ไม่น่าเลย ทำไมต้องเป็นผมด้วย ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับผม ทำไมไม่เกิดกับคุณ ผมอยากรู้จังว่าถ้ามันเกิดกับคุณ คุณจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงไม่ทราบ ผมป่วยผมมีอาการแปลก ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แปลกจนผมเองก็อธิบายอาการของโรคไม่ถูก ไม่เป็นไร ผมจะลองตั้งสติ อธิบายให้คุณลองฟังดู เผื่อคุณจะเคยเป็น เสียงของผมใช่ครับ เสียงของผม จากที่เคยห้าวหาญ ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้เสียงผมเริ่มแหลมเล็ก มันค่อย ๆเป็นค่อยๆไป จากที่ร้องเพลง ของน้องต่ายไม่ได้ ตอนนี้กลับร้องได้เหมือนเปี๊ยบ หนวดทีเคยดกดำ เรียวงามค่อยๆร่วงๆวันละเส้นสองเส้น จนตอนนี้ไม่เหลือแล้ว เช่นเดียวกับขนหน้าแข้ง ผิวของผมจากที่เคยหยาบกร้านก็กลับกลายเป็นนุ่มชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ที่น่าตกใจก็คือหน้าอกหน้าใจ โอย ทำไมมันถึงใหญ่โตขึ้นทุกวัน จนผมต้องไปหายกทรงมาใส่ แถมยังต้องเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อย ๆ เอวที่ล่ำหน้าของผมกลับกลายเป็นคอดกิ่ว สะโพกผายออก บั้นท้ายของผมทำไมมันบึ้บบั้บขนาดนั้นนะ จนผมใส่กางเกง ยีนส์ตัวเก่ง ตัวนั้นไม่ได้แล้ว หรือว่าผมต้องเปลี่ยนไปใส่กระโปรงแทน ตรงนั้นเหรอครับ โอย อย่าให้ผมพูดถึงเลย ผมอายจัง อะไรนะ คุณอยากจะดูเหรอครับ อย่าเลย ไม่กลัวเป็นตากุ้งยิงเหรอ นี่ผมไปติดโรคนี้มาจากใครกัน เมื่อคืนเชื้อโรคมาเข้าฝันผม ผมขอหวยเชื้อโรค แต่เชื้อโรคไม่ให้ ผมแหกปากขับไล่เชื้อโรคให้ออกไป ๆ แต่เชื้อโรคทำเป็นหูทวนลมไม่รู้ไม่ชี้ บอกว่ายังมีอีกหลายล้านเสียงสนับสนุนให้อยู่ต่อ โอยผมจะทำอย่างไรดี ผมจะบ้าตาย ในฝันผมวิงวอนทั้งน้ำตาบอกให้เชื้อโรคออกไป แต่เชื้อโรคไม่ยอมใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย พวกเม็ดเลือดขาวกำลังทำอะไรอยู่ เชื้อโรคบอกว่ามีทางเดียวที่ผมจะหายจากโรค ก็คือไปมีอะไร ๆกับผู้ชายซะ แล้วเชื้อโรคจะย้ายที่อยู่ แล้วผมจะกลับคืนสู่สภาพเดิม เชื้อโรคขู่บอกว่า อย่าไปหาหมอนะ ไม่งั้น เจอดีแน่ ไม่ๆๆๆๆ ยังไงๆผมก็ไม่ยอมมีอะไรแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกันหรอก ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย เอ๊ะ หรือว่าชอบ นี่มันยังไงกันล่ะ หรือว่าตอนนี้รสนิยมผมเปลี่ยนเสียแล้ว เป็นไปไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ ผมได้เก็บตัวอยู่ในห้องเงียบกริบ ไม่ออกไปพบแม้ ดาว เดือน เธอ คนรักของผม จะยังรักผมอยู่ไหมเมื่อรู้ว่าผมกลายสภาพไปเป็นเช่นนี้ ตายเสียยังจะดีกว่า ผมตายดีกว่า ใช่ ผมจะต้องตาย ตายไปเสียให้พ้นๆ อย่างน้อยถ้าผมตาย เจ้าเชื้อโรคจะต้องตายด้วยแหละ เรื่องอะไรจะปล่อยให้มันแพร่ออกไปสู่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ผมทำไม่ได้หรอก สู้เราตายไปพร้อมกันยังจะดีซะกว่า ดังนั้นผมจึงเริ่มคิดถึงวิธีการฆ่าตัวตาย ผมเริ่มออกไปข้างนอกห้องเช่าตอนที่ทุกคนในละแวกนอนหลับกันหมดแล้ว แต่พวกหมายังตื่นกันอยู่ตลอด พวกหมายังจำผมได้แฮะ พวกมันกระดิกหางให้ ทำไมพวกมันยังกระดิกหางให้ ในเมื่อสารรูปผมเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้ หรือว่าพวกมันสามารถมองเห็นถึงจิตวิญญาณภายใน ผมอยากกระดิกหางตอบพวกมันบ้างจัง ถ้าผมมีหางล่ะก็.. แต่นี่ผมไม่มีหาง ผมเลยได้แต่ ยกมือขึ้นลูบหัวลูบหางพวกมันแทน แล้วการเดินทางไปสู่ความตายก็เริ่มต้น เจ้าพวกหมากลับเดินตามผมไปเป็นพรวน "ชู้ว ๆ" ไม่ว่าผมจะไล่มันอย่างไร พวกมันก็ไม่กลับไป พวกมันดื้อด้านเหมือนเจ้าเชื้อโรคร้ายของผมเลย ผมบอกพวกมันว่า นี่มันปีหมูแล้วนะ พวกเอ็งยังจะตามข้ามาอีกเหรอ กลับไปซะเถอะ อีกสิบเอ็ดปีโน่นค่อยพบกันใหม่ พวกหมาบอกก็ได้ๆแต่ขอเดินไปส่งที่หน้าปากซอยละกันนะ เพราะซอยนี้แสนเปลี่ยว ถ้าผมถูกวัยรุ่นหน้ามืดลากเข้าป่าไปล่ะก็เสร็จกัน แล้วผมก็จากพวกหมามา ผมเดินสโลเสลลับหายไปจากสายตายของพวกมัน พวกมันได้แต่หอนโบร๋ว ๆไล่หลังด้วยความอาลัย โน่นแน่ะสะพานข้ามแม่น้ำ นึกออกแล้ว ผมเดินอ้าวๆไปที่สะพาน ยังคงมีรถแล่นข้ามเป็นระยะ ๆ ผมเริ่มสำรวจตัวเอง นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมผมถึงกลายเป็นผู้หญิง แถมสวยเสียด้วย "โอ้โฮ " ผมถึงกับอุทานเมื่อก้มลงไปมองหน้าอกหน้าใจ ผมจำได้นี่ว่าแม่ไม่ได้ให้ผมมา หรือว่าแม่เกิดเปลี่ยนใจ ผมเหวี่ยงรองเท้าลงไปในแม่น้ำก่อน สายน้ำกำลังไหลค่อนข้างเร็ว รองเท้าสีฟ้า ลอยตะคุ่มๆลับหาย ผมปีนขึ้นไปบนราวสะพาน ลมพัดเสื้อผ้าพึ่บพั่บ ผมจะกระโดดล่ะนะ คุณอย่าห้ามนะ คุณอย่ากระโดดลงไปช่วยผมนะ แล้วผมก็กระโดด เปล่า ไม่ได้กระโดดลงน้ำ แต่กระโดดกลับลงมา ได้ยินเสียงร้องเท้าร้องเรียกวู้ๆแว่วๆอยู่ไกลออกไป ๆ ผมน้ำตาไหลร "โถ รองเท้าที่น่าสงสาร" ไม่สำเร็จ เป็นอันว่าผมตายไม่สำเร็จ ผมฆ่าตัวตายไม่ลง ผมสงสารตัวเอง ทำไมต้องตายไปพร้อมกับเจ้าเชื้อโรค แล้วผมจะทำยังไงดี ผมจะกำจัดมันให้พ้นไปจากชีวิตผมได้อย่างไร หรือว่าผมต้องอยู่ร่วมกับมัน หรือว่าผมต้องยอมรับสภาพกับความจริงที่เปลี่ยนไป บางสิ่งบางอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมเดินเท้าเปล่า ข้ามสะพานต่อไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ที่ตีนสะพานมีร้านขายรองเท้ายี่ห้อดัง ผมเดินตรงเข้าไป มีร้องเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าส้นสูง ผมชี้ไปที่ร้องเท้าส้นสูงคู่หนึ่ง คนขายหยิบให้ ผมลองใส่ พอดีเลยแฮะ เหมือนรองเท้าคู่นี้กำลังรอผมอยู่เลย ผมก้มมองเท้าตัวเองแล้วก็ตะลึง นี่มันเท้าใครกันหว่า นี่เท้าใครมาอยู่ที่ผม แล้วเท้าผมไปอยู่ที่ใคร คนขายก้มลงมองเท้าผมบ้างถึงกับเอ่ยปากชมเปาะว่าเท้าผมสวยมาก เหมาะสมกับรองเท้าคู่นี้มาก ผมหลับตาพริ้มถอนหายใจ คิดถึงรองเท้าแตะ สีฟ้า ที่ ลอยหายไปกับสายน้ำต่อหน้าต่อตา ขอให้มีใครสักคนเก็บได้ด้วยเถิด ผมไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูงมาก่อน จึงโดนขโยกเขยก จะล้มมิล้มแหล่ แต่พอเดินๆไป ก็เริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น เริ่มเข้าขากับรองเท้า เริ่มเป็นอันหนึ่งเดียวกัน แหม่คนเราก็มีการปรับตัวกันได้บ้างแหละ ผมเริ่มรู้สึกสนุกสนานกับรองเท้าส้นสูง จนลืม ใช่แล้วผมลืมไปสนิท นี่ผมออกมาข้างนอกนี่เพื่อฆ่าตัวตายนี่นา แล้วนี่ผมกำลังทำอะไร มาเดินเฉิดฉายอยู่แถวนี้ทำไม เดินใจลอยไปลอยมา จนชนเข้ากับใครคนหนึ่ง เขาเป็นชายหนุ่ม อะไรวะเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยเหรอวะ คนทั้งคนเดินชนเฉย ผมยั๊วะ แต่พอเงยหน้ามองชายหนุ่มคนนั้น กับตะลึงงัน เหมือนได้พบคนที่รอคอยมาตลอดชีวิต "ผมขอโทษที่เดินชนคุณนะครับ" " มะ มะ ไม่เป็นไรค่ะ" ผมตอบ เฮ้ยผมพูดค่ะด้วย เป็นได้... "แล้วนี่คุณกำลังจะรีบไปไหนเหรอคะ " ผมลอยหน้าลอยตาถามต่อ เออ เป็นไปแล้วก็เป็นไปแล้ว "คุณอยากรู้จริงๆเหรอ ทำไมล่ะ" ชายหนุ่มย้อนถาม นัยน์ตาคมเข้มไม่หลบไปจากใบหน้าผมเลย ชายหนุ่มคนนั้นหน้าตาคุ้นๆจัง เหมือนเคยเจอที่ไหน เอ...เคยเจอที่ไหน ใช่แล้วในกระจก ผมเคยเจอหมอนั่นนกระจก เฮ้ยนั่นมันกูเอ้ย..ผมนี่หว่า " แปลกจัง คุณรูปร่างหน้าตาเหมือนฉันเมื่อก่อนเลยค่ะ" ผมเพ้อ "คุณก็หน้าตาเหมือนผมเมื่อก่อนครับ" แปลกจัง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกหว่า ทำไมผมกลายร่างเป็นหล่อน ทำไมหล่อนกลายร่างเป็นผม มันจะมากไปหน่อยแล้วเจ้าเชื้อโรค "คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่า คุณกำลังจะรีบไปไหนคะ" ผมแย้บต่อ "ไปที่สะพานนั้นครับ" ชายหนุ่มพูดพลางพยักเพยิดไปทางสะพานที่ผมเพิ่งก้าวข้ามมาแหม่บๆ "ฉันก็มาจากฝั่งโน้นค่ะ" "แต่ผมไม่ได้คิดจะข้ามไปฝั่งโน้นหรอกครับผะะผม ตั้งใจจะไปแค่ตรงกลางสะพานเท่านั้นแล้วก็....." "กระโดดลงไปเหรอคะ..! " ผมพูดแทรก "ตะกี้นี้ฉันลองแล้วล่ะค่ะ ...แต่ไม่สำเร็จ เราฆ่าชีวิตที่เรามีอยู่ไม่ลงหรอกค่ะ" "ยังไงผมก็จะต้องไป ผมตั้งใจแล้ว " แววตาของเขายังแสดงความมุ่งมั่นว่าจะตายให้ได้ ไม่ผิดแล้ว เขาก็คือ ผมนั่นเอง เขาเป็นคนเดียวกับคนที่อยู่ในกระจก ทุก ๆบาน ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองส่องกระจกอยู่เลย แต่คราวนี้ประหลาดกว่าทุกครั้ง เพราะคนในกระจก สนทนากับผมด้วย เขามีชีวิตเป็นของเขาเอง คนในกระจกยังหน้าตาเหมือนเดิม ผมต่างหากที่เปลี่ยน "เชื่อฉันเถอะค่ะ ฉันผ่านมันมาก่อน ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณจะเสียรองเท้า แล้วที่สุดคุณก็จะต้อง เสียเงินซื้อรองเท้าคู่ใหม่" "นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับทำไมคุณกลายเป็นผม แล้วผมกลายเป็นคุณได้" เขาพูดเซ็งๆ "เพราะเจ้าเชื้อโรคไงล่ะคะ ฉันนึกว่ามันมาเข้าฝัน คุณแล้วซะอีก" ผมย้อนเข้าให้ ก่อนหน้านี้ ผมโกรธเจ้าเชื้อโรคมาก ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนความรู้สึกของหล่อนในร่างผมก็เปลี่ยนไปด้วย ถ้าผมจะมีอะไรๆกับผู้ชายก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ก็เพราะชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี้เป็นผมเอง และเป็นชายหนุ่มที่ผมรักมาตลอดชีวิต อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้กันล่ะ ผมขอไม่บอกได้ไหม พวกคุณอย่าตามผมมานะ ปล่อยพวกเราให้อยู่กันตามลำพัง คุณกลับไปเถอะครับ กลับไปยังที่ที่คุณมา กลับไปสำรวจตัวเอง คุณอยู่ใกล้พวกเราเสียจน อาจจะได้รับเชื้อโรคเข้าให้แล้ว แต่ อย่ากังวลเลย กลับไปนอนเสียเถิด เจ้าเชื้อโรครอพบคุณ อยู่แล้วในฝัน สวัสดีราตรี บางทีสายน้ำอาจจะกำลังรอ รอพบรองเท้า คู่ใหม่ รองเท้าของคุณสีอะไรล่ะ สีฟ้าเหมือนกันป่ะ พวกมันจะลอยไปพบกันป้ะ.
21 กุมภาพันธ์ 2550 21:48 น. - comment id 95058
หากเช้าวันหนึ่ง อัลมิตราตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่า หน้าอกหน้าใจแบนราบ มีขนหน้าแข้ง ขนจักกะแร้เพียบ ... อึ๋ยยยยย แถมยังจะมีสิ่งแปลกปลอมเป็นเรดาร์กลางตัวอีก โอ๊ย .. ไม่สนแล้วล่ะ รองเท้ารองเทิ้ว ไม่ใส่ล่ะ จะโดดลงเจ้าพระยาตอนนั้นเลยค่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2550 23:52 น. - comment id 95081
อิอิอิ ..เรนขำพี่อัลมิจัง.... น้านนนดิคะ..อิอิอิ แต่หากเรนเป็น... เรนคิดต่างพี่อัลมินิดนึงนะคะ.. เรนต้องตื่นเต้นมากๆๆ..ด้วยดิคะ.. เรนอยากเกิดเป็นผู้ชาย.. .. ไม่มีเหตุผลด้วยดิคะ.... .. ขอเรนสลับร่างกับพี่ยน..ได้เปล่าน๊า..อิอิอิ.. .. โลกของผู้ชายที่เรนอยากรู้.. ซาแว้ปป.. .. อีกแระที่เรนผิด เฮ้อ..!!.. `ลบอันบนให้เรนด้วยนะคะ..
23 กุมภาพันธ์ 2550 09:59 น. - comment id 95086
พบตัวเอง .. ที่ค้นหามานาน .. อิอิ ..
2 มีนาคม 2550 15:10 น. - comment id 95189
อัลมิตรากีกี้ เรน ขอบคุณมาก เอ่ ผมจะเกิดอีกดีหรือเปล่า
5 มีนาคม 2550 14:50 น. - comment id 95218
เราชอบงานเขียนเธอจัง อ่านแล้ว ขำแบบเจ็บๆดี อิอิ