ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว (ตอนจบ)

หัตถา อินจัน

เวลาประมาณ  1  ทุ่ม  แม่บอกว่าพ่ออาเจียนออกมาเป็นเลือด  ตอนนี้หมอกำลังทำการรักษาอยู่ ฉันตกใจมาก  พอวางสายของแม่แล้ว  ฉันรีบโทรศัพท์หาน้องทุกคน เพื่อจะเดินทางไปหาพ่อกัน  แต่ปรากฏว่าขณะนั้น ทุกคนไม่มีเงินกันเลย
     3 ทุ่มตรง  แม่โทรมาอีกครั้ง บอกว่าหมอกำลังให้เลือดพ่ออยู่  แต่ร่างกายพ่อไม่รับ  ให้ไปเท่าไหร่ก็ไหลออกมาหมด  แม่ร้องไห้  ฉันโทรหาน้องอีกครั้ง  ขณะนั้นน้องขอยืมเงินเพื่อนได้แล้ว แต่จะต้องไปที่บ้านเพราะอยู่คนละที่  
     เวลา 5 ทุ่มครึ่ง  ฉันและน้องๆ รีบนั่งรถไปที่สถานีขนส่งรังสิต  เพราะน้องบอกว่ามีรถเที่ยวสุดท้าย เวลา เที่ยงคืนครึ่ง  พอถึงสถานี  เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องไปซื้อตั๋วที่สถานีขนส่งนวนคร  ฉันกับน้องรีบนั่งแท็กซี่ไปที่นวนคร  เมื่อถึงปรากฏว่าช่องขายตั๋วปิดแล้ว  ฉันรู้สึกแย่มากๆ เพราะแม่โทรมาถามตลอดว่าถึงไหนกันแล้ว  พ่ออาการทรุดลงเรื่อยๆ  
     พอดีแถวนั้นมีรถแท็กซี่จอดอยู่หลายคัน  เขาเข้ามาถามว่าจะไปไหนกัน  พอรู้เรื่องเขาเลยบอกว่าจะมีรถตู้วิ่งไปนครสวรรค์  ให้รอแล้วค่อยต่อรถไปพิษณุโลก  ฉันและน้องนั่งรอด้วยความกระวนกระวายใจ  แม่โทรมาไม่ต่ำกว่า 10  ครั้ง  ฉันรู้สึกใจไม่ดี  เลยขอหลวงพ่อพุทธชินราชที่น้องชายคล้องอยู่  มาอธิษฐานให้พ่ออยู่รอฉันและน้องก่อน
     ฉันได้ขึ้นรถตู้ตอนประมาณตี  3  กว่าเล็กน้อย  โชคดีที่รถวิ่งเข้าพิษณุโลกเลย  ฉันและน้องจึงไม่ต้องไปต่อรถที่นครสวรรค์  รถถึงบ้านฉันเกือบ 8 โมง  ฉันและน้องรีบไปที่โรงพยาบาล  แม่ยืนร้องไห้อยู่  หมอบอกว่าพ่อหายใจอ่อนมากแล้ว  ถ้าเอาเครื่องช่วยหายใจออกพ่อจะหายใจไม่ได้  
     ตอนที่ฉันเรียกพ่อ  พ่อกลืนน้ำลายลงคอแต่ไม่สามารถขยับตัวได้  ตาของพ่อฝ้าฟางไม่มีแวว  เมื่อน้องสาวและน้องชายเรียกพ่อ  พ่อขยับแขนและขาได้เล็กน้อย  เวลา  8  โมงครึ่งหมอใหญ่  มาตรวจพ่อ  ดูการตอบสนองของร่างกาย  และชีพจร  แต่พ่อไม่หายใจแล้ว  หมอลงเวลาเสียชีวิตของพ่อ  8.45  น.  
     แม่ร้องไห้  แต่ฉันไม่กล้าร้อง  ฉันไม่อยากให้พ่อรู้สึกกังวล  ฉันต้องเป็นหัวแรงในการจัดงานของพ่อด้วย  ฉันพยายามทำอย่างดีที่สุด  ฉันไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น  แต่น้ำตาของฉันมันไหลย้อนเข้าไปในอก  
     ฉันดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อ  แม้ใครๆ จะมองว่าพ่อของฉันดุ  พ่อฉันตั้งความหวังไว้สูงเสมอ  ที่จะเห็นลูกๆ  เติบโตขึ้นมาเป็นเจ้าคนนายคน  ทั้งๆ ที่ไม่มีลูกคนไหนทำได้ดังใจพ่อเลย  แต่สุดท้ายพ่อก็ยอมรับสิ่งที่ลูกๆ เป็น  
     ฉันวางแผนอนาคตไว้เพื่อพ่อมากมาย  โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ  และค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น  รอยยิ้มของพ่อทำให้ฉันชื่นใจเหลือเกิน  เมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายในแต่ละครั้ง  ฉันก็เตรียมเป้าหมายใหม่ไว้ทันที  เพราะฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าพ่อจะอยู่กับฉันนานหรือเปล่า  
     บัดนี้  พ่อไม่อยู่เป็นความหวังให้ฉันอีกแล้ว  ฉันรู้สึกใจหาย  ที่ผ่านมาฉันทำงานอย่างหนักเพื่อพ่อ  แม้ฉันจะมีครอบครัวแล้ว  แต่เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันพยายามหามานั้น  ฉันตั้งใจหามาเพื่อพ่อ 
     ฉันซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้พ่อ  พ่อเคยบอกว่าไม่ต้องซื้อ  ของเดิมก็ยังใช้ได้อยู่  แต่แม่เคยแอบบอกฉันว่า  พ่อยิ้มหน้าบานทุกครั้งที่เวลามีคนมาบ้านแล้วทักว่าลูกซื้อโน่นให้ใหม่  ซื้อนี่ให้ใหม่  
     ถึงแม้ว่าตอนนี้พ่อจะจากฉันและน้องๆ ไปแล้ว  แต่ฉันก็ยังไม่สามารถจะลืมพ่อได้  ฉันยังจำคำพูด และรอยยิ้มของพ่อได้เสมอ  พ่อพูดทุกครั้งที่ฉันได้มีโอกาสไปหาพ่อ  หรือแม้กระทั่งเวลาการคุยกันทางโทรศัพท์  พ่อบอกให้ฉันดูแลน้อง  อย่าทิ้งน้อง  พ่อยังกลัวว่าลูกๆ จะลำบากเมื่อไม่มีพ่ออยู่แล้ว  
     ฉัน..ขอสัญญากับพ่อ..ฉันจะรักน้องทุกคน  และจะดูแลน้องๆ  ให้สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง..				
comments powered by Disqus
  • ม.กร

    3 สิงหาคม 2550 00:00 น. - comment id 97111

    น้ำตาซึมเลย
    ขอแสดงความเสียใจด้วย
    ไม่มีสิ่งใดที่ได้ดังหวังแบบไม่สูญเสีย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน