ฉันชอบพี่สมัยศรี ที่ว่าชอบ ก็หมายถึงชื่นชอบ ชื่นชม ไม่ได้หมายความว่าชอบแบบลักเพศนะ. พี่สมัยศรีแต่งตัวเก๋ ผมซอยสั้นกับรูปร่างบาง ท่าทางเดินกระฉับกระเฉง ใครจะรู้อายุห้าสิบแล้ว เวลาพี่สมัยศรีแวะมาหาฉันที่แผนก ฉันมักจะเรียกพี่สมัยศรีว่า "คุณนาย ไปไหนจ๊ะ" มาดให้จริงๆ พี่สมัยศรีอยู่แผนกบูติค เป็นผู้จัดการใหญ่ แต่ก็ทำตัวสบาย ๆ พูดจาติดฮาด้วยซ้ำไป คุยด้วยแล้ว..สบายใจดี พี่สมัยศรีชอบทำบุญ ชอบสร้างส้วมให้กับวัด ที่รู้ ก็เพราะพี่สมัยศรีชวนบ่อย ๆ ทำบุญแล้วหน้าตาผ่องใส ท่าจะจริง พี่สมัยศรี ยังใสปิ๊งอยู่เลย แต่ไหง๋ ไม่มีแฟน พี่สมัยศรีบอกว่า " ข้าจะไปรู้เหรอะ นี่ก็รอให้รถตู้ดักฉุดอยู่เหมือนกัน" เมื่อวานนี้ พี่สมัยศรีทำหน้าเซ็งสุดขีด ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดธรรมชาติอย่างมาก กระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่วางไว้ที่พนักพิงของเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ... หาย ไม่รู้ว่ามีมือเน่าที่ไหนบังอาจกล้าล้วงคอนางพญางูเห่า .. สงสัยไม่อยากมีเงาหัว กระเป๋าหนังแท้อย่างดีเดินทางข้ามทวีปมาเชียว แค่ราคากระเป๋าตัวเลขก็ปาไปหกหลักแล้ว ไหนจะมีกระเป๋าเงินที่มีเงินเป็นหมื่นอีก ยังนะ ยังไม่หมด ซอกเล็กซอกน้อยยังมีเงินซุกบ้าง อันนี้พี่สมัยศรีเขาเล่ามา ฉันไม่ได้ไปสำรวจกระเป๋าหรอก .. เหตุคงเกิดเมื่อเที่ยง .. ตามวิสัยของพี่สมัยศรี..พกเงินติดตัวไปนิดหน่อยสำหรับอาหารมื้อเที่ยง ไงล่ะ .. พี่สมัยศรีฝากกระเป๋าสะพายไว้กับผีบ้านผีเรือนมั๊ง ถึงได้ไม่เก็บให้เรียบร้อย พอทานข้าวเที่ยงเสร็จ ก็รีบจรลีเข้าออฟฟิต หวังจะนั่งตากเหงื่อผึ่งแอร์ซักหน่อย ปรากฏว่า ช็อคสุดขีด !!! ....... ก็บอกแล้วไง พี่สมัยศรีเป็นคนว่องไว กระฉับกระเฉง มีรึ จะนั่งเงียบหงิมได้ ข่าวนี้กระฉ่อนข้ามตึก จนฉันที่อยู่อีกคนละฟากตึกยังพลอยตกอกตกใจไปด้วย ที่ตกใจน่ะ ไม่ใช่ตกใจเพราะกระเป๋าสะพายของพี่สมัยศรีหาย ตกใจที่พี่สมัยศรี ผละจากกระเป๋าสะพายไปได้ไง ทั้ง ๆ ที่มันเป็นคลังสมบัติย่อม ๆ ลือกันให้แซ่ด เดากันให้มั่ว .. ผู้ต้องสงสัย ที่ตกเป็นเป้าพิพากษาคือ แม่บ้าน .. ที่ทำความสะอาดช่วงเที่ยง โดยปกติ แม่บ้านจะมาทำความสะอาดวันละ 2 รอบ คือ เที่ยงและเย็น คนหนึ่งถือถุงดำใบใหญ่เทขยะแต่ละจุดลงไป อีกคนเช็ดโต๊ะ เช็ดหูโทรศัพท์ อีกคนกวาดบ้าน อีกคนใช้ม็อบถูพื้นไล่เลียงกันไปตามขบวน และหลังจากเหตุการณ์น่าตระหนกผ่านไปได้ไม่นาน ราวบ่ายสามกระมัง มีคนพบกระเป๋าสะพายของพี่สมัยศรี ที่ถังขยะ ห้องน้ำชาย กระเป๋าเงินถูกฉกเงินไปเรียบร้อยแล้ว จำนวนเงินเฉียดหมื่น บัตรต่าง ๆ อยู่ครบถ้วน และซอกที่ซุกเงินไว้ ยังไม่ถูกแตะต้องใด ๆ พี่สมัยศรียังไม่หายฉุนเฉียว วันนี้มีตำรวจมาพิสูจน์หลักฐานลายนิ้วมือด้วย ก็ไม่รู้ล่ะ ว่า.. สืบสวนสอบสวนแล้วจะได้ผลเป็นอย่างไร แต่ฉันอยากให้พี่สมัยศรียิ้มได้ในวันพรุ่งนี้ และวันต่อ ๆ ไป อารมณ์เสียสองวัน .. พอแล้ว .. ครั้นจะปรามว่าอย่าอารมณ์เสียเลย คงเป็นไปไม่ได้ ฉันเองก็มานั่งคิด .. คิดเล่น ๆ ถึงความน่าจะเป็น ฉันไม่ได้มีวิสัยทัศน์เหมือนโคนันคุง ไม่งั้น ตั้งแต่เมื่อวานคงจับโจรได้แล้ว นี่คิดเล่น ๆ คิดให้สมองในหัวเกิดการบริหารเสียบ้าง ** โจทย์มีอยู่ว่า .. - ใครจะถือกระเป๋าสะพายได้โดยไม่มีพิรุธ หญิงหรือชาย - ถุงดำใบใหญ่น่าจะเป็นเครื่องมือที่อำพรางได้ดี - น่าจะเป็นคนภายในสำนักงาน เพราะมุมโต๊ะทำงานอยู่ด้านใน - คนที่จะเข้าห้องน้ำชายได้โดยที่ไม่ผิดแปลก ก็น่าจะมีแต่ผู้ชาย - ถ้าแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดเข้าห้องน้ำผู้ชายไม่ถือว่าแปลก - เวลาจะเดินไปห้องน้ำหญิง ต้องผ่านห้องน้ำชายก่อน - ใครบ้างที่รู้ว่า กล้องของโทรทัศน์วงจรปิด บังเอิญเสียพอดีในวันนั้น ตอนนี้คนรับเคราะห์ถูกเพ่งเล็งมากที่สุด คงไม่พ้นแม่บ้าน ทำไงได้ .. คนเขามองกันว่า แม่บ้านจัดเป็นคนเกรดต่ำกว่า สงสารแม่บ้านเหมือนกันที่ตกที่นั่งลำบาก .. ก็เลยต้องคิด คิด คิด .. คิดไม่ออก .. ก็เลยเขียนเป็นเรื่องสั้น เผื่อคนอ่านจะช่วยคิด ไม่รู้ล่ะ .. ใครอ่านแล้ว ไม่ช่วยคิด .. ท้องผูกเจ็ดวัน ไม่รู้ด้วยนะ
15 มิถุนายน 2550 09:39 น. - comment id 96568
อ่านแล้ว.... ทำให้คิดถึงโคนันคุง... ที่คิด... เพื่อนที่ทำงานน่าจะสังเกตุได้ว่าใคร? ใครน่าสงสัยที่สุด... โดยคิดถึงปัจจัยหลายอย่าง คงไม่ใช่คนข้างนอก คนในออฟฟิคก็อยู่กันมานาน(คิดว่าน่าจะคุ้นเคยกันดีนะ) และน่าจะรู้จักพี่สมัยศรีพอสมควร อาจถึงดี พฤติกรรมหลายอย่างคงบ่งบอกได้... แม่บ้าน? ก็ไม่พ้นต้องเป็นบุคคลที่ต้องสงสัย...และคนในออฟฟิศทุกคนเป็นที่น่าสงสัย...
15 มิถุนายน 2550 10:41 น. - comment id 96571
ผมว่ามีการวางแผน ด้วยมีเหตุจูงใจตามที่เล่ามา ใคร ๆ ก็รู้ว่า คลังสมบัติ ต้องได้รับความร่วมมือกับช่างอีเล็ตโทรนิค ทำให้วงจรปิดเสียในวันนี้น การหยิบกระเป๋าไปในช่วงพักเที่ยง สบายมากไม่มีคนสังเกตุเห็นอยู่แล้ว แป๊บเดียวเดินเข้าห้องน้ำ ผู้ชาย แน่ ๆ แม่บ้านถ้าจะทำ เขาทำนานแล้ว ฟันธงว่า เจ้าหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั่นแหละ อิอิ
15 มิถุนายน 2550 15:16 น. - comment id 96574
แม่บ้าน.... คนใกล้ตัว...(แผนกเดียวกัน) ช่างซ่อมบำรุง แม่บ้าน...เหมือนกับเป็นการพิพากษาเขาไปแล้ว เพราะกับการที่ เขามีหน้าที่ที่ต้องทำในเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่อยู่ เพราะเป็นช่วง เวลาพักเที่ยง...คนหนึ่งเก็บขยะใส่ถุงดำ..อีกคนหนึ่งเช็ด..ปัด..ถู หากคนใดคนหนึ่งหยิบกระเป๋า..อีกคนก็ต้องเห็น..หากทั้งสองคน ไม่มีใครเห็น..ก็คือร่วมมือกัน..หากร่วมมือกัน..แยกสอบสวนก็ได้เรื่อง แต่....ทั้งสองคนรู้หรือว่า..ในกระเป๋าในคือคลังย่อมๆ..และทั้งสองคน ทำความสะอาดในแผนกนี้ประจำหรือไม่?...การที่จะหยิบเอากระเป๋าถือ ไปทั้งใบ..กับเปิดกระเป๋าถือแล้วหยิบเพียงกระเป๋าตังค์ไป..อันไหนง่ายกว่ากัน และอันไหนใช้เวลาปฏิบัติการน้อยกว่ากัน... คนใกล้ตัว...ส่วนมากน่าจะรู้ว่าเจ๊แกฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร...ที่สงสัย คนใกล้ตัวเพราะ..ในแผนกทุกคนจะออกไปทานข้าวเที่ยงพร้อมกันไหม..?? ใครออกจากแผนกเป็นคนสุดท้าย..ก่อนที่แม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาด หากคนที่ออกจากแผนกคนสุดท้ายเป็นผู้ชาย..ถือกระเป๋าสะพายของผู้หญิง..เรื่องแปลก หากคนที่ออกจากแผนกคนสุดท้ายเป็นผู้หญิง..ถือกระเป๋าสะพายของผู้หญิง..ไม่แปลก เพราะคงไม่มีใครสนใจจำหรอกว่า กระเป๋าสะพายใบนั้นของใคร?? ช่างซ่อมบำรุง...วันนั้นในแผนกมีการแจ้งซ่อมอะไรบ้างหรือไม่??..กล้องวงจรปิด ผู้ที่รู้ตำแหน่งของกล้อง รวมทั้งมุมกล้อง ก็คงเป็นแผนกซ่อมบำรุง..ทำไม?? กล้องวงจรปิดต้องมาเสียในวันที่เกิดเรื่อง..เสียทั้งวัน..หรือเสียเฉพาะช่วงเวลา ที่เกิดเรื่อง...อันนี้ต้องตรวจสอบ... ทั้งสาม...มีความเป็นไปได้...และเป็นไปไม่ได้..(ชักมึนวุ๊ย) ...สภาพแวดล้อมประกอบปฎิบัติการฉกกระเป๋า.... ...ระยะทางจากแผนกที่เกิดเรื่อง..ถึงห้องน้ำชายที่พบกระเป๋าสะพาย..ต้องผ่าน แผนกอื่นๆหรือไม่...ทางเดินจากแผนกที่เกิดเรื่องถึงห้องน้ำ ระยะดังกล่าว มีกล้องวงจรปิดหรือไม่???....ยังไงก็ตาม..เวลาในการปฏิบัติการฉกคลังย่อมๆ ไม่น่าลงทุนแบกกระเป๋าสะพายไปถึงห้องน้ำเลยนะ..... ...ขอตั้งข้อสันนิฐานว่า...คนใกล้ตัวที่ออกจากแผนกคนสุดท้าย..น่าสังสัยที่สุด
16 มิถุนายน 2550 16:50 น. - comment id 96584
คงต้องสืบเสาะกันต่อไปนะคะ