กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง.กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง เสียงโทรศัพท์ดังมาจากบ้านหลังหนึ่ง... ปราการ ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่บ้านไกล้กับบ้านหลังนั้น ...หนวกหูจังโว๊ยยยย!!!! ความคิด...ขณะที่กำลังอยู่นอนบนที่นอน ทำไมไม่มีคนรับวะ -!! นี่เป็นครั้งแรกของคืนที่เขาได้เปล่งเสียงออกมาด้วยความรำคาญหลังจากที่รู้สึกตัว . ..ครั้งนี้นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้นมา ก่อนหน้านี้ประมาณเจ็ดวันที่แล้วที่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้นมาทำให้เขาต้องตื่นขึ้น...และก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ ...........ปราการ เป็นผู้ที่เข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้เมื่อประมาณ หนึ่งอาทิตย์ก่อน หลังจากที่เจ้าของเดิมพึ่งย้ายออกไปได้สองวัน เขาต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยเพราะโดนไล่ออกจากงานเก่าและได้งานใหม่ที่นี่ เขาสมัครเป็นพนักงานขายประกันบริษัทแห่งหนึ่ง กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง หลังจากนั้นไม่นานอีกสองนาทีก็สิ้นเสียงลง...คล้ายๆกับว่ามีคนรับสายโทรศัพท์นั่นแล้ว หรือไม่ก็เป็นเพราะไม่มีสายเข้ามา .......ปราการยังคงตื่นอยู่บนที่นอน มันทำให้เขาหลับไม่ลงซะแล้วเวลานี้. เขาหันหน้าไปมองที่นาฬิกามันเป็นเวลา ตีสองสิบเก้านาที นี่เป็นคืนที่เท่าไหร่แล้วละเนี๋ยที่เราตื่นมาเวลานี้ เขาคิดอยู่ภายในใจ มันอะไรกันหนักหนาวะไอ้บ้านนั้น....คำพูดดังขึ้นมาอีกครั้งจากปากเขา... ตั้งแต่ปราการมาพักอยู่ที่นี่เขายังมีไม่โอกาสได้พบหรือเจอกับเจ้าของบ้านหลังนั้นเลย....ทั้งที่บ้านก็อยู่ติด..ด้วยความหงุดงิดที่ต้องตื่นนอนและด้วยความที่ไม่รู้จักเจ้าของบ้าน ปราการเริ่มคิดที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเจ้าของบ้านหลังนั้น .... อือม์...พรุ่งนี้วันอาทิตย์นี่นะ เขาเริ่มลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ริมหน้าต่างมองตรงไปยังบ้านหลังนั้น..คืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแสงของดวงจันทร์ทำให้เขาสามารถที่จะพอมองเห็นตัวบ้านหลังนั้นในยามค่ำคืน สภาพบ้านที่เขาเห็นเป็นบ้านไทยหลังหนึ่งทีมีสภาพค่อนข้างใหม่เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้ถูกดูแลรักษามาเป็นอย่างดี แต่บรรยากาศรอบบ้านหลังนั้นทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมาในทันที เขาเริ่มรู้สึกว่าอากาศเย็นขึ้น....มาอาจเป็นเพราะหน้าต่างที่เขาเปิดทิ้งไว้ ...หลังจากนั้นเขาเริ่มดึงบานหน้าต่างที่เขายืนอยู่เพื่อที่จะปิดมัน...ขณะที่สาตตาของเขามองไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งเขาได้เหลือบมองเข้าไปภายในหน้าต่างบานหนึ่งของบ้าน......ที่ยังคงเปิดอยู่ ภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขาต้องชะงักขยับมือขยับไม่คงได้แต่ยืนนิ่งเหมือนคนที่โดนเวทย์มนต์สะกดและทันใดนั้นเอง....... ............... To Be Contenued .................
24 เมษายน 2550 18:49 น. - comment id 95820
..... ฉางน้อยก็เขียนเรื่องสั้นไว้หลายเรื่องคะ เป็นแนวไร้สาระ อิอิ แค่อยากคิด อยากเขียน ก็เอาเรื่องใกล้ตัวมาเขียนคะ
25 เมษายน 2550 10:31 น. - comment id 95833
@..ฉางน้อยขอไปอ่านของฉางน้อยหน่อยนะ อันนี้ก็แบบว่าแต่งตามตัวเองละอยากจะลองเขียนดูยังมีโครงการจะเขียนจิคนาการ...เรื่องสั้น...ไม่รู้หรอกนะเขามีหลัการเขียนอย่างไรบ้างจะลองศึกษาดูซะหน่อย ถ้าเขียนแล้วไปกำกับเองคงดีสินะ (แบบว่าฝันนะ)
26 เมษายน 2550 11:00 น. - comment id 95858
เป็นเรื่องที่ใช่ได้เลย อยากรู้ว่ามันเป็นแนวไหนครับ กรุณาตอบในเรื่องสั้นของผมด้วยนะครับ
27 เมษายน 2550 07:28 น. - comment id 95870
เขียนแนวไหนก็ได้ที่ชอนอะ ถ้าจะให้แนะนำเนี่ยเราชอบเขียนแนวปรัชญาหรือไม่ก็คิดอะไรได้ก็เขียนไปเลยอะไรแบบนี้ หวังว่าคงเข้าใจนะครับ