หลังจาก นั่งหลังขดหลังแข็ง อดหลับอดนอนอยู่นานหลายเดือน ความยุ่งยากวุ่นวายทั้งหลายก็เริ่มซาลง แรงบันดาลใจของฉัน ที่มันลดหายไปกว่าครึ่ง เมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ผ่านพบมาก่อนหน้านี้ ฉันก็เริ่มตรึกตรองอีกครั้ง ว่าที่ฉันทำ ฉันทำเพื่อใคร เหตุผลใดจึงทำ แล้วฉันก็ได้คำตอบทั้งหมด ...ฉันทำเพื่อเด็ก ๆ บ้านฉัน ให้รู้สำนึกรัก บุญคุณของผืนแผ่นดิน บุญคุณของผืนป่าบ้านเกิด ฉันทำให้เค้าได้รักการอ่าน ได้เรียนรู้การเขียน และเหตุผลที่สำคัญที่สุด ฉันทำเพราะฉันรักที่จะทำมัน ฉันมีความสุขที่ได้ทำ คุณคงสงสัยใช่ไหม ฉันทำอะไร ??? ... ฉันจัดค่ายเยาวชนนักเขียนเพื่อการอนุรักษ์ มันไม่ได้ทำให้เกิดนักเขียนจริงหรอก ไม่ได้ทำให้เกิดนักอนุรักษ์จริงหรอก แต่อย่างน้อยสิ่งที่ฉันทำก็ได้ปลุกจิตสำนึกของเยาวชนเหล่านี้ ปีนี้ฉันว่าฉันจะล้มเลิกโครงการ เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ประดังประเดเข้ามา ปัญหาสุขภาพของครอบครัว งานที่ต้องทำ ภาระในการศึกษาค้นคว้าอิสระ ทำให้ฉันท้อแท้ในใจ ...แต่วันหนึ่งฉันก็ได้คิด เมื่อมีเด็กคนหนึ่ง ถามฉันว่า "ปีนี้อาจารย์จะจัดค่ายที่ไหน" ฉันถามแกว่า "เธออยากไปค่ายเหรอ" คำตอบที่แกตอบ "อยากไปครับ" ฉันถามเธอว่า "เธอไปค่าย เธอได้อะไรกลับมา" "ได้ตั้งหลายอย่างครับ ผมได้ความรู้ รู้จักเพื่อน รู้จักพี่วิทยากร ผมได้รู้จักอาจารย์ ผมได้รางวัลตั้งหลายอย่าง สนุกมากครับอาจารย์" "ครูคงไม่จัดหรอกปีนี้" ฉันบอกเด็กอย่าท้อแท้ "ทำไมล่ะครับอาจารย์ ค่ารถพวกผมออกเองได้ครับ อาหารก็ไปทำกินเองก็ได้ครับ" "ครูต้องดูก่อนว่าว่างไหม อีกอย่างต้องไม่เบียดบังเวลาเรียนพวกเราด้วย"ฉันตอบเด็กไปอย่างนั้น "ไปเสาร์อาทิตย์ก็ได้นี่ครับ " แล้วใครจะไปกลับครูล่ะ "พวกผมครับ เพื่อน ๆ อีกตั้งหลายคนครับ" "แล้วครูจะลองคิดดูอีกที" ฉันให้ความหวังกับเด็กคนนั้นไป นอกจากเสียงเรียกร้องจากพวกเด็ก ๆ แล้ว เพื่อน ๆ หลายคนใน บ้านกลอนไทย ก็ถามไถ่ เสมอว่า ไม่จัดค่าย หรือ ฉันก็ตอบเพียงว่า ถ้าฉันว่าง ฉันพยายามหาช่วงที่เป็นวันหยุดยาวในการจัดค่าย แต่ช่วงแบบนั้น คำตอบส่วนใหญ่ของคนที่พอจะช่วยฉันได้คือ ไม่ว่าง และสถานที่และวิทยากรติดค่ายอื่น ๆ จนกระทั่งฉันต้องเลือกวันเวลานี้ ฉันเลือกวันที่จะจัดค่าย คือระหว่างวันที่ 16 - 18 กุมภาพันธ์ 2550 ฉันติดต่อ สถานที่ วิทยากร และรับสมัครเด็ก ๆ ไว้แล้ว ตอนแรกจะรับสมัครเพียง 50 คน แต่เท่าที่ฉัน รับลงชื่อไว้ น่าจะเกินกว่านั้น ในวันที่ฉันประชาสัมพันธ์โครงการค่าย เด็กหลายคนสนใจและให้ฉันเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าเค้าจะเจออะไรที่ค่ายบ้าง เริ่มจากการออกเดินทาง จากโรงเรียนมัธยมหนองเขียด ถึงสถานีส่งเสริมและรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยกุ่ม ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 13.00 น. กว่าจะถึงก็คงราว ๆ 15.00 น. ของวันนั้น หลังจากเก็บข้าวเก็บของเข้าที่พักใน ค่ายพักแรมรอยเสือ ทุกคนต้องมาร่วมสันทนาการ ร่วมเป็นพี่เป็นน้อง รู้จักน้อง รู้จักพี่ รู้จักสถานที่กันพอสมควร วิทยากรคนไหนเป็นพี่เลี้ยงใคร ก็ต้องรับภาระการสอนหุงหาอาหารด้วยหม้อสนาม และอุปกรณ์ธรรมชาติ (หลามทุกอย่างที่ขวางหน้า) ประกวดประชันกันถึงความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นข้าว สามพระเจ้า หรือหลามรสเด็ด ไม่มีวิทยากรกลาง ทุกคนเป็นพี่เลี้ยงหมด กินอยู่ต้องร่วมชะตากรรม กับสมาชิกในกลุ่ม หลังจากอิ่มอร่อย ก็อาบน้ำอาบท่า รวมกันที่บ้านเสือโคร่ง ดูวีดีทัศน์ ของป่าภูเขียว ห้วยกุ่ม และการอนุรักษ์ ต่อด้วยการเรียกเสียงหัวเราะสักเล็กน้อย ค่อยสวดมนต์ก่อนเข้านอนหลับฝันดี ในเช้าตรู่วันที่ 17 จะยืดเส้นยืดสายกันด้วยการออกเดินไปที่บ่อหินกูด ก่อนกลับมาหุงข้าวปลาอาหารกินกัน และเผื่อห่อไปกินในราวป่ายามทำกิจกรรม กินข้าวปลาเสร็จ ทุกคนต้องเตรียมตัวแบกเป้ แบกเสบียง ในค่ำคืนของวันที่ 17 จะเข้าไปนอนในป่าแถว ๆ ผาแดงน้อย หรือแถว ๆ ตู้รถไฟ ดังนั้นทุกคนต้องนำเต็นท์ ถุงนอนไปด้วย ใคร ไม่ใคร่นอน ก็คงไม่ว่ากัน กิจกรรมจะเริ่มต้นจากการออกเดิน จากค่ายพักรอยเสือ ผ่านฐานกิจกรรมต่าง ๆ จากวิทยากรห้วยกุ่ม และ วิทยากรบ้านกลอนไทย จนไปถึงผาแดงน้อย จากนั้นใครใคร่เล่นน้ำ ใครใคร่ถ่ายรูป เขียนกลอน แต่งเพลง หรือวาดภาพ ก็ไม่มีเหตุอันจะขัดข้อง ประมาณ 4 โมงเย็น ก็เป็นการเตรียมค่ายที่พัก หุงหาอาหาร กินกันเป็นที่สำราญบานเย็น ประมาณ 1 ทุ่ม ทุกคนจะรวมกันสร้างสามัคคี ร่วมกันรำลึกถึง คุณสืบ นาคะเสถียร ด้วยกิจกรรม ต้อนรับ เยาวชนนักอนุรักษ์ และพิธีเทียน ก่อนที่จะสวดมนต์ก่อนหลับสบายในป่าใหญ่ ริมพรม ตอนเช้าวันที่ 18 หลังจากการหุงหาและกินข้าวกินปลาเสร็จแล้ว ต้องเก็บอุปกรณ์กลับมาที่ค่ายพักรอยเสือ จากนั้นก็ให้ช่วยกันเก็บของ ทำความสะอาด ทำพิธีปิด และ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ หลังจากฉันเล่าจบ สาวน้อยแก้มใส คนหนึ่ง ถามขึ้นว่า "พี่ ๆ จากบ้านกลอนไทย จะมากี่คนคะ" "ครูยังตอบไม่ได้ค่ะ พี่ ๆ เค้ายังไม่ทราบโครงการเลย" "อาจารย์ไม่บอกพี่เค้าเหรอคะ" "บอกสิ คงไม่ช้านี้แหละ" "อาจารย์คะ พี่เค้าจะมายังไง" "ก็ถ้าสนใจจะมา ก็ติดต่อครูโดยตรงเลยลูก" "แล้วพี่เค้าจะติดต่อยังไงคะ" "ติดต่อมาที่คนนี้ค่ะ จันทร์สุดา งามชัด e - mail : roiphan@yahoo.com โทรศัพท์ : 0894177871 ที่อยู่ ร.ร. มัธยมหนองเขียด ตำบลหนองเขียด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 40290" "อาจารย์คะ หนูอยากให้พี่ ๆ เค้ามาค่ะ" "ครูก็หวังว่าอย่างนั้นลูก ไปเถอะ ออดแล้ว" "สวัสดีค่ะ อาจารย์ "
20 มกราคม 2550 11:16 น. - comment id 94720
น่าสนใจนะคะพี่อ้อย อยากไปร่วมโครงการค่ะ ไว้จะโทรไปหานะคะ
20 มกราคม 2550 01:39 น. - comment id 94736
อยากไปอ่ะ... แต่ยังหางานใหม่ยังไม่ได้เลย... แค่นี้เป็นภาระทางบ้านเกินพอแร้ว ไว้คราวหน้านะคะ
20 มกราคม 2550 02:16 น. - comment id 94737
น่าสนใจครับ กำลังคิดจะจัดค่ายวรรณกรรมอยู่พอดี คงต้องขอรูปแบบกิจกรรมไปใช้บ้างนะครับ
20 มกราคม 2550 12:26 น. - comment id 94741
:)
20 มกราคม 2550 14:13 น. - comment id 94742
ครูอ้อย..ขอเลขที่บัญชีธนาคารหน่อยนะครับ..ส่งทางเมลล์ของผมก็ได้...จะได้ช่วยน้องๆเขาได้บ้างบางส่วน...
20 มกราคม 2550 21:37 น. - comment id 94744
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย โครงการค่ายจัดทุกปีค่ะ ปีหน้าฟ้าใหม่คงได้เจอกัน คุณกันเอง ไม่ว่ากันค่ะ เด็กไทยจะได้สัมผัสวรรณกรรมดี ๆ ได้เลยน้องช้าง ยินดีต้อนรับน่ะ ยิ้ม ๆ คุณอัลมิตรา ขอบคุณบินเดี่ยว รอรับได้เลยค่ะ
20 มกราคม 2550 21:49 น. - comment id 94745
21 มกราคม 2550 12:26 น. - comment id 94746
kungnamdang@yahoo.com รบกวนครูอ้อย ด้วยค่ะ จะรอน๊า :)
21 มกราคม 2550 21:22 น. - comment id 94748
ค่ะคุณกุ้ง ขอเป็นวันพรุ่งนี้นะคะ อ้อยไม่ได้ติดมาด้วยค่ะ