กับความคิดหนึ่ง
sarukung
ยี่สิบกว่าปี ที่ได้ยืนอยู่บนโลกแห่งนี้ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งที่ดูเหมือนว่ามันเป็นระยะเวลาที่แสนสั้น แต่สำหรับฉันแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พบเจอทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย มันก็ล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตทั้งนั้น ฉันยังไม่รู้และทุกคนบนโลกนี้ก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าวันเวลาที่จะได้ดำเนินชีวิต ได้สูดลมหายใจ ได้มีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ หรือการที่ได้อยู่เพื่อทำในสิ่งที่ตนรัก แต่ก็ยังคงมีอีกหลายชีวิตที่อยู่อย่างทุกข์ทรมานรอเพียงวันที่ฟ้ากำหนดให้พวกเขาเหล่านั้นพ้นทุกข์บนโลกที่แสนโหดร้ายเช่นนี้ แล้วคุณล่ะ โลกใบนี้มีความหมายสำหรับคุณมากแค่ไหน....
มีอยู่หลายครั้งที่คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ นั่งมองดูหน้าตัวเองในกระจก แล้วถามตัวเองว่าฉันเป็นใคร ร่างกายเลือดเนื้อที่มีอยู่ และการกระทำต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น ใครเป็นคนสั่ง ฉัน คือ จิตวิญญาณที่ควบคุมร่างกายนี้ ให้ทำอย่างที่ใจต้องการ แล้วฉันเกิดมาเพื่ออะไร แล้วชาติที่แล้วฉันเคยเป็นใคร แล้วความตายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมันเป็นอย่างไร มีแต่เรื่องที่อยากรู้ แต่มันยังไม่ถึงเวลาอันควร เพราะชีวิตฉันยังคงดำเนินต่อไปทุกวัน ทำหน้าที่ซ้ำๆ เดิมๆ จากเด็กที่ต้องไปเรียนทุกวัน จนจบปริญญาแล้วกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนหาเช้ากินค่ำหลับดึกเป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้ แล้วคนอื่นๆ ล่ะมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างไร ต่างสังคม ต่างชนชั้น ต่างสิ่งแวดล้อม นั่นคือสิ่งที่แยกเราให้ต่างกัน
แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือความรู้สึก สุข ทุกข์ ไม่ต่างกัน เว้นแต่ใครจะโชคดีที่ได้มีความสุขมากกว่า ซึ่งสิ่งนั้นก็ต้องมาจากใจของตนเอง อยากให้ตัวเองมีสุขก็ให้มีความสุขในของแบบของตน แต่ในความจริงนั้นมันยากนัก ความเป็นจริงที่ต้องเผชิญ กับความฝันแสนหวานที่สามารถจะสร้างสรรค์สิ่งใดก็ได้ตามปรารถนา ถ้าหากแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือความจริง คือความฝัน ก็คงอยู่บนโลกที่แสนวุ่นวายด้วยมนุษย์หลายล้านชีวิตเป็นผู้ก่อ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีสองด้านเสมอ ทั้งที่รู้ ทั้งที่เข้าใจว่าอะไรคืออะไร แต่ก็ยังคงดันทุรังทำในสิ่งที่ใจต้องการมากกว่าถึงแม้จะเจ็บแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย อาจจะมองดูเหมือนโง่งม แต่คนเรามีหลายล้านคน มีหลายล้านความคิด และก็มีหลายล้านเหตุผล ในการกระทำนั้นๆ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ต้องเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่จะเรียนแก้ได้ด้วยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่แต่ละคน ในเมื่อวันนี้นาทีนี้ยังคงมีลมหายใจ ยังมีดวงตา ยังหู ยังแขนขา ให้ทำประโยชน์อะไรๆ อีกมากมายจงใช้มันให้คุ้มค่า เพราะสำหรับคนที่หูหนวกตาบอด คงจะเศร้าใจทั้งที่พวกเขาต้องลำบากมากกว่าหลายร้อยเท่า โดนแบ่งแยกออกจากสังคม กลายเป็นคนไร้สมรรถภาพ ไม่สามารถรับรู้เรื่องใดๆ ได้โดยตัวเองอีก แต่พวกเขาเหล่านั้นก็สามารถมีความสุขได้จากสิ่งที่เขาขาดไป เพราะเขาได้สิ่งที่ทดแทนมาเติมเต็มเขาให้สมบูรณ์ได้ในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร
โลกใบนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังซ่อนเร้นให้ค้นหา แต่เราไม่ควรมองข้ามในสิ่งรอบๆ ตัว คนใกล้ๆ ตัวและนั่นจะไม่มีคำว่าเสียใจภายหลังเป็นแน่แท้......
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รับจากเกิดมามีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ ในอนาคตความคิดของฉันอาจจะเปลี่ยนไป มุมมองอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ฉันก็รู้ดีว่าทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าในตัวเอง แล้วทำไมเราถึงมองไม่เห็นมันล่ะ เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อใครสักคน แต่เราเกิดมาเพื่อตัวเอง เพื่อสร้างสิ่งดีๆให้กับคนรอบกาย หรือแม้แต่กับโลกใบนี้เพียงเล็กน้อยก็มีความหมายมากพอแล้ว