กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วนายมานิตคนบ้านนาคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่กระท่อมปลายนาภรรยาเสียชิวิตตั้งแต่ที่ลูกของตนนายพูนเงินอายุได้ 5 ขวบ จนวันหนึ่ง แต่เช้า " พูนเงินเอ้ย.....ไปเก็บผักกับพ่อเร็วสิ "นายมานิตเรียกลูกชายของตน "คร้าบ " พูนเงินตอบด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนักแต่ตนนั้นหิวมากจึงต้องไปเก็บผักกับพ่อเพื่อนำมาทำอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น จนสายพ่อลูกกลับบ้านด้วยผักในหาบมากมาย นายมานิตเอาผักไปใส่ในหม้อเพื่อที่จะต้มกิน เมื่อนายมานิตใส่ลงไปผักก็เต็มหม้อแล้วเมื่อนายมานิตต้มผักเสร็จกลับได้ผักที่เหลือเพียงครึ่งหม้อเพราะต้มนานไปหน่อยทำให้มันเปี่ยยจนหดตัว เมื่อนายพูนเงินเห็นดังนั้นจึงต่อว่าพ่อของตนว่า " พ่อ....นี่พ่อแอบกินผักต้มใช่ไหมดูสิเหลือแค่ครึ่งหม้อเองฉันก็ไปเก็บมาตั้งเยอะทำไมเหลือแค่นี้ล่ะ " "พ่อไม่ได้กินจริงๆนะลูก " " ผมไม่เชื่อ......ฮึ้ย " พูนเงินพูดพร้อมหยิบสากครกทุบตีที่หัวพ่อของตนจนตาย เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันนินทาว่า พูนเงินเป็นลูกเนรคุณทำร้ายพ่อตัวเอง พูนเงินได้ยินดังนั้นก็เล่าเรื่องความผิดของพ่อตนให้ชาวบ้านฟัง เมื่อชาวบ้านฟังก็พากันตินายพูนเงินว่า " ผักนั้นหากนำไปต้นนานเกินไปจะทำให้เปื่ยยแล้วมันก็จะหดตัวลงไปเองเจ้ามิมีปัญญาไม่ตริตรองเรื่องใดใดก็จะทำให้ตนเดือดร้อนไม่สามารถแก้ปัญหาได้อีก "เมื่อนายพูนเงินได้รู้ความก็โศกเสียใจไปกราบศพพ่อตนขอขมาพ่อตนร้องห่มร้องไห้จนขาดใจตายเมื่อตายแล้วก็ไปเกิดเป็นนกตัวหนึ่งร้องเรียกหาพ่อ....พ่อ....พ่อ....พ่อ อยู่ทุกวันเวลา.....จบ
22 พฤษภาคม 2550 19:49 น. - comment id 96281
23 พฤษภาคม 2550 07:44 น. - comment id 96288
นกอะไรเหรอ ที่ร้องว่า พ่อ พ่อ ..
23 พฤษภาคม 2550 13:22 น. - comment id 96292
อืม..โตขนาดตีพ่อจนตายได้...ยังไม่รู้เหรอว่าผักต้มแล้วมันจะสลด... หรือว่าพูนเงินยังเด็กเกินไป แต่ทำไมผู้ใหญ่สู้แรงเด็กไม่ได้ ...เหตุการณ์ขณะนั้นย่อมเกิดขึ้นจากความโมโห...มิใช่พลั้งเผลอน่ะ..น่าจะยับยั้งได้.. แวะมาอ่านและคิดตามนิดหน่อย..ไม่ว่ากันน่ะ เราแค่สังเกตน่ะ มิได้ตำหนิ..อย่าเคืองกันน่ะ.. ด้วยความนับถือ กุ้งหนามแดง