ก่อนวันวิสาขบูชาหนึ่งวัน เย็นวันนั้นเจ้าคนโตวัยเรียน ม. 2 กลับจากโรงเรียนบอก "แม่พรุ่งนี้จะไปวัด แม่ทำปิ่นโตให้ด้วยนะ" เอาละซิร้อยวันพันปีมันไม่เคยคิดจะไปวัด ขนาดเรียกให้ตักบาตร กับยาย ตอนเช้า ก็มักบอกไม่เอา ง่วงนอน แต่พรุ่งนี้จะหิ้วปิ่นโตไปวัดเลย แปลกสุดๆ แต่ฉันบอก "ได้ลูก เรื่องงี้แม่ไม่ขัดศรัทธา อยู่แล้ว"แต่ขอถามหน่อยเถอะ ถามไป ถามมาปรากฎว่าย้าย ชุมนุมแล้วค่ะ จากปีแรก เลือกเข้าวงโยทวาทิต ของโรงเรียนฉันก็ท้วงว่า มันเหนื่อยนะ ต้องตากแดด ต้องซ้อมหนักจะไม่มีวันพักนะ ไม่งั้นก็ ไม่เป็นแต่เจ้าหล่อนแย้งว่า ไม่เอาลูกชอบดนตรี จะเข้าวงโย จะเข้าวงโยฯ แค่ปีเดียวค่ะ เปลี่ยนแล้ว แล้วไม่บอกแม่นะ มาบอกเอาตอนครูให้เอาปิ่นโตไปวัดค่ะ ไม่งั้นแม่คงไม่รู้อีกเรื่อง ที่ว่าอีกเรื่องมันมีเรื่องมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ จะเล่าให้ฟัง อ้อ!จากวงโยทวาทิตเปลี่ยนเป็นวิถีธรรมค่ะ ฮา... เอาไม่ว่ากัน ก็ว่าไม่ได้แล้วนี่ ที่คุยไว้ว่าคงไม่รู้อีกเพราะว่า...วันก่อนลูกเจ้าคนนี้อยากจะกินบัวลอยงาดำค่ะ ก็เลยซื้อเครื่อง แป้ง งา น้ำตาลมาตั้งไว้ แต่ไม่ได้ทำวันนั้น อีกวันเป็นวันหยุด เธอเลบบอกทำบัวลอยงาดำดีกว่าแม่ ฉันบอกแม่ไม่อยากทำเลยวันนี้มันขี้เกียจจัง เธอเลยบอกเดี๋ยวลูกทำเองแม่ไม่ต้องช่วย ดีลูกดี งั้นแม่ขอ แซท นะ ฮา....สักพักใหญ่ๆ หลังจากได้ยินเสียงเครื่องปั่น เปิดแก็ส เปิด/ปิดตูเย็น โครมๆ ลูกสาวก้อเดินถือถ้วยมาส่งให้แม่ เอ้า แม่บัวลอยงาดำเสร็จแล้ว ฉันมองถ้วยที่ลูกบอกว่าบัวลอยงาดำ ดู มันเป็นขนมลูกโตๆ บิดๆ เบี้ยวๆ สีแดงแจ๊ด กับสีหม่นๆ ปนกันในถ้วย 5 ลูก น้ำสีคลำๆ มีไข่ลอยเป็นเส้นๆ ทั้งสีขาวเหลือง พูดตรงๆ ไม่เหมือนขนมเลยง่ะ เลยแกล้งถาม "กินได้จริงๆ หรอลูก แล้วทำไม มันแดงแจ๊ด งี้ละ" "อ้อ ลูกเห็นสีที่เราทำขนมชั้นมันเหลือนะ เลยเอามาผสมดู แต่เทมากไปหน่อยค่ะ" เออ ไม่หน่อยแล้วลูก ออกแดงขนาดนี้ แต่แม่ยอมตาย กินก็กิน (ที่บอกยอมตายนะ รู้ว่าไม่ตายแน่ ก็สีนี่ฉันซื้อเองกะมือ สีผสมอาหารแน่ๆ) เออ รสชาด ใช้ได้ ก็อร่อยดีเพราะชอบกินขนมนี้กันทั้ง 2คน บางถามลูกว่า "นึกไง ทำขนมล่ะ" ลูกตอบกลับเหมือนรอให้แม่ถามทันที "ก้อลูกเปลี่ยนวิชาเลือกแล้วนี่แม่ เลือก ใหม่แล้วเป็นวิชา ทำอาหารน่ะ" ฉันแทบสำลักบัวลอยงาดำถ้วยนั้น รีบวางแล้วถามเปลี่ยนทำไมไม่บอกแม่ "ก็ครูบอกว่าไม่ให้บอกก่อนเดี๋ยวผู้ปกครองไม่ยอมนี่ เห็นมะจริงเลย แต่ลูกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วละ" ฉันกะว่าจะเติมบัวลอยให้กำลังใจลูกอีกถ้วย หมดกันอิ่มเลย ก้อคิดดูจากวิชาเลือก วิทย์-คณิต ที่ฉันอุตส่าห์นึกภูมิใจที่ลูกสามารถเรียนได้ มาปีหนึ่ง มาบอกว่าเปลี่ยนเป็นวิชาทำอาหาร มันต่างกันมากสุดๆ พลางในหูได้ยินลูกสาวพูดต่อว่า "น่าแม่ลูกเรียนหนักมาปีแล้ว เดี๋ยวปีหน้าถ้าครูให้เปลี่ยนลูกก็จะเปลี่ยนอีกแล้วกันนะ แม่ นะ" แล้วฉันจะพูดอะไรได้นอกว่าคำว่า "เออ" แล้วฟังเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ของลูก .....
8 มิถุนายน 2550 15:13 น. - comment id 96505
เรื่องจริงเหรอครับน้อง โหสนุกจังเลย มีอีกมั๊ยอยากฟังอีก
8 มิถุนายน 2550 17:46 น. - comment id 96507
ลูก รันเองพี่ ท่ามันจะซ่าส์ เหมือนแม่เลย ฮา
19 มิถุนายน 2550 21:59 น. - comment id 96619
คิดได้ไงจาก วิทย์--คณิต มาเรียนทำอาหาร ช่าทำกับคุณแม่ได้ลงคอ เฮ่อ เหนื่อยแทน