เยี่ยมเยือน เมืองพม่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณศูนย์ศึกษาเอเชียอาคเนย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ทำให้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือน เมืองพม่า การไปเที่ยวครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะเห็นว่าประเทศที่เคยมีอดีตในด้านการสงครามกับประเทศเรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง และที่สำคัญคือการได้ไปไหว้พระ เมืองที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนก็คือ ย่างกุ้ง สิเรียม และหงสาวดี การไปครั้งนี้ทำให้ได้พบได้เห็นและได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่ามากมาย จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่จะพยายามบอกเล่าให้ฟังเท่าที่จะมีข้อมูล "ท่านผู้ใดที่ได้อ่านแล้วพบเห็นว่ามีข้อผิดพลาดประการใด และช่วยกรุณาชี้แจง ถือว่าเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ" วันแรกคณะของเราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่สนามบินย่างกุ้งด้วยสายการบินเมียนมาร์ การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเหตุระทึกใจบ้างซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเดินทางบนน่านฟ้า (ตกหลุมอากาศ เนื่องจากอากาศแปรปรวน) สถานที่ของการท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสมในการเดินทางที่จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปมาระหว่างย่างกุ้ง-สิเรียม-ย่างกุ้ง แต่เป็นการท่องเที่ยวในย่างกุ้งก่อน ในวันแรกของการเดินทาง มีเรื่องตลกขำขันระหว่างการเดินทางโดย ซอ ซึ่งเป็นไกด์นำเที่ยวของทริปนี้บอกกล่าวกับพวกเราว่า ห้ามเรียกเขาว่า ลีซอ และ ซออู้ ทุกคนในคณะเดินทางต่างแปลกใจกันหมดจนมาหายสงสัยเมื่อ ซอ เฉลยให้ฟังว่าคำว่า ลี ในภาษาพม่าก็คือคำเรียก ควาย ในภาษาอีสานและส่วนคำว่า อู้ แปลว่า ไข่ ข้อห้ามอีกอย่างที่ซอบอกกับพวกเราก็คือ พม่าห้ามพูดเรื่องการเมืองค่ะ สหภาพพม่า เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดิมชาวตะวันตกเรียกประเทศนี้ว่า Burma กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2532 พม่าได้เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น Myanmar ชื่อใหม่นี้เป็นที่ยอมรับจากองค์การสหประชาชาติ แต่บางชาติเช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรไม่ยอมรับการเปลี่ยนชื่อนี้ เนื่องจากไม่ยอมรับรัฐบาลทหารที่เป็นผู้เปลี่ยนชื่อ ปัจจุบันหลายคนใช้คำว่า Myanmar ซึ่งมากจากชื่อประเทศในภาษาพม่าว่า Myanma Naingngandaw ไม่ว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลทหารอย่างไรก็ตาม คำว่าพม่า (เมียนมาร์) เป็นการทับศัพท์มาจากภาษาอังกฤษว่า Myanmar แต่โดยแท้แล้วเขาเรียกชื่อเขาเองว่า มยะหม่า หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อกลางวันจากร้านอาหารในเมืองพม่าที่ตกแต่งได้อย่างงดงามเรียบร้อยแล้ว คณะก็เดินทางต่อไปยัง มหาเจดีย์ชเวดากอง หรือที่เรียกว่า พระบรมธาตุชเวดากอง ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ทองคำที่งดงามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง (เมืองหลวงเก่า) มีความสูงประมาณ 109 เมตร ประดิษฐานอยู่บนเนินดินที่ชื่อ SINGUTTARA ซึ่งมีลานรูปสี่เหลี่ยมและเป็นเนินที่สูงที่สุดในเขตปริมณฑลเมืองย่างกุ้ง มีความยาวโดยรอบประมาณ 473 เมตร รอบฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็ก ๆ อีกร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้านยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย นับเป็นงานสถาปัตยกรรมฝีมือช่างพม่าที่งดงามหาที่เปรียบมิได้ สันนิษฐานว่าเริ่มก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษแรก ๆ เชื่อกันว่าภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น พระมหาเจดีย์นี้ยังคงฐานะของพุทธสถานอันเป็นที่พึ่งทางใจของคนพม่าในทุกชั้นวรรณะทุกเพศและทุกวัย พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เป็นของคู่บ้านคู่เมืองพม่า ซึ่งมีผู้คนทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติมากมายพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ว่ากันว่า ทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษ ปัจจุบันรัฐบาลพม่าได้บูรณะพระมหาเจดีย์ชเวดากองให้คงความงดงามยิ่งใหญ่สมเป็นมหาเจดีย์องค์สำคัญที่งดงาม (ภาพถ่ายทางอากาศที่เขาถ่ายไว้ค่ะ ผู้เขียนถ่ายซ้ำมาอีกทีค่ะ) (ภาพถ่ายที่ผู้เขียนนำมาให้ชมค่ะ) ที่นี่มีกฎข้อห้ามว่า ห้ามนุ่งสั้น และห้ามใส่รองเท้า เข้าไปด้านใน (ซึ่งก็คล้ายกับของทางบ้านเรา) แต่ของพม่านั้นต้องล้างเท้าด้วยค่ะ เขาจะให้ถอดรองเท้าภายในอาคารที่เราต้องมาจ่ายค่าเข้าภายในมหาเจดีย์ค่ะ และให้เราล้างเท้าเพื่อชำระสิ่งสกปรกก่อนจะเดินขึ้นไปบนมหาเจดีย์ มีคำกล่าวบอกว่าใครมีโอกาสได้มาไหว้มหาเจดีย์แห่งนี้ถือว่าเป็นคนมีบุญค่ะ จากการที่นับได้ว่าเป็นบุญที่ได้มาไหว้มหาเจดีย์แห่งนี้ต้องบอกว่าอลังการสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ ยิ่งใหญ่สวยงาม เรียกว่ารวมความงดงามวิจิตรบรรจงมาก และจากการที่ได้ชมพร้อมทั้งได้รับข้อมูลจากซอ จะพบว่ามหาเจดีย์แห่งนี้ไม่ได้เป็นทองทั้งองค์ค่ะ เพราะส่วนของฐานนั้นจะเป็นทองแดงค่ะ ส่วนฐานชั้นที่สองก็ใช้แบบทองแผ่นบ้านเรา และส่วนชั้นที่สามจนถึงยอดมหาเจดีย์เป็นทองคำค่ะ เพราะว่าสีของชั้นทองทั้งสามจะเป็นคนละสีเลยค่ะ รอบมหาเจดีย์จะมีพระเจ้า 4 พระองค์ประดิษฐ์สถานอยู่ทั้ง 4 ทิศค่ะ และมีพระประจำวันเกิดรายรอบ ซอแนะนำว่าการไหว้มหาเจดีย์ชเวดากอง จะมีจุดอธิษฐานอยู่ 1 จุด และการอธิษฐานนั้นจะต้องอธิษฐานพร้อมดอกบัวและต้นแห่งชัยชนะ เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้วก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิด โดยสรงตามกำลังของแต่ละวันซึ่งจะมีจำนวนไม่เท่ากันค่ะ การสรงน้ำก็จะมีวิธีการสรงคือให้สรงน้ำ องค์พระ ,เทวดาประจำวัน, เสาหลัก และสัตว์ประจำวัน เรียงตามลำดับค่ะ ผู้เขียนเกิดวันศุกร์ค่ะกว่าจะสรงเสร็จก็นับไปค่ะ 21x4 สำหรับวันนี้ขอแค่เรียกน้ำย่อยค่ะ เยี่ยมเยือนเมืองพม่าคงจะมีประมาณสี่ถึงห้าตอนจะพยายามไม่ให้เกินนี้ค่ะ มีข้อติชมอย่างไรยินดีน้อมรับค่ะ สำหรับตอนที่สองนั้นอดใจรอหน่อยนะคะ รับรองว่ามีเรื่องขำ ๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
24 กรกฎาคม 2550 08:10 น. - comment id 96995
หลายวันก่อน .. เพื่อนบอกว่า ".. จะไปแม่สาย ข้ามไปฝั่งพม่า อยากได้อะไรมั๊ย จะหามาฝาก.." อัลมิตราตอบทันทีโดยไม่ลังเลว่า .. ".. อยากได้พม่าเป็นเมืองขึ้น .." ... อัลมิตราเคยไปเยือนพม่าสองครั้งค่ะ และทุกครั้งก็ไปที่เจดีย์ชเวดากอง เด็ก ๆ ที่นั่นจะกรูเข้ามาขายดอกไม้เพื่อสักการะ มีรูปถ่ายเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้ใช้กล้องดิจิตอล
24 กรกฎาคม 2550 08:18 น. - comment id 96996
ยังไม่เคยไปเลยค่ะพี่แม่มด ไว้จะติดตามตอนต่อไปนะคะ
24 กรกฎาคม 2550 12:09 น. - comment id 96998
เอาตอนอาหารการกินมาลงบ้างครับ เมนูเด็ด ๆ ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างครับ