ดั่งฟ้ากำหนดให้เรารักกัน ตอนที่ 1
พ.ลิขิตภิรมย์
" หนุ่มตื่นได้แล้วลูก " เสียงของแม่ที่เอ่ยเรียกผมในตอนเช้าของวันที่โรงเรียนเปิดเป็นวันแรก ถึงแม้จะเป็นเสียงที่ผมไม่ค่อยอยากจะได้ยินนัก แต่ถึงยังไงหลังจากนี้ผมก็คงต้องทนฟังทุกวันจนถึงวันที่โรงเรียนปิดเทอม
" วันนี้เปิดเรียนวันแรก ไปหาที่นั่งข้างหน้าน่ะ " แม่ของผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังออกแนวดูเล็กน้อย แต่ถึงเสียงของแม่จะดุยังไง ในน้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นที่แม่มีให้ผม เพราะแม่ของผมก็คงเหมือนกับแม่ของเด็กคนอื่นๆทั่วไป ที่อยากจะให้ลูกของตัวเองนั่งข้างหน้า จะได้มองเห็นกระดานได้ชัด เพื่อหวังว่าลูกของตัวเองจะได้รับความรู้จากอาจารย์ได้เต็มที่ จะได้เรียนเก่งๆ ซึ่งตอนนั้น ผมกลับไม่คิดอะไร คิดแค่เพียงว่านั่งตรงไหนมันก็เหมือนกัน ยังไงก็ได้เรียนเหมือนกัน
" ครับแม่ " ผมตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมรีบอาบน้ำ แต่งตัว เพราะผมก็คงไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ที่หวังว่าเปิดเรียนจะได้ไปเจอเพื่อนๆ ซึ่งอาจจะเคยเรียนด้วยกันเมื่อครั้งตอนอยู่อนุบาลมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพื่อนใหม่ที่ได้เจอกันในวันนี้ก็เป็นไปได้ แม่ส่งกระเป๋าใบใหม่ให้ผม ผมรีบเปิดดู ข้างในกระเป๋ามีอุปกรณ์ต่างๆมากมาย ทั้งสมุด ยางลบ ไม้บรรทัด แต่ที่ทำให้ผมสะดุดตามากที่สุดคงจะเป็นดินสอ ดินสอที่แว้บแรกที่ผมเห็นรู้สึกชอบขึ้นมาทันที ก็ผมเป็นเด็กนี่นา เห็นอะไรสวยๆหน่อยก็ชอบเป็นธรรมดา ผมหันหน้าไปหาแม่ พร้อมกับพูด " สวัสดีครับ " แม่ยิ้มให้ผม แล้วผมจึงเดินไปหาพ่อที่หน้าบ้านเพื่อจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก
ผมไปโรงเรียนโดยพ่อของผมจะขับรถจักรยานยนต์ไปส่งทุกเช้า ซึ่งเมื่อผมเป็นเด็ก จะชอบการนั่งรถเล่นเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าได้นั่งข้างหน้า ก็จะโดนลมเย็นสบาย เหมือนว่าตัวเองเป็นอิสระเสรี รู้สึกบินได้ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ผมอยากไปโรงเรียนเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก
อ๊อด !!! เสียงสัญญาณให้นักเรียนในโรงเรียนมาเข้าแถวหน้าเสาธงดังขึ้น นักเรียนทุกคนต่างรีบวิ่งมาเข้าแถว เมื่อนักเรียนมายืนเข้าแถวกันเรียบร้อยแล้วเสียงพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งก็ดังขึ้น เธอชื่ออาจารย์สายใจ อาจารย์สายใจดูเป็นคนน่าเคารพ นิสัยดี และที่สำคัญใจดีด้วย วันนี้เป็นหน้าที่ของอาจารย์สายใจที่ต้องเรียกเด็กๆมาเข้าแถวหน้าเสาธง ซึ่งเมื่อทำภารกิจในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อย อาจารย์สายใจก็เรียนเชิญท่านผู้อำนวยการมาพูดให้โอวาทแก่นักเรียน เนื่องในวันเปิดเรียนเป็นวันแรก ท่านผู้อำนวยการพูดไปได้สักพัก ก็คงจะสังเกตุเห็นเด็กๆเริ่มรู้สึกร้อน เนื่องจากแสงแดดเริ่มส่องแสงเพิ่มมากขึ้น ท่านผู้อำนวยการ จึงบอกให้ครูสายใจแยกแถวเด็กนักเรียนเข้าห้องเรียน
ผมเดินไปที่ห้องเป็นคนสุดท้าย เหมือนที่แม่ของผมพูดไว้จริงๆ ที่นั่งข้างหน้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ด้วยฝีมือ อาตี๋ อาหมวย ทั้งหลาย ผมพยายามกวาดสายตาไปรอบๆห้องเรียน พลันสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่แถวสุดท้ายของห้องเพียงคนเดียว โดยข้างๆเด็กผู้หญิงคนนั้นยังมีที่ว่างอยู่อีกหนึ่งที่ ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆเธอ ในใจคิดตลอดเธอจะให้เรานั่งด้วยมั๊ยน่ะ แล้วผมก็เดินมาหยุดตรงที่หน้าเธอ ผมยิ้มให้เธอ
" เธอ เราขอนั่งด้วยน่ะ " ผมเอ่ยปากขอเธอ ไม่มีเสียงตอบจากเธอ จากการที่เธอเงียบไม่ยอมตอบผม ทำให้ผมนิ่งและอึ้งไปพักนึง แต่ไม่เป็นไร ถึงเธอไม่ตอบ ผมก็จะนั่งอยู่ดี จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ทั้งห้องมีที่ว่างอยู่ที่เดียวนี่นา ผมนั่งคิดในใจอยู่ตลอดเวลาที่ผมนั่งกับเธอ เธออยากให้เรานั่งด้วยรึป่าวน่ะ ผมนั่งไปคิดไป ไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงหยิบกระเป๋าขึ้นมา ผมเปิดดูข้างในกระเป๋า แล้วก็หยิบสมุดกับดินสอขึ้นมาเพื่อเตรียมจะเรียนในวิชาแรกของวันนี้ สายตาของผมเหลือบไปเห็นดินสอของเธอ ดินสอผมกับเธอเหมือนกันทุกอย่างทั้งแบบเดียวกัน สีเดียวกัน อะไรมันจะช่างลงเอยขนาดนี้ เลยทำให้คิดไปกันใหญ่ถึงขั้นเราคงต้องเป็นแฟนกัน แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงของเด็กผู้ชายคนนึงตะโกนมาจากอีกมุมหนึ่งของห้อง
" เป็นกะเทยรึป่าวว่ะ นั่งกับผู้หญิงน่ะ " ซึ่งผมฟังแล้ว รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ก็เด็กคนนั้นมีสิทธิอะไรมาว่าผมล่ะ ผมแสดงท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับหันหน้าไปหาเด็กคนนั้น กะว่ามาวันแรกมีเรื่องซักหน่อย จะได้ดูเก๋าๆ ทันทีที่ผมหันกลับไป ต้องสะดุ้งกับสิ่งที่เห็น นี่มันยักษ์หรือตึกว่ะเนี่ย ก็เด็กคนนั้นตัวใหญ่มาก ซึ่งตอนหลังผมถึงรู้ว่าเด็กคนนั้นชื่อ เบิ้ม ซึ่งก็เบิ้มและใหญ่สมชื่อจริงๆ ความรู้สึกในใจตอนนั้นรู้สึกกลัวเบิ้มมาก แต่ถึงจะกลัวเบิ้มมากเท่าไร แต่ผมกลัวเสียหน้ามากกว่าหลายเท่า ผมจึงลุกขึ้นยืน กะจะเดินเข้าไปถามเบิ้มว่ามาว่าผมทำไม แต่เหมือนเทวดาเข้าข้างผม อาจารย์สายใจที่ผมเห็นหน้าเสาธง เธอมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของผมพอดี ซึ่งก็ทำให้ผมกับเบิ้มไม่ทันได้ทะเลาะกัน เพราะถ้ามีเรื่องคงเป็นผมนี่แหละที่เละแน่ หลังจากนั้นอาจารย์สายใจก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาผม
- โปรดติดตามตอนต่อไป / 2