สาเหตุย้ายบ้าน
ใบคา
ชนบทชายแดนใต้จังหวัดนราธิวาส อ.แว้ง เมื่อสิบปีก่อน ภาพในความทรงจำฉายให้เห็นอย่างไรปัจจุบันก็ยังคงสภาพนั้นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง มีก็แต่สิ่งแวดล้อมที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ต้นไม้ หมาแดงตัวนั้นเมื่อสิบปีก่อนตอนนี้ไม่มาคอยเห่าหอนอีกแล้ว แต่กลายเป็นไอ้ดำ ไอ้ด่าง และอีกหลายๆ ไอ้ ที่เสนอหน้าเข้ามา เด็กชายและเด็กหญิงถูกนำหน้าด้วยนางสาว และนาย บางรายมีเด็กหญิงเด็กชายให้จูงมือ หลายคนก็ย้ายถิ่นฐานออกไปด้วยเหตุผลที่ไม่ซ้ำกัน
เรื่องการย้ายถิ่นเลี้ยงชีพ มีหลายรายและบ่อยวัน เรื่องราวเหล่านั้นเข้ามาทักทายเส้นประสาทเล็กน้อยเพียงเพื่อไม่ให้ตกข่าวว่าใคร ไปไหนมาไหนบ้างในหมู่บ้าน ไม่นานก็เลิกสนใจ จะขุดคุ้ยกันอีกทีก็เมื่อหมดเรื่องสนทนาในวงเหล้าในคืนต่อๆ ไป
จุดประสงค์ และวิธีการของคนที่ย้ายไปนั้นไม่สำคัญสำหรับผม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว แต่หนึ่งในนั้น การย้ายบ้านของเขาเกี่ยวข้องกับผมโดยตรงจนไม่อาจลืมได้ทุกครั้งที่เหงาก็ต้องคิดถึงเรื่องครั้งนั้น และพาลขนลุกทุกทีไป
เขาไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่มีลูกกับคนอำเภอข้างเคียงของที่นี่ และได้ย้ายเข้ามาดูแลสวนให้กับเจ้าของสวนยางพาราคนหนึ่งที่มาซื้อเอาไว้แล้วไร้คนดูแล เขาและครอบครัวจึงได้เข้ามาเป็นสมาชิกของหมู่บ้านโดยไม่นานวัน ผมเรียกเขาว่า อิ๊ เพราะเขาบอกว่าให้เรียกอย่างนี้ โดยอ้างว่านี่คือชื่อที่บุพการีเรียกขานมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก
พี่อิ๊ (เขาแก่กว่ามาก) เป็นคนดีโดยที่ไม่ต้องเสแสร้ง เขาทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรักได้โดยไม่ยากเย็น และดูว่าจะอาศัยอยู่ได้นานเลยทีเดียว แต่บังเอิญว่าบ้านหลังน้อยๆ ที่เพิ่งสถาปนาตัวเองจากกระต๊อบด้วยปีกไม้ที่แน่นหนาจากฝีมือของเพื่อนบ้าน ซึ่งสร้างขึ้นทับรอยบ้านหลังเก่าที่ผุพังเกือบหมด บ้านเก่าหลังนี้ผมยังเคยวิ่งเข้าไปเล่นซ่อนหากับเพื่อนเป็นประจำและได้ผลดีนัก เพราะว่าเป็นพื้นที่ป่ารก เนื่องจากไม่มีคนดูแล ทราบมาว่าเจ้าของประกาศขายนานแล้ว แต่ยังไม่มีใครมาซื้อสักที จึงต้องปล่อยเลยตามเลย สภาพบ้านที่โทรมและป่ารกรอบข้างดูช่างน่ากลัว แต่ผมต้องวางเหตุผลของความหวาดกลัวนั้นลงไปก่อน ด้วยว่าต้องการชัยชนะในการซ่อน
ได้ผลเป็นที่สุด จนกระทั่งวันหนึ่งขี้เมานายหนึ่งเดินเตร่ออกมาจากบ้านของผม (เพราะที่นั่นคือจุดเริ่มต้นของความเมา และเขาจะไปจบมันที่บ้านซึ่งห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรโดยวิธีการเดิน) ยิ่งเดินหัวของเขาก็เกิดอยากเปลี่ยนหน้าที่กับเท้าบ้าง ระยะทางจึงดูไกลออกไป เขาตัดสินใจพักนอนในบ้านหลังนั้น ไม่นานเกินรอความเมามลายหายสิ้นด้วยเงาตะคุ่มๆ ดำขลับ และแรงลมพัดหวิวกระทบและหยุดนิ่งคล้ายคนร่างใหญ่ยืนก้มมอง ไม่ต้องถามที่มาที่ไปเขารีบนำสติที่กลับคืนมาย้ายออกจากที่นั่นโดยไว
และนี่คือเรื่องที่ผมได้ฟังจากปากขี้เมาคนนั้น ด้วยเหตุนี้บ้านหลังนั้นจึงไม่มีใครย่างกรายเข้าใกล้อีก จนกระทั่งเจ้าของสวนคนใหม่จ้าง พี่อิ๊ เข้ามาดูแล การถากถางจึงเกิดขึ้น บ้านก็ถูกรื้อสร้างกระท่อมน้อยๆ ทับที่ส่วนนั้น แล้วเพื่อนบ้านมาเสริมความคงทนให้เพราะความดีของ พี่อิ๊ คนในหมู่บ้านบางคนยังคงเอาเรื่องของนักนิยมความเมาคนนั้นพบเจอมาพูดคุยกับพี่อิ๊เสมอ เมื่อมีโอกาสบางคนบอกว่าเหตุการณ์นั้นคือการเลือกบ้านของผี เมื่อมันเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้วมันก็จะยึดเอาบ้านหลังนั้นเป็นของตัวเอง และที่สำคัญทำเลตรงนั้นเหมาะกับการอาศัยของผีเร่ร่อน ที่เริ่มเบื่อการพเนจร และอะไรอีกยืดยาวที่เพื่อนบ้านป้อนให้ ก่อนจบบทสนทนาก็ถามเขาบ้างว่าเคยเจอบ้างไหม พี่อิ๊สั่นหัวเป็นคำตอบ เขาไม่เคยเจอสิ่งที่เรียกว่าผีเลยสักครั้ง และไม่ได้ปฏิเสธว่าโลกนี้ไม่มีผี เขายังคงเชื่อว่าที่ผีไม่มารังควาน เขาและลูกเมียนั้นเป็นเพราะบารมีของเจ้าแม่กวนอิมที่นับถือ
ตอนเย็นขณะที่พี่อิ๊นั่งเล่นกับลูกเมียหน้าบ้านอย่างทุกวันที่ชาวบ้านมักพบเจอ จู่ๆ เขาก็เกิดช็อกแน่นิ่งไป แม่ของผมถูกตามตัวให้เข้าไปช่วยเหลือเป็นคนแรกเพราะพี่อิ๊นับถืออยู่บ้าง เพราะท่านค่อนข้างอยู่ในข่ายที่เรียกได้ว่าใจดี หลังจากนวด เค้น คลึง บริเวณกระหม่อม เขาก็ฟื้นขึ้นด้วยสายตาเหม่อลอย และหวาดระแวงพูดจาน้อยลง รวมทั้งปริมาณอาหารที่ป้อนลงท้องก็น้อยตามไปด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้น ทุกเย็นเขาจะช็อกกระตุกทุกครั้ง พร้อมกับเรียกหารูปเจ้าแม่กวนอิม ต่อเมื่อได้กอดรัดรูปนั่นแหล่ะถึงจะสงบ หลังๆ หนักเข้าถึงขั้นกัดลิ้นตัวเอง ฟูมฟายถึงคนที่ปองร้ายตัวเอง บ่นเพ้อว่าจะมีคนมาเอาชีวิต ต้องอยู่ใกล้เจ้าแม่ให้มากที่สุดถึงจะปลอดภัย หลายคนในหมู่บ้านว่าไม่สบายแน่นอน พี่อิ๊จึงถูกนำส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดโดยที่กอดรูปเจ้าแม่กวนอิมทุกขณะ นางและบุรุษพยาบาลพยายามเอาออกเท่าไหร่ก็ไม่ยอม อยู่ที่นั่นได้ไม่นานก็ต้องออกมาเพราะหมอวินิจฉัยโรคไม่เจอ
พี่อิ๊กลับมาด้วยอาการเช่นเดิม แต่หนนี้เขาเข้ามาพักที่บ้านของผม เนื่องจากเมียพี่อิ๊ไม่ยอมให้อยู่กระท่อมหลังนั้นอีกเพราะเธอเชื่อเรื่องอดีตผีเร่ร่อนตนนั้น และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ผมไม่อาจลืมต้นเหตุการณ์ย้ายบ้านของพี่อิ๊ได้เลย
เหมือนเดิมทุกๆ เย็นเขาจะร้องไห้ฟูมฟาย ถึงขนาดควักลูกตาตัวเองออกมาแล้วพูดพร่ำว่าเดี๋ยวก่อนกำลังจะเอาให้ เมื่อเอ่ยถามว่าพูดกับใครเขาบอกว่าคุยกับคนตายและเอ่ยชื่อคนนั้นได้ถูกต้อง ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน นอกจากนั้นยังบอกตำแหน่งที่ตายได้แม่นยำ พี่อิ๊บอกว่าคนนั้นกำลังมาคอยเอาตาของเขา และเขาพร้อมที่จะให้ เพียงเท่านี้ทำเอาขนลุกซู่ได้นานหลายนาที
ญาติของคนตายที่พี่อิ๊อ้างถึงเมื่อรู้เรื่องราวจากปากของแม่ ก็พากันมาหาและถามเขา หลังจากนั้นเหตุการณ์อย่างนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีกเพราะว่าญาติคนนั้นได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ผมก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง แต่ยังไม่หมดเท่านั้น อาการชักตอนเย็นยังไม่ยอมหายต่อไป ทีนี้เขาไม่อ้างเรื่องคนตายมาหา แต่จะบ่นหิวๆ กินทุกอย่างแม้กระทั่งลิ้นตัวเอง ผมสังเกตเห็นเลือดไหลกรกปาก ทุกคนห้ามจับมือและเท้าเอาไว้คนละข้าง อาการคล้ายๆ คนเป็นลมบ้าหมู พูดคุยกับด้วยเขารับรู้ทุกอย่าง สายตามองด้วยความวิงวอนว่าช่วยด้วยแต่การกระทำนั้นต่อต้านทุกอย่าง หยดน้ำตาจากเมียเขาหยดไม่หยุดสายทุกครั้งที่มีอาการ ส่วนลูกน้อยนั้นเงียบงันไม่แสดงอาการอะไร
วิธีทางไสยศาสตร์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ถึงขั้นมีการเข้าทรงเพื่อปราบผีร้ายตนนั้นถึง 3 ร่างทรง ผลก็คือบทสรุปจากปากหมอผีว่าไม่สามารถปราบได้มันร้ายเหลือเกิน ขืนทำลงไปอาจทำให้ผู้ช่วยเหลือซึ่งคือตัวพ่อหมอเองตายได้ เหตุการณ์เหมือนจะไร้ทางเยียวยาขึ้นทุกทีสภาพของพี่อิ๊ก็อิดโรยลงทุกวี่ ไม่เหลือเคล้าโครงของคนปกติ วิธีสุดท้ายที่ผมและครอบครัวช่วยได้คือ พาไปรดน้ำมนต์และผูกสายสินธุ์ ดีขึ้นสองสามวัน วันที่สี่เขาขอเข้าห้องน้ำด้วยอาการปกติ เข้าไปนานเกินควรหลังจากนั้นมีเสียงตึงตังขึ้นมา บานประตูจึงถูกเปิดออกด้วยแรงถีบของชายร่างใหญ่ที่เข้าช่วยเหลือ ภาพที่เห็นคือพี่อิ๊นอนกัดลิ้นตัวเอง ส่วนตานั้นเหลือกขึ้นข้างบน สายสินธุ์ในมือหายไปไหนไม่รู้ หลังจากนำตัวออกมาแล้ว และเขาสงบลงบ้างเพราะสายสินธุ์เส้นใหม่ ผมเข้าไปหาสายสินธุ์ที่หายไปในห้องน้ำไม่พบแม้แต่ร่องรอย สันนิษฐานว่าเขาคงราดน้ำลงโถส้วมไปแล้ว มารู้ความจริงภายหลังว่าเขากลืนมันลงท้องไป ก็เมื่อพี่อิ๊อ้วกออกมาในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง
สุดปัญญาของมันสมองเพื่อนบ้านเรือนเคียง ความรู้อันน้อยนิดของผมไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรเพราะใช้หมดไปกับเรี่ยวแรงฉุดรั้งร่างกายเขา และวิธีสืบสวนสืบหาสายสินธุ์ที่สูญไป
ภรรยาเขาตัดสินใจล่ำลา แล้วพาพี่อิ๊กลับไปรักษาที่บ้าน นับจากวันนั้นผ่านไปหนึ่งเดือนภรรยาของพี่อิ๊กลับมาเยี่ยมเยียนเราเพราะบังเอิญผ่านมาทำธุระแถวหมู่บ้านใกล้เคียง บทสนทนาที่สำคัญคือการสอบถามเรื่องราวของพี่อิ๊ ได้ความว่าพอกลับไปถึงบ้านเขาก็กลายเป็นปกติ และจะไม่ขอกลับมาที่นี่อีก
*******************