แม้เมื่อมองขอบฟ้ายามค่ำคืน อาจมืดมิด แต่ถ้ามองดีๆก็จะเห็นก้อนเมฆเลือนลาง คุณเคยสังเกตไหม ฉันนี่แหละเป็นก้อนเมฆเหล่านั้น วนเวียนไปมาตามวัฎจักรไม่จบสิ้น วันนึงก็เป็นสายฝนโปรยปราย วันนึงก็เป็นไอน้ำ ทุกๆวันฉันจะรอคอยเพื่อให้สุริยาเลือนลับไปจากท้องฟ้า เพื่อที่เขาจะได้ออกมาเฉิดฉาย เขามิอาจเทียบเท่าสุริยาหรอกนะ อาจจะเล็กกว่า อาจจะมีแสงน้อย แต่เขาก็ยังใจดี ยังพยายามที่จะส่องแสงไปให้ทั่วถึง ส่องแสงให้คนที่เดิมตามถนนได้เห็นทาง ส่องแสงให้ปลาในน้ำได้ออกมาเล่น แสงของเขาเย็นๆแต่อบอุ่น ไม่ได้ร้อนแรงแผดเผา เขาส่องแสงลงมาถึงฉันที่ล่องลอยไร้จุดหมาย แสงของเขาทำให้ฉันที่ดู เรือนลางแทบไม่เห็น เปลี่ยนเป็นริ้วสีขาวๆ ฉันผู้ซึ่งอยู่ห่างไกลเหลือเกินได้แต่มอง ไม่คิดว่าเขาคงเห็นฉัน วันเวลาผ่านไป เราส่งภาษาผ่านสายลม ฉันเพิ่งรู้ว่าแม้จะสูง สวยงามเฉิดฉายแต่เขาก็เหงาไม่ต่างจากฉัน เขาก็อยู่เดียวดาย เราสัญญากันว่าจะคุยกันทุกวัน แม้จะไม่ได้พูดอะไรแต่ฉันก็ดีใจที่อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ได้ยินเสียงที่อ่อนโยน สัมผัสแสงที่อบอุ่น ฉันก็พอใจแล้ว ฉันไม่เสียใจนะเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพราะรู้ว่าเมื่อใดที่ตะวันลับขอบฟ้า เราจะเป็นของกันและกัน แต่ทำไม ทุกๆวันเขาดูเล็กลง ฉันก็ไม่ได้สนใจ ตราบใดที่เขายังส่องแสงมาถึงฉัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันแทบมองไม่เห็นเขา จากหน้ากลมโต เหลือเพียงเสี้ยวเล็กๆ ฉันรู้สึกโกรธมาก เพราะคิดว่าเขาคงหันหน้าไปทางอื่นไม่หันมาหาเขา ฉันเลยล่องลอยไปแอบหลังก้อนเมฆก้อนอื่น เพื่อที่เขาจะได้ไม่เห็น ฉันเพียงแต่หวังว่าพรุ่งนี้เมื่อมีดาวประดับฟ้าอีกครั้งเขาคงหันมามองฉันอย่างเต็มหัวใจเหมือนเดิม หากแต่ราตรีต่อไปกลับไม่เห็นเขา ท้องฟ้ามืดมน ไร้แสงที่อบอุ่น ไม่มีสายลมที่เต็มไปด้วยเสียงกระซิบที่อ่อนหวาน เขาหายไปไหนฉันไม่รู้อาจจะโกรธ คงต้องการคำขอโทษ ฉันล่องลอยเพื่อตามหาเขา ลองลอยผ่านหุบเขา ทุ่งหญ้า ดารา ตึกสูง แต่ก็ไม่พบ ฉันตามหาจนแสงเหลืองอร่ามขึ้นมาประดับฟ้า แต่ก็ยังไม่เจอ ความหัวงริบหรี่ที่จะพบเขาในยามราตรีเริ่มเลือนหาย แต่เมื่อฟ้าเปลี่ยนเป็นสีครึ้ม กลับมีแสงอันอบอุ่นของใครคนหนึ่ง ส่องมากระทบฉัน ฉันส่งเสียงผ่านสายลม แสงที่แฝงไปด้วยความอาทร คิดถึง และเป็นห่วง หากเสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่เสียงของผู้ที่รอคอย. ฉันเพิ่งรู้บัดนี้เองว่าทำไมหลายคนบอกว่าพระจันทร์เป็นผู้หญิง แต่มันไม่จริงหรอกนะ พระจันทร์มีหลายดวง ผลัดเปลี่ยนกันทุกๆ15วัน เมื่อดวงนี้จากไปก็จะไปเกิดใหม่เป็นกระต่าย และมีดวงใหม่ขึ้นมาประดับฟ้า.. แม้พระจันทร์ดวงใหม่จะส่องแสงมาถึงฉัน แต่ฉันก็ยังรักพระจันทร์ดวงเก่าของฉันอยู่ พระจันทร์ที่ฉันรัก พระจันทร์ที่ฉันห่วง พระจันทร์ที่ฉันทำให้เขาเจ็บ ฉันอยากอยู่ท่ามกลางแสงแห่งรัตติกาลตลอดไป เพียงหวังว่าจะได้ตามหาพระจันทร์ของฉัน และเอ่ยคำว่าขอโทษ ฉันอยากอยู่ความมืดของยามราตรีตลอดไปเพื่อระลึกถึงช่วงเวลาเก่าๆที่แสนอ่อนหวาน แต่ฉันก็รู้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นคงไม่หวนกลับมา คุณเคยตื่นมาตอนเช้ามืดไหม เคยได้สัมผัสกับน้ำค้างไหม นั่นแหละคือน้ำตาของฉัน ที่ไหลรินเมื่อราตรีร่วงโรย
15 เมษายน 2546 23:28 น. - comment id 68235
พระจันทร์สีส้มสุกดวงโตสุกปลั่ง กำลังสาดส่องทอประกายนวลละอองดั่งทองทา เมื่อแหงนเงยหน้าบนฟากฟ้าสีน้ำเงินงามเข้มดั่งกำมะหยี่ ในราตรีที่ดวงดาวราวเร้นหลีกหลบประกายกล้ามิหาญกล้าทายท้าแสงนวลใย หายเข้าไปในหน้าต่างเมฆ.. ฝากดอกไม้ไทยที่พากันเอาใจ บานละออชูช่อรอหยาดน้ำค้าง ที่คงหยาดสายพรายพร่างในยามดึก... ผ่านม่านมนต์เมฆเสกเสน่หาให้มวลมนุษย์ มองหาสวรรค์ฝันหวานหวาน ฝากผ่านถึงดวงใจ..ทุกดวงที่ยังห่วงใยเกี่ยวกระหวัดรัดรึง ให้ละเมียดละมุนด้วยความงามนั้ที่ไทยโพเอม และผ่านดวงตาดารางามนามว่านักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝันกันมิว่างเว้นในยามนิทรา.. ที่ทุกดวงตาอื่นๆนั้นพากันหลับไหล ไฉนเลย..! เราจึงมาเดินบนถนนสายเดียวกัน ในมิติฝันอันลี้ลับมหัศรรย์ไร้กาลเวลา. .นอกจากใจนำพาให้เราได้พบและรักกัน ได้โอบเอื้อแบ่งฝันอันละเมียดใจ ในทุกอณูหนึ่งนี้กับโชคดีที่กาลเวลาได้ประทานของขวัญอันแสนเลอล้ำค่ามลังเมลืองใจ ..เกินกล่าว..แล้ว ...
16 เมษายน 2546 00:59 น. - comment id 68237
อย่าเศร้านักเลย ถ้าเปรียบน้ำตาเป็นน้ำค้างยามเช้า..ของเธอ แล้วดอกไม้ที่รอน้ำค้างเล่า..จะเศร้าโศกเพียงใด สงสารดอกไม้เถอะนะ.. ขอให้น้ำค้างเป็นดั่งน้ำใจเธอจะดีกว่า
17 เมษายน 2546 13:41 น. - comment id 68266
เป็นงานเขียนที่บ่งบอกถึงผู้หญิง ความอ่อนโยน ความเศร้าที่มีในตัวเรา ได้ดีมาก ๆ เลยละ ชอบนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