วันนี้ไม่ใช่วันที่ดีนักสำหรับผม อะไรต่อมิอะไรหลายอย่างดูจะผิดพลาดไปหมด ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ และส่วนใหญ่แล้ว กับวันที่แย่ๆอย่างนี้ ผมมักหลบมาอยู่คนเดียวสักพัก ทิ้งเรื่องราวต่างๆไว้ข้างหลัง พอสบายใจแล้วค่อยกลับไปเผชิญหน้ากับมันใหม่ วันนี้ผมเลือกมานั่งที่ริมทะเล ไม่ไกลจากที่พักนัก ทะเลวันนี้ลมแรงเป็นพิเศษ ถึงแม้แดดจะดี แต่เพราะคลื่นลมที่แรง คนจึงดูบางตากว่าทุกวัน ผมเลือกเดินเลาะไปเรื่อยๆตามชายหาด จนรู้สึกเมื่อย เลยหยุดนั่งที่ที่พักริมทาง ทอดสายตาออกไปสู่ท้องทะเล นางนวลฝูงย่อมๆฝูงหนึ่ง เดินเล่นอยู่ริมหาด บางทีบางตัวก็ลงเล่นน้ำทะเล บางตัวก็บินโฉบไปมาเหนือผิวน้ำ ผมชอบที่จะนั่งดูเวลามันบิน เวลานกนางนวลบินดูคล้ายกับว่ามันกำลังเล่นกับลมอยู่ ยิ่งลมแรงเหมือนมันยิ่งชอบ กางปีกออกต้านลม ลอยออกไปเหมือนว่าว บิดปลายปีกเพื่อคอยปรับทิศทางให้ตรงกับที่มันต้องการ ค่อยๆปรับทีละน้อย ทีละน้อย บางครั้งเวลาที่มันจะลงเกาะหัวเสาสักต้นหนึ่งก็เหมือนกับมันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศเหนือเสาต้นนั้น ค่อยๆลดเพดานต่ำลงในแนวดิ่ง ช้าๆอย่างไม่น่าเชื่อ จนขามันแตะเสาจึงค่อยๆหรุบปีกลง นึกสงสัยอยู่ว่ามันจะเคยรู้สึกเหนื่อยกันบ้างไหม เพราะดูเหมือนมันไม่ได้ออกแรงบินสักเท่าไหร่เลย นั่งมองคิดอะไรไปเรื่อยๆ หายเครียดหายล้าลงบ้าง แต่ความกังวลก็ยังวิ่งวนอยู่ในหัว.. เจ้านกนางนวลตัวหนึ่งเดินเตาะแตะแตกฝูงมาทางผม ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เข้ามาเรื่อยๆ จนมาหยุดตรงหน้า คงหวังที่จะได้อะไรกิน.. เป็นอะไรอ้ะ เสียงผู้ชาย แต่ฟังดูก็คล้ายๆเสียงเด็กที่เพิ่งย่างเข้าวัยรุ่น หันมองไปรอบๆ ไม่มีใครสักคน คงหูฝาดไป เป็นอะไรไป ผมมองไปรอบตัวอีกหนึ่งรอบ ไม่มีใคร มีเพียงเจ้านางนวลที่จ้องหน้าผมตาแป๋ว ผมส่ายหัวนึกขำตัวเอง แกแน่ๆเลยที่ทักฉัน ใช่มั้ย รับมาเสียดีๆ อดไม่ได้ที่จะล้อเล่นกับมัน ที่มามองหน้าเหมือนจะคุยกับผม.. ก็ใช่น่ะสิ ทักตั้งสองทีแน่ะ คราวนี้ผมผงะแทบตกจากที่นั่ง เฮ้ย.. ร่ำๆว่าจะลุกวิ่ง แต่เจ้าตัวแสบก็ถือวิสาสะโดดขึ้นมายืนข้างที่ผมนั่งหน้าตาเฉย วันนี้ลมแรงดีนะ แดดก็ดีด้วย .. นี่นายพูดไม่ได้เหรอ นี่นายพูดได้เหรอ เจ้านางนวลตัวนั้นมองหน้าผม เหมือนผมถามมันด้วยคำถามที่โง่ที่สุดในโลก ก่อนจะตอบแบบเสียไม่ได้ ก็ได้น่ะสิ ใช่สินะก็เห็นๆอยู่ว่ามันพูดได้ นกนางนวลพูดได้ ผมต้องเครียดมากไปแล้วแน่ๆ ว่าแต่ว่านายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยว่าเป็นอะไร เห็นนั่งซึมมาพักใหญ่ๆแล้ว มันยังยืนกรานคำถามเดิม ก็ไม่ได้เป็นอะไร เครียดนิดหน่อย เรื่องอะไรล่ะ แน่ะ..อยากรู้อีก ก็..เรื่องงาน เรื่องงาน.. ไร้สาระว่ะ อ้าว ไอ้นี่ หมั่นไส้มันขึ้นมาตงิดๆ ความกลัวความตกใจเริ่มจางไป ตัวมันก็กระจิดเดียว จะทำอะไรเราได้ อย่างมากก็ได้แค่พูด แต่แค่นั้นก็หนักหนาอยู่เหมือนกัน ไร้สาระยังไง งานโง่ๆ พวกนายก็แค่หาอะไรที่ทำให้รู้สึกมีคุณค่าทำ แค่หาอะไรยึดเหนี่ยว จริงๆแล้วพวกนายแทบไม่เคยสนมันเลยด้วยซ้ำว่ามันมีคุณค่าจริงๆหรือเปล่า นายแค่อยากเชื่อว่ามันมีคุณค่าเท่านั้น หมายความว่าไง ผมตามมันไม่ทัน แต่มันกลับเปลี่ยนเรื่องพูด ฉันชอบบินในวันที่ลมแรงอย่างนี้จัง นายนั่งดูอยู่ตั้งนาน นายว่าฉันบินเป็นไงมั่ง บางทีนะฉันรู้สึกว่าฉันเป็นนกที่บินเก่งที่สุดในฝูงด้วยซ้ำ คุยอีกแน่ะ ก็น่าจะเป็นยังงั้น ผมยอมันไป ดูจากอาการระริกระรี้ของมันแล้วก็น่าจะได้ผล จริงๆแล้วผมแยกไม่ออกหรอกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน เพียงแต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันน่าสนใจดี ลองคุยกับมันดูสักตั้ง ไหมล่ะ ว่าแล้วว่านายต้องเห็นอย่างนั้น ฉันชอบดูเวลาที่นายบินแล้วดูเหมือนนายลอยเฉยๆให้ลมพัดเล่นจัง นายทำได้ยังไงน่ะ คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเปิดประเด็น ก็ มันยืดอกขึ้นเล็กน้อย ดูดีใช่ไหมล่ะ แน่ะ..จะให้ยออีก ช่ายยย.. ดูดีมากก มันคงไม่ได้สังเกตหางเสียง เพราะผมเห็นมันทำท่าระริกระรี้อีกครั้ง.. นายทำได้ยังไงนะ เล่าให้ฟังหน่อยสิ ต้องถามย้ำ ท่าทางมันมัวแต่ภูมิใจจนลืมตอบคำถาม เริ่มต้น นายต้องมีทัศนคติที่ดีก่อน หือ.. อะไรนะ ทัศนคติ ผมคิดว่ามันจะพูดถึงวิธีการปรับปีก กางออก หุบเข้า อะไรอย่างนั้นมากกว่า ทัศนคติเหรอ ใช่น่ะสิ มันมองหน้าเหมือนผมเป็นคนโง่ นายจะบินอย่างพวกฉันไม่ได้หรอก ถ้านายมีทัศนคติที่ผิดๆกับลม หมายความว่าไง หมายความว่าพอลมแรงๆพัดมา แล้วนายคิดว่านั่นคืออุปสรรคที่นายต้องเอาชนะ อืมม..ใช่ๆ นายต้องคิดว่าเป็นอุปสรรคแน่ๆ ถ้านายเป็นนก นายจะทำยังไง ฉันก็พยายามที่จะเอาชนะมันให้ได้น่ะสิ แล้วถ้าลมมันแรงมากล่ะ ฉันก็จะพยายามมากขึ้นไง แล้วถ้ามันแรงเกินกว่านายจะต้านไหวล่ะ ฉันก็จะสู้มันให้เต็มที่ กระพือปีกให้เต็มที่ ฉันต้องเอาชนะมันให้ได้ ผมแสดงความมุ่งมั่นออกมา นายนี่โง่ว่ะ มันด่าเอาซึ่งๆหน้า ไม่ทันที่จะแย้งมันก็พูดต่อ วิธีที่พวกฉันบินก็คือ เราไม่เคยต่อสู้กับสายลม เราปรับตัวให้เข้ากับลม เรียนรู้ทิศทางและกำลังของมัน กางปีกออกรับ ปล่อยมันพาเราไป.. นายเห็นหัวสีขาวของฉันไหม เห็น มันเปลี่ยนเรื่องเฉยๆ ผมไม่รู้มันจะมาไม้ไหน ได้แต่เออออตามไป มันเป็นสัญลักษณ์ของทัศนะคติที่เปิดกว้างและโอนอ่อน มองโลกในแง่ดี อ๊ะ..ไม่เบา เจ้านกนี่ แต่ถ้านายปล่อยให้ลมพานายไป ที่ไหนก็ได้แล้วแต่มันจะพัดไป..ยังไม่ทันพูดจบมันก็สวนขึ้นมาทันควัน ใครบอกนายล่ะว่าเราลอยไปเรื่อยๆตามลม อ้าว.. เรารู้อยู่ตลอดเวลาถึงที่ที่เราจะไป เรารู้จักใช้สายลมเป็นเครื่องช่วยที่จะพาไปสู่ที่หมาย แต่เราไม่เคยหลงทิศทางไปโดยสายลม และนั่นแหละคือความหมายของหางที่เป็นสีดำของนกนางนวล มันหมายถึงความมั่นคงในจุดหมายไงล่ะ อืมม ผมอึ้งไปถนัด ไม่แน่ใจว่ามันแค่ขี้โม้หรือพูดจริง เลยลองแหย่มันไปต่อ แล้วปีกสีเทาของนายล่ะ มีความหมายอะไรพิเศษไหม เจ้านกนั่นมันมองหน้าผมแบบเดิมอีกครั้ง แบบว่าเหมือนผมเป็นคนโง่ที่สุดในโลก ถ้าฉันบินด้วยทัศนะคติที่เปิดกว้างโอนอ่อนของหัวสีขาว และความมั่นคงในจุดหมายของหางสีดำละก้อ นายคิดว่าปีกที่ฉันใช้บินควรมีสีอะไรล่ะ .. ผมคงโง่จริงๆน่ะแหละ.. เรานิ่งเงียบกันไปพักหนึ่ง ทอดสายตาไปที่ทะเล ฝูงของมันเล่นน้ำกันอยู่ ท่าทางสนุก ดูเหมือนมันอยากกลับไปเล่นกับฝูง นี่ ผมเรียก หืมม นกนางนวลที่พูดได้เนี่ย มีแค่นายตัวเดียวหรือมีตัวอื่นอีก พูดได้ทุกตัวนั่นแหละ มันทำหน้าลึกลับ ถ้านายใส่ใจที่จะฟังนะ .. ... แล้วอย่างอื่นล่ะ.. ฉันหมายถึงนกชนิดอื่น ปลา หมา แมว อะไรพวกเนี้ย.. มันพูดได้กันมั่งไหม เจ้านกนั่นมองหน้าผมอีกครั้ง พลางส่ายหัว นายนี่มันเข็นไม่ขึ้นจริงๆว่ะ ว่าแล้วมันก็บินกลับไปเข้าฝูง เพียงชั่วครู่ผมก็แยกไม่ออก ว่าตัวไหนคือตัวที่ผมเพิ่งคุยกับมัน.. .
14 เมษายน 2546 13:42 น. - comment id 68194
ถูกใจจัง... เพราะเคยเห็น นางนวล ที่เกาะ .. เกาะ เอ่อ.. อ่าวลิง จังหวัดกระบี่.. มันเกาะอยู่ที่โขดหินเดียวดาย ยังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับภาพนั้น.. แต่..คงไม่ต้องแล้วล่ะ.. คุณเขียนแล้ว เขียนได้น่ารักมากเสียด้วย.. ชื่นชมนะจ้ะ
15 เมษายน 2546 11:34 น. - comment id 68220
สงสัยจะต้องเชื่อฟังอาจารย์นกนางนวลนี่ซะแล้วซิ สอนเก่งให้ข้อคิดดีชะมัดเลยแฮะ จะว่าไปแล้วถ้าใส่ใจแล้วได้ยินเสียงจริงๆเค้าก็อยากนั่งคุยกับ.....เอ่อ....ยังนึกไม่ออก อิอิก็มันเยอะแยะไปหมดนี่นา \\\\(^__^)//
16 เมษายน 2546 11:17 น. - comment id 68244
ขอบคุณ...- ..สีน้ำฟ้า.. :) ขอบคุณ- เพื่อนของพระจันทร์ :)
16 เมษายน 2546 11:17 น. - comment id 68245
ขอบคุณ...- ..สีน้ำฟ้า.. :) ขอบคุณ- เพื่อนของพระจันทร์ :)
16 เมษายน 2546 21:52 น. - comment id 68248
คุณนางนวลเก่งดีนะ เหอะๆ
17 เมษายน 2546 18:12 น. - comment id 68276
จับนกทอดกิน อิอิ คงอร่อยน่าดู นกอะไรไม่รู้สอนเก่งกว่าคนอีก อิอิ
18 เมษายน 2546 03:23 น. - comment id 68287
อ่ะนะ เจ้าลมพิษ หาอะไรกินไม่ได้แล้วเหรอจ๊ะ ทอดเจ้าลมกินแทนคงอร่อยกว่าเยอะนะ อิอิ \\\\(^__^)//
18 เมษายน 2546 13:56 น. - comment id 68299
ถ้าเป็นการลับฝีมือในการเขียน ก็คงเป็นการลับสมองในการฟังและคิดตาม อ่านรอบเดียวเหมือน ๆ จะคิดอะไรได้บ้างในช่วงกลาง ๆ เรื่อง แต่มาถึงตอนจบเหมือนจะงง ๆ เลยค่ะ แต่ก็ให้กำลังใจสำหรับความพยายามนะคะ ลับฝีมือไปเรื่อย ๆ น่าจะเป็นนักเขียนได้ค่ะ
20 เมษายน 2546 16:48 น. - comment id 68360
คือไม่รู้เหมือนกันว่าจะชมยังไงดี .. สงสัยแม่มดน้อยก็คงจะโง่อีกคน อิอิ เขียนได้ดีมากๆๆ เลยนะค่ะ มีข้อคิดเยอะมาก ที่ชอบก็มี 3 อย่างนี้อ่ะค่ะ. . . - เราไม่เคยต่อสู้กับสายลม เราปรับตัวให้เข้ากับลม - สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของทัศนะคติที่เปิดกว้างและโอนอ่อน มองโลกในแง่ดี - เรารู้จักใช้สายลมเป็นเครื่องช่วยที่จะพาไปสู่ที่หมาย แต่เราไม่เคยหลงทิศทางไปโดยสายลม สุดยอดอ่ะค่ะ. . .ถ้านกนางนวลฉลาดแบบนี้ต่อไปเราคงต้องยอมมอบโลกใบนี้ให้พวกเค้าแล้วมั้งค่ะ อิอิ แสนรู้มากๆๆ นกอะไรก็ไม่รู้. . . =^______^=
22 เมษายน 2546 09:30 น. - comment id 68412
ยิ้มหน้าบาน :) :) :)