ขอปราบเธอซะให้เข็ด(ตอนแรกจ้า)
ภาเกตุ
บทรักคืนวิวาห์1/1
เสียงปรบซ่าซ่านดังขึ้นพร้อมการปรากฎตัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
***
"สวัสดีครับท่านผู้มีเกียรติทุกท่านวันนี้ เป็นวันที่เป็นมงคลยิ่งนักสำหรับคู่บ่าวสาวที่รักกันอย่างยาวนานถึง...ฮึ ...สา..สะ 3วัน"พิธีกรในงานถึงกับอึ้งแต่ก็ปรับสีหน้าทันควัน และต่อด้วยถ้อยคำที่สร้างสรรค์สมกับเป็นพิธีกร
"เห็นไม่ครับทุกท่านความรักนั้น เวลาไม่ได้มีสำคัญเหนือกว่าจิตใจ ลองเมื่อรักกันแล้วนะครับ ผมคงจะพูดได้ว่าความรักของทั้งคู่ คือรักแรกพบที่แท้จริงครับทุกท่าน" ได้ยินดังนั้นทำให้แขกหลายคนถึงกับส่งเสียงฮือฮา
"เอาละครับ บัดนี้ของเชิญเจ้าบ่าว คุณสรทัศน์ นติสาโรจน์ หรือ คุณป้อของเราออกมากล่าวอะไรสักนิด"
****ชายหนุ่มในชุดเจ้าบาวสีครีม ก้าวออกมาข้างหน้า บรรจบพอดีกับแสงไฟในงานส่องกระทบหน้าให้เห็นเป็นว่า ชายคนนี้มีดีที่รูปร่างสูงโปร่งแต่งไม่ผอมบาง ผิวสีขาวนวลที่ใบหน้าอมชมพู่เล็กน้อย แต่ก็ยังดูมาดแมนด้วยรอยหนวดเคราที่ดูพอดิบพอดีซะเหลือเกิน****
"วันนี้ผมแต่งงาน ก็ไม่รู้นะว่าจะเป็นไง วันแต่งงานเขาทำอะไรกัน เอาเป็นว่าผมจะทำหมดทุกอย่างเลย ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติมากครับ" เพื่อนพ้องฝ่ายเจ้าบ่างส่งเสียงฮา
"อย่าให้พลาด อย่าให้พลาด"
"ไม่พลาดแน่" เจ้าบ่าวตอบกับไปพลันเรียกเสียงฮาอีกรอบ
จากนั้นพิธีกรเชิญฝ่ายเจ้าสาวออกมาบ้าง
****สาวร่างอวบในชุดลูกไม้เกาะอกเน้นเนินอกสีขาวระยิบระยับนามว่า สุจิรา ก้าวมาอยู่เคียงข้างผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ ผิวสีน้ำผึ้งกับผมสีดำคลับที่ถูกรวบรัดไว้ด้านหลังดูเข้ากันได้ดี พิศดูดวงตาช่างกลมหวานมีเสน่ห์ จมูกเรียวเป็นสันประกอบปากที่แดงระเรื่ออวบอิ่มน่าลิ้มลอง ใครเห็นก็ต่างอิจฉาเจ้าบ่าวทั้งนั้น****
"ขอบคุณ เพื่อนทุกคนที่ช่วยเตรียมงาน และทำให้งานเป็นไปตามวิถีที่ควรจะเป็น" สุจิราพูดน้อยจนพิธีกรต้องรีบแก้สถานการณ์
"เจ้าสาวคงจะเขินนาครับเลยพูดน้อยไปหน่อย เอาเป็นว่าถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วครับเจ้าบ่าวหอมแก้มเจ้าสาวหน่อยครับ"
เฮ......เฮ เสียงเฮจากเหล่าเพื่อนจอมกวน กระตุ้นอารมณ์ฮึกเหิมของเจ้าบ่าวเขามองตาเจ้าสาวหมายจะได้รับการตอบรับที่ดีจากเธอ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเจ้าสาวคนสวยยังวางหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้อาการแบบสำหรับนายป้อแล้วมันยิ่งน่า....จะเป็นไรมั้ยถ้าเขาจะไม่หอมแก้มเธอ
****แต่จะ....****
สรทัศน์ใช้อุ้มมือทั้งสองประคองใบหน้าของสุจิราเจ้าสาวให้หันมาทางเขาอย่างรวดเร็ว และบรรจงประกบริมฝีปากอวบอิ่มโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัว ไม่เพียงเท่านี้เขายังสอนวิธีจูบที่แท้จริงแก่หล่อนท่ามกลางสายตาผู้คนในงาน
สุริจารู้สึกเหมือนกำลังถูกโจมตีอย่างดุเดือดจากชายหนุ่ม รสลิ้นที่หอมหวนพาลเอาจิตใจของหญิงสาวเคลิ้มตาม แต่เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากปล่อยเขาไปและคิดว่าเขาคงจะหยุดมันในเวลาที่เร็วที่สุด
สรทัศน์ถอนริมฝีปากออกพลางอมยิ้มอย่างได้ใจก่อนจะหันไป ทักทายเพื่อนที่อื่ออึงกับการจูบอย่างดูดดื่มของเขา เป็นไงเขาเจ็งมั้ย
เสี้ยววินาทีสรทัศน์หันกลับไปมองสุจิราอีกครั้ง ใจคาดว่าเธอคงเขินหรือไม่ก็อายเต็มที เขาคาดผิดจริงๆ สุริจายังคงยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเช่นเดิม
///.........ผู้หญิงคนนี้แซบจริงๆ ขนาดเขาจูบเธอถึงเพียงนี้ยังไม่รู้สึกรู้สา เอาเถอะคืนนี้ได้รู้กันแน่ สุจิรา!.....///
----------------------------------------------------
บทรักคืนวิวาห์1/2
เข็มนาฬิกามาพบกันที่เลข12พอดี เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว สรทัศน์รู้สึกเพลียอยู่เนืองๆ งานคืนนี้มาถึงตอนจบ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างพร้อมใจกันมายืนส่งแขกที่หน้างาน
ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่ใจจริงยังไม่พร้อมออกไปเจอใครที่หน้างาน เขาเดินโซซัดโซเซด้วยฤทธ์แอลกอฮอล์ตรงมาที่คู่บ่าวสาว
"ซูซาน ทำไมคุณทำกับผมแบบนี้ ซูซาน..." พอเข้ามาถึงได้ หนุ่มหน้าฝรั่งแต่ทำตัวเหมือนพวกขี้เมา ก็พูดพ่ามเสียงดัง
****สุจิราเห็นเข้าก็ตกใจ ใช่แล้วเขามักเรียกเธอว่า ซูซาน วันนี้เธอรู้ตัวว่าทำให้เขาเสียใจมากแค่ไหน****
****สรทัศน์ที่เห็นเหตุการณ์อยู่เช่นกัน มองตรงไปที่พ่อหนุ่มลูกครึ่งอย่างพิจารณา ก็หล่อดีนี่นา //...แต่ไอ้บ้าเอ้ย แกไม่เห็นที่ฉันจูบหล่อนเมื่อกี้เหรอไง...// ****
ด้วยความเจ้าเล่ห์แสนกลของสรทัศน์ เขาจึงใช้เวลาจัดการหนุ่มน่าสงสารคนนี้เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น
"น้องๆ ทำไมปล่อยให้ฝรั่งขี้เมามาป่วนในงานพี่ล่ะ รีบจัดการเลยนะ" สรทัศน์ใช้น้ำเสียงเด็ดขาด บริกรสองสามคนแถวนั้นจึงรีบกระวีกระวาดทำตามที่เขาสั่ง แม้เจ้าฝรั่งนั่นจะขัดขืน แถมเอะอะโวยวายแต่ก็ถูกลากออกไปจนได้
สรทัศน์หันมายักคิ้วลิ่วตาให้กับเจ้าสาวของเขาก่อนจะหันไปบอกเพื่อนๆ โดยเล่นบทชายผู้แสนดีที่สงสารหนุ่มลูกครึ่งขี้เมาเพราะอกหัก ไม่เหมือนเขาที่มีแต่ได้กับได้ 5555
///.....โธ่ มาร์ค ฉันขอโทษแต่มันคงดีที่สุดแล้วสำหรับเรา และนี่ก็คือจุดประสงค์ข้อหนึ่งที่ฉันต้องมาแต่งงานกับนายนี่....///