เรื่องจริงของฉันกับเขา (คนดีที่ไม่รัก...) ตอนที่ 3

เสราดารัล

วิญญาณนักสืบของฉันหายไปในวันรุ่งขึ้น ด้วยภาระหน้าที่การงานที่ยุ่งเหยิง ทำให้ฉันลืมเลือนที่จะไปสืบหาความจริงของผู้ชายคนนั้น
       ฉันไม่ได้ออนไลน์เป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆๆ หลังจากที่เราคุยกันครั้งก่อน
       เมื่อฉันกลับมาหน้าจออีกครั้ง...ทันทีที่ฉันเข้าไปห้องเดิม..เขาขึ้นข้อความทักทายฉันทันที..."นั่นคุณ...ใช่ไหมครับ...ผมไม่เห็นคุณหลายวัน...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ งานยุ่ง..หรือไม่สบาย..." คำถามที่พรั่งพรูผ่านตัวอักษรของเขานั้น ทำให้ฉันแทบตั้งตัวไม่ติด...ฉันค่อยๆๆตอบคำถามเขาอย่างใจเย็น
        การคุยกับเขาวันนี้ ทำให้ฉันได้มีเวลานึกถึงเรื่องที่ฉันยังค้างคาใจในครั้งนั้น ฉันบอกเขาว่า ฉันจะโทรหาเขาตอนนี้ที่ที่ทำงานของเขา...เขาถามย้ำฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น.."จริงหรือครับ โทรมาเลยนะครับ ผมรอ"
        ฉันโทรหาเขาทันทีที่เขาพูดจบ คนรับสายปลายทาง บอกชั้นยศ ชื่อ และหน่วยงาน...อืม..เขาไม่ได้โกหก เขาทำงานที่นี่จริงๆ ฉันบอกว่า ขอสาย ร.อ...... ด้วยค่ะ มีการต่อสายไปยังเขาตามที่ฉันต้องการ เสียงโทรศัพท์ดังอยู่ 3 ครั้ง ช่วงที่รอ แม้ไม่นานนัก แต่ฉันรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่มันถี่แรงเกินกว่าปกติ...เมื่อมีคนรับสายอีกครั้ง เสียงนุ่มทุ้มจากปลายสาย สะกดหัวใจฉันให้นิ่งงันอย่างน่าประหลาด "สวัสดีครับ ผม ร.อ.....รับสายครับ"...เขาน่ะเอง..ใช่เขาจริงๆด้วย
        ฉันใช้เวลาคุยกับเขาไม่นานนัก ที่โทรไปก็เพียงเพื่อตรวจสอบ ว่าเขามีตัวตนจริงอย่างที่บอกหรือไม่เท่านั้น...เขาขอเบอร์โทรศัพท์ฉัน....ฉันปฏิเสธอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้..ซึ่งดูก็เหมือนเขาจะเข้าใจดีถึงเหตุผลที่แท้จริงของฉัน ที่ไม่ให้เบอร์โทรศัพท์กับคนแปลกหน้า
        ใช่ค่ะ เขายังคงเป็นนคนแปลกหน้าสำหรับฉัน...ตราบใดที่ฉันยังไม่รู้จักใครดีพอ..ก็จะไม่มีใครเข้าถึงตัวฉันได้ง่ายๆๆเช่นกัน
        หลังจากที่ฉันโทรหาเขาในวันนั้นแล้ว ฉันก็ไม่เคยโทรหาเขาอีกเลย แต่เรากลับคุยกันในจอมากขึ้น...ความรู้สึกของฉัน เขายังเป็นเพียงเพื่อนในเนต หากจะมีความพิเศษอยู่บ้าง ก็ตรงที่ เขาเป็นเพื่อนในเนตที่ฉันรู้สึกไว้วางใจ และสนิทใจพอที่จะคุยเรื่องราวต่างๆในชีวิตจริงมากขึ้น
