Mars and Venus ตอน เกาะตะวันรอนตอนที่ 2
เก่งกาจ
เจนนิสาพยายามจะไม่อยู่กับต้นน้ำสองคนจึงพยายามชวนฟ้าใสไปด้วย
คุณฟ้าใส ไม่ไปด้วยกันหรือค่ะเจนเอ่ยชวน
อ๋อ ไม่หรอกค่ะ แดดร้อน ฟ้ากลัวดำฟ้าใสเอ่ยยิ้ม ๆ
งั้นเดี๋ยวผมมานะจ๊ะ ที่รักต้นน้ำกล่าวกับฟ้าใส พร้อมหอมแก้มลาแล้วเดินขึ้นเรือ
เจนนิสา เห็นภาพนั้นได้แต่เจ็บแปลบในใจ เบือนหน้าไปอีกทางอย่างพยายามเก็บซ่อนความรู้สึก
เจนนิสาเดินตามขึ้นเรือไป พร้อมขี่เรือ ขับกระชากอย่างแรง เป็นเหตุให้ต้นน้ำ เซล้มไปข้าง ๆเธอนั่นเอง
เจนนิสาเห็นดังนั้นก็ได้แต่ยิ้ม ขำ ๆ สะใจเล็กน้อยที่ได้แกล้งเขา
ขำอะไร นี่เธอแกล้งฉันเหรอต้นน้ำยืนขึ้นพร้อม กล่าวเสียงแข็ง
ฉันขำขนาดนี้ คงไม่แกล้งเธอมั้งเจนตอบกวน ๆ
ฉันเคยอ่านบทความน่ะนะ เขาบอกว่า ผู้หญิงที่ชอบแกล้งคนอื่น โดยเฉพาะผู้ชาย แสดงว่ากำลังเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายคนนั้นอยู่ต้นน้ำกล่าวลอย ๆ
เจนนิสาร้อนตัวเลยพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
อะไรใครเรียกร้องความสนใจจากนายกันฮ่ะ ที่ฉันแกล้งเพราะฉันอยากแกล้ง ฉันไม่ชอบนายต่างหากเล่า ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดี แต่หลงตัวเองชะมัดเจนกล่าวพร้อมย่นจมูกให้
ก็คนมันมีดีให้หลงนี่ ไม่งั้นคนอย่างเธอคงไม่มาบอกชอบฉันหรอกใช่ไหมต้นน้ำกล่าวพร้อมยิ้มให้เยาะนิด ๆ
เคยคิดว่าดีเว้ย แต่ตอนไม่นี้ไม่แล้วเว้ยเจนตอบอย่างไม่หนักแน่นนัก
เหรอไม่คิดแล้วเหรอต้นน้ำกล่าวอย่างไม่เชื่อ
ขณะนั้นเองเครื่องก็สะดุด แล้วดับ เนื่องจากน้ำมันหมดนั่นเอง แล้วตอนนี้เรือก็หยุดกลางทะเล
ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ฝนกำลังจะตกลงมาแล้วคาดว่าจะตกหนักเสียด้วย
อ้าว ทำไมเครื่องดับล่ะต้นน้ำถาม
น้ำมันหมดเจนตอบเสียงอ่อย
น้ำมันหมด หมดได้ไง มะพร้าวบอกว่าเติมมาเต็มถังไม่ใช่เหรอต้นน้ำแสร้งถามเหมือนไม่รู้เรื่อง
น้ำมันมันเติมมาเต็มถัง แต่ว่ามันรั่วออกหมดถังแล้วเจนตอบเสียงอ่อยอีก
แล้วมันรั่วได้ไงล่ะต้นน้ำเสียงดัง
แล้วจะเสียงดังไปทำไมล่ะเจนแหวใส่
แล้วมันรั่วได้ยังไงล่ะ ก็ตอบมาสิต้นน้ำถามย้ำ
ก็ฉันทำให้มันรั่วเองมีอะไรไหมเจนตะโกนใส่หน้า พร้อมหลบตาอย่างรู้สึกผิด
ดี ดีมาก ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว สะใจจริง ๆ เป็นไง ลอยอยู่กับเรือกลางทะเลทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้แหละดี เดี๋ยว ยังไม่พอ นู่น นั่งตากฝนด้วยล่ะกันนะ ถ้าทางจะตกหนักด้วยสิต้นน้ำกล่าวอย่างเย้ย นิด ๆ
เจนนิสาได้แต่มองฟ้าอย่างอารมณ์เสีย ต้นน้ำได้แต่มองอย่างยิ้ม ๆ แล้วไม่พูดอะไรอีก
ทางด้านมะพร้าวกับลูกปลาที่นั่งทำงานด้วยกันอยู่ห้องทำงาน
นี่นายมะพร้าว ทำไมนายต้องมาหลอกฉันด้วยว่ามันมีงานหนักงานหนา ดูสิฉันเลยไม่ได้ไปกับเพื่อนป่านนี้เพื่อนฉันไม่รู้เป็นไงบ้างลูกปลาบ่นอย่างไม่พอใจ พร้อมมองหน้ามะพร้าวอย่างหงุดหงิด
โถคุณลูกปลาครับ เพื่อนคุณออกจะบึกบึนเกินหญิงขนาดนั้น ไม่มีใครอยากทำอันตรายเพื่อนคุณหรอกครับ นั่งลงแล้วทำงานเถอะ นะมะพร้าวบอกยิ้ม ๆ
งานอะไรอีกละ ไม่เห็นมีงานอะไรเลย ได้แต่ดูเอกสาร เก่า ๆ โฮ้ย อารมณ์เสีย เกลียด จริง ๆ เลย พวกผู้ชายกะล่อนนี่ลูกปลากล่าวอย่างหงุดหงิดพร้อมเดินออกไป
ลูกปลาเดินออกไปเจอฟ้าใส ซึ่งกำลังยืนรอแฟนหนุ่มอย่างเป็นห่วงว่าทำไมไม่กลับมาเสียทีนี่ก็ฝนก็จะตกหนักแล้ว
ป่านนี้แล้ว ทำไมสองคนนั้น ยังไม่กลับมาก็ไม่รู้นะคะคุณลูกปลา โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณฟ้าใสบ่นอย่างเป็นห่วง
ค่ะ เดี๋ยวก็คงกลับมา มั้งค่ะคำว่ามั้งค่ะลูกปลาพูดเบา ๆกับตนเองเหมือนรู้สถานการณ์ดีว่าทำไมทั้งคู่ถึงยังไม่กลับมา
อะไรนะค่ะฟ้าใสหันมาถาม
ลูกปลาส่ายหน้าพร้อมพูดว่า
ไม่มีอะไรค่ะ
พูดถึงโทรศัพท์นะค่ะ เบอร์ต้นน้ำก็จำย้าก ยากฟ้าใสบ่นออกมาเหมือนชวนคุย
ยากยังไงค่ะ คุณฟ้าใสลูกปลาหันมาถาม
ก็ยากนะสิค่ะ ก็เบอร์ต้น เบอร์อะไรน้ามีเลขอะไรน้า เดี๋ยวขอฟ้านึกก่อนนะค่ะ อ๋อ เบอร์ 089121031 เอ้อ เบอร์นี้ละค่ะ จำยากไหมล่ะค่ะฟ้าใสเอ่ยถามยิ้ม
ลูกปลาพยักหน้ายิ้ม ๆ
ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ ยากยังไงหรือค่ะลูกปลาถาม
ก็ไม่ยากหรอกค่ะ แต่ว่าต้นเขาใช้วันเดือนปีเกิดของแม่เขามาเป็นเบอร์โทรศัพท์น่ะค่ะ คิดแล้วก็น่าน้อยใจ เป็นแฟนกันตั้งนานสู้แม่เขาสักนิดก็ไม่ได้ฟ้าใสบ่นออกมา พร้อมมองออกไปยังทะเล
ลูกปลาพยักหน้า ทำหน้าเฉย ๆ แต่ก็นึกอะไรออก เพราะตัวเลขนั้นมันวันเดือนปีเกิดของเจนนิสาเพื่อนของเธอ เธอหันหน้าไปยังทะเล พร้อมคิดอะไรบางออกที่แท้ความจริง แล้วต้นน้ำก็ ....
ลูกปลาได้แต่มองทะเลกับฟ้าใสสลับกันรู้สึกเห็นใจฟ้าใส ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อยากจะบอกหญิงสาวเหลือเกินว่าแม่ที่ต้นน้ำหมายถึง ก็คือแม่คุณของเขานั่นเอง
ทางด้านบนเรือซึ่งตอนนี้ฝนได้เริ่มตกลงมาแล้วเริ่มตกหนักเสียด้วย ทั้งเรือก็ร่มคันสีน้ำเงินอยู่คันเดียว เจนนิสาหยิบขึ้นมา หากแต่ว่าต้นน้ำแย่งไปก่อน พร้อมกางมันออกมา มองเจนนิสาเย้ยนิด ๆ พร้อมพูดว่า
ของฉัน เธอก่อเรื่องทั้งหมด ก็รับผลการกระทำของตนเองไปละกันนะต้นน้ำกล่าวพร้อมยิ้ม
เจนนิสาได้แต่มองอย่างงอน ๆ และไม่พอใจ ได้แต่นั่งหนาวสั่นกลางฝนที่ตกกระหน่ำลงมา อย่างหนาวสั่น เจนนิสานั่งใช้แขนโอบตนเองไว้อย่างหนาวสั่น เหมือนจะต้องการคลายความหนาว หากทว่าก็ไม่ได้ผล เธอปากสั่น ต้นน้ำเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา
ยิ้ม.. ยิ้ม....อะ..ไรเจนนิสาพูดเสียงสั่น เพราะหนาวมาก
ต้นน้ำส่ายหัว แต่ก็ยังยิ้ม อยู่ เจนนิสามองอย่าง ฉุน ๆ ใช้มือตีเบา ๆ ที่แขนต้นน้ำ เธอตั้งใจจะตีแรง ๆ แต่ไม่มีแรงเพราะหนาวมาก
ต้นน้ำเห็นดังนั้น ก็เดินอ้อมไปด้านหลัง นั่งลงทางด้านหลังเจนนิสา พร้อมกอดเธอไว้จากทางด้านหลังภายใต้ร่มสีน้ำเงินนั้น ใบหน้าของเขาอยู่ข้าง ๆใบหน้าของเจนนิสา เจนนิสาลืมความหนาวไปชั่วขณะ จะขัดขืนแต่ก็ไม่มีแรง ได้แต่ยอมอยู่อย่างนั้น ทั้งคู่ไม่พูดอะไรเลย เจนนิสาได้แต่นั่งอยู่ภายในวงแขนของเขา เหมือนคลายความหนาวไปได้มากทีเดียว เจนนิสารู้สึกดีขึ้นมาก
สักพักหนึ่งฝนก็หยุดตก เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว เจนนิสาจะยืนขึ้น แต่รู้สึกวิงเวียนหน้ามืด จึงล้มลงหมดสติ สาเหตุคงเป็นเพราะตากฝนนาน ๆนั่นเอง
ต้นน้ำรับร่างหญิงสาวไว้ทัน เจนนิสาไม่ได้สติ
เธอ เธอต้นน้ำเรียก แต่เจนนิสาไม่ตอบ ยังหลับไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ต้นน้ำมองเจนนิสาด้วยแววตาอ่อนโยน พร้อมยิ้มออกมา มือปัดเส้นผมที่บังหน้าหญิงสาวออกไป จากนั้นก็นั่งลงกับพื้นเรือ พร้อมโอบเจนนิสาไว้ในวงแขนพยายามนั่งให้ไออุ่นจากร่างกายเขาส่งผ่านไปยังหญิงสาวให้มากที่สุด จากนั้นเขาก็ค่อย ๆจูบหน้าผากหญิงสาวอย่างแผ่วเบาอย่างทะนุทะนอม
เขานั่งกอดหญิงสาวอยู่นาน จนกระทั่งมะพร้าวขับเรืออีกลำมารับ เพื่อกลับไปยังเกาะตะวันรอน
ที่ห้องพักของเจนนิสา ซึ่งยังหลับไม่ได้สติอยู่นั้น เจนได้แต่ละเมอชื่อต้นน้ำออกมาเบา ๆ ลูกปลาได้ยินอย่างนั้นได้แต่ส่ายหน้าในรักซ้อน รักสามเส้านี้
เมื่อเจนเริ่มได้สติ ก็ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่รู้สึกดีขึ้นมาก
ตื่นแล้วเหรอ ยัยเจนลูกปลาพูด พลางช่วยพยุงเพื่อนให้นั่งบนเตียง
อือ นี่ฉันกลับมาที่เกาะได้ยังไงเจนถามอย่างเพลียนิดนึง
นายมะพร้าวไปรับพวกเธอสองคนน่ะ แหม ระหว่างนอน ละเมอชื่อนายต้นน้ำใหญ่เลยนะ ดีนะที่แฟนเขาไม่มาได้ยินเข้าลูกปลาตำหนินิดนึง
ละเมอเหรอเจนถามอย่างตกใจ
เออนะดิ เพ้อเรียกชื่อเขาทั้งคืนลูกปลาบอก
หวังว่า ฉันคงไม่ละเมอเรียกชื่อนายต้นน้ำ เวลาอยู่กับเขาด้วยหรอกนะเจนถามเหมือนขอความเห็น
ไม่รู้ อือ ฉันให้ลูกปลาตอบ พลางยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้
อะไร เหรอ ปลาเจนถามอย่างแปลกใจ
ของขวัญ จากฉัน วันนี้วันเกิดแก จำไม่ได้หรือไงปลาบอก
เจนนิสาทำท่านึก แล้วก็ยิ้มออกมา ลูกปลามองหน้าเจนนิสา อยากจะพูดอะไรบางอย่างที่ได้รู้มา
เจนลูกปลาเรียกชื่อเจน
อะไรเจนหันมามองหน้าอย่างแปลกใจ
ไม่มีอะไร แกไปอาบน้ำเถอะ จะได้ไปกินข้าวกันลูกปลาเปลี่ยนใจ แล้วเดินผละไปอีกทางตัดสินใจว่าไม่พูดเพราะเดี๋ยวจะไปสร้างความยุ่งยากให้ทั้งสามคน
เจนนิสามองตามลูกปลา พร้อมมองหนังสือที่เพื่อนสาวให้ เป็นหนังสือต้นไม้ทั่วโลก ลูกปลารู้ดีว่าเจนเป็นคนรักธรรมชาติ คงไม่มีใครรู้ใจเจนดีเท่าลูกปลาอีกแล้ว เธอหันไปมองทางด้านหลังเพื่อนแล้วยิ้มออกมาอย่างขอบคุณ
เมื่อทานข้าวเรียบร้อยแล้วเจนก็เดินไปยังที่แห่งหนึ่งบนเกาะ มันเหมือนเป็นสวนเล็ก ๆ อยู่กลางเกาะ ที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมา กลางสวนมีชิงช้าตัวใหญ่ตัวหนึ่ง รอบ ๆชิงช้ามีพันธุ์ไม้ที่เธอปลูกไว้อยู่หลายชนิด เธอมักมานั่งที่ชิงช้านี้ เพื่อดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้านั้น
ในขณะนั้นเองเธอก็เห็นต้นน้ำนั่งอยู่ที่ชิงช้านั้น พร้อมเล่นกีตาร์ร้องเพลงเบา ๆอยู่คนเดียว เจนนิสาได้แต่ยืนมองดูเขาอย่างต้องมนต์ ทันที่เขาเล่นเพลงจบ เขาก็หันมามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนจนเจนนิสารู้สึกได้
สวยจังต้นน้ำพูดพร้อมมองเธอ
เจนนิสาอึ้งไปเล็กน้อยที่เขาพูดอย่างนั้นออกมา
ฉันหมายถึงดวงอาทิตย์น่ะ ดวงอาทิตย์ยามอัสดงเขาพูดต่อพร้อมมองเธอ
เจนได้ยินอย่างนั้น ก็ยิ้มแก้เขิน
อือ ใช่ ตั้งแต่เกิดมาฉันว่าอาทิตย์ยามอัสดง ไม่มีที่ไหนสวยเท่าที่นี่แล้วละเจนตอบยิ้ม ๆ แต่ไม่ได้มองหน้าเขา แต่เฝ้าดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า
เธอคิดอย่างนั้นจริง ๆหรือต้นน้ำถามพร้อมมองเธออย่างมีความหมาย
แต่เจนไม่เข้าใจยังคงยิ้ม เหมือนไม่รู้ความหมายนั้นสักนิด
อือ เออฉันขอบใจเธอมากนะที่พาฉันมาส่งที่หอพัก ทั้งที่ฉันก็แกล้งเธอเจนบอกพร้อมไม่กล้าสบตาเพราะรู้สึกผิด และละอายใจที่แกล้งเขา
ไม่เป็นไรต้นน้ำบอกพลางนั่งมองดวงอาทิตย์นั้น
นี่เธอเคยคิดไหม ว่าดวงอาทิตย์ยามอัสดง ถ้าเปรียบแล้วเหมือนปากบ่อ แล้วพื้นที่เรายืนอยู่บนโลกนี่ก็เหมือนก้นบ่อ ถ้าเราสามารถหาทางเพื่อเข้าใกล้ปากบ่อนั่น เราก็จะรู้ว่าโลกที่เราใฝ่ฝันอยู่แท้จริงมันมีอยู่จริงเจนนิสากล่าวยิ้ม ๆ พร้อมมองหน้าเขา
นั่นสิ แล้วทำยังไงถึงจะไปใกล้มันได้ละต้นน้ำหันมาถามเธอพร้อมสบตา จากนั้นทั้งคู่รู้สึกเหมือนต้องมนต์อีกครั้ง ครานี้เขาค่อย ๆจะก้มลงเพื่อจุมพิตหญิงสาว หากทว่าก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น
เป็นเสียงของฟ้าใสซึ่งเรียกเขาแต่ทว่ายังไม่เห็นร่างของฟ้าใส
ต้นน้ำค่ะ คุณอยู่ไหน ฟ้าใสเรียก ทันทีที่เห็นเขาเธอรีบเดินเข้าไปหาทันทีพร้อมยิ้มให้
ว่าไงจ๊ะ ที่รักต้นน้ำเน้นคำว่าที่รัก พร้อมดูปฏิกิริยาของเจนนิสา
มะพร้าวตามหาคุณอยู่น่ะค่ะ บอกว่ามีคนที่คุณไม่ปลื้มมาตามหาฟ้าใสบอกพร้อมจับมือเขาไว้มากุมเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
เจนนิสาได้แต่เบือนหน้าไปอีกทางเหมือนไม่อยากรับรู้ไม่อยากเห็นให้ปวดใจ
ผมว่า เราสองคนไปหามะพร้าว พร้อมแขกคนที่ว่าดีกว่านะ ไปจ๊ะ ที่รักต้นน้ำเน้นคำว่าที่รักพร้อมสังเกตท่าทีของเจนนิสาอีกครั้ง เจนนิสาได้แต่นิ่งเงียบ
คุณเจน ไปกันค่ะฟ้าใสชวนพร้อมเดินตามต้นน้ำที่เดินจูงมือนำออกไป
เจนนิสาได้แต่เดินตามมองดูทั้งคู่กระหนุงกระหนิงกันอย่างเจ็บแปลบในใจ
ทางด้านที่พัก เฮียบิ๊กพร้อมลูกสมุนอีกห้าหกคน รอต้นน้ำอย่างวางอำนาจ เฮียบิ๊กเป็นคู่อริกับต้นน้ำเพราะเขาต้องการซื้อเกาะนี่เพื่อทำเป็นรีสอร์ท แต่ต้นน้ำไม่ยอมแพ้ เขาไม่ยอมขายและไม่เกรงกลัวเฮียบิ๊กสักนิด
นึกว่าแขกที่ไหน ที่แท้ก็เฮียบิ๊กนี่เองต้นน้ำกล่าวพร้อมมองเฮียบิ๊ก
รู้ว่าเป็นเฮียก็ดีแล้ว คงรู้ต่อสินะว่าเฮียมาที่เพื่ออะไรเฮียบิ๊กกล่าว พร้อมมองต้นน้ำด้วยสายตาแปลก ๆ มันดูเหมือนอยากข่มขู่ให้ต้นน้ำกลัว แต่ต้นน้ำกลับมองอย่างไม่กลัวสักนิด
รู้ แต่ยังไงผมก็ไม่ขายเกาะตะวันรอนนี้ให้เฮียบิ๊กเด็ดขาด มะพร้าวส่งแขกทีสิต้นน้ำบอกพร้อมมองหน้าเฮียบิ๊กอย่างไม่เกรงกลัว
ไอ้ต้นน้ำคิดว่าเป็นเจ้าของเกาะ แล้วจะมาเสียมารยาทกับเฮียได้นะเฮียบิ๊กเสียงแข็ง
กับคนอย่างเฮีย ผมว่าคงไม่จำเป็นต้องใช้มารยาทหรอกต้นน้ำบอกอย่างไม่เกรงกลัว
เฮียบิ๊กขุ่นเคือง และไม่พอใจมากเดินออกไปอย่างหัวเสีย
เจนนิสาได้ยินคำว่าเจ้าของเกาะ นึกรู้ทันทีว่าต้นน้ำก็คือนายหัวประจำเกาะนี้ เป็นนายจ้างเธอนั่นเอง
ต้นน้ำเหมือนจะรู้ตัวหันไปมองเจนนิสา เจนนิสาได้แต่มองต้นน้ำอย่างไม่พอใจ รู้สึกเสียใจปนกันไป เหมือนโดนหลอก เธอเดินเลี่ยงไปอีกทาง ต้นน้ำจะเดินตามแต่เกรงใจแฟนสาวที่ยืนมองเขาอยู่
มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เข้าใจความรู้สึกของต้นน้ำ นั่นคือมะพร้าวกับลูกปลา
แต่ทั้งสองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง