::เข็มหมุดในแก้วน้ำ:: ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ 26 มกราคม 2550 เย็นนั้นสมเชาว์กับผมต่างขี่รถเครื่องวิบากออกจากหมู่บ้าน เพื่อกลับสำนักงาน เราบิดคันเร่งขี่ไล่กันมาตามโค้งสันเขาที่ไม่ คดเคี้ยวนัก หมู่บ้านที่อยู่ตามรายทางอยู่ห่างกันหลายหลักกิโล ถนนเส้นนี้มีคนสัญจรไปมาไม่มากแม้ว่ามันคือทางลัดชั้นดี จากภาคกลางขึ้นไปยังภาคอีสานได้ เลยโค้งบนส่วนที่สูงที่สุด ของเขาหินปูนลูกกลางของแนวเขาลูกนั้นผมเห็นสมเชาว์ตีไฟ เป็นสัญญาณชลอจอด ผมตีไฟซ้ายด้วยและขี่ตามไปช้า ๆ เขา หยุดรถชิดขอบซ้ายของถนน ตรงใกล้กับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังดูเครื่องของรถเครื่อง แบบผู้หญิงของเธออย่างเก้กัง รถเป็นอะไรหรือครับ สมเชาว์ถาม เอ่อ..ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันค่ะ จู่ ๆ ก็ดับไปเฉยๆ น้ำมันก็ยังมีเยอะนะคะ บางทีอาจเป็นเพราะหัวเทียนบอด เดี๋ยวผมเช็คดูให้ครับ ผมดับเครื่องรถคู่ชีพของตัวเองแล้วขยับเข้าไปใกล้ สมเชาว์ตรวจดูหัวเทียนก็เห็นคราบเขม่าเขรอะ ข้อสันนิษฐานของเขาน่าจะถูกต้อง เมื่อแก้ไขอยู่เพียงครู่ รถเครื่องของหญิงสาวก็กลับมาครางแบบมี แรงอีกครั้ง ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่เจอพวกคุณ ฉันคงลำบากแน่ ๆ หญิงสาวยกมือไหว้อย่างนอบน้อม สมเชาว์และผมไหว้ตอบ แทบไม่ทัน ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเดินทางอย่างพวกเราก็ต้องช่วยเหลือดูแลกันแบบนี้แหละ ว่าแต่ว่าคุณจะไปที่ไหนหรือครับ หญิงสาวระบุที่หมายของเธอ ซึ่งทั้งผมและสมเชาว์ก็รู้จักเป็นอย่างดี เพราะเราเคยไปขอยาแก้ไข้หวัดมากินในช่วงที่มาทำงานแถบนี้ ใหม่ ๆ แต่เราไม่เคยเจอเธอมาก่อนครับ เมื่อส่งเธอที่สถานีอนามัยประจำตำบลแล้ว ม้าญี่ปุ่นก็พาเราเดินทางอีกราว 60 หลักกิโลเพื่อเข้าเมือง นัดหมายประชุมของวันรุ่งขึ้นเป็นสิ่งที่ผมและเพื่อนต้องควบรถวิบากเป็นระยะทางไกล ๆ แบบนี้ทุกปลายเดือน ผมกับสมเชาว์ได้พบหญิงสาวคนนั้นอีกหลายครั้ง เธอเข้าไปรณรงค์เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยในตำบลที่เราเข้าไปวิจัยข้อมูลเกี่ยวกับการเกษตรของชาวบ้าน ชาวบ้านที่นี่เป็นโรคผิวหนังและโรคอัมพาตกันมากค่ะ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเขาใช้สารเคมีฆ่าแมลงกับพืชไร่มากเกิน ไป ผมก็ได้ข้อมูลอย่างนั้นเหมือนกันครับ สมเชาว์คุยกับเธออย่างเพื่อนที่สนิทสนมกัน ส่วนผมเป็นฝ่ายเงียบฟัง พวกคุณจะเดินทางไปที่ไหนต่ออีกหรือเปล่าคะ ถ้าไม่รีบไปไหนก็รอกินข้าวเที่ยงด้วยกัน เราขอให้ชาวบ้านทำกับข้าวพื้นบ้านให้กิน น้ำเสียงนั้นแสดงออกอย่างอารีจริงใจ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก เราต้องเข้าไปที่อีกตำบลหนึ่ง ที่ฟากภูด้านโน้น โอกาสหน้าถ้าได้เจอกันอีก พวกเราจะแวะไปเยี่ยมที่สถานีอนามัยนะครับ นั่นคงเป็นบันไดขั้นแรกที่ทำให้ผมกับสมเชาว์ได้แวะไปที่สถานีอนามัยประจำตำบลอีกครั้งภายหลัง ที่งานเก็บข้อมูลวิจัยของเราเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ นายชอบผู้หญิงคนนั้นไหม เธอน่ารักมีอัธยาศัยดีมากนะ สมเชาว์หันมาทางผม อืม..ก็น่ารักดี แต่เราสังเกตว่ามีคนมองเราแบบตาขวาง ๆ นะ ตอนที่เราไปแวะส่งเธอหนแรก ผู้ชายร่างอ้วนผิวคล้ำ ๆ ยืนอยู่ใต้ถุนบ้านพักหลังถัดไป นายสังเกตเห็นไหม เราไม่ทันสังเกตว่ะ แต่จะเป็นไรล่ะ คนเราก็ควรคบกันจริงใจ ไม่มีอันใดแอบแฝง ไม่ใช่หรือ เออ ก็ใช่ แต่เราก็ต้องรู้ว่าใครเป็นใคร หรือของใคร และอะไรคืออะไร กับที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นของเราด้วย งั้นก็ขอบใจว่ะ น้ำเสียงของเพื่อนนั้นผมฟังออกว่าไม่ค่อยพอใจคำติงนัก บ้านเช่าที่ผมกับสมเชาว์อยู่ทำงานสนามห่างจากตลาดสด ไม่มากนัก เราแวะไปกินข้าวมื้อเช้าและเย็นได้อย่างสะดวก ผู้คนจากหมู่บ้านต่าง ๆ ทั้งในตำบลและต่างตำบลมาจับจ่ายซื้อของที่นี่อย่างกับมีตลาด นัดทุกวัน ผมกับสมเชาว์ได้พบและทักทายหญิงสาวคนนั้นอีกหลายครั้ง จนรู้สึกเหมือนคนคุ้นเคยกัน สมเชาว์ไปไกลกว่าผมมาก รายนั้นแอบไปแวะบ้านพักของเธอโดยที่ไม่ชวนผมด้วย เมื่อกลับมาผมจึงได้ถามความเป็นไปอย่างเกือบเกรงใจ แหม เธอยังถามถึงนายเลยว่า ทำไมถึงไม่มาด้วยกัน ผมบอกไปว่า เพื่อนของผมมันบ้างาน ซึ่งคงไม่ผิดมากนักใช่ไหม เออ..ก็ว่ากันไป แต่ว่านายเห็นคนอ้วนผิวดำอยู่ด้วยหรือเปล่าล่ะ เห็น.. สมเชาว์ลากเสียงยาวแบบค่อนข้างมั่นใจ แล้วไง เขาไม่มองแบบตาขวางหรือที่นายไปบุกถ้ำเสือ ม่ายเขาพูดดีมาก เขาบอกเราว่าให้ชวนนายไปด้วยในคราวต่อไป ไม่เอาดีกว่าว่ะ..กลัวตายในถ้ำเสือ เฮ้ย..ไม่มีอะไรน่ะ ก็แค่คบกันเป็นมิตรไว้ไม่เสียหลาย บางทีเราอาจมาหางานใหม่ทำแถว ๆ นี้บ้าง ผมได้แต่หัวเราะหึ ๆ และกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง สมเชาว์ยังเปิดประตูห้องเช่าไว้เขาฮัมเพลงอย่างเอมใจ อีกสองวันก่อนจะปิดโครงการวิจัยข้อมูลด้านการเกษตร ของคนในเขตภาคเหลือตอนล่างแถบจังหวัดเพชรบูรณ์ ผมกับสมเชาว์ได้รับคำเชิญจากผู้ชายร่างอ้วนผิวคล้ำให้ไปที่บ้าน ผมไปอย่างเลี่ยงไม่ได้แต่สมเชาว์ไปอย่างลิงโลด บ้านพักของชายร่างอ้วนผิวคล้ำอยู่ที่สถานีอนามัยอีกแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าเขาพักอยู่คนเดียว แต่สังเกตจากการจัดข้าวของในบ้านพัก หลายอย่าดูกระจุ๋มกระจิ๋มแบบผู้หญิงจัด บางทีข้อสันนิษฐานบางอย่างของผมอาจถูกต้อง เจ้าภาพรินน้ำเย็นจากขวดใส่แก้วที่หยิบเอาจากโต๊ะข้างฝา จังหวะและลีลาการจับแก้วผมรู้ดีว่าเขาน่าจะอยู่ในกลุ่มคนนิยมดื่มของแพง แต่เขาบอกว่าเขาไม่ดื่ม สมเชาว์ยกแก้วขึ้นดื่มอั๊ก ๆ แต่ผมไม่กล้า แขกและเจ้าภาพคุยกันอยู่เกือบสามทุ่มประเด็นที่พูดหลากหลาย มาก เขาพูดได้ทุกเรื่องทั้งการเมืองและสุขภาพอนามัย สมเชาว์ต่อวาทีกับเขาได้ทุกกระทู้เช่นกันแต่ผมเป็นเพียงนัก สังเกตและเก็บประเด็น เราสองคนลาจากมาเมื่อรู้ว่าเขามีแขก อีกคนกำลังจะขึ้นบ้านมา เธอมากับรถมอร์เตอร์ไซค์แบบผู้หญิง สี-ยี่ห้อ และเลขป้ายทะเบียนเป็นเบอร์เดียวกับที่ผมเห็นครั้งแรกบนปลายโค้งบนเขาเตี้ยลูกนั้นแหละ หัวใจของผมเต้นตุบ ๆ เมื่อความสังหรณ์ใจนั้นจริง สมเชาว์ถึงกับหน้าแหยในข้อสรุปที่ต่อให้คนทึ่มอย่างไรก็คงอ่านออก ไม่กี่นาทีดี ถ้ามีใครสังเกตและฟังก็คงได้ยินเสียงบิดคันเร่งล้อโค้งของอ้าย หนุ่มนักวิจัย 2 คน ออกจากบ้านพักเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย ผมแอบอมยิ้มกับดาวที่พอมองเห็นได้บ้างบนท้องฟ้า ส่วนสมเชาว์เขาจะยิ้มออกหรือเปล่า นั่นก็น่าจะพอคาดเดาเอาได้ คืนนั้นเราควบม้าญี่ปุ่นเลยบ้านเช่าเข้าตัวจังหวัดโดยไม่ได้นัดหมาย ระยะทาง 60 กิโลเมตรเหมือนย่นลงมาเหลือเพียง 100 วา ที่ผับเพื่อชีวิตของคืนหงอยคืนนั้น สมเชาว์ดื่มอย่างคนอดอยากมาแรมเดือน ส่วนผมเพียงจิบบาง ๆ ตอนที่นายดื่มน้ำอั๊ก ๆ ไม่สังเกตเห็นอะไรในแก้วบ้างเลยหรือ ก็ไม่มีอะไรนอกจากใยแมงมุม แต่เรากลัวเสียฟอร์ม กินแล้วก็เลยปล่อยเลยตามเลย แล้วไง แต่แก้วของเรามีเข็มหมุดว่ะ สีหน้าของสมเชาว์ที่มองผมตอนนี้กับน้ำเสียงของเขาผม เชื่อว่าดีกรีของแอลกอฮอล์ในเลือดของเขาได้ระเหิดระเหยไปไม่มากก็น้อย ขอเพลงลุงขี้เมาด้วยเพ่.. สมเชาว์หันไปขอเพลงประชดชีวิต ส่วนผมได้แต่หัวเราะประชดชีวาส . ๚
27 มกราคม 2550 22:10 น. - comment id 94821
สะดุดรักนิดหน่อยถึงกับหัวทิ่มลงแก้วเหล้าเชียว เฮ้อ !! นายสมเชาว์..น่าจะชวนนายฤกษ์กะนายบินเดี่ยว ไปร่วมก๊งด้วย คราวนี้จะใส่ตะปูลงในแก้วเหล้า รอเลยค่ะ .. ฮา
27 มกราคม 2550 22:35 น. - comment id 94823
ฮ่าๆ ผมคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของสมเชาว์ได้นะครับ ผมเองก็เคยสะดุดหัวทิ่มบ่อ เขียนกลอนไปน้ำตาซึมไปเลยทีเดียวเชียว ดูเหมือนบทนั้นขึ้นต้นคล้าย ๆ ว่า ...คืนเดือนมืด ดำมิด ลมหนาวพัดแรง... อะไรแบบนี้ ได้ตีพิมพ์ในนิตยสารผู้หญิงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วแล้วมั้ง ก็ดีเหมือนกัน นึกถึงทีไรก็ทำให้อยากเป็นนักเขียนเมื่อนั้น
28 มกราคม 2550 18:49 น. - comment id 94827
:) อกเดาะเลย พ่อสมเชาว์..
28 มกราคม 2550 22:52 น. - comment id 94834
:) ทักทายคุณกุ้งหนามแดง คงสบายดีนะครับ
29 มกราคม 2550 09:51 น. - comment id 94837
พอจะเข้าใจนายสมเชาว์..ครับ
29 มกราคม 2550 15:02 น. - comment id 94841
สวัสดีครับคุณร้อยแปดพันเก้า
2 กุมภาพันธ์ 2550 21:09 น. - comment id 94867
อ่านแล้วคิดถึงความหลังนะครับ ผมมีวัตถุดิบ (ข้อมูลเชิงคุณภาพหรือเปล่า) หลายยุค (เหมือนประวิติศาสตร์ยุคหินเก่า หินใหม่) ทั้งอดีตตอนทำงานในหมู่บ้านช่วงเป็นบัณฑิตใหม่ ตอนเป็นครูบรรจุใหม่ ตอนเป็นครูใหญ่ใหม่และตอนเป็นครูใหญ่เก่าแล้ว มากมาย เคยเขียนบ้างแต่ไม่ประทับใจสำนวนตัวเอง ที่สำคัญทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำแม้จะไม่ได้เขียน บางเรื่องดูเลอะเลือน ขาดวิ่น บางเรื่องสมบูรณ์ บางเรื่องถูกถ่ายทอดเป็นร้อยกรองไปแล้วแต่เท่าที่จำได้ทุกเรื่องของผมมีไคลแมกซ์เหมือนฟอร์มการเขียนเรื่องสั้นตามที่อาจารย์สอนในวิชาการเขียนเป๊ะเลยอยากมีสมาธินิ่งๆ มาเขียนทวนความจำ แต่ไม่ถนัด เอาเป็นว่าจะลองฟื้นดู อ่านสองคนเราก็ได้เนาะ
3 กุมภาพันธ์ 2550 00:00 น. - comment id 94869
เขียนเลยครับครูใหญ่ ผมเชียร์ และอยากอ่าน