ขุนทองคำ
นายแจม
เสียงโขกโป๊ก โป๊กดัง กังวาลทั่ว
ฟังน่ากลัว ราวจะฆ่า ให้อาสัญ
ผสานเสียง ว่ารุก บุกโรมรัน
อีกฝ่ายมือ ไม้สั่น กันชุลมุน
พวกอยู่ข้าง เป็นรอง ร้องบอกก้อง
ต้องประคอง เรือมาแรง เร่งหลบขุน
เม็ดอยู่ไกล ให้รีบ นำมาจุน
ก่อนหมดบุญ ขุนใกล้ตาย หายใจระรวย
ฝ่ายเป็นต่อ บอกข้าบ้าง ทำวางท่า
ดูเริงร่า หาทาง วางหมากสวย
ท่านรองว่า มาแบบนี้ เห็นทีซวย
ม้าต้องช่วย เต็มที่ รี่เข้ามา
โคนฝ่ายรุก บุกแรง แซงตัวเบี้ย
ฝ่ายรับเพลีย ต้องเสียเรือ เพื่อรักษา
ขุนรอดตาย แต่ก็ใกล้ วายชีวา
อีกฝ่ายดา หน้ารุก บุกสุดตัว
ข้างเป็นรอง พึมพัม โดนยำแย่
หนทางแก้ แม้มี มือสลัว
ยิ่งเนิ่นนาน แต้มบุกมา ยิ่งน่ากลัว
ทางมัวซัว ให้รอดได้ แทบไม่มี
เสียงเด็กน้อย แทรกขึ้นมา ว่าไฉน
จึงไม่ใช้ โคนรุก ฉุกม้าหนี
ตามด้วยเรือ รุกซ้ำ ขย้ำอีกที
เพียงเท่านี้ ก็จะมี แต่โชคชัย
สิ้นเสียงเด็ก ทุกคนต่าง เงียบสงัด
พอเห็นชัด ว่ากำชัย คือฝ่ายไหน
บ้างร้องด่า ว่าเด็กเวร มาทำไม
บ้างชมว่า ปัญญาไว สายตาดี
เด็กน้อยหัว ร่อร่า ว่าสนุก
ผู้ใหญ่ขลุก แต่หมากรุก น่าสุขขึ
ฉันเล่นเป็น แต่แต้ม ไม่เคยมี
ก็แค่ชื้ ส่งไป สนใจไย
วิ่งออกมา หมายว่า จะกลับบ้าน
ออกมานาน อาจโดนด่า ว่าเฉไฉ
ได้ยินเสียง อื้ออึง จากไม่ไกล
เสียงตะโกน ร้องบอกไป ให้วุ่นวาย
นิ่งจับความ สักครู่ ก็รู้ชัด
ว่าวันนี้ ที่วัด สนุกหลาย
ได้ต้อนรับ เซียนหมากรุก ที่แฝงกาย
มิได้มี กำหนดหมาย ให้รู้กัน
อดใจไว้ ไม่อยู่ อยากรู้นัก
ว่าเป็นยักษ์ หรือเทวา จากสวรรค์
แต้มที่เล่น จะเป็น อย่างไรกัน
วันนี้ฉัน ขอดู ให้รู้จริง
เห็นบุรุษ นั่งเด่น เป็นสง่า
ดูท่วงท่า อาภรณ์ คล้ายดั่งหญิง
เหล่าผู้คน เร่งต้อนรับ มือเป็นระวิง
คล้ายกลัวจะ ถูกติติง ไม่ถูกใจ
ได้ยินเสียง กระซิบกัน ว่าวันนี้
ตัวฉันมี โชคดี ยิ่งไฉน
ไม่เคยคิด ชีวิตนี้ ที่สูงวัย
จะได้พบ ผู้ยิ่งใหญ่ ในวงการ
แม้นถอนตัว ออกจาก ยุทธจักร
ยังเป็นหลัก ชื่อเสียงยัง เล่าขับขาน
ด้วยชนะ ทุกสนาม ไร้เทียมทาน
ผู้คนจึง เทียบเปรียบปาน เทพยดา
ฝนเริ่มพรำ ลงมา เสียงฟ้าร้อง
ดังกึกก้อง เด็กน้อย เริ่มเร๋อหรา
นึกหวาดกลัว รีบหลบไป ใต้ชายคา
ส่ายสายตา หาที่นั่ง ยังวงใน
แทรกตัวจน ขึ้นไป ใกล้ด้านหน้า
ยังผวา เสียงฟ้าผ่า พาใจไหว
สายฟ้าฟาด ลงมา เพลาใด
ให้สดุ้ง ตกใจ ไปทุกที
เสียงผู้เฒ่า ร้องว่า อ้าวมาแล้ว
เจ้าเด็กแก้ว วันนี้ มาถึงที่
กำลังกล่าว ถึงเจ้า อยู่พอดี
อย่ารอรี เร่งรีบมา หาท่านทอง
เซียนใหญ่หัว ร่อร่า ท่าทางสนุก
สายตาสุข มิได้มี ท่าทีผยอง
เห็นเด็กแก้ว ก้มไหว้ นั่งยองยอง
ยิ่งเพ่งมอง ยิ่งถูกใจ ให้ชื่นชม
แล้วถามว่า นี่หรือ คือเด็กผี
ดูท่วงที ท่าทาง ช่างเหมาะสม
หน้าตาของ เด็กน้อยเจ้า ก็ขำคม
คำนิยม เลื่องลือไป ให้ข้ามา
ได้ยินว่า เจ้ามิเคย เล่นหมากรุก
แค่สนุก แก้กล ซนนักหนา
กลรูปใด ยากเพียงไหน ให้ผ่านตา
ร่ำลือว่า บอกได้แน่ แก้อย่างไร
เป็นเรื่องอัศจรรย์ เล่ากันทั่ว
บางคนกลัว ว่ายังเด็ก ทำได้ไฉน
คล้ายดังมี ปีศาจ ช่วยดลใจ
ชื่อหนูผี จึงมอบไว้ ให้รู้กัน
มีเสียงแย้ง ออกมา ว่าไม่ใช่
ชื่อที่ว่า ให้ไว้ แค่ขบขัน
ด้วยว่าดื้อ แสนกะล่อน ไล่ไม่ทัน
แวบทั้งวัน หาตัวกัน ไม่ค่อยเจอ
สิ้นเสียงก็ ฮากัน สนั่นทั่ว
ตัวคนเล่า ยังมั่ว ทำหน้าเซ่อ
ที่ฉันว่า เป็นความจริง ใช่ละเมอ
ไยเหล่าเกลอ มาเยาะกัน ให้ฉันอาย
ผู้ใหญ่แวว สุดกลั้น อั้นไม่อยู่
รู้ทั้งรู้ ยังมาเล่า ต่อขยาย
เพราะเมาเหล้า หรือว่าเจ้า ไม่สบาย
ทำเรื่องขาย ขี้หน้า อาจารย์ทอง
แล้วหันมา บอกว่า อาจารย์ใหญ่
อย่าใส่ใจ ใดใด กับเจ้าสอง
เจ้านี่เล่น หมากรุกไทย แสนลำพอง
สุดท้ายต้อง ขายหน้า ห้าหกที
ตั้งหมากกล ร้องท้า หาเรื่องเด็ก
เห็นตัวเล็ก หากแก้ได้ คงใช่ที่
ทุกครั้งเมื่อ เจ้าแก้วเห็น ไม่รอรี
แก้กลได้ ทุกที ไม่มีจน
มันจึงได้ เก็บแค้นไว้ ผูกใจเจ็บ
คอยแนมเหน็บ เด็กแก้ว ทุกแห่งหน
ความคิดมัน ช่างแสน อัปมงคล
ปั้นเรื่องจน เกินการ พาลเกินใคร
ข้างเจ้าสอง หมดท่า หน้าถูกหัก
หากอยู่ไป คงจัก ถูกผลักไส
รีบก้มหน้า ลงลา แล้วคลาไคล
ละจากวง หมากรุกไทย ในเร็วพลัน
ผู้คนยิ่ง ทยอยมา พาครื้นคึก
แม้เริ่มดึก ไม่มี ที่เหหัน
ยังปักหลัก อยากรู้ อยู่ตามกัน
ว่าอาจารย์ จะแบ่งปัน แต้มใดนา
อาจารย์ทอง บอกว่า ในครานี้
เพราะที่นี่ มีเด็กผี จึงมาหา
หมายจะลอง ให้เห็น เต็มสองตา
ว่าสติ ปัญญา เจ้าปานใด
มาเจ้าหนู อยู่ใกล้ จะได้เห็น
รูปกลที่ ยากลำเค็ญ เซียนร้องไห้
มีบ้างที่ บอกไว้ อย่างไม่อาย
ว่ากว่าจะ แก้ได้ ให้เต็มกลืน
แม้จะแค่ หนึ่งทีหนี สองทีไล่
หากเจ้าแก้ ไม่ได้ ก็อย่าฝืน
กลับเอาไป คิดใหม่ สักสองคืน
วันมะรืน ข้าจะมา หาอีกที
กลนี้ชื่อ ม้าบังตา ท่านว่าไว้
จงแก้ให้ เต็มที่ อย่าได้หนี
ว่าพลางรีบ วางหมาก ลงทันที
ขาวนั้นมี เจ็ดตัว ทั่วกระดาน
ฝ่ายดำมี ขุนโคนเบี้ย น่าเพลียจิต
เจ้าแก้วคิด ใจระทึก สนุกสนาน
ร้องบอกใน ทันที ว่าอาจารย์
กลรูปนี้ ใช้งาน อาชาเพียว
ไม่ต้องไป สนใจ ตัวใดอีก
ม้าโยกหลีก ริมกระดาน อาจดูเสียว
ขุนหรือโคน หนีก็เดิน ม้าตัวเดียว
ก็จะจน แท้แน่เทียว ในทุกทาง
อาจารย์ทอง ตกใจ ให้พิศวง
ยังงวยงง ลุกขึ้น ตบอกผาง
หยิบตัวหมาก ลงวาง แล้วว่าพลาง
มาสะสาง อีกกล จนอย่างไร
กลนี้เก่า โบราณ นานเนิ่นนัก
อยากรู้ว่า เจ้าจัก แก้ได้ไหม
หากไม่รู้ หรือไม่ เคยเข้าใจ
ทางแก้ไข ยากหาได้ ยากได้เจอ
กลรูปนี้ ไม่มี ชื่อที่ตั้ง ***
เมื่อถูกวาง จงคิดยั้ง อย่าพลั้งเผลอ
ใบ้ให้ว่า รูปนี้ ต้องปรนเปรอ
ก็จะเจอ ทางดี มีกุญแจ
หากคิดผิด ปิดทาง ยากยิ่งนัก
ก็คงจัก คล้ายจริง ลิงแก้แห
หรือคล้ายเด็ก หลงทาง ร้องแงแง
ถือว่าแก้ ไม่ได้ ไล่ไม่จน
วางขุนหนี ตัวเดียว เหี่ยวสลด
ฝ่ายขาวสด ล้อมไว้ ทุกแห่งหน
หนึ่งขุนกับ สามเบี้ย ตามรูปกล
เด็กน้อยเจ้า จงยล อย่างเย็นใจ
ข้างเจ้าแก้ว ดูท่า ทำหน้ายุ่ง
ด้วยหมายมุ่ง มองหา ทางแก้ไข
คิดเท่าใด ไม่รู้แน่ แก้อย่างไร
ฝ่ายคนดู สงสัย ไยคิดนาน
แค่เดินเบี้ย ขึ้นหงาย ไม่ใช่หรือ
ทิดบรรลือ โพล่งบอก อย่างหักหาญ
เจ้าเด็กผี คิดทำไม นานเกินการ
เสียงเล่าขาน คงผิดไป ไกลเกินจริง
เด็กน้อยคิด อยู่ว่า ถ้ารีบหงาย
คงดูคล้าย ต้องมนต์ กลผีสิง
หากเดินไป คงไม่วาย ถูกติติง
ขุนหนีวิ่ง ไปมา ฆ่าไม่ตาย
ฉุกคิดถึง คำใบ้ ได้รับรู้
เมื่อตรองดู คิดอยู่ ต้องไม่หงาย
เบี้ยตัวริม จำต้อง ให้วางวาย
คิดขยาย ต่อไป ในฉับพลัน
ย้อนนึกถึง กลเก่า ที่เคยรู้
ชื่อ "กวนอู กักด่าน" ไม่เหหัน
ก็รู้แจ้ง แทงตลอด สิ้นงงงัน
ประหนึ่งจันทร์ กระจ่างฟ้า ยามราตรี
กล่าวขอบคุณ เซียนใหญ่ ที่ใบ้ช่วย
ไม่เช่นนั้น ต้องอายขวย หลบหน้าหนี
เริ่มต้องนำ ขุนเข้าใกล้ จะได้ที
ขุนดำลี้ ไม่ได้ ไปตามทาง
ติดเบี้ยริม กินฟรี มีความสุข
เริ่มจะทุกข์ เมื่อขุนขาว เข้ามาขวาง
ทางเดินเหลือ อยู่เพียง สองตาราง
เบี้ยที่ว่าง ขี้นไป หงายให้เร็ว
เพียงเท่านี้ ดูที ขุนหนีแย่
หมดทางแก้ คล้ายหล่น ลงก้นเหว
ที่พื้นนั้น พรูพรั่ง ด้วยไฟเปลว
ขุนตัวเลว ต้องด่าวดิ้น จนสิ้นใจ
(ยังมีต่อ อีกยืดยาว)