        เราคุยกันในจอถึง 3 เดือนเต็ม เขายังคงปฏิบัติตัวสม่ำเสมอเหมือนเช่นเคย ถ้อยคำอาทร ห่วงใยจากเขา ยังคงมีให้ฉันเสมอมา...ในเวลาทุกข์ท้อ เหงา เศร้า ฉันสามารถคุยกับเขาได้อย่างสนิทใจ
        ที่สุด เขาก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า เขาไม่ใช่แค่เพื่อนในเนตเท่านั้น แต่เขาสามารถเป็นเพื่อนแท้ของฉันได้ในชีวิตจริง
        ฉันตัดสินใจให้เบอร์โทรศัพท์กับเขา แต่ถึงกระนั้น ยังคงมีเส้นแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา...เขายังไม่จำเป็นต้องรู้จักฉันทั้งหมด เขามีสิทธิ์รู้จักฉันเท่าที่ฉันอยากให้รู้จัก...ค่ะ ฉันให้เขาแค่เบอร์โทรมือถือ...ซึ่งเพียงแค่นี้ เขากลับรู้สึกดีใจจนฉันละอาย เขาไม่เคยทวงถามสิ่งที่เขาอยากได้ แต่เขาจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง ในทุกสิ่งที่ฉันหยิบยื่นให้
        ตั้งแต่ได้เบอร์โทรฉัน เขาโทรมาหาฉันทุกวัน วันละ 5-6 ครั้ง ในสมัยที่ค่าโทรมือถือนาทีละ 5 บาท โทรคุยครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 นาที  เงินเดือนข้าราชการทหารของเขา ต้องมาจ่ายค่าโทรถึงฉันมากกว่าครึ่ง ตลอดเวลา 2 เดือน
        ฉันรู้สึกเห็นใจเขา เห็นถึงความมั่นคง ความจริงใจของเขา ฉันจึงให้เบอร์โทรที่บ้านกับเขา...เขาดีใจเหมือนเช่นเคย...ในช่วงกลางวัน เขายังคงโทรเข้ามือถือฉัน แต่ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ถึงค่ำ เขาจะโทรมาที่บ้านฉัน เราใช้เวลาคุยกันตั้งแต่ค่ำ ถึงเวลาเข้านอน....หลายครั้งที่ฉันหลับไปในขณะที่ได้ยินเสียงเขาทางโทรศัพท์
        ฉันคุยกับเขามาเป็นเวลา 3 เดือน เราได้ยินแต่เสียงของกันและกัน เราไม่เคยแม้แต่ขอดูรูป หรือนัดเจอกัน...ฉันไม่เคยรู้สึกว่าอยากเห็นหน้า หรืออยากเจอเขาเลย...น่าแปลก จนถึงเดี๋ยวนี้ ฉันยังเก็บมาคิด ว่าทำไมฉันถึงไม่อยากเจอเขาเลย..ส่วนเขา ฉันไม่รู้  ...เขาไม่เคยบอก และฉันเอง ก็ไม่คิดจะถามเช่นกัน
        5 เดือนผ่านไป ในวันเหงาๆวันหนึ่งของฉัน เขาโทรมาหาฉันพอดี เหมือนเดาใจได้ว่าเวลานี้ ฉันต้องการเพื่อนคุยเป็นที่สุด  เราคุยกันอย่างออกรสเช่นเคย และในตอนหนึ่งฉันก็พูดขึ้นมาลอยๆๆกับเขาว่า.."เรารู้จักกันมาตั้งนาน
เนอะ ยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ขอดูรูปหน่อยจิ"... เขาตอบกลับเชิงตัดพ้อว่า "นึกว่าจะไม่พูดคำนี้ซะแล้ว..ผมรออยู่ ว่าคุณจะพูดมั้ย"..นี่คือเขา..ไม่เคยที่จะบอกความต้องการ ไม่เคยจะเรียกร้อง ทุกอย่าง ถ้ามันจะเกิด ต้องเป็นฉันเท่านั้น ที่จะกำหนดให้เป็นไป
         แล้ววันนั้น เราก็ได้เห็นหน้ากันและกันเป็นครั้งแรกจากรูปถ่าย ภาพชายชาติทหารในเครื่องแบบเต็มยศ ผิวแทน หน้าตาคมเข้ม คิ้วหนาได้รูป ดวงตาที่ฉายแววของความมุ่งมั่น ตั้งใจ สะกดให้ฉันมองภาพนั้นนิ่งงันชั่วครู่
         ไม่บอก คุณก็คงพอรู้ เมื่อเราคุยกับใครซักคน ถ้าทุกอย่างคลิกตรงกัน เราก็เริ่มอยากฟังเสียง เมื่อได้ฟังเสียง เราก็อยากเห็นรูป และเมื่อเห็นรูป เราก็อยากสัมผัสตัวตนจริงๆของเขา..ใช่ค่ะ ฉันก็เป็นอย่างนั้น
         ในเดือนที่ 6..ฉันบอกเขาว่า "เรารู้จักกันมานานแล้วนะ เราน่าจะได้เจอตัวจริงกันซักที คุณคิดว่าไง เราเจอกันดีมั้ย คุณอยากเจอฉันหรือเปล่า" เขาตอบกลับมาว่า เขาอยากเจอฉันตั้งแต่แรกๆๆที่เราได้คุยกัน แต่เขาไม่กล้าบอกความต้องการของเขา เขากลัว ฉันจะไม่คุยกับเขาอีก เขาบอกว่า ฉันมีกำแพงหลายชั้นมาก ฉันค่อนข้างระวังตัวเอง กว่าที่เขาจะได้รู้จักฉันขนาดนี้ เขาต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่นาน เพราะฉะนั้นเมื่อเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาจะบอก มันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเปลี่ยนไปหรือไม่ เขาก็จะไม่ทำ เขารอให้ฉันเป็นผู้เลือกเอง ว่าต้องการคบเขาระดับใด แค่ไหน
        ไม่เคยมีผู้ชายคนไหน ทำเพื่อฉัน และให้ฉันขนาดนี้ ฉันไม่ได้ตีความการให้ของผู้ชายแค่มีดอกไม้มาฝาก มีคำพูดหวานๆ หรือพาไปทานอาหารร้านหรูๆ โรแมนติก แต่การให้ของผู้ชายคนนี้ คือให้ความสม่ำเสมอ จริงใจ และก็มั่นคง เขามีหลายๆสิ่ง ที่ฉันยังไม่เคยเจอจากผู้ชายคนอื่น
       จะเป็นไรไป ถ้าฉันจะให้โอกาสตัวเอง ได้คบและได้รู้จักผู้ชายดีๆๆอย่างนี้ซักคน
      และแล้วเราก็ตกลงกันว่า เราจะเจอกัน เดทแรกของฉันกับเขากำลังจะเริ่มขึ้น...ผู้ชายในจินตนาการของฉันจะก้าวข้ามผ่านมาเป็นผู้ชายในชีวิตจริงของฉันอย่างไร....อีกไม่นานคุณจะรู้ค่ะ				
comments powered by Disqus
  • โอ้ละหนอ

    5 กรกฎาคม 2550 23:27 น. - comment id 96819

    หนุกจิงๆ แหมคิดว่าจะได้อ่านเป็นคนแรกซะอีก ตอนต่อไปวันไหนเอ่ย
  • เสราดารัล

    6 กรกฎาคม 2550 15:56 น. - comment id 96821

    ขอบคุณ คุณโอ้ละหนอสำหรับการติดตามค่ะ ความสุขของคนเขียน คือการได้เขียนในสิ่งที่ต้องการ ถึงกระนั้นกลับพบว่า สุขยิ่งกว่า เมื่อมีผู้อ่านคอยติดตามงานของเรา
    
    นี่คืองานเขียนชิ้นแรกของเสราดารัล ดังนั้นทุกข้อความที่ผู้อ่านส่งให้ คือกำลังใจที่สำคัญค่ะ
    
    ตอนหน้า จะปั่นให้เร็วที่สุดค่ะ...สัญญา
ชื่อเรื่องสั้น-นิยาย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน