โอบกอดและมอบรักให้ตัวเอง

กระต่ายใต้เงาจันทร์


ฤดูฝนพร่ำ    สายฝนโปรยปรายเป็นละอองเบาบางตา
วันหยุด       น่าจะเป็นวันพักผ่อน ที่ฉันสามารถนอนแอกเขนก   ได้อย่างสบาย   ปิดตัวนอนอยู่บนเตียงที่หนานุ่ม  อย่างเกียจคร้านโดยมีเจ้าซ่าหริ่มอยู่บนเตียงเป็นเพื่อนกัน
หรือลุกขึ้นมา  จิบกาแฟที่ศาลาหน้าบ้าน   ในบรรยากาศตอนเช้า  เดินชมกล้วยไม้   ได้กลิ่นหอมของดอกโมกอ่อนๆกระจายฟุ้งปนกับกลิ่นดินผสมกลิ่นน้ำค้างลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
ความทรงจำเก่าๆ   ผุดพราย  เหมือนฉายหนังที่วนเวียนซ้ำซากอยู่ในมโนภาพ    ความรัก  ช่างประหลาดนัก  เวลารักเหมือนโลกทั้งโลกมีเพียงเราสองคน    ตอนเช้าช่วยกันไปจ่ายตลาด  ปลุกคนรักขึ้นมาช่วยกันทำกับข้าว   ต่างคนต่างแสดงฝีมือผลัดกันชิม  เธอล้างผักฉันโขลกน้ำพริก  กลิ่นหอมของน้ำพริกกระจายทั่วเรือนหอบ้านกะทัดรัดหลังๆเล็กที่เราช่วยกันตกแต่งพร้อมเสียงหัวเราะ
ความคิดความหม่นหมองจนกลายเป็นความเหม่อลอย  ในความคิดความรู้สึกเจ็บปวดกลับมาอีกเป็นระยะๆ
ฤดูฝนพรำ   น้ำเอ่อท้นล้นตลิ่ง   คลื่นของน้ำบิดตัวเป็นเกลียวคลื่นระลอกยาวและขุ่นสลับกัน       กอผักตบชวาคงฟู่ฟ่อง ล่องไหลในเกลียวคลื่นหมุนวนเคว้งคว้าง  ไม่รู้จบ
มวลแมกไม้สองฝากฝั่งคงเขียวเข้มระริกไหว     อยู่ในสายลมอันอ่อนโยน    ทิวไผ่โยกไหวตามกระแสแห่งแรงลม
นานเท่าใดที่ฉันนั่งมองสายน้ำ   เหมือนกับว่าฉันกับเขายังคงยืนอยู่ชัดเจนที่ริมฝั่งท่า แค่ปลายตาผ่านฉันต้องกลืนกลืนก้อนแข็งๆเหมือนคอขมหรือเกิน   ลงไปในคอ      กล้ำกลืนไว้    เพราะสิ่งที่เหลือเป็นแค่ความทรงจำในอดีตที่เจ็บปวด
ฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด          เพื่อสัมผัสกับความสดชื่นบริสุทธิ์ของ   บรรยากาศสายน้ำ      แห่งความทรงจำ     ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่เราจะมองเห็นแต่ความเจ็บปวดรวดร้าวและ      จ่อจมกับความเสียดาย    เหมือนคลื่นที่ซัดหายไปไกลยังฝั่งฟ้า
ลุกขึ้นสิ ฉันยังมีอีกหลายเรื่อง    ให้ต้องกระทำ     โอบกอดและประคองตัวเองพยุงตัวเองขึ้นมา มอบความรัก    ให้ตัวเองเถิด     อย่าคิดให้ใครช่วยพยุงเลย จะมีประโยชน์อะไรที่ฉันต้องผวาตื่นกลางดึก    ที่พบว่าตัวเองเท่านั่น      ที่ต้องเป็นผู้รอคอย    อย่างไม่มีวันสิ้นสุด    และต้องผวาตื่น     กับความเจ็บช้ำที่ตอกย้ำทุกค่ำคืน     ยังดีในความรู้สึกน้ำตา      ยังเป็นเพื่อนที่ภักดี      ไม่เคยหนีหายจากฉัน ความเศร้าซุกซ่อนอยู่หลืบล่มใด งานและงานเท่านั้น      ที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้ การเพิ่มพูน   และพัฒนาตัวเอง      เป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ      และกระหายที่จะทำมันด้วยความศรัทธา
จงกล้าหาญที่จะท้าทาย     กับความไม่รู้และโดนเฉพาะอย่างยิ่งความหวาดกลัว  จงกลางใบเรือของเธอขึ้น       เพื่อนำไปสู่มหาสมุทรอันยิ่งใหญ่  เพื่อค้นหาหาดทรายแก้วซึ่งซ่อนอยู่       ณ.โพ้นครอบฟ้าว่ามีอยู่จริงหรือไม่
ไม่ควรอยู่ในความสงสัย      ของกัปตันผู้บังคับบัญชาเรือ       เพราะจะนำมาซึ่งความลังเลและฉุดรั้งความมุ่งมั่น     ในการทำงานของเขา     ทำให้เสียโอกาสอันงดงาม
การลืมใครสักคนเป็นเรื่องยาก     รักใครสักกคนเป็นเรื่องง่าย     อย่าเลือกที่จะลืมแต่จงเปลี่ยนรูปแบบ     และความทรงจำเสียใหม่      แล้วฉันคงจะอยู่ได้อย่างเข้มแข็งและมีโอกาสพร้อมกับความหวังว่าสักวัน...ฉันจะเรียนรู้     และค้นพบความต้องการของตัวเอง     อย่างแท้จริง				
comments powered by Disqus
  • เอ็ม หนุ่ม อเมริกา

    24 พฤษภาคม 2550 13:55 น. - comment id 96303

    ใครว่าการทำงานจะทำให้เรานั้นลืมเรื่องราวในอดีตได้
    แต่ถ้าเรามีใครสักคนที่คอยคิดถึงเราหรือเราคิดถึงเขา
    นั้นคือกำลังใจที่ใครใครก็ต้องการมันในยามที่ที่เราท้อแท้หรือผิดหวั่ง
    และในการที่จะมีใครสักคนมาคอยห่วงใยเราอยู่เสมอก็น้อยคนนัก
    แต่ถ้ามีใครคนนั้นจริงจริงจงภูมใจได้เลยว่าเขาคนนั้นจะไม่ถอดทิ่งเราไปอย่างแน่นอน
  • หนุ่มเยอรมันนี

    24 พฤษภาคม 2550 19:15 น. - comment id 96305

    36.gifมาอ่านความในใจแล้วครับ36.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    27 พฤษภาคม 2550 08:50 น. - comment id 96327

    สวัสดีค่ะเอ็ม   คำพูดไม่ใช่การกระทำพิสูจน์อะไรไม่ได้จ๊ะ11.gif36.gif
    
    สวัสดีค่ะเชาว์...อ๋อเหรอจ๊ะ.....อยู่ในใจอ่านได้ไงตัวเอง11.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน