เตือนใจ

ละอองน้ำ

เกิดเป็นคนกว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้นี่ก็ไม่ธรรมดานะ
วันนี้ผมไปกล่าวคำอำลาในงานเลี้ยงส่งผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ตอนนี้
เลยโดน จอนนี่ว็อคเกอร์ 12 ปี ที่ล่อเข้าไปค่อนขวดหัวสมองเลย
นึกถึงเรื่องเก่า ๆ อยากจะเล่าให้ฟัง ก็ไม่พ้นเรื่องใต้สดือล่ะครับ
แต่จะแฝงด้วย สาระไว้บ้าง ตามสไตล์คนเที่ยวไปทั่ง ร้อยเอ็ด
เจ็ดย่านน้ำเพื่อไม่เป็นการเสียเวลามาอ่านกันดู
ผมทำงานต่างจังหวัดมา 3 ปี ต้องอยู่หอพัก จันทร์ถึงศุกร์
หอพักผมใกล้มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง พวกนักศึกษามหาลัยนี้ ที่อยู่หอเดียวกับผม 
มันจับคู่อยู่กัน แบบสามี ภรรยา หลายคู่ผมอยู่หอนี้ มา 2 ปี 8 เดือน เห็นบางคู่
เลิกกันแล้วก็หาคู่ใหม่ เหมือนกระต่าย เหมือนหนู
มีเหตุการณ์หนึ่งผมยังจำได้ดี และฝังใจมากระทั่งบัดนี้
คืนนั้น เวลาประมาณเที่ยงคืน ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ โดยเปิดประตู ห้องไว้ 
เพื่อให้ลมพัดผ่าน จึงได้เห็นเหตุการณ์น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง ห้องตรงข้ามผม 
เป็นห้องหนึ่งที่มีนักศีกษาปี 2 ที่อยู่กินกัน แบบผัวเมีย คู่หนึ่งอาศัยอยู่ 
ผู้หญิงเป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว สวย ผมยาว เป็นธรรมดาที่ผมจะต้องมองคนสวย 
เพราะถึงจะอยู่กับเพื่อนร่วมที่ทำงานจบที่เดียวกั น ผู้ชายเหมือนกัน 
จิตใจก็ไม่เคยคิดจะชอบไม้ป่าเดียวกัน
  เที่ยงคืน วันนั้น พ่อแม่ ของหล่อน (เด็กผู้หญิงตรงข้ามห้องผมคนนั้น) 
คิดอย่างไรไม่รู้มาเยี่ยมลูก สาวตอนเที่ยงคืนแกหอบของกิน ของใช้มาเพียบ 
ตามประสาพ่อแม่ที่รักลูกสาวปานดวงใจ แม่ของเธอเป็นฝ่ายกดกริ่งหน้าประตู 
ขณะที่พ่อเธอถือของอยู่เคียงข้างโดยหันหลังมาให้ผม
ใครวะ ไอ้เหี้ย ดังออกมาจากห้อง ในขณะที่มีแสงไฟเปิดขึ้น 
โดยเห็นจากกระจกฝ้าที่อยู่เหนือประตู ผู้ชายนุ่งเช็ดตัวเดินงัวเงียออกมาจากห้อง
ออกมาเปิดประตู โดยมีน้องคนสวยลูกสาวที่พ่อแม่ตั้งใจมาหา 
เดินตามหลังมาด้วยความตกใจในสายตาผม ไม่แปลก เพราะผมเห็นคู่นี้ เค้ามีอะไรกัน 
มาหลายเดือนแล้ว บางคืนที่เงียบสงัด
จะได้ยินเตียงไม้ลั่น เอี๊ยดอ๊าด เป็นจังหวะ น่ารำคาญจนต้องเอาearplug 
ที่ลดเสียงได้ 29 dB มาอุดหุอยู่บ่อยครั้ง
แต่ในสายตาพ่อแม่เธอ มันคงเป็นสุดยอดของความประหลาดใจ ยิ่งไปกว่า การมาหาลูก 
สาวอย่างไม่บอกกล่าว เป็นสิบเป็นร้อยเท่า
ลูกสาวที่พ่อแม่ รู้เพียงว่า เช่าอยู่กับเพื่อนสาว 2 คน 
กับมานอนกับไอ้หนุ่มที่ต้อนรับเขาทั้งสอง ด้วยคำอันหยาบคาย อมวัดทั้งวัดมาพูด 
ก็ไม่น่าเชื่อว่า แค่มาติวตำรา ไอ้หนุ่มปากไวกว่าความคิดมันคงคาดไม่ถึงว่า 
บุพการี ของเมียมันจะแอบมาทำความ ประหลาดใจให้มันกลางคืนสงัด 
ขณะที่มันกำลังกอดกกเมียรักที่ถูกต้องตามพฤตินัย โดยไม่
ต้องมีนิตินัย และจารีตประเพณีให้มากความ เวลาเช่า ชายอยู่ด้วยกัน 2 คน 
หญิงอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่ อยู่จริง มันอยู่แบบ ชาย หญิง 2 คู่
แม่ของน้องคนนั้น ร้องไห้ พร้อมกับ พูดว่า "ลูกแม่ ทำไมถึงทำอย่างนี้" 
ทำไมถึงทำอย่างนี้อยู่ไม่ขาดปาก (ทำให้แม่ ถึงน้ำตาตกนี่ อานิสงส์แรงนะครับ 
ถ้าพื้นกรรมเก่า ไม่ดีจริง มักจะเห็นผลทันตา)
ในขณะที่พ่อทิ้งของกินทั้งหมดลงกับพื้น แล้วเดินออกไปตรงบันได
คงอึ้ง พูดไม่ออก กับการกระทำของลูกสาวสุดที่รัก ที่อุตส่าห์ ฟูมฟักทะนุถนอม 
ปานแก้วตา ดวงใจ มาบัดนี้ ลูกสาวก็หาลูกเขยที่ถูกต้องตามพฤตินัย 
มาสร้างความประหลาดใจแก่พ่อแม่แบบไม่
ต้องตั้งตัว ลูกสาวที่รักของแม่ที่แม่อุตสาห์ป้อนข้าว น้ำ เลี้ยงดู 
ส่งไปโรงเรียน พาไปหาหมอ คอยเป็นห่วง สารพัดจะห่วง 
เดินทางไกลข้ามจังหวัดมาเยี่ยมก็สู้อุตส่าห์ กลัวว่า ลูกจะอด จะไม่อิ่ม จะไม่มี
ของกินถูกปาก แต่ทำไม ลูกจึงมาทอดกายให้ชายเขาชมเยี่ยงนี้
เรื่องราวในคืนนั้นจบลง อย่างไรไม่รู้ ไอ้หนุ่มมันก็กลับห้องมันไป 
และดูเหมือนจะไม่มาหาราว อาทิตย์กว่าพอเรื่องเงียบ 
มันก็ย้ายของมาอยู่ด้วยกันอีก
  แล้ววันหนึ่ง ผมก็เห็นน้องคนนั้น ร้องไห้ อยู่หน้าประตูลิฟท์ หลังจาก 
มีปากเสียงกับแฟนมัน ใช่ครับ ผู้ชายไปมีคนใหม่ เพราะคงเบื่อในรสชาติสาบสวาท 
ที่ฝ่ายหญิงปรนเปรอ จนไม่มีอะไรจูงใจให้มันสนใจอีก
ผมสงสารครับ สงสารที่เห็นน้ำตาหญิง แต่คนที่ผมสงสารกลับเป็นพ่อแม่ของเธอ 
เรื่องราวของ เธอยังไม่จบ แต่ผมไม่อยากจะเล่าต่อ
เพราะแค่นี้คงเพียงพอสำหรับการที่ใครสักคนจะหักห้ามใจ รักนวลสงวนตัวไว้ 
ของพวกนี้สำหรับผู้หญิงมันสุขชั่วครู่ แต่บาดแผลจะฝังใจลึกไปเนิ่นนาน แน่ใจหรือ
ว่า คนที่จะมีสัมพันธ์ด้วย จะเป็นคนที่แต่งงานด้วยในอนาคต 
ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไร แต่ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ทำ 
ผมไม่ได้เก่งเพียงแต่ปากผมเคยห้ามใจตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง 
ตอนที่โอกาสมันอำนวยสุดขีด ผมรู้ว่ามันยากมากที่จะห้ามใจ
เวลาที่อยู่ด้วยกัน 2 คนในห้องนอนที่ปิดประตู ผมหยุดทุกอย่างแค่การจับมือ 
แล้วผมก็เปิดประตูห้อง แล้วเอาดรัมเบลขนาด 5 กิโลกรัมหล่อเองตอนลง shop 
มากั้นประตูไว้ ไม่ให้ลมพัดปิด แล้วบอกเธอว่า เราอยู่กัน แค่ 2 คน 
ไม่ควรปิดห้อง
ผมทำสำเร็จมาแล้ว ผมเอาชนะใจตัวเองมาแล้ว แต่ผมก็ไม่มั่นใจ ว่า 
ใจผมจะแกร่งพออีกหรือเปล่า ผมเลยหลีกเลี่ยงโอกาส แบบนั้น ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
แม้ว่าเธอคนนั้นท้ายที่สุดจะถูกเพื่อนผมมอมเหล้า และเสียทีแก่เพื่อนผมเอง 
เพื่อนคนนี้ ผมเคยควงเธอไปเย้ยถึงหน้าคณะที่ 
มหาวิทยาลัยของมันวันที่มันทำสำเร็จ มันกลับมาสั่งสอนผมว่า ต้องอย่างนั้น 
อย่างนี้ ต้องถอดกางกางให้ได้ก่อน แล้วค่อยถอดเสื้อ แล้วทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี 
ผมเสียใจอยู่เหมือนกัน ที่จริงๆ แล้วเธอคงแอบชอบเขาเหมือนกัน 
จึงยอมกินเหล้าทั้ง ๆ ที่เขากินไม่เป็น ไม่เคยกิน
ผมกลับไปที่บ้านแม่ที่พอจะมาป่ากกใกล้ ๆ บ้าน เอาดาบลงไปฟันอย่างบ้าคลั่ง 
จนป่ากก ยุบหายไปกับคมดาบ ไปเยอะ แล้วเดินกลับบ้าน ไม่กินข้าว 
เข้านอนนอนแต่ไม่หลับ จนเกือบ ตีสี่ ท่องในใจว่า ของไม่ใช่ของเรา 
ของไม่ใช่ของเรา วิทยุคืนนั้น เปิดเพลง รักเอง ช้ำเองผมยังเก็บรูป 
สติ๊กเกอร์เล็กๆ 
ที่เธอให้ผมตอนไปเที่ยวด้วยกันเพียงลำพังสองคนครั้งแรกที่ต่างจังหวัด (จำได้ว่า
วันนั้น เธอให้ผมซื้อกล้วยเลี้ยงลิง) แบบไปเช้า เย็นกลับ อยู่เลย 
สติ๊กเกอร์เล็กๆ ใบนี้ ผมเคยคิดจะทิ้งต้องหลายทีแล้ว แต่ก็ตัดใจทิ้งไม่ลงเสียที
เหมือนกับที่ผมเก็บดรัมเบลอันนั้นไว้ เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่ครั้งหนึ่ง 
ผมเคยใช้ห้ามใจของตัวเอง
ทุกวันนี้ มีคน ๆ หนึ่ง บอกผมว่า ชีวิต ผมยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่เคย 
ผ่านเรื่องนี้ จนอายุ 24 ปีกว่า
"ถ้าหากเราจะใช้เรื่องนี้ เป็นตัวชี้วัดความเป็นผู้ใหญ่" 
ผมก็จะขอพร่องอยู่อย่างนี้ ไม่ขอเต็มอย่างคนอื่นเขา
เพราะหากผมจะประกาศ "ความเป็นผู้ชาย" ของผมด้วย "การทำลาย ลูกสาวของใครสักคน" 
ที่เขารักดังที่กล่าวมาแล้ว
ถึงจะมากบ้างน้อยบ้างเขาก็รัก มากกว่า 
ความรักที่ผมจะบังอาจมีแก่ลูกของเขาคนนั้น 
ลูกของเขาที่ผมไม่เคยแม้แต่จะป้อนข้าวเลี้ยงดู
"ผมจะไม่ทำ ถ้าผมรัก ผมจะรอ"
สุดท้าย ขอทิ้งร้อยกรองไว้ สักสองบท เป็นโคลงสี่สุภาพ ที่ผมแต่งเอง และชอบมาก
วันคืนลาล่วงแล้ว ผ่านผัน
มิอาจย้อนอาทิตย์จันทร์ กลับได้
หวนตรึกนึกคืนวัน ยังอุ่น อกอยู่
แม่กล่อมก่อนหลับให้ เมื่อครั้ง ยังเยาว์
รัก เอยเคยชอกช้ำ อาจเคย
รัก ไม่เหลียวแลเลย อาจคุ้น
รัก กลับเก่าเมินเฉย เลิกรัก ก็อาจ
รัก แม่แน่แท้คุ้น ชั่วนิจ นิรันดร				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    8 กรกฎาคม 2545 21:42 น. - comment id 65703

    อืม...เพื่อนเมล์มาให้อ่านเหมือนกันค่ะ ...ละอองน้ำ...อ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะเลย..***.ความรักใช่ต้องครอบครองเสมอไป...แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนที่คุณรักให้เกียรติและเข้าใจคุณมากแค่ไหน***
    
    (o^___^o)
  • เคเจพอส

    9 กรกฎาคม 2545 18:26 น. - comment id 65728

    เรื่องที่พี่เขียนเล่าให้ฟังนั้นให้แง่คิดที่ดีมาก สำหรับนักศึกษาสมัยนี้ที่นิยมอยู่กันอย่างสามีภรรยา มันเป็นแง่คิดที่ดีมาก รู้สึกดีใจที่ได้อ่านบทความสั้นๆ แต่สาระและประโยชน์ไม่สั้นเลย ขอขอบคุณพี่มากที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับลูกผู้หญิงทุกคน
  • ฝันหวาน

    10 กรกฎาคม 2545 23:03 น. - comment id 65750

    ยังมีผู้ชายยังงี้จริงในสังคมรึเปล่าค่ะ.....
  • ผีเสื้อปีกบางฯ

    11 กรกฎาคม 2545 06:56 น. - comment id 65765

    เฮ้ออออออ....ถอนใจ...หลายๆๆครั้ง
    เรื่องแบบเนี้ยไม่ได้มีแต่ในมหาวิทยาลัย
    ใน รร. มัธยมเองก็มีนะคะ....ที่เด็ก นร.
    จับคู่ไปอยู่ด้วยกัน
    
    เศร้าๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • ละอองทราย

    6 มิถุนายน 2546 09:25 น. - comment id 68911

    จะมีผู้ชายอย่างคุณเหลืออยู่ซักกี่คนบนโลกใบนี้   เขาคนนั้นของคุณคงจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากคนนึง
  • บริสุทธิ์

    13 ธันวาคม 2547 18:35 น. - comment id 79864

    ผู้ชายที่ดีเช่นนี้ยังมีเหลืออยู่ในโลกอีกหรือ?  แต่คุณเป็นผู้ชายที่ดีมากเลย  เป็นสุภาพบุรษ  ขอให้คุณรักษาสิ่งที่ดีในตัวคุณไว้อย่างนี้ตลอดไปนะค่ะ  สักวันคุณจะได้เจอคนที่ดีเข้ามาในชีวิตคุณแน่นอนค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน