มิงกะลาบา (สวัสดี) ค่ะ สำหรับวันนี้เราตื่นกันเช้ากว่าปกติเนื่องจากนัดกันว่าจะขึ้นไปใส่บาตรบนพระธาตุอินทร์แขวนกันอีกรอบค่ะ ตามความเข้าใจของเราการใส่บาตรก็คือถวายอาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ดั่งที่บ้านเราทำกันเป็นประจำแต่การณ์กลับปรากฎว่าการใส่บาตรของที่นี่คือการซื้ออาหารชุดที่เขาจัดไว้ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันไป ตามแต่ประเภทของอาหารที่เขาจัดไว้ค่ะ มีชุดตั้งแต่ 300 จ๊าด จนถึง 500 จ๊าด แล้วนำไปถวายแด่องค์พระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเมื่อขึ้นมาแล้วก็ไม่ให้เสียความตั้งใจค่ะกลุ่มเราจึงซื้ออาหารหนึ่งชุดและถวายพร้อมกันค่ะ เผื่อว่าเกิดชาติหน้าอาจจะได้พบกันอีก อากาศข้างบนนี้ยังเย็นชุ่มฉ่ำเหมือนเมื่อวาน หมอกลงหนาเหมือนเดิม เรียกว่าเราต้องใส่เจ้าเสื้อกันฝนตลอดเวลา ลงจากพระธาตุแล้วพวกเราก็จัดการกับภารกิจของตัวเองนั่นคือเตรียมเสบียงให้กับท้อง แต่คราวนี้ดูทุกคนจะกินกันไม่เยอะ เหตุก็เพราะว่าเดี๋ยวเราจะต้องถูกแบกโดยเสลียงลงไปเชิงเขาด้านล่างกันอีกรอบ ขาลงนี่เร็วค่ะเนื่องจากว่าฝนลงตลอด พวกแบกหามก็เลยต้องรีบเดินลงให้เร็วที่สุดค่ะ ลงมาถึงข้างล่างพวกเราก็ให้ทิปกันไปตามระเบียบที่ตกลงกันไว้ เขาเองเป็นชาวพม่าแต่เขาอยากได้เงินไทยค่ะ เพราะว่าเงินไทยของเรามีค่ากว่าเงินจ๊าดของเขามากนัก แต่บางทีอะไรที่เราทำผิดระเบียบปฏิบัติกันออกไปก็ทำให้ยากต่อการควบคุมค่ะ สถานที่ต่อไปที่เราจะแวะกันก็คือ พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นพระนอนที่มีความยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามที่สุดของพม่า จากการแวะชมแวะเที่ยวสถานที่สำคัญของพม่าหลายแห่งพบว่า ถ้าอยากถ่ายรูปต้องยอมเสียเงินค่ะ ค่าถ่ายรูปกล้องละประมาณสิบห้าบาทค่ะ เมื่อจ่ายเงินแล้วเขาจะมีบัตรให้ถ่ายรูปได้ติดไว้ที่กล้องถ่ายรูป เรียกว่าไม่มีบัตร ไม่มีสิทธิ์ แต่ส่วนใหญ่พวกเราก็ยอมจ่ายค่ะ ก็เราไม่ใช่มาเที่ยวกันบ่อยนี่นะ ก็ต้องยอมเพื่อจะได้รูปสวย ๆ กลับไปได้ยลกัน อ่านกันมาจนถึงตอนที่สี่แล้ว อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะว่าพาทัวร์แต่วัด ก็บอกแล้วไงละว่างานนี้มาเพราะอยากทำบุญค่ะ สถานที่ต่อไปก็เป็นวัดอีกค่ะ แต่ต้องบอกว่าวัดที่นี่ไม่เหมือนวัดบ้านเราหรอกค่ะ เพราะวัดบ้านเราน่ะจะมีโบสถ์ ศาลา และกุฎิพระ แต่ของพม่าน่ะสถานที่ของเขาจะมีแต่โบราณวัตถุค่ะ สังเกตุจากวัดที่เราไปทุกที่จะมีแต่พระพุทธรูป หาพระภิกษุสงฆ์ได้น้อยมากค่ะ วัดต่อไปที่เราจะพาไปชมก็คือ เจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งมีการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีตสามพระองค์คือ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน (ทิศใต้) พระพุทธเจ้ากกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) พระพุทธรูปทั้งสี่พระองค์สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศให้กับพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ สถานที่แห่งนี้ ซอมีคำถามถามพวกเราว่า พระพุทธรูปองค์ใดที่เกิดการชำรุดและพังทลายลงมาจนต้องมีการบูรณะใหม่ ผู้เขียนกับพี่ที่เดินไปด้วยกันทายว่าพระพุทธรูปองค์ที่สามนั่นก็คือ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน เนื่องจากดูแล้วว่ามีความสดใสและดูใหม่กว่าทั้งสามองค์ที่เหลืออยู่ แต่จากการเดินดูโดยรอบแล้วทั้งสี่องค์ก็ไม่มีความแตกต่างกันเท่าไหร่ เลยชักไม่แน่ใจว่าที่ทายไว้ถูกหรือไม่ จนเมื่อซอเฉลยให้ฟังนั้น เราก็ทายถูกค่ะ แต่ซอบอกว่าให้ดูจาก พระนลาฏขององค์พระ เนื่องจากจะไม่เหมือนกับสามองค์ที่มีอยู่ค่ะ แต่เอาเป็นว่าผู้เขียนทายถูกแล้วกัน (555) ระหว่างทาง ซอมีเกมมาให้พวกเราเล่นค่ะนั่นก็คือให้ทายว่าอายุเฉลี่ยของคณะเรานั้นอยู่ประมาณเท่าไหร่ (อันนี้ขออุบเนอะ) แต่ว่าผู้เขียนทายถูกเป็นอันดับสองค่ะ มีน้องคนหนึ่งทายได้ตรงเปะ ผู้เขียนทายสูงไป 2 ปีค่ะ แต่อย่างไรก็ได้ของรางวัลจ้า
30 กรกฎาคม 2550 23:58 น. - comment id 97079
ติดตามอ่าน สนุกดี เมื่อไรจะถึงเมืองพุกามเคยไปเห็น มีเจดียเป็นพัน ๆองค์ พวกแม่ทับนายกองที่ชนะศึกอยุทธยาสร้างเอาไว้ก็เยอะ บางเจดีย์ศิลปแบบอยุทธยาเป็นฝีมือของเชลยศึกไทย เมื่อหลายปีก่อนมีข่าวเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เจดีย์เมืองพุกามพังมาหลายองค์ พบงว่า มีเครื่องราชูประโภคของราชวังไทยแตกออกมาจากเจดีย์มากมาย สมบัติผลัดกันชมจริง ๆ
31 กรกฎาคม 2550 13:27 น. - comment id 97083
สนุกดีค่ะพี่แม่มด กานต์ชักอยากไปเที่ยวจริงๆแล้วสิคะ
31 กรกฎาคม 2550 17:46 น. - comment id 97085
ไม่พาไปท่องเมืองราตรีแถวนี้บ้างเหรอครับ อยากรู้ว่าเหมือนบ้านเราป่ะ
31 กรกฎาคม 2550 19:58 น. - comment id 97086
แล้วเราจะไปบ้าง..
1 สิงหาคม 2550 15:01 น. - comment id 97096
ขออภัยในความผิดพลาดค่ะ มาอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียนไว้ พบว่าพระพุทธรูปองค์ที่สามนั้นแม่มดพิมพ์ชื่อผิดค่ะ ที่ถูกต้องคือ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ค่ะที่เกิดการชำรุดจนต้องบูรณะใหม่ค่ะ