หนึ่งปีที่หายไปจากโลกออนไลน์ พ.ย.2548-ธค.2549 ตั้งแต่เกิดมาฉันก็เป็นคนตัวผอมๆ ซุกซน แต่ก็ไม่สบายเล็กๆน้อยๆมาตลอด เรียนหนังสือระดับชั้นประถมถึงมัธยมแบบถูถูไถไถ ระดับปริญญาตรีแบบใช้ไปวัดได้ ระดับปริญญาโทแบบตั้งใจหน่อยเลยอยู่ในเกณฑ์ดี เรียนจบปริญญาโทเมื่อพ.ศ.2545 ก็เลยได้เปลี่ยนงานใหม่มาเป็นผู้บริหารขององค์กรเอกชนองค์กรหนึ่ง ฉันเคยได้รับความทุกข์(สะเทือนใจอย่างสาหัส ฉันก็เลยทุ่มเทให้กับงานฉันสนุกกับการทำงานมาก ถึงจะเหนื่อยแต่เมื่องานออกมาสำเร็จก็จะเป็นความภาคภูมิใจเริ่มทำงานใหม่ตั้งแต่ปี 2546 สุขภาพก็ยังปกติแต่จะมีอาการปวดศรีษะปวดท้องบางทีก็เดือนละครั้งบางทีก็สัปดาห์ละครั้ง ฉันก็คิดว่าคงเป็นเพราะเครียดไม่ได้พักผ่อน บางครั้งเดินออยู่เฉยๆก็ล้มลงไปเลย แบบไม่ทราบสาเหตุ ปี 2547 ไปหาหมอพบว่าเป็นโรคหัวใจ ซึ่งก็ไม่ตกใจนักเพราะทานยารักษาและดูแลตัวเองให้ดีก็หายและปกติเป็นคนที่จะไม่เก็บอะไรไว้ในใจนานๆจะระบายออกทางตัวหนังสือ หรือการทำงานจนกระทั่งเข้ามาเล่นเนตครั้งแรกที่สนุก.คอม ได้คนคนนึงสอนให้รู้จักตั้งแต่ url เล่น msn และทุกอย่างก็เพลินดี จนกระทั่งเดือน พ.ย.ปี2548 เริ่มมีอาการปวดศรีษะตลอด 24 ชั่วโมง ทานข้าวไม่ได้ยืนยันว่าไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว พยายามทานก็จะอาเจียนออกมาหมด เดินไปไหนบางทีก็ล้มไปเฉยๆแบบไม่รู้ตัว พ่อเลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเซนทรัลเยนเนอรัล แพงหน่อยแต่ก็คิดว่าสะดวกดีและคงจะหาย ที่นั่นไปนอนอยู่ประมาณ 7 วันหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรเครียดให้น้ำเกลือ แต่อาการปวดศรีษะทานข้าวไม่ได้ก็ยังอยู่มันทรมานมาก หมดเงินไปเยอะเหมือนกันไม่หาย น้ำหนักตัวก็ลดลงเรื่อยๆ จากปกติ 55 เหลือ 34 ในเวลา 1 เดือน พ่อจึงพาไปหาหมอที่ภูมิพลไปแบบเข้าห้อง ฉุกเฉินเพราะความดันต่ำและอาเจียนต้องเอ่ยชื่อเพื่อให้คนที่อ่านจะได้พิจารณาว่าควรไปรักษามั๊ย หมอพาไปตรวจโรคหัวใจฉีดสี ทั้งหัวใจทั้งปอดนอนโรงพยาบาลครึ่งเดือน สรุปว่าอาการทุกอย่างเหมือนเดิมพอออกจากโรงพยาบาลมาฉันก็ยังทนทุกข์ทรมาน กับอาการปวดศรีษะทานข้าวไม่ได้ทานแต่น้ำและอาเจียนทุกวัน สงสารก็แต่ญาตพี่น้องไม่รู้จะทำยังไงตอนนั้นตาก็มองไม่เห็น ต้องพาส่งโรงพยาบาลตลอด สุดท้ายที่ภูมิพลบอกว่าตรวจพบเลือดเป็นกรดก็ให้ยาทางเส้นเลือดแต่พอกลับบ้านอาการก็เหมือนเดิมและหนักขึ้นเรื่อยๆตอนนั้นเดือนมิถุนายน ฉันเคยคิดจะผูกคอตายด้วยซ้ำ เพราะถอดใจแล้วกี่หมอก็รักษาไม่หายพยายามนึกว่าไปทำอะไรใครไว้ก็นึกไม่ออก คิดว่าเป็นกรรมเก่าตามมาทัน เดือนกรกฎาประมาณกลางเดือนอาการกำเริบอีกพ่อพาส่งโรงพยาบาลเดินไม่ได้แล้วเพราะไม่มีแรง ความดันต่ำจนวัดไม่ได้แต่หมอที่ดรงพยาบาลภูมิพลกลับบอกว่านัดมาส่องกล้องเดือนตุลาวันที่ 2 ซึ่งในวันนั้นฉันก็จะตายอยู่แล้ว ขณะที่นอนอยู่บนรถเข็นของโรงพยาบาล มีนางพยาบาลคนนึงเดินมาบอกพ่อว่าอย่าให้รออีก 2 เดือนเลยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาเถอะ แล้วคืนนั้นฉันกลับบ้านเกิดอาการช๊อกก็น้ำหนักตัวจาก55 เหลือ 34 ในเวลา 1เดือนจะไม่ช๊อกได้ไงพ่อกับแม่เลยพาส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลรามาซึ่งทางโรงพยาบาลก็หาสาเหตุไม่ได้เพราะอ่านจากประวัติที่ได้จากภูมิพลเค้าคงต่อไม่ถูก กรกฎา สิงหา กันยา ถึงกลางเดือนตุลา ฉันก็ยังคงเข้าออกโรงพยาบาลรามาเหมือนเดิมประมาณ 3 ครั้งและต้องนอนห้องฉุกเฉินทุกครั้งประมาณเดือนกันยายนหมอจึงพบว่าฉันเป็นโรคภมิคุ้มกันตัวเองบกพร่องหรือโรคSLEหรือที่ชาวบ้านรู้จักกันว่าโรคพุ่มพวง แต่ฉันโชคร้ายหน่อยที่เชื้อไวรัสไปทั่วร่างกายตั้งแต่สมอง ตา หัวใจ ปอด กระเพาะ ลำไส้ และกระดูก วันที่ 19 ต.ค ฉันมาหาหมอตามนัดพอหมอฟังหัวใจ ฟังปอด ฟังที่ท้องหมอไม่ให้กลับบ้านเลยและวันนั้นฉันก็ไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งวันที่ 29 ตุลาคมฟื้นขึ้นมาในสภาพที่น่ากลัวเหลือเกินพบว่าตัวเองถูกมัดมือมัดเท้าไว้กับเตียงมีสายตาอจากคอ หน้าอก และปอด ขาขวาถูกพันด้วยพลาสเตอร์อย่างแน่นมาก ฉันงงมากเป็นไปได้ขนาดนั้น ฉันพูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ เค้าให้อาหารทางจมูกฉันจึงมีชีวิตอยู่ได้ และแล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะพ่อแม่ญาตพี่น้องทำบุญสวดมนต์ให้ตลอดได้กำลังใจจากเพื่อนๆและเพื่อนออนไลน์ฉันฟื้นตัวเร็วมากออกจากโรงพยาบาลวันที่ 15 ธ.ค ตอนนี้แข็งแรงขึ้นทุกอย่าง เหลือแต่กระดูกที่ขาที่ไม่มีแรงเพราะนอนมากเท่านั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปฉันต้องอยู่กับความทุกข์ทรมานไปจนตายแต่คงอีกไม่นาน
29 เมษายน 2550 12:24 น. - comment id 71594
1..... โห ...ลุง มาตัดหน้าหนูได้ไงคะ หนูอุตส่าห์มาจองที่ 1 ให้พี่ นตข. ลุงทำงี้กับน้องปจ.ได้ไง ใจร้ายยยย
29 เมษายน 2550 12:22 น. - comment id 71683
สวัสดีค่ะพี่ ..... พี่อย่าเพิ่งคิดว่า ตัวเองโชคร้ายกว่าคนอื่นซิคะ คนอื่นที่เขาโชคร้ายกว่าพี่อาจมีนะคะ เขาอาจเป็นอย่างพี่ เขาอาจไม่มีเงินเพียงพอที่จะรักษาตัวได้อย่างพี่ พี่มีเงินเพียงพอที่จะรักษาตัวได้ แล้วคนอื่นล่ะ หากเขาเป็นแบบนี้ เขาจะอยู่ในสภาพไหน ฉางน้อยเพียงแค่อยากบอกว่า อย่าเพิ่งคิดว่า ตัวเองโชคร้ายกว่าคนอื่น เพราะคนอื่นโชคร้ายกว่าพี่มีอีกเยอะที่พี่ไม่รู้ ไม่เห็น แต่ฉางน้อยก็ไม่ได้หมายความว่า อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่าเรา ....... ในโลกอินเตอร์เน๊ทไม่มีใครรู้ ใครเห็นหรอกคะ ว่าเพื่อนๆแต่ละคนหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร พี่คุยกะฉางน้อย รู้จักยัย ปจ.มานาน พี่รู้ไหม หน้าตาที่แท้จริงของน้องเป็นแบบไหนอย่างไร พี่ก็ไม่รู้ ทุกคนในโลกล้วนเกิดมาไม่เท่าเทียมคนอื่นเขาหรอกคะ ผู้คน ที่เคยมีหน้าตาหล่อๆ สวยๆ อาจต้องเสียส่วนหนี่งส่วนใดของร่างกายไป นั่นก็ทำให้เขาทุกข์ เหมือนพี่ พี่เกิดมามีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ชีวิตการทำงานที่กำลังก้าวหน้า แต่แล้วจู่ๆ พี่มีเหตุให้เข้าโรงพยาบาล ทำให้พี่คิดมาก คิดมาก ขนาดที่จะฆ่าตัวตาย บ้าหรือเปล่า ( ขอโทษที่พูดตรง และ แรง ) พี่ตายไปแล้ว พ้นทุกข์ แต่พ่อแม่เรากว่าจะเลี้ยงเรามาให้โตได้ขนาดนี้ พี่รู้ไหม พี่ตาย พ่อแม่พี่จะสบายใจ พ้นภาระเหรอคะ ไม่คะ พี่แม่ยิ่งทุกข์หนักกว่าเก่า เพียงแค่พ่อแม่พยายามรักษาลูกทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกหายสบายดี เพียงแค่นี้ พ่อแม่ก็สุขใจหากลูกสบายดี ตราบใดที่ลูกยังเจ็บป่วย พี่คิดเหรอว่าพ่อแม่ไม่ทุกข์ยิ่งกว่าลูกซึ่งนอนป่วย พี่คิดซิ พี่มีโอกาสดีกว่าคนอื่น ทำไมไม่รักษาโอกาสนี้ไว้ล่ะค่ะ ทำไม ต้องคิดมาก ทำไม ต้องคิดไปไกลขนาดนั้น พี่ต้องคิดถึงพ่อแม่ให้มากๆ ท่านรักเรานะคะ พี่คะ พูดไม่ออก อ่านเจอเรื่องราวของพี่ อาจเขียนวกไปวนมา ยัง สับสนตัวเองเหมือนกัน พี่คะ ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ แม้เป็นกำลังใจเพียงน้อยนิด แต่มิตรภาพยังมีให้กันเสมอคะ จาก ...ใจจริงค่ะ ( แล้วจะแวะมาคุยใหม่นะคะ)
29 เมษายน 2550 12:19 น. - comment id 71731
ชีวิตเป็นอยู่ได้ในวันนี้ ผ่านความดีเลวมายังกล้าสู้ ยืนอยู่ด้วยความหมายใครอุ้มชู ความหดหู่..ดูไปไร้สาระ มีหัวใจพ่อแม่ดูแลรัก กี่ร้ายจักทวีที่พบปะ ชีวิตคือกบฏไม่ลดละ ยืนหยัดเผชิญท้าชะตากรรม มองออกไปให้กว้างใช่ว้างเวิ้ง สรรพสิ่งเถกิงมิถลำ ธรรมชาติประกาศชัดสัจจธรรม เกิดดับดำรงเห็นความเป็นจริง ถอดหัวใจให้ครอบครัวรอบข้าง แปลกปลอมวางให้ไกลใจต้องนิ่ง สุขสงบภพผ่านนานประวิง เสพทุกสิ่งยินดีชีวิตงาม
29 เมษายน 2550 13:33 น. - comment id 95952
คุณนับเดือนคะ อ่าน"บทเรียนของชีวิต" ของคุณแล้ว รู้สึกเห็นใจคุณอย่างมากทีเดียว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าเพิ่งท้อถอย อย่าเพิ่งอ่อนแอ คุณยังโชคดีกว่าคนอีกหลายๆคนบนโลกใบนั้ พวกนั้นเขากำพร้า บางคนขาดแม่ บางคนขาดพ่อ และมีหลายคนที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เขาเหล่านั้นขาดความอบอุ่น ขาดคนให้กำลังใจ...แต่คุณมีครบทุกสิ่งซึ่งถือว่าคุณโชคดีแล้ว เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย ทุกคนคงจะหนีไม่พ้น ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเป็นกันทุกคน เมื่อป่วยและรู้สาเหตุถึงจะรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถรักษาตามอาการได้ ดีใจที่คุณบอกว่าแข็งแรงขึ้นแล้ว ส่วนขาที่ไม่มีแรง ทำกายภาพบำบัดทุกวัน ก็จะแข็งแรงขึ้นในเร็ววันนี้ จะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยอำนวยพร ช่วยให้คุณแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และจะเป็นกำลังใจให้คุณอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ
30 เมษายน 2550 08:48 น. - comment id 95985
3.... ครายฟะ..
30 เมษายน 2550 09:20 น. - comment id 95990
ความคิดเห็นที่ 1 : หมายเลข 36975 ชีวิตเป็นอยู่ได้ในวันนี้ ผ่านความดีเลวมายังกล้าสู้ ยืนอยู่ด้วยความหมายใครอุ้มชู ความหดหู่..ดูไปไร้สาระ มีหัวใจพ่อแม่ดูแลรัก กี่ร้ายจักทวีที่พบปะ ชีวิตคือกบฏไม่ลดละ ยืนหยัดเผชิญท้าชะตากรรม มองออกไปให้กว้างใช่ว้างเวิ้ง สรรพสิ่งเถกิงมิถลำ ธรรมชาติประกาศชัดสัจจธรรม เกิดดับดำรงเห็นความเป็นจริง ถอดหัวใจให้ครอบครัวรอบข้าง แปลกปลอมวางให้ไกลใจต้องนิ่ง สุขสงบภพผ่านนานประวิง เสพทุกสิ่งยินดีชีวิตงาม plaing_piu 29 เม.ย. 50 - 12:19 IP 58.181.206.77 กาลเวลาเลยล่วงน้องห่วงอยู่ อยากรับรู้เรื่องราวเฝ้าตามถาม วันเวลาที่ผ่านไปทุกโมงยาม พี่มีความสุขทุกข์หรือท้อขอบอกที พี่เหมือนเก่าเงาซ่อนคอยห่วงหา เวียนวนมาเตือนน้องมิหน่ายหนี ได้รับรู้เรื่องราวที่น้องมี ณ ที่นี้ เฉกเช่นที่ผ่านมา น้องเป็นห่วงพ่อแม่ที่แก่เฒ่า จึงแอบเศร้ากลัวเค้าจะห่วงหา ทุกวันนี้ก็มีแต่น้ำตา ที่คอยมาเป็นเพื่อนเยือนก่อนนอน ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต น้องเองผิดจึงรับภัยทั้งผอง ใช้ชีวิตประมาทพาน้ำตานอง แต่จะลองลุกขึ้นสู้ดูสักครา พี่หลิวน้องจำได้แล้ว พี่รู้มั๊ยว่าความทรงจำน้องหมดเลย จำอะไรไม่ได้ต้องมีคนคอยเล่าให้ฟังถึงจำได้ พี่เข้าไปหาน้องที่บอร์ดน้องคิดจนปวดหัว ว่าพี่เป็นใคร ค่อยๆฟื้นจนจำได้ และค่อยๆรับรู้ได้ว่าครั้งหนึ่ง น้องเคยมีพี่ห่วงใย และเพิ่งจำได้เมื่อวานหลังอ่านกลอนว่า พี่คือพี่หลิว มีอีกหลายอย่างที่น้องจำไม่ได้ แต่รับรู้ถึงความห่วงใยจากพี่นะคะ ขอบคุณมากค่ะน้องดีใจจริงๆ
30 เมษายน 2550 09:28 น. - comment id 95991
ความคิดเห็นที่ 2 : หมายเลข 36976 สวัสดีค่ะพี่ ..... พี่คะ ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ แม้เป็นกำลังใจเพียงน้อยนิด แต่มิตรภาพยังมีให้กันเสมอคะ จาก ...ใจจริงค่ะ ( แล้วจะแวะมาคุยใหม่นะคะ) ฉางน้อย (น้องปจ.) 29 เม.ย. 50 - 12:22 IP 58.9.122.150 อ่านข้อความของน้องทุกตัวอักษร อ่านจบน้ำตาไหลมาจากไหนไม่รู้ มาที่นี่ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่มาเจอน้องป่วนเจอพี่หลิวทั้งสองคน มันทำให้ความทรงจำกลับมาเยอะ ขอบคุณน้องนะคะที่ว่าพี่ตรงๆ พี่ขอรับด้วยความยินดี พี่อาจจะอ่อนแอเกินไป เห็นแก่ตัวเกินไป เลยคิดหนีทุกอย่างด้วยความตาย แต่หลังจากพี่ไม่มีสติไป 10 วัน พี่ได้สัมผัสความตาย มันเงียบ มืด สงบ ไม่เจ็บปวดเลย แต่หลังจาหมอเอาพี่กลับมา พี่ทรมานเหลือเกิน แต่ภาพที่เห็นคือน้ำตาของพ่อแม่ของเพื่อนและญาตพี่น้อง ทำให้พี่ได้คิดว่าถึงจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน พี่จะอยู่ให้ได้เพื่อคนที่รักพี่ พี่มีเวลาอยู่ในโลกใบนี้อีก 2 ปีเท่านั้น พี่จะทำเวลาที่เหลือให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณน้องมาก รักและคิดถึงเสมอจ๊ะ
