หนูน้อยโคโยตี้กับอนาคตที่เลือก
ชมพูภูคา J.
เพราะมีเรื่องให้เก็บมาเล่า เลยต้องเล่า เล่า เล่า
เราแก่เกินไปหรือเปล่าไม่รู้ เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปเสียหมด
เมื่อ 2 , 3 วันก่อน มีโอกาสไปงานแต่งงานเพื่อน
เขาก็มีดนตรี มีนักร้องสาวๆ แต่งตัวเปิดเผยขึ้นไปโยกย้ายส่ายเอวบนเวที
ดู ๆ ก็เพลินตาดี (ถ้านักร้องจะสวยกว่านี้อีกซักหน่อย จะยิ่งดีมาก)
เดี๋ยวนี้ไปงานไหนๆ ก็มักมีโชว์แบบนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งงานบวช
ทำเอาอุบาสก อุบาสิกา ศีลแทบขาด นี่ยังไม่นับรวมพระสงฆ์องค์เจ้า
ที่ต้องหลับหูหลับตาเร่งสวดคาถาภาษาบาลี
ยุบหนอ ยุบหนอ ยุบหนอ อย่าเพิ่งพอง เลยหนอตอนนี้
(ไม่รู้ผิด ๆ ถูก ๆ หรือเปล่า เพราะไม่มีใครแปลออก)
คนไทยจัดกิจกรรมอะไรทั้งทีก็ต้องมีเอนเตอร์เทนแนบไปด้วยเสมอ
อาจเพราะเจ้าภาพกลัวงานกร่อย ไม่มีคนมา จึงต้องหาอะไรที่มันคึกคัก ๆ
มาเป็นน้ำจิ้ม เขาถึงบอกว่าคนไทยไปถึงที่ไหน ความเมามันส์ไปถึงที่นั่น
เคยอ่านหนังสือของพระพยอมตอนหนึ่งท่านกล่าวไว้ว่า
แม้แต่ในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเขาห้ามผลิตเหล้าขายแท้ๆ
แต่หาซื้อได้จากคนงานไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่น มันซื้อไม่ได้ เพราะไม่มีที่ขาย
หิ้วจากประเทศไทยไปก็ไม่ได้ มันก็เลยต้มเองซะเลย
แล้วเกี่ยวอะไรกับหนูน้อยโคโยตี้ ?
ในงานวันดังกล่าว มีลูกหลานทั้งของแขกที่มาร่วมงาน
รวมทั้งเด็กๆ ฝ่ายเจ้าภาพ วิ่งเล่นกันให้คึ่ก
แล้วจู่ๆ ไม่รู้ใครจับหนูน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู อายุ ไม่น่าเกิน 7 , 8 ขวบ
เด็กมาก และกล้ามาก ๆ กับการขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีสูง ๆ
ท่ามกลางสายตาคนนับพัน ซึ่งเด็กสมัยก่อนคงจะยืนม้วนเหมือนถูกใครจับบิด
แต่นี่หล่อนกล้าแสดงออกถึงขั้นที่นักร้องและแดนเซอร์ตัวจริงยังทึ่ง
เพราะถูกขโมยซีนไปต่อหน้าต่อตา ทำอะไรไม่ถูก
ได้แต่ยืนเท้าสะเอวมองอีหนูสู้ไม่ถอยที่กระโดดขึ้นมาวาดลวดลายแทน
(ท่าทางคลื่นลูกใหม่จะมารั้งตำแหน่งเร็วเกินไปเป็น 10 ปี)
คิดว่าคงไม่มีใครไปสอนท่าเต้นแบบนั้นให้แกหรอก ถ้าพ่อแม่บ้านไหน
สอนให้ลูกเต้นท่าแบบนั้น ต้องบอกว่าพ่อแม่คู่นั้นจัญไรจริงๆ (ขออภัยที่ต้องใช้
คำนี้ แต่คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่าภาพที่ปรากฎนั้น ไม่ใช่
การแสดงออกของพวกเราชาวพุทธ ไม่ใช่แค่เหยียบย่ำวัฒนธรรม
ของชาติให้แหลกเละไม่มีชิ้นดี แต่นี่มันไร้อารยธรรมชัดๆ เรากำลัง
ยัดเยียดอะไรให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ขอถาม)
คุณคิดอย่างไรที่เห็นสาวๆ โคโยตี้ เต้นยั่วยวนกวนอารมณ์ในผับในบาร์
นั่นคืออาชีพ ๆ หนึ่ง ถ้าบรรลุนิติภาวะ ถูกกาละเทศะกับเวลาและสถานที่
ก็คงไม่ผิดอะไร (ผู้เขียนก็ชอบ) แต่ไม่ใช่กับเด็กตัวเท่านี้
สิ่งที่ย่ำแย่เข้าไปใหญ่ คือ มีผู้ใหญ่ตัวเท่าควาย (ต้องใช้คำนี้จริงๆ) ไม้รู้ใช้อะไรคิด
นอกจากความเมามันส์แบบสิ้นสติ ทะลึ่งออกไปเชียร์ให้เด็กๆ เต้นยั่วหนักขึ้น
แลกกับธนบัตรในมือ นี่มันอะไรกัน คุณเห็นอะไรในสายตา
เขาคือเยาวชนไทยตัวน้อยๆ ที่กำลังกระหายจะเรียนรู้เรื่องราวจากสิ่งรอบตัว
เขาคือผู้รับสื่อที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากผู้ใหญ่ที่ไร้สามัญสำนึกโดยแท้
คุณคิดดู เด็ก ๆ จะไปจดจำท่าเต้นแบบนั้นมาจากที่ไหน
นี่ยาพิษมันไหลทะลักเข้าไปถึงโลกใบเล็กของเด็กๆ แล้วหรือไง
ใครจะรับผิดชอบกับอนาคตของเขา
ถ้าหนูน้อยรักจะเดินตามรอยอาชีพนี้
มันไม่ใช่อาชีพที่ผิดแต่อย่างใดก็จริง
แต่เด็กก็คือเด็กเขายังไม่มีวิจารณญาน
เพียงพอจะควบคุมและรับผิดชอบตัวเองได้
เชื่อว่า เสียงกรีดร้องชอบใจ ผสมกับเสียงเชียร์
ให้กับลีลาท่าเต้นรูดเสาแบบนั้น
คงไม่มีใครรู้สึกอิ่มเอม ปลาบปลื้ม
ถ้าเป็นลูกสาวของตัวเอง
ยิ่งนับรวมไอ้บ้าวัยร่วมครึ่งชีวิต
ที่เข้าไปเต้นเย้าแหย่อยู่ข้างเวทีด้วยแล้ว
มันยังจะทำได้อยู่อีกหรือ
ถ้านั่นเป็นลูกหลานของตัว
อยากรู้จริงๆ...