.... เรื่องควายควาย(ตอนที่2)....
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ไอ้เผือกหันมามองผม คราวนี้แววตาฉายแววเวทนาผมทีเดียว ..... เอาน่าไอ้เข้มมึงอย่าไปจำมันเลยน่ะ ถ้าจะทำงานใหญ่ต้องร่วมมือกัน....
ไอ้เข้มคงจะงอนที่ถูกสหายสนิทปรามเช่นกัน
จึงสะบัดก้น เดินตุปัดตุเป๋ ไปกินอาหารของมันต่อ
ผมมองท่าทางของมันแล้ว อยากเดินเข้าไปแตะมันสักป้าป
ชะหน๋อย....โตเป็นควายแต่ทำตัวยังกะตุ๊ด
ได้เผือกเสนอความผิด...." กูว่าเราควรประท้วง "
ผมยืนตัวแข็ง เหมือนโดนน่ะจังงัง กว่าจะเอ่ยปากย่นๆของตัวเองออกมา
" ประท้วง มึงจะประท้วง ประท้วงอะไรของมึง ประท้วงสังคม ประท้วงนายทุน หน้าลือด ประท้วง ผืนดิน ที่นา หญ้าแพรก ประท้วง ประท้วงมันเข้าไป ประท้วงอะไรก็ได้ ก็ได้
มึงจะบ้ารึไงว่ะ ทำเพื่ออะไรกัน ผมส่ายหน้าไปมา ทั้งไม่เห็นด้วย
ทั้งไล่แมลง เหลือบ ริ้น ไร ที่บินมาตอม หู ตอมตา จนน่ารำคาญ
ไอ้เผือก หันมามองหน้าผม.....นิ่งนาน.....
กว่าจะระบายลมหายใจ ออกมาอีกพรืดใหญ่
" มึงคิดว่า ชีวิต ชีวิตมึงดีแล้วหรือ ทุกวันนี้ มึงพอใจแค่นี้น่ะเหรอ "?
" เฮ้อ....ผมทำเช่นเดียวกับมันบ้าง ก็ไม่ใช่จะพอใจอะไรหรอก เพียงแต่กูมองไม่เห็นประโยชน์ของการประท้วง จริงๆว่าทำไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
เป็นครั้งแรก ที่ผมพูดได้ยาวขนาดนี้และดูเหมือนจะบั่นทอน ความคิดไอ้เผือกได้ดีทีเดียว ถ้าหากไอ้เข้มไม่เดินแทรกเข้ามาเสียก่อน
มันว่ามึงขี้ขลาดนี่หว่า
พวกขี้ขลาดมักทำอะไรโง่ๆได้ทั้งนั้น
กูไม่ได้ขี้ขลาด ผมตวาด " มึงเพิ่งเกิดมาดูโลก ได้ไม่นาน คงไม่รู้หรอกว่า ในอดีตสมัยหนุ่มๆ กูผ่านอะไรมาบ้าง
เพื่ออะไรกัน หรือเพื่อว่า ได้มายืนอยู่ตรงนี้ แบบควายตัวหนึ่งน่ะเหรอ
ไอ้เข้มอ้อมแอ้มอยู่นาน ในที่สุดมันก็โพล่งความคิด ของตัวเอง ออกมาจนได้
ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยว่ะ
เพราะอย่างน้อย เราก็ได้ความสะใจบ้างหรอกน่าหรือว่ามึงจะเถียง
ผมยิ้มมุมปาก จ้องมันเขม็ง นี่ อายุผมไล่เลี่ยกับมันแล้วมัน ละก็คงกระโจนใส่มันทั้งตัวไปแล้ว
เฮ้ย...มันช่างมีความคิดแบบควายๆจริง....