30 เมษายน 2550 09:33 น. - comment id 95992
ความคิดเห็นที่ 4 : หมายเลข 36981 คุณนับเดือนคะ อ่าน"บทเรียนของชีวิต" ของคุณแล้ว รู้สึกเห็นใจคุณอย่างมากทีเดียว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าเพิ่งท้อถอย อย่าเพิ่งอ่อนแอ คุณยังโชคดีกว่าคนอีกหลายๆคนบนโลกใบนั้ พวกนั้นเขากำพร้า บางคนขาดแม่ บางคนขาดพ่อ และมีหลายคนที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เขาเหล่านั้นขาดความอบอุ่น ขาดคนให้กำลังใจ...แต่คุณมีครบทุกสิ่งซึ่งถือว่าคุณโชคดีแล้ว เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย ทุกคนคงจะหนีไม่พ้น ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเป็นกันทุกคน เมื่อป่วยและรู้สาเหตุถึงจะรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถรักษาตามอาการได้ ดีใจที่คุณบอกว่าแข็งแรงขึ้นแล้ว ส่วนขาที่ไม่มีแรง ทำกายภาพบำบัดทุกวัน ก็จะแข็งแรงขึ้นในเร็ววันนี้ จะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยอำนวยพร ช่วยให้คุณแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และจะเป็นกำลังใจให้คุณอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ เดือนเพ็ญ 29 เม.ย. 50 - 13:33 IP 124.121.129.177 ขอบคุณค่ะคุณเดือนเพ็ญ เป็นอีก 1 กำลังใจที่ได้รับ แม้จะไม่เคยเห็นหน้า แต่รับความรู้สึกถึงความมีน้ำใจ ของคุณผ่านตัวอักษรค่ะ ชีวิตช่วงหลังจะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้ธรนรมะนำชีวิตทำแต่ความดี เพื่อเป็นบารมีติดไปในภพหน้า ขอบคุณสำหรับพรที่ให้มา ขอให้คุณได้รับสิ่งดีดีนั้นด้วยค่ะ ขอบคุณจริงๆ 7
30 เมษายน 2550 09:36 น. - comment id 95993
เดี๋ยวขอเวลาหน่อยนะคะ จะไปเที่ยวหาเพื่อนๆทุกคน ตอนนี้ยัง งง ๆค่ะว่าจะไปทางไหน ยังไงช่วยแนะนำด้วยนะคะ
30 เมษายน 2550 11:22 น. - comment id 95997
.....มาส่งรอยยิ้มหวานๆให้ก่อง เดี๋ยวค่อยมาคุย อิอิ ( อ่ะ อีกที อิอิ )
1 พฤษภาคม 2550 19:15 น. - comment id 96037
คุณนับเดือนคะ สู้นะคะ อุ๋ยก็อยู่แถวนี้เหมือนกันค่ะ อยู่ข้างๆโรงพยาบาลเซ็นทรัลนี่ล่ะ อุ๋ยก็โรคร้ายรุมเร้าเหมือนกัน ทารัสซีเมียร์ เอย ไวรัสตับเอย หอบเอย เหนื่อยที่ต้องเข้าๆออกโรงพยาบาลค่ะ แถมบางครั้งแทบไม่มีเงินรักษาด้วย แต่อุ๋ยอยากให้คุณนับเดือนมีกำลังใจ สู้ต่อไปค่ะ ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุด เข้าวัด ทำสมาธิเยอะๆนะคะ
2 พฤษภาคม 2550 04:14 น. - comment id 96039
ความคิดเห็นที่ 10 : หมายเลข 37052 .....มาส่งรอยยิ้มหวานๆให้ก่อง เดี๋ยวค่อยมาคุย อิอิ ( อ่ะ อีกที อิอิ ) ฉางน้อย ปจ. 30 เม.ย. 50 - 11:22 IP 58.9.129.251 เริงร่าตลอดเลยนะคะน้องพี่ ไปที่ไหนที่นั่นมีแต่รอยยิ้ม คิดถึงจ๊ะ ***************************** ความคิดเห็นที่ 11 : หมายเลข 37092 คุณนับเดือนคะ สู้นะคะ อุ๋ยก็อยู่แถวนี้เหมือนกันค่ะ อยู่ข้างๆโรงพยาบาลเซ็นทรัลนี่ล่ะ อุ๋ยก็โรคร้ายรุมเร้าเหมือนกัน ทารัสซีเมียร์ เอย ไวรัสตับเอย หอบเอย เหนื่อยที่ต้องเข้าๆออกโรงพยาบาลค่ะ แถมบางครั้งแทบไม่มีเงินรักษาด้วย แต่อุ๋ยอยากให้คุณนับเดือนมีกำลังใจ สู้ต่อไปค่ะ ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุด เข้าวัด ทำสมาธิเยอะๆนะคะ invisble 01 พ.ค. 50 - 19:15 IP 58.8.150.164 ขอบคุณมากค่ะคุณจุ๋ย เราอาจเคยเห็นหน้ากันนะคะแต่ไม่ได้ทักกัน คุณก็รักษาตัวด้วยนะคะ โรคที่คุณเป็นก็น่าเป็นห่วงมาก น้ำตาลทำใจได้ค่ะ คิดว่าชาติก่อนคงไปทำอะไรไว้ ชาตินี้ใช้ซะให้หมด ชาติหน้ามีจริงจะได้อยู่อย่างสงบ ขอบคุณมากค่ะ
3 พฤษภาคม 2550 06:37 น. - comment id 96051
3 พฤษภาคม 2550 06:40 น. - comment id 96052
http://dnamaker.com/forever/img/member/24638.jpg
8 พฤษภาคม 2550 17:15 น. - comment id 96089
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้หายเร็วนะครับ
9 พฤษภาคม 2550 09:08 น. - comment id 96093
ขอบคุณมากค่ะคุณ dreame [img]http://img206.imageshack.us/img206/6978/ekc6z5pq9xn.gif[/img]
13 พฤษภาคม 2550 20:49 น. - comment id 96151
สู้ๆๆๆๆนะ อย่ายอมแพ้พี่ให้กำลังใจ แล้วจะสวดมนต์ให้น้องสาว หายป่วย กลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม น้องต้องโชคดีนะ อย่าคิดสั้นเด็ดขาด เดี๋ยวพี่ๆจะอยู่ต่อกลอนให้จ้ะ อย่ายอมแพ้กับโชคชะตานะจ๊ะน้องสาว
13 พฤษภาคม 2550 21:00 น. - comment id 96152
ถ้าน้องสาว ไม่สบายใจ เมล์คุยกับพี่บ้างนะ Jad_f4@thaimail.com พี่จะคุยเป็นเพื่อน
13 พฤษภาคม 2550 23:15 น. - comment id 96154
ในความรัก มีส่วนหนึ่ง ลึกซึ้งมาก หลายคนอยาก จะได้ ไห้โหยหา คือห่วงใย จริงแท้ และเมตตา เฝ้าห่วงหา ถามไถ่ ยามไกลกัน คราวมีทุกข์ ปลุกปลอบ หาทางช่วย ยามที่ป่วย ก็ยัง ไม่เหหัน ส่งแรงใจ ถึงใจ ห่วงใยกัน แม้นานวัน ความเป็นเพื่อน ไม่เลือนไป อย่าเพิ่งท้อ จนขาด ความเชื่อมั่น อีกไม่นาน น้องก็ จะต้องหาย ที่เคยเจ็บ เคยปวด รวดร้าวกาย ขออย่าได้ มาแผ้ว ผิวแก้วตา พี่จะขอ พรพระ คุ้มครองเจ้า สวดมนต์เป่า พรวิเศษ ช่วยรักษา อีกทางหนึ่ง ส่งใจ ไปเยียวยา ขอขวัญกล้า ยืนอยู่ สู้ต่อไป.
24 พฤษภาคม 2550 23:15 น. - comment id 96307
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ เข้มแข็งนะคะ