไปทีหลังก็แล้วกัน"
	"ไม่ครับ.. เราจะรอ.. ถ้าไม่ได้ไป เราจะไม่ได้ไปเหมือนกันทุกคน"   น้ำเป็นคนตัดสิน
	"ค่ะ "  สองสาวรับคำอ่อย ๆ  ห้านาทีต่อมาเรนก็วิ่งกระหืดกระหอบตรงมา  น้ำลุกขึ้นยิ้มรับ และส่งมือไปรับกระเป๋า
	"ขอโทษค่ะ พี่น้ำ เรนติดงานน่ะค่ะ"
	"ไม่เป็นไรจ้า.. เราน่ะรู้เวลาดีว่าเวลาไหนควรจะให้อภัย"  ฟางหยันเสียงประชดประชัน เรนทำหน้าจ๋อย ๆ น้ำเกณฑ์ทุกคนไปขึ้นรถเป็นการตัดบทสนทนา... ฟางนั่งกับอ้อม.. เรนก็เลยต้องนั่งกับน้ำโดยปริยาย.. 
	"เป็นไงครับ งานเยอะมากเลยหรือเรน"
	"ค่ะ พี่น้ำ เรนไม่อยากให้มันข้ามปี เคลียร์เสร็จก็เที่ยวได้อย่างสบายใจ"
	"โกรธอ้อม กับฟางหรือเปล่า ที่เค้าว่า พี่ขอโทษแทนก็แล้วกันครับ"
	"เปล่าค่ะ.. ขอบคุณค่ะพี่.. พี่น้ำใจดีจัง ทั้งที่ไม่ใช่คนผิดก็ขอโทษ คนเราห้ามความคิดกันไม่ได้หรอกพี่.. สองคนนั้นเค้าก็ไม่มีอะไร  คนที่ร้ายจริง..เค้าก็ไม่โวยวายหรอกพี่ เรนเคยเจอที่หนักกว่านี้อีก"
	"ให้พี่ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ที่ได้รับมาบ้างดีไหมครับ"
	"ลืมมันไปแล้วค่ะพี่ เรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ควรเก็บไว้นาน"
	"เป็นความคิดที่ดีครับ จดจำแต่สิ่งที่ดีให้หัวใจเราได้ชุ่มชื้นดีกว่า  ฟังนิทานมั้ย..เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง"  น้ำหันไปมองผู้คนบนรถโดยสารซึ่งขณะนี้..รถพึ่งจะเริ่มแล่นฝ่าการจราจรอันคับคั่งของกรุงเทพฯ ออกมาทางปทุมธานีจะเข้าสู่อยุธยา เสียงคุยกันเบา ๆ ดังเอื่อย ๆ สองสาวนั้นทำท่าเหมือนจะหลับไปแล้ว  อ้อมเดินทางมาจากโคราช  ส่วนฟางก็พึ่งออกเวรบ่ายคงจะเพลีย ฟางทำงานเป็นพยาบาล ส่วนอ้อมช่วยกิจการของที่บ้านซึ่งเป็นร้านขายของฝากให้นักท่องเที่ยว
	"พี่น้ำ..ใจดีจัง มีเรื่องอะไรเล่าให้เรนฟังคะ"
	"เรื่องไฟ น้ำ ..และความเชื่อมั่น  พี่อ่านมาจากอินเตอร์เน็ตเพื่อนเมล์มาให้น่ะจ้ะ"
	"ค่ะ..มีอินเตอร์เน็ตมานี่เราได้ประโยชน์มากมายเลยนะพี่ โลกไร้พรมแดน..ใครไม่รู้ให้ความหมายนี้มา"
	"ครับ.. พี่ก็เห็นด้วย เรื่องมีอยู่ว่า..ไฟ น้ำ และความเชื่อมั่นเป็นเพื่อนกัน  ทั้งสามตกลงที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน ก็ถกกันอยู่นานก็เริ่มออกเดินทาง  พวกเขาตกลงใจจะไปเที่ยวป่า เพราะคิดว่าในป่า..มีสรรพสิ่งมากมายที่จะให้พวกเขาเรียนรู้  ทั้งสามก็คุยกันไประหว่างทางเดินจนกระทั่งมาถึงทางแยก..ไฟก็กล่าวว่า  เออ..นี่ถ้าเกิดเราหลงทางจะตามหากันได้อย่างไรนะ"           น้ำใส่แอ็คติ้งในน้ำเสียงให้ฟังดูโหด ๆ เหมือนไฟที่ร้อนระอุ  เรนยิ้ม..รอยยิ้มนั้นพิมพ์ใจน้ำเสียจนเขาคิดว่า ไม่ผิดเลยที่ได้เล่านิทานนี้ให้เธอฟังแทนเรื่องร้าวรานใจเมื่อครู่
	"นั่นสิ..ทำไงดีล่ะ"  เรนร่วมผสมโรง  โดยสมมุติว่าตัวเองเป็นน้ำ
	"ไฟก็ตอบว่า.. ไม่ยากนี่ พวกนายมองขึ้นไปในท้องฟ้าสิ.. ถ้าที่ไหนพวกนายเห็นควัน ที่นั่นก็เจอฉันเสมอ" 
	"อืมมม.. ค่ะ..ใช่ ที่ไหนมีไฟ ที่นั่นก็มีควัน  พี่ ๆ แล้วถ้าไปเจอเตาไร้ควันเข้าจะหาเจอไหมคะ"  เรนพูดเจือหัวเราะ พลางหลบวูบ เอียงตัวเข้าหากระจกแล้วตั้งหน้าตั้งตาหัวเราะ..น้ำมองยิ้ม ๆ  
	"มีป่วน ๆ จะฟังต่อไหม"  เขาแกล้งดุ เรนพยักหน้า กลั้นหัวเราะจนหน้าใส ๆ มีสีชมพูเรื่อ..บนแก้มสองข้าง
	"แล้วน้ำว่าไงคะพี่"
	"น้ำก็บอกว่า ผมนั่งอยู่นี่..ไง หันไปทางไหนก็เจอแต่ผม"   ทั้งคู่ประสานเสียงหัวเราะเบา ๆ 
	"ฮั่นแน่ะ.. มุขนี้คิดนานไหมเนี่ย คิก ๆๆๆ"
	"ก็เราอยากป่วนก่อนไมเล่า ฮึ.. "  เขาพูดเจือหัวเราะ
	"กลับเข้าเรื่อง ๆ พี่น้ำ"
	"น้ำบอกว่า  ไม่ยากหรอก นายก็ไปดูที่ตรงไหนที่ต้นไม้งอกงามอุดมสมบูรณ์ ที่ตรงนั้นก็จะมีน้ำให้นานได้พบเจอเสมอ"
	"อืมมม... "  เธอพยักหน้าน้อย ๆ
	"ตานี้ความเชื่อถือที่ฟังทั้งคู่มานานแล้ว.. ก็เอ่ยขึ้นบ้าง ที่ไหนมีไฟ ที่นั่นก็มีควัน.. ที่ไหนต้นไม้งอกงาม สดสวยที่นั่นมีน้ำ แต่ขอร้องได้ไหมเพื่อน พวกนายอย่าปล่อยให้ฉันหลงทางเลย.. ถ้าพวกนายปล่อยให้ฉันหลงทางพวกนายจะไม่มีทางได้เจอฉันอีกเลย แล้วพวกนายก็จะไม่มีความสุข จะหวาดระแวงซึ่งกันและกัน"
	"ใช่เลย"   เธอโยกศรีษะกลับมาพิงพนัก มองออกไปนอกหน้าต่างแทน 
	"ถ้าความเชื่อถือหายไป ก็จะมีแต่ความหวาดระแวงต่อกัน เรนเชื่อพี่น้ำค่ะ เรนจะเป็นคนดี เชื่อและเคารพผู้ใหญ่ที่พูดจาและสั่งสอน เรนกลัวผู้ใหญ่จะไม่เชื่อถือเรน"
	"ดีมาก..เด็กดีของพี่..ดูนั่นสิพระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยมเขา"  
	"สวยจังค่ะพี่ นานแล้วที่เรนไม่ได้มองภาพแบบนี้"   ทั้งสองปล่อยให้ความเงียบครอบคลุม มองออกไปนอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ดวงกลมโต กำลังร่ำลาท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง ขณะที่รถกำลังแล่นไปตามความเร็วผ่านต้นไม้สูงใหญ่สองข้างทาง ฟ้าสีฟ้าสดเมื่อครู่ใหญ่ ตอนนี้เจือไปด้วยลำแสงสีส้ม สีเหลือง สีม่วง ที่สะท้อนมาจากมุมต่าง ๆ สวยตราตรึงจิตใจนัก.. อาทิตย์อัสดงเคลื่อนตัวลับเหลี่ยมเขาช้า ๆ สีเทาหม่นของรัติกาลเข้ามครอบคลุมอย่างกลมกลืน..
	ทั้งสองยังคงใช้ความเงียบ เรนนั่งติดกับหน้าต่างหันมาสบตาคนที่นั่งข้าง ๆ  แววหวานในดวงตาบอกอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอยิ้มกับเขา และเชื่อมั่นว่าการเดินทางครั้งนี้ เขาจะช่วยให้มันสนุกสนาน และปลอดภัยแน่นอน  
**********************************************************************************************************************************************************************
	เช้าหกโมง..รถใกล้จะถึงสถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย  ทุกคนในรถตื่นกันหมดแล้ว เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ กระหึ่มรถน้ำต่อโทรศัพท์หาอ้อน แล้วส่งให้เรน
	"คุยกับอ้อนหน่อยนะ ว่าเราถึงกันแล้ว"
	"ฮาโหล พี่อ้อน  เรนนะคะ"
	"อ่ะจ้า.. ว่าไงถึงไหนแล้ว"   เรนหันมาถามน้ำด้วยสายตา
	"ถึงไหนหรือคะ.. เอ.."
	"ห้าแยกพ่อขุนครับ"
	"ห้าแยกพ่อขุนค่ะ พี่อ้อน  พี่อยู่ไหนคะ"
	"อยู่บ้านคุณปู่จ้ะ.. เดี๋ยวให้พี่น้ำพามาสิ..อยู่ทางค่ายทหารนี่เองใกล้ ๆ พี่น้ำเคยมาเชียงรายพี่เมล์ไปบอกทางไว้แล้วคร่าว ๆ อ่ะ"
	"ค่ะพี่.. งั้นเดี๋ยวเจอกัน นี่เรนก็งัวเงีย ๆ พี่น้ำส่งโทรศัพท์ให้น่ะค่ะ"
	"จ้ะ.. เดี๋ยวเจอกัน"    เรนยิ้ม ส่งโทรศัพท์คืนให้น้ำ หันไปมองสองสาวที่ผัดหน้าแอร่มแช่มช้อย สมกับเป็นผู้หญิง.. แล้วหันมายิ้มอาย ๆ กับเขา ออกตัวเบา ๆ
	"แหะ ๆ เรนไม่ค่อยชอบแต่งหน้านะคะ"
	"ไม่แปลกนี่ครับ  แต่เอ๊..ทำไมเรนไม่ชอบล่ะหรือว่าสวยพอแล้ว"
	"ก็ค่ะ"   เธอยิ้มเต็มหน้า
	"หน้าก็ใส๊..ใส  ตาก็สีน้ำตาลอ่อน สวยพอแล้ว แก้มก็ไม่ต้องเติมเดี๋ยวจะบดบังความงามตามธรรมชาติ ปากเรนก็ออกจะสีชมพู๊..ชมพู คิก ๆๆ"  น้ำกระแอมกระไอเหมือนมีอะไรติดคอ.. เรนยิ่งหัวเราะ
	"อ๊าว...คนเราไม่ชมตัวเองแล้วใครจะชมล่ะคะ"  เขาหัวเราะตาม.. 
	เมื่อรถจอดที่สถานีขนส่ง  ทุกคนก็ทยอยกันลงจากรถ  น้ำไปยกกระเป๋าทุกคนมารวม ๆ กันไว้และตกลงกับรถสี่ล้อรับจ้างคันหนึ่ง คุยเรื่องสถานที่ ที่จะไปแล้วก็ขนสัมภาระไปด้วย
	"เดี๋ยวทุกคนไปอาบน้ำกันที่บ้านคุณปู่ของอ้อนก่อนนะครับ แล้วค่อยกลับมาที่ขนส่งนี่อีกครั้ง เรานัดกับทางศูนย์ชาวเขาที่จะมารับเราไปเป็นครูอาสาหนนี้ตอนเก้าโมงนี่พึ่งหกโมงกว่าเรายังพอมีเวลาครับ  เชิญครับ"   ทุกคนพยักหน้าและเดินตาม
	อ้อนรออยู่หน้าบ้าน เธอสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำตาลตัวใหญ่ สวมหมวกสีเดียวกัน ยิ้มรับทุกคนที่มาถึง  บ้านคุณปู่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแต่ยกพื้นสูง  ตอนหลังคงมีการต่อเติมสร้างห้องน้ำไว้ด้านล่างด้วย มีกระดานพร้อมชอล์ค  มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่วางอยู่พร้อม เก้าอี้ครบชุด เหมือนจะใช้เป็นสถานที่เรียนอะไรสักอย่างหนึ่ง 
	"เชิญค่ะ.. มาอ้อนช่วย"  เธอเอื้อมมือไปช่วยถือกระเป๋าสัมภาระจากเพื่อน ๆ  
	"คุณปู่กับฤกษ์ พี่ชายของอ้อนไปตลาดค่ะ ไปซื้อกับข้าว พวกเราทยอยกันไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ ส่วนสัมภาระวางไว้ตรงชุดรับแขกนี่ก่อนก็ได้ค่ะ  สาว ๆ เชิญทางนี้ อ้อนมีห้องรับรองให้  พี่น้ำคงไม่เป็นไรนะ.."
	"ฮะ.. ได้ เชิญสาว ๆ ก่อนเดี๋ยวพี่ขอไปใช้ห้องน้ำข้างล่าง ใช้ได้ใช่ไหม"
	"ค่ะพี่.. น้ำเย็นหน่อยนะคะ ช่วงนี้อากาศกำลังหนาว"
	"ไม่เป็นไร หนาว ๆ แบบนี้ดอกไม้สวยนักล่ะ"
	"ค่ะ  นี่แดดเริ่มมาแล้วประเดี๋ยวก็อุ่นขึ้น"
	"ไหนพี่อ้อนบอกเป็นลูกคนเดียวไงคะ"   เรนถามเมื่อเข้ามาให้ห้องนอนเล็ก ๆ มีเตียงขนาดสามฟุตและตุ๊กตาน่ารักหลายตัว
	"จ้ะ ฤกษ์เป็นลูกชายของพี่ชายของคุณพ่อพี่ ลูกคุณลุงมีศักดิ์เป็นพี่ชายของพี่จ้ะ แต่อายุไล่ ๆ กัน"
	"อ๋อค่ะ"
	"อ้อมไปอาบก่อนนะคะ.. อ้อมอาบน้ำไม่นาน"  เธอรื้อกระเป๋าหาอุปกรณ์ออกมาเตรียม
	"จ้ะ..มาทางนี้..เดี๋ยวพี่อ้อนพาไปห้องน้ำ"   อ้อนเป็นเจ้าบ้านที่น่ารัก..จัดแจงทุกคนให้เรียบร้อยก็ออกไปนั่งคุยกับเรนต่อระหว่างรอ  สองสาวสนิทกันมากขึ้น หลังจากที่เจอกันที่ทะเล และมาต่อที่นี่  ส่วนฟางซึ่งถือว่าใหม่ ยังออกจะเกร็งนิด ๆ แต่ทุกอย่างก็ราบรื่นดี เมื่อทุกคนเรียบร้อยก็พอดีกับฤกษ์และคุณปู่ซึ่งกลับมาจากตลาด  จึงได้รู้ว่าคุณปู่ถูกลูก ๆ ให้เลิกทำงาน ก็เลยเกณฑ์เด็ก ๆ ละแวกบ้านมาสอนภาษาอังกฤษเป็นเพื่อน เอาค่าสอนพิเศษมาทำขนมแจกเด็ก ๆ นั่นเองไม่ได้หวังกำรี้กำไร จากเด็ก ๆ เป็นชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น
คุณย่าตามมาสมทบกับเด็ก ๆ  หลังจากตื่นสายกว่าใคร ๆ เพราะไม่ค่อยสบายเป็นไข้หวัดนิดหน่อย 
	ทุกคนล้อมวงกันทานข้าวกับขันโตก.. มีอาหารเหนือคือแกงกระด้าง เป็นแกงหมูที่ใส่ผงวุ้นเข้าไปให้มันกระด้าง โรยด้วยผักชี น้ำพริกตาแดง ผักต้ม หมูทอดกระเทียม มีต้มจืดกระหล่ำปลีกับหมูสับเผื่อไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบอาหารเหนือ  ข้าวก็มีทั้งข้าวสวย และข้าวเหนียว  แถมด้วยมีข้าวเหนียวคลุกงาสีดำ ๆ เป็นอาหารแปลกให้ด้วย  ทุกคนกินกันไปคุยกันไป  ความเหินห่างระหว่างกันค่อย ๆ จางไปทีละน้อย ๆ เสียงหัวเราะจากเรื่องเล่าไม่ขาดสายจากคนโน้น คนนี้..เป็นภาพบรรยากาศที่ไม่มีใครอยากจะลืม..
 
	แปดโมงสี่สิบห้าแล้ว ทุกคนยังอ้อยอิ่งไม่อยากจากไปไหน  ปู่ขนหนังสือที่เตรียมไว้ออกมาให้ เพื่อจะได้ไปบริจาคให้เด็ก ๆ รวมทั้งกระดาษโน้ตที่คุณปู่ทำเอง ฝากไปให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์ เรนหยิบโมบายเปลือกหอยที่ซื้อมาจากทะเลครั้งที่แล้วส่งให้คุณปู่กับคุณย่าเก็บไว้เป็นของที่ระลึก คุณปู่ให้ฤกษ์เอาโมบายไปแขวนไว้ที่หน้าต่าง  โมบายล้อลมหนาวด้วยเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง ๆ เรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้ไม่ยากเลย   ร่ำลาอาลัยกันเสร็จ คุณปู่ก็เอารถกระบะออกไปส่งทุกคน ที่สถานีขนส่งและเดินไปหาเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฝากฝังเด็ก ๆ ซึ่งก็มีอ้อน ฤกษ์ น้ำ เรน อ้อม ฟาง ทางเจ้าหน้าที่ก็รับปาก  เมื่อรอคนอื่น ๆ ที่มาจากกรุงเทพฯ ได้ครบคน การผจญภัยเล็ก ๆ ก็เริ่มต้น
	หนทางข้างหน้า..จะเป็นอย่างไรไม่รู้  เรนมองเพื่อน ๆ ที่อยู่บนหลังรถกระบะ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ผลัดกันเล่าที่มาของแต่ละคน เพื่อสานสัมพันธ์กันต่อ น้ำมองเรนยิ้ม ๆเมื่อเธอหันมา.. ตาสบตา.. ความหวามไหวจากสายตาของอีกฝ่ายส่งผลให้สีชมพูเรื่อเรืองบนแก้มสาวอย่างช่วยไม่ได้.. เธอบ่นอุบอิบ..เสหลบตาไปมองเพื่อน ๆ แทน.. เสียงรถกระบะแล่นผ่านถนนสายที่แยก
ออกมาจากตัวเมืองดังก้องบริเวณ.. อีกไม่นาน..การเดินทางไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ บนดอยจะเริ่มต้น... อีกไม่นาน				
				
comments powered by Disqus
  • รหัสสมาชิก :405-

    18 เมษายน 2546 18:07 น. - comment id 68302

    เดินจนหลงทางแล้ว อะทำไงดี เส้นทางเส้นนี้เดินลำบากจริงๆ
  • สีน้ำฟ้า

    18 เมษายน 2546 20:12 น. - comment id 68306

    ตราบใดที่ยังมีสีน้ำฟ้าอยู่ข้าง ๆ จะไม่ปล่อยให้ดินอย่างเธอ หลงอย่างเดียวดายนะ..พ่อหนุ่ม..
    
    **** มองมาสิ.. พี่คนนี้ยังอยู่ข้าง ๆ เสมอ.. ****
  • ใจปลายทาง

    18 เมษายน 2546 20:25 น. - comment id 68307

    พี่แจม อ้อมเอาน้ำ เย็นมาให้ดื่ม แก้เหนื่อยนะพี่
    พี่คงเหนื่อยน่าดูเลย  ..
    ..ถ้าพี่แจมหิว อะไรต้องการ อะไรเรียกใช้อ้อมได้เลย จะไปหามาให้ ทันทีเลย  
        พี่จะได้หายเหนื่อย 
    
    
    .....พี่แจมที่น่ารัก......
  • ..สีน้ำฟ้า..

    18 เมษายน 2546 20:34 น. - comment id 68308

    ขอบคุณค่ะอ้อม.. เป็นไง..อาหารเหนือ อร่อยไหม อิอิ
  • windsaint

    18 เมษายน 2546 23:02 น. - comment id 68311

    แหม แอบหนีกันไปหมดเลย
    เราก็หง่าวอยู่ตรงนี้คนเดียวอ่าจิ 
    อิอิ
    
    ว่าแต่ พี่แจม หนุกหนานงี้ก็อิจฉาอ่าเสะ อิอิ
  • วัวเพ้อ

    18 เมษายน 2546 23:59 น. - comment id 68312

    ติดตามอ่านมาทุกตอนเลย หนุกดี อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นคับ
  • ..สีน้ำฟ้า..

    19 เมษายน 2546 00:34 น. - comment id 68313

    ** ขอบใจจ้ะ.. แล้วจะพยายามจบให้ลง นะ วัวเพ้อนะ
    ** เจ้าลม..อย่าอิจฉาสิ.. พี่ยิ่งจบไม่ลงอยู่ เดี๋ยวก็บานปลายไปทั้งเวบ หรอก
    
    
  • น้ำ

    19 เมษายน 2546 02:06 น. - comment id 68314

    เขียนจนได้นะเรื่องแบบ..
    ใช้จินตะนักเขียนนิ
    แลสมาธิ
    สานสายตัวละคร
    โคจะระสัมปะชันยะ....เขียนคำพูดต่างบุคลิกใช้ความไวจิน
    วางเรื่องด้วยสัมปะชันยะ
    สติคอยควบคุมการเขียน
    จิตรใจแน่วแน่เขียนสมาธิ
    กายรวมแรงพลังเขียน
    สัมปะชันยะ.....สติ....สมาธิ...จิตร...กาย...เขียน
    รวมใจใสเย็นไวสนุกเหลือใจจริง
    นึกถึงนะ
    
    
  • น้ำ

    19 เมษายน 2546 02:08 น. - comment id 68315

    ยังอ่านไม่จบพรุ่งนี้อีกรอบนี้ง่วง
    นิ
  • rain..

    19 เมษายน 2546 07:44 น. - comment id 68317

    นางเอก..แสนหวาน..
      จินตนาการ..สานฝัน..
      เรน..มาอ่าน..ทุกวัน..
       มีฝัน.. แจ่มใส..
            ..พี่คงเหนื่อย..อ่อนล้า..
            ..หลับตา..อย่าหวั่นไหว...
             ..เรน..ขอซุก..ใกล้ใกล้..
               รู้บ้างไหม..มัย..รักเธอ..มากมาย..
       อยากแต่ง.. กลอนหวาน..
       ให้นาน.. รักอย่าคลาย..
        ขอ..วานลม.. พระพาย..
        พร่างพราย..ลูบไล้..เธอเบาเบา..
               เวลา..ที่มี..
               คนดี...ช่วยคลายเหงา..
               อยากเข้ามา..นั่งเฝ้า..
               ความเหงา..ขอห่าง...นะคะ..  เฮ้อ!!
        พี่แจมค่ะ..   เรน..ขอบคุณ...
            อ่านแล้ว.. มียิ้ม..ทุกครั้ง..
        อบอุ่น..  รู้ปล่าวค่ะ...แอบย่องไป...
        หอมแก้ม..ใคร..ม่ายรู้ดิ..
           ...เรนรู้..  พี่แจม..รู้..
          ..มิตรภาพ...ที่นี่...
               ..ให้ความรู้สึก..  ผูกพัน..
          ..เรน..รัก..พี่แจมนะ..
             ....มากด้วยจิ.. 
         กับเช้า..  ที่สดใส..
               รักนะ..
            บายค่ะ...
              ...(แอบ..หอมเบาๆ..อีกครั้ง....)..
             
               
    
  • น้ำ

    19 เมษายน 2546 08:08 น. - comment id 68318

    เช้าแล้วแก้วตามาเอ็กเซอไซ
    กำลังกายหายใจสบาย
    หัวใจใสเลือดกายแดงแรงแกร่ง
    มาออกแรงจะมีกำลังกายสดชื่นทุกทิวาราตรีตลอดกลางวันตราบนิรันกาลขานใจใสสบายมากมายควาดีที่เธอมีเอย
    นิ
  • สีน้ำฟ้า

    19 เมษายน 2546 11:14 น. - comment id 68319

    ** สวัสดีตอนสาย พี่น้ำ.. แจมไปเอ็กเซอไซด์ มาเหมือนกัน โดยการปีนเขา.. เมื่อยยยย ยังไม่หายเลยค่ะ นี่นะ..น่องตึงปายหมด.. เฮ้อ..เหนื่อยแต่ก็ได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตก หายลับไปกับตามาฝากหน่อย ๆ ในเรื่องไงคะ
    ** อื้ออออ มิน่าล่ะ.. จับได้แล้วววว เรนจังนี่เอง เราก็ว่า..นอนแล้วเหมือนใครมาแอบฝังจมูกแถว ๆ แก้ม..เจ้าตัวดีนี่เอง...เดี๋ยวหอมคืนซะนี่ 
    ** พี่น้ำ (อีกที) แล้วติดตามตอนต่อไปล่ะ ห้ามขี้เกียจอ่านด้วย คนเขียนยังไม่บ่นเล้ยยยย
  • แม่มดน้อยค่ะ

    20 เมษายน 2546 16:54 น. - comment id 68361

    โห พี่แจม. . .
    ถ้าไม่มีประสบการณ์ก็คงเขียนแบบนี้ไม่ได้
    นกอยากจะมีโลกกว้างๆ แบบพี่บ้างจัง. . .
    
    **ทัวร์ทั่วไทย เดินทางไกลไปหามิตรภาพ . . .**
    
                        =^_____^=
  • ..สีน้ำฟ้า..

    21 เมษายน 2546 00:31 น. - comment id 68371

    ประสบเกินบ้างก็มีค่ะน้องนก..
    เกินมาจากความจริงอ่ะนะ..
    แหะ ๆ นั่งทางในตามเวบบ่อยจ้า พักนี้
  • rain..

    21 เมษายน 2546 06:49 น. - comment id 68378

    อยากไป...ตามฝัน..
        กับวัน.. ที่พี่ให้...
         อยากอยู่..ใกล้ใกล้..
         ยิ้มใสใส... ที่แสนซื่อ..
                 มองฟ้า...สีใส..
                 ขอใคร..ยื่นมือ..
                 โปรดมาช่วยรื้อ..
                  เด็กดื้อ...คนนั้น...
        ............
            .. พี่แจม...เหนื่อยเปล่าคะ..
                       ...พักนะ.. หลับตา..
               เรนมา..  พัดให้..
                   ขอบคุณ..น้ำใจ..
            ที่ให้... คุณเรน....
             
    
  • รหัสสมาชิก : ไม่ได้ล็อคอิน -ทะเลรัก

    27 เมษายน 2546 00:15 น. - comment id 68534

    อ่านต่อนิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